“คุณนาย ไม่ต้องห่วงครับ แผลที่หน้าผากของท่านประธานได้รับการดูแลเรียบร้อยแล้ว”“งั้นก็ดีแล้ว”หลังจากวางสาย คุณหญิงฮั่วก็พักผ่อน เช้าวันรุ่งขึ้น สาวใช้เปิดขวดยา แล้วยื่นยาเม็ดหนึ่งให้คุณหญิงฮั่วคุณหญิงฮั่วกลืนยาเข้าไปสาวใช้ถามว่า “คุณนาย วันนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ?”คุณหญิงฮั่วรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านลงมายังขาทั้งสองข้าง ความรู้สึกนั้นยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เธอลองขยับดูขาของเธอ… ขยับได้จริงๆสาวใช้ตกใจ “คุณนาย ขาของคุณขยับได้แล้วเหรอคะ?”คุณหญิงฮั่วตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร เพราะเธอรู้สึกว่าเธอสามารถควบคุมขาของตัวเองได้ เธอลองขยับอีกครั้ง เท้าทั้งสองข้างวางแตะพื้นอย่างมั่นคง“คุณพระ คุณนาย! คุณขยับได้จริงๆ! ให้ฉันช่วยพยุงลุกขึ้นยืนดูนะคะ!”สาวใช้รีบยื่นมือเข้าไปพยุงคุณหญิงฮั่วค่อยๆ ลุกจากรถเข็น แล้วพูดกับสาวใช้ว่า “ปล่อยมือเถอะ”สาวใช้ปล่อยมือคุณหญิงฮั่วยืนอยู่บนพื้นได้อย่างมั่นคงสาวใช้ร้องอย่างดีใจ “คุณนาย คุณยืนขึ้นได้จริงๆ ด้วย! เยี่ยมมากค่ะคุณนาย คุณยืนได้แล้ว!”คุณหญิงฮั่วมองดูขาของตนเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธอยืนขึ้นได้จริงๆต่อจากนั้น เธอค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนร
ฉือหว่านมองคุณหญิงฮั่ว “คุณหญิงฮั่ว นี่คือยาที่ฉันปรุงให้คุณ ทานวันละเม็ด ขาของคุณจะค่อยๆ กลับมารู้สึก และในที่สุดจะสามารถยืนขึ้นได้ค่ะ”คุณหญิงฮั่วตกใจ “ว่าไงนะ?”เธอไม่คิดจริงๆ ว่าฉือหว่านจะปรุงยาให้เธอ และไม่เคยคิดว่าขาของเธอจะกลับมายืนได้อีกสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ตกใจเช่นกัน “คุณฉือหว่าน พูดจริงเหรอคะ? คุณนายของฉันจะยืนได้อีกจริงๆ เหรอ? ขาของคุณนายไปรักษากับหมอเก่งๆ มาหมดแล้ว นั่งรถเข็นมาสิบกว่าปี ทุกคนต่างบอกว่าไม่มีทางรักษาได้ ทุกคนต่างบอกว่าคุณนายต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต”ฉือหว่านยิ้มบาง “การนั่งรถเข็นตลอดชีวิตนั่นคือแผนเผื่อไว้แย่ที่สุดแล้ว มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกล่ะ? เพราะงั้น คุณหญิงฮั่วก็ทานยาได้โดยไม่ต้องลังเลเลยค่ะ แน่นอน ถ้าคุณไม่มั่นใจ สามารถให้หมอที่ไว้ใจตรวจสอบส่วนผสมในยาได้เลย เผื่อมีใครคิดร้ายเอายานี้มาป้ายสีฉัน”คุณหญิงฮั่วยังไม่สามารถตั้งสติได้ ฉือหว่านปรุงยาให้เธอ มันช่างน่าตกใจเกินไปลั่วเป่าเอ่อร์พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนๆ น่ารัก “คุณย่า หม่ามี๊ของหนูเป็นหมอแผนจีนขั้นเทพเลยนะคะ~ ถ้าหม่ามี๊บอกว่ายืนได้ ก็ต้องยืนได้แน่นอนค่ะ~”คุณหญิงฮั่วมองฉือหว่าน “ฉือหว่
คุณหญิงฮั่วพูดว่า “คุณย่าเดินไม่ได้แล้ว เลยต้องนั่งรถเข็นน่ะ”ลั่วเป่าเอ่อร์ทำหน้าเหมือนพอเข้าใจ “คุณย่าป่วยเหรอคะ? ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวก็หาย หนูให้ลูกอมคุณย่าแท่งนึง~”ลั่วเป่าเอ่อร์หยิบลูกอมสีสันสดใสแท่งหนึ่งออกมายื่นให้คุณหญิงฮั่วคุณหญิงฮั่วชะงัก ไม่เคยมีใครให้ลูกอมเธอแบบนี้มาก่อนสมัยสาวๆ เธอเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ เรียนรู้มารยาทของชนชั้นสูง พ่อแม่อบรมให้แต่งกับตระกูลดีๆ เป็นภรรยาและแม่ที่ดี ไม่มีใครเคยมอบลูกอมให้เธอเลยของอย่างลูกอมที่ทำจากสีผสมอาหารหลากชนิดแบบนี้ เธอไม่เคยแม้แต่จะแตะต้องคุณหญิงฮั่วนิ่งงันลั่วเป่าเอ่อร์ยัดลูกอมใส่มือคุณหญิงฮั่ว “คุณย่า กินนะคะ หวานมากเลย~”เห็นรอยยิ้มระรื่นของลั่วเป่าเอ่อร์ คุณหญิงฮั่วก็อดยิ้มตามไม่ได้ตอนนั้นเอง ฉือหว่านเดินเข้ามา “เป่าเอ่อร์”คุณหญิงฮั่วเงยหน้า พอเห็นฉือหว่านก็นิ่งอึ้ง “ฉือหว่าน? เด็กคนนี้เป็นลูกของเธอเหรอ?”ฉือหว่านไม่คิดว่าแค่รับโทรศัพท์แป๊บเดียว ลั่วเป่าเอ่อร์จะมาหาคุณหญิงฮั่ว เธอเองก็ไม่ได้เจอคุณหญิงฮั่วมาสามปีแล้วครั้งสุดท้ายที่พบกันคือตอนที่พูดคุยกันในตอนนั้น ฉือหว่านไม่เคยรู้สึกเกลียดคุณหญิงฮั่วเลยในฐานะผ
ฮั่วซือหานลุกขึ้นยืน “แม่ ผมว่ามื้อนี้ไม่มีอะไรให้กินแล้ว ผมขอตัวไปที่บริษัทก่อน”ฮั่วซือหานหมุนตัวออกจากห้องคุณหญิงฮั่ว “ซือหาน? ซือหาน!”ลี่เจียวมองตามฮั่วซือหานจากไป ดวงตาแฝงไว้ด้วยความมืดครึ้ม ตลอดสามปีที่ผ่านมาเธอเจอบททดสอบมากมายกับผู้ชายคนนี้ แต่ยิ่งไม่ได้ เธอก็ยิ่งอยากได้ตอนนี้เธอคือคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยที่สุด เธอเชื่อว่าเธอต้องได้เขามาแน่นอน!ลี่เจียวเดินเข้าไปหาคุณหญิงฮั่ว “คุณน้า ดูซือหานสิคะ!”คุณหญิงฮั่วโกรธจัด “เจียวเจียว คราวนี้ซือหานผิดเอง หนูวางใจเถอะ กลับบ้านไปฉันจะจัดการเขาให้ดี!”“คุณน้า ครั้งต่อไปอย่าทำร้ายซือหานอีกเลยนะคะ ถ้าเขาเจ็บ หนูก็จะเจ็บตาม”“เจียวเจียว หนูช่างดีกับซือหานเหลือเกิน”“คุณน้า ที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของซือหานหรอกค่ะ ต้องโทษฉือหว่านต่างหาก เธอกลับมาเมืองตี้ตูอีกแล้ว กลับมาทำให้ซือหานหวั่นไหว ทุกคนรู้ดีว่าครอบครัวเรากำลังจะจับคู่กับตระกูลฮั่ว แต่เธอกลับเลือกกลับมาตอนเรากำลังจะแต่งงาน ช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ!”คุณหญิงฮั่วขมวดคิ้ว “ฉือหว่านคนนี้น่ารังเกียจจริงๆ”“ไม่ใช่แค่นั้นนะคะคุณน้า สามปีก่อนเธอไม่ใช่ตั้งท้องเหรอคะ ตอนนี้เธอกลับมาพ
ฉือหว่านอุ้มลั่วเป่าเอ่อร์ขึ้นมา “เป่าเอ่อร์ เราไปกันเถอะนะ”ลั่วเป่าเอ่อร์โบกมือน้อยๆ ให้ฮั่วซือหาน “ลุงคนหล่อ ลาก่อนนะ~”ฮั่วซือหาน “ลาก่อน”ฉือหว่านอุ้มลั่วเป่าเอ่อร์จากไปฮั่วซือหานยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองตามร่างของแม่ลูกที่ค่อยๆ ลับสายตาไป ตอนนั้นคุณหญิงฮั่วก็นั่งรถเข็นเข้ามา “ซือหาน เจียวเจียว พวกเธอมัวยืนอยู่ตรงนี้ทำไมกัน?”ลี่เจียวรีบเดินเข้าไป รับรถเข็นจากคนรับใช้แล้วเอาอกเอาใจ “คุณน้า หนูกับซือหานกำลังรอคุณน้าอยู่ค่ะ”“ซือหาน เราเข้าไปในห้องกันเถอะ”ฮั่วซือหาน ลี่เจียว และคุณหญิงฮั่วพากันเข้าไปนั่งในห้องส่วนตัว คุณหญิงฮั่วเอ่ยขึ้น “เจียวเจียว พ่อของหนูกลับมาเมื่อไหร่?”ลี่เจียว “คุณพ่อไปทำงานต่างประเทศ อีกแค่สองสามวันก็น่าจะกลับค่ะ ท่านบอกว่าอยากให้หนูกับซือหานแต่งงานกันเร็วๆ”คุณหญิงฮั่ว “ฉันให้คนเลือกวันมงคลไว้หลายวันแล้วนะ ซือหาน ลูกเลือกมาสักวันหนึ่งเถอะ จะแต่งกับเจียวเจียววันไหนก็ได้”คนรับใช้วางซองสีแดงซึ่งบรรจุวันมงคลไว้ข้างมือฮั่วซือหานฮั่วซือหานแค่กวาดตามอง แล้วพูดเสียงเรียบ “ผมจะไม่แต่งงานกับลี่เจียว เรื่องนี้ผมพูดหลายครั้งแล้ว”ทันทีที่เขาพูดจบ คุณหญิงฮั
เย่ฮวนเอ่อร์จากไปแล้ว ฉือหว่านก็พาลั่วเป่าเอ่อร์เตรียมกลับโรงแรม “เป่าเอ่อร์ เรากลับโรงแรมกันเถอะ”ลั่วเป่าเอ่อร์พยักหน้า “อื้อ”“เป่าเอ่อร์ พรุ่งนี้เราก็จะกลับประเทศ F แล้วนะ ลูกยังมีที่ไหนอยากเที่ยวในเมืองตี้ตูอีกไหม?”“หม่ามี๊ เราจะกลับเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”“ใช่จ้ะ”“แต่เป่าเอ่อร์ยังอยากเล่นกับลุงคนหล่ออีก”ขนตายาวของฉือหว่านสั่นไหว เธอไม่คิดว่าลั่วเป่าเอ่อร์ยังคิดถึงฮั่วซือหาน อยากเล่นกับเขาอีก“เป่าเอ่อร์ ลุงคนหล่อเขายุ่งอยู่ เราอย่าไปรบกวนเขาเลยนะ หม่ามี๊จะเล่นกับหนูเอง”ลั่วเป่าเอ่อร์ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงของลี่เจียวก็ดังขึ้น “ฉือหว่าน บังเอิญจังเลยนะ”ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นลี่เจียวเดินตรงเข้ามาลี่เจียวพูดยิ้มๆ “เธอพาลูกสาวมาทานข้าวเหรอ ช่างบังเอิญจริงๆ ฉันกับซือหานก็นัดมากินข้าวที่นี่ เดี๋ยวคุณน้าฮั่วก็จะมาด้วย พวกเราจะคุยเรื่องแต่งงานกัน เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันกับซือหานกำลังจะแต่งงานกัน?”ดวงตาใสของฉือหว่านจ้องลี่เจียวอย่างสงบ ก่อนจะยิ้มบาง “ฉันไม่รู้มาก่อน แต่ตอนนี้รู้แล้ว แล้วเธออยากจะพูดอะไรอีกล่ะ?”“ฉันแค่อยากจะบอกว่า ซือหานเป็นคู่หมั้นของฉัน ฉือหว่าน เธอคงไม่คิดจ