ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะเล็กๆ ของลั่วเป่าเอ่อร์ “ขอบคุณเป่าเอ่อร์ที่ชมครับ”ฉือหว่านหัวเราะ “เป่าเอ่อร์ เรานั่งกันเถอะ”“อื้ม ได้เลย”ฉือหว่านกับลั่วเป่าเอ่อร์นั่งฝั่งหนึ่ง ส่วนเย่ฮวนเอ่อร์กับฟู่อวิ๋นเซินก็นั่งอีกฝั่ง พนักงานเริ่มทยอยเสิร์ฟอาหารเย่ฮวนเอ่อร์ถาม “หวานหว่าน แล้วทางพี่ชายฉันเป็นยังไงบ้าง?”ฉือหว่านไม่อยากให้เย่ฮวนเอ่อร์ต้องกังวล เธอรู้ว่าเย่ฮวนเอ่อร์กับฟู่อวิ๋นเซินเพิ่งได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง กำลังอยู่ในช่วงรักหวานชื่น “ฮวนเอ่อร์ ไม่ต้องห่วงนะ ทางพี่ชายเธอ ไม่นานก็น่าจะจัดการได้แล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “งั้นก็ดีแล้วล่ะ”ฟู่อวิ๋นเซินพูดขึ้น “คุณฉือ ถ้าทางประธานฮั่วมีอะไรให้ช่วย ก็บอกผมได้เลยนะครับ”ฉือหว่านมองฟู่อวิ๋นเซิน ชายหนุ่มที่เคยยากจนในวันนั้น ตอนนี้ได้กลายเป็นดาวรุ่งแห่งวงการธุรกิจ เขากับเย่ฮวนเอ่อร์ คุณหนูที่เติบโตมาด้วยความรักและเอาใจ เป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ความรักที่มีพื้นฐานจากความเท่าเทียมกัน มักจะงดงามเสมอเธอยิ้มอย่างยินดี แล้วสายตาก็เลื่อนไปยังใบหน้าของฟู่อวิ๋นเซิน “ประธานฟู่ ใบหน้าของคุณโดนน้ำกรดใช่ไหมคะ?”ฟู่อวิ๋นเซินหันไปมองเย่ฮวนเอ่อร์เ
เย่ฮวนเอ่อร์เอื้อมมือไปคว้าแขนฟู่อวิ๋นเซิน “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”ฟู่อวิ๋นเซินส่ายหัว “ประโยคนี้ควรเป็นฉันที่ถามเธอมากกว่า เสี่ยวอู่ไม่ได้พูดอะไรแย่ๆ ใส่เธอใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้เลยว่าเสี่ยวอู่กับหลินเจี๋ยคอยหาเรื่องเธอ แต่เธอวางใจได้เลย ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้ใครมารังแกเธออีกแล้ว”หัวใจของเย่ฮวนเอ่อร์อุ่นวาบ ฟู่อวิ๋นเซินทั้งเอาใจ ทั้งทะนุถนอมเธอ “เสี่ยวอู่ไม่ได้พูดอะไรแรงหรอก ฉันแค่ไม่อยากเห็นคุณสองคนทะเลาะกันเพราะฉัน ฉันรู้ว่าเสี่ยวอู่เป็นเพื่อนที่ดีกับคุณจริงๆ คุณสองคนเป็นพี่น้องกันมาหลายปีแล้ว”ฟู่อวิ๋นเซินยกมุมปาก ปลอบเธอว่า “วางใจได้ ฉันกับเสี่ยวอู่จะไม่ถึงขั้นแตกหักหรอก ฉันแค่อยากให้เขารู้ว่า เธอเป็นของฉัน ไม่มีใครแตะต้องได้”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกซาบซึ้งใจมาก ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ “จริงสิ อวิ๋นเซิน วันนี้เสี่ยวอู่พูดจาแปลกๆ มาก ฉันไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เขาบอกว่าฉันอยู่กับจ้าวอี้แล้วทรยศคุณ แต่ฉันไม่เคย ”เธอยังพูดไม่ทันจบ ฟู่อวิ๋นเซินก็กดมือเบาๆ บนไหล่เธอ พูดเสียงอ่อน “ไม่เป็นไรหรอก อย่าไปใส่ใจคำพูดเพ้อเจ้อของเสี่ยวอู่เลย ถึงเธอจะเคยอยู่กับจ้าวอี้ นั่นก็เป็นเรื่องในอด
หลังจากกินข้าวเสร็จ ฟู่อวิ๋นเซินก็ต้องไปประชุมต่อ เขายุ่งมากจริงๆเย่ฮวนเอ่อร์ “คุณรีบไปเถอะ ฉันจะนั่งออกแบบอยู่ตรงนี้แหละ”ฟู่อวิ๋นเซิน “คราวนี้ตอนฉันกลับมา เธอจะไม่หายตัวไปอีกใช่ไหม? จะไม่แอบหนีไปอีกใช่ไหม?”เย่ฮวนเอ่อร์จุ๊บเขาหนึ่งที “วางใจได้เลย ฉันจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหนทั้งนั้น”“เธอพูดเองนะ ตอนฉันกลับมาต้องเห็นหน้าเธออยู่ที่นี่”“วางใจเถอะน่า”เมื่อได้คำยืนยันจากเธอ ฟู่อวิ๋นเซินถึงได้หมุนตัวออกไปเย่ฮวนเอ่อร์นั่งลงบนเก้าอี้เริ่มออกแบบชุด ตอนนั้นเองมีคนเดินเข้ามา เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้าขึ้นยิ้ม “อวิ๋นเซิน คุณกลับมาเร็ว ”แต่คำพูดของเธอชะงักทันที เพราะคนที่เข้ามาไม่ใช่ฟู่อวิ๋นเซิน แต่เป็นเสี่ยวอู่เย่ฮวนเอ่อร์ “เสี่ยวอู่ เป็นนายเหรอ”เสี่ยวอู่เดินเข้ามา “คุณหนูใหญ่เย่ แล้วคุณคิดว่าเป็นใคร? คิดว่าเป็นอวิ๋นเซินเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์รู้ว่าเสี่ยวอู่มีท่าทีเป็นศัตรูกับเธอชัดเจน “อวิ๋นเซินไปประชุม นายมาหาเขาเหรอ?”เสี่ยวอู่ “เปล่า ฉันมาหาเธอ”เย่ฮวนเอ่อร์ “นายมีเรื่องจะคุยกับฉัน?”“วันนี้อวิ๋นเซินอุ้มเธอเข้าบริษัท ข่าวแพร่กระจายไปทั่วแล้ว ฉันรู้อยู่แล้วว่า แม้จะผ่านมา 3 ปี อวิ๋นเซิ
มองรอยยิ้มหวานและดวงตาเป็นประกายของเย่ฮวนเอ่อร์ ฟู่อวิ๋นเซินรู้สึกว่า ต่อให้เธอกำลังโกหกเขา เขาก็ยังยินยอมยอมรับด้วยความเต็มใจฟู่อวิ๋นเซินโน้มตัวลงจูบเย่ฮวนเอ่อร์เย่ฮวนเอ่อร์โอบรอบคอเขา ตอบรับอย่างเร่าร้อนหลังจากจูบลึกจบลง ใบหน้าเรียวเล็กขนาดฝ่ามือของเย่ฮวนเอ่อร์ก็แดงระเรื่อขึ้น เธอมองเขา “ฉันต้องกลับสตูดิโอแล้วนะ วันนี้ต้องปล่อยแบบดีไซน์เสื้อผ้าชุดใหม่”ฟู่อวิ๋นเซินรู้ดีว่า ตอนนี้เธอเป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง เขายกมือขึ้นลูบแก้มของเธอเบาๆ “ฉันไม่อยากให้เธอกลับ ไปทำแบบที่ออฟฟิศของฉันแทนเถอะ”เขาอยากอยู่กับเธอเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกเหมือนตอนนี้พวกเขากลับเข้าสู่ช่วงหวานชื่นอีกครั้ง เขาดูจะติดเธอมาก“แต่ว่า…”ฟู่อวิ๋นเซินไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธ เขาเปิดประตูลงจากรถ เดินไปที่ฝั่งผู้โดยสาร เปิดประตู แล้วโน้มตัวลงอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาวเขาอุ้มเธอเดินตรงเข้าสู่บริษัททันทีเย่ฮวนเอ่อร์ขนตาสะท้าน รีบขัดขืน “ฟู่อวิ๋นเซิน คุณทำอะไรเนี่ย นี่มันบริษัทของคุณนะ มีคนมากมายเห็นแน่ รีบปล่อยฉันลง!”ฟู่อวิ๋นเซิน “ฉันไม่ปล่อย!”เขาอุ้มเย่ฮวนเอ่อร์เดินเข้าตึก พนักงานในบริษัทต่างก็เงยหน้ามอง แล้วลุกขึ้นย
“คุยเรื่องอะไรเหรอ?”“ฉัน…ฉันแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของคุณ จ้าวอี้บอกว่าเขารู้ เขาบอกว่าถ้าฉันไปหา เขาจะบอกฉัน”ฟู่อวิ๋นเซินชะงักไปเล็กน้อย เขาหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ “เธอไปเจอจ้าวอี้ เพราะอยากรู้เรื่องใบหน้าของฉันเหรอ?”“ใช่สิ ไม่งั้นคุณคิดว่าเพราะอะไรล่ะ? ใครจะรู้ว่าจ้าวอี้มันจะเลวขนาดนั้น แถมยังโรคจิตอีก อยู่ๆ ก็ตัดสเต๊กมาป้อนฉัน เขาบอกให้ฉันกินก่อนแล้วถึงจะบอก แต่ฉันไม่ได้กินเลยนะ!”เห็นแววตารังเกียจของเย่ฮวนเอ่อร์ที่มีต่อจ้าวอี้ ฟู่อวิ๋นเซินก็รู้สึกเหมือนหัวใจได้รับการปลอบโยน ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เองแต่ว่า…ฟู่อวิ๋นเซินมองหน้าเธอ “เธอไม่รู้จริงๆ เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับหน้าของฉัน?”เย่ฮวนเอ่อร์ส่ายหัว “ไม่รู้นี่ คุณถามแบบนี้บ่อยจัง ฉันควรรู้ด้วยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับหน้าคุณ?”ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเมื่อสามปีก่อน เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนั้น งั้นคนที่ทำร้ายเขาก็คือจ้าวอี้แน่นอน!“อวิ๋นเซิน หน้าเธอเกิดอะไรขึ้นกันแน่? บอกฉันได้ไหม?”ฟู่อวิ๋นเซิน “เมื่อสามปีก่อน ฉันกับตำรวจร่วมกันจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ฉันได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉันลากสังขารไป
มือทั้งสองข้างของฟู่อวิ๋นเซินที่แนบอยู่ข้างลำตัวกำแน่นขึ้นมาในทันที เขาก้าวฉับๆ ไปที่โต๊ะของเย่ฮวนเอ่อร์และจ้าวอี้ตรงๆ “เธอไม่กิน!”ได้ยินเสียงคุ้นเคย เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้าขึ้น เธอชะงักไป “อวิ๋นเซิน? คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”ฟู่อวิ๋นเซินยื่นมือมาคว้าแขนเรียวของเย่ฮวนเอ่อร์ แล้วดึงเธอให้ลุกขึ้น “ไปกับฉัน!”เขาจะพาเย่ฮวนเอ่อร์ออกจากที่นี่จ้าวอี้พูดขึ้น “ประธานฟู่ คุณจะพาฮวนเอ่อร์ไปแบบนี้เลยเหรอ? วันนี้เธอมากินข้าวกับผมนะ!”ฟู่อวิ๋นเซินมองจ้าวอี้ด้วยสายตาเย็นเฉียบ “ตอนนี้เย่ฮวนเอ่อร์คือแฟนของฉัน เตือนนายไว้เลย ถ้าอีกครั้งนายกล้านัดเจอแฟนฉันลับหลัง ฉันจะไม่ไว้หน้าแน่!”ฟู่อวิ๋นเซินลากเย่ฮวนเอ่อร์ออกไปทันทีจ้าวอี้วางมีดส้อมในมือลงบนโต๊ะ “เพล้ง” หนึ่งเสียง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายั่วโมโหฟู่อวิ๋นเซินอย่างรุนแรงผ่านโทรศัพท์ แต่ฟู่อวิ๋นเซินก็ยังตามมาที่นี่เพื่อพาเย่ฮวนเอ่อร์กลับไปดูเหมือนว่าความพยายามบ่อนทำลายในครั้งนี้จะไม่ได้ผลน่าหงุดหงิดจริงๆ!ขณะนั้นเอง มีคนเดินเข้ามา “คุณชายจ้าว สวัสดีค่ะ”จ้าวอี้หันไปมอง เห็นหลินเจี๋ยเขารู้จักหลินเจี๋ยดี ผู้หญิงคนนี้อยู่ข้างกายของฟู่อวิ๋นเซิน เข