ข้าวสวย...
"ทานเยอะๆนะคะน้องสวยไปออกค่ายแค่ไม่กี่วันทำไมกลับมาถึงผอมลงล่ะคะลูก"
"น้องทานอะไรไม่ค่อยลงค่ะ"
"อ้าวทำไมล่ะคะอาหารไม่อร่อยเหรอ"
"น้องเครียดน่ะค่ะอาบัว"
"เครียดเรื่องอะไรคะบอกอาได้มั้ยคะ"
"นั่นสิสวยมีอะไรก็บอกพวกเราเผื่อพวกเราจะช่วยแกได้"
"เราเป็นเพื่อนกันนะสวยมีอะไรแกก็ต้องบอกพวกเรา" สองแฝดที่ฉันรู้ว่าพวกมันห่่วงฉันแต่ฉันก็เหมือนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ได้
"คือว่า เอ่อ คือว่า" ฉันไม่รู้จะพูดยังไงว่าฉันกำลังเครียดเรื่องคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามฉันตอนนี้นั่นก็คือพี่ฟ้าครามที่ตั้งแต่ฉันมานั่งร่วมโต๊ะทานอาหารเย็นด้วยเขาไม่มองไม่คุยกับฉันเลยแม้แต่คำเดียว มีเพียงอาบัวกับสองแฝดที่ชวนฉันคุย ฉันรู้ว่าเขาคงจะโกรธเรื่องที่สนามแข่งวันนั้น ซึ่งอันที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นหรอกนะแต่ฉันหมั่นไส้ผู้หญิงพวกนั้นที่เอาแต่เดินตามเอาแต่กรี๊ดพี่ฟ้าครามของฉันฉันก็เลยถือโอกาสตอนพี่เขาขึ้นไปรับถ้วยรางวัลประกาศตัวซะเลยว่าเป็นคู่หมั้นของเขาและก็จะแต่งงานกันในอีกไม่ช้า ฉันยังจำสายตาโกรธเคืองที่เขาส่งมาให้ได้เป็นอย่างดีแต่ก็ยังดีที่เขาไม่พูดอะไรหักหน้าฉันต่อหน้าคนอื่นๆในสนามเพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงจะอายคนอื่นที่ไปมโนเรื่องที่จะแต่งงานกับเขา
"มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่นั่นแล่ะแกเป็นอะไรก็บอกสิยัยสวยไม่สบายเหรอหรือเป็นอะไร"
"นั่นสิมีอะไรหรือเปล่า"
"ช่างมันเถอะมันไม่ได้สำคัญอะไรเท่าไหร่เราเครียดเรื่องเรียนน่ะ"
"แน่ใจว่าเรื่องเรียน"
"อื้มมม"
"เอาเป็นว่าเราจะเชื่อแกก็แล้วกันนะยัยสวย" ฉันรู้ว่าสองแฝดไม่เชื่อที่ฉันพูดหรอกแต่พวกมันก็ไม้ได้ถามอะไรฉันซ้ำ หลังจากมื้ออาหารที่สุดแสนจะอึดอัดจบลงฉันก็ได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง
"พี่ครามคะพี่ว่างมั้ย" ฉันถามพี่ฟ้าครามที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่ม
"....." เขาไม่ได้ตอบว่าว่างหรือไม่ว่างแต่เขามองหน้าฉันแทน
"สวยขอคุยด้วยหน่อยสิ"
"ก็คุยดิ"
"อาบัวขาสวยขออนุญาตพาพี่ครามออกไปคุยข้างนอกตรงสระน้ำได้ไหมคะ"
"อื้มไปสิคะ ครามออกไปคุยกับน้องหน่อยครับลูก"
"เห้ออออน่าเบื่อ" คนใจร้ายถอนหายใจดังเขาคงจะรำคาญและคงไม่อยากจะคุยกับฉันสักเท่าไหร่ฉันรู้ดีแต่สุดท้ายเขาก็เดินนำหน้าฉันออกไปเพราะถูกอาบัวบังคับ
ข้างสระน้ำ...
ฉันเดินตามเขาออกมาจนถึงบริเวณสระว่ายน้ำขนาดใหญ่หลังบ้านของเขาฉันยืนมองเขาจากทางด้านหลังพอฉันเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าเขากำลังก้มหน้าก้มตาแชทคุุยกับใครบางคนอยู่ดูท่าทางมีความสุขยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถ้าให้เดาคงจะเป็นยัยขี้โรคมิวกี้แน่ๆ ฉันเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนเพื่อมองหาบางอย่างก่อนจะค่อยๆเดินไปหาเขาอย่างช้าๆจนมายืนอยู่ตรงหน้าของเขา
"พี่ครามเกลียดสวยมากเลยใช่ไหมคะ"
"เปล่าเกลียด" คำปฏิเสธสั้นๆที่ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด
"พี่ไม่ต้องปฏิเสธ สวยรู้สวยดูออก"
"ถ้ารู้แบบนี้แล้วทำไมถึงยังตามตอแยพี่ไม่เลิกสักที"
"พี่ต้องการให้สวยเลิกตามตอแยพี่ใช่ไหมคะ"
"อืม"
"ก็ได้ค่ะ"
"ห๊ะ??"
"สวยจะเลิกตามตอแยพี่ก็ได้แต่มีข้อแม้"
"ข้อแม้อะไร"
"พี่ต้องจูบสวย"
"ห๊ะ ว่าไงนะ"
"สวยขอให้พี่ครามจูบสวยและหลังจากนั้นสวยจะไม่ตามตอแยพี่อีกเลย"
"พูดบ้าอะไรมาขอให้ผู้ชายจูบ"
"สวยไม่ได้บ้า สวยแค่อยากให้พี่จูบสวยสักครั้งแค่ครั้งเดียวที่สวยจะขอร้องพี่แล้วจากนี้ต่อไปสวยจะไม่ตามตอแยพี่อีก"
"............" เขานิ่งไปเลยไม่หือไม่อือไม่ตอบอะไรฉันกลับมาจนฉันกลัว ฉันกลัวคำตอบของเขากลัวเขาจะบอกว่าจ้างให้ก็ไม่จูบเพราะเขารังเกียจ
"แล้วพี่จะแน่ใจได้ยังไงว่าเราจะทำตามสัญญา"
"สวยสัญญาว่าจะไม่ตามตอแยพี่" ฉันยื่นนิ้วก้อยออกไปเพื่อเป็นสัญลักษณ์
"ก็ได้พี่จะทำตามที่เราต้องการ แต่....เราต้องรักษาคำพูดด้วยล่ะ"
"อื้มม"
"ถ้างั้นก็หลับตา"
"ทำไมต้องหลับตาด้วย"
"บอกให้หลับตาก็ทำเถอะน่าเร็วๆพี่ไม่อยากให้ใครมาเจอ"
"อื้มหลับตาก็ได้" พูดจบฉันก็หลับตาลงทันทีฉันหลับตาเพื่อรอสัมผัสจากเขามันจะเป็นสัมผัสแรกและมันจะต้องไม่เป็นครั้งสุดท้ายฉันสาบาน
ฟ้าคราม...
ผมตัดสินใจที่จะทำตามข้อเรียกร้องของข้าวสวยผมไม่รู้ว่าข้าวสวยจะมาไม้ไหนแต่ในเมื่อเธอบอกว่าจะไม่ตามตอแยผมอีกถ้าผมจูบเธอผมก็จะลองเชื่อเธอดูสักครั้ง ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ก้มมองดูคนตัวเล็กตรงหน้าที่หลับตาพริ้มเพื่อรอจูบจากผม ผมอยากจะบอกว่าจุบนี้คือจูบแรกของผม ผมไม่เคยจูบกับใครหรือผู้หญิงคนไหนมาก่อนยัยตัวแสบคือจูบแรกของผมแต่ผมจะไม่บอกให้รู้หรอก
ผมหลับตาลงก่อนจะประทับริมฝีปากของตัวเองลงไปบนกลีบปากสีชมพูนุ่มคู่นั้นของข้าวสวย ยอมรับเลยว่าริมฝีปากบางๆคู่นี้มันทั้งนุ่มทั้งหวานจนผมเผลอจูบนานไปหลายนาทีผมจูบเธออย่างอ่อนโยนเพราะคิดว่ามันเป็นครั้งแรกและมันจะเป็นครั้งสุดท้ายเราสองคนจูบกันอยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่รู้ว่านานมากจนข้าวสวยผลักผมออกแล้วก็วิ่งหายกลับบ้านตัวเองไป พอตั้งสติได้ผมก็กลับมายืนคิดทบทวนกับสิ่งที่ทำลงไปอย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกโหยหาริมฝีปากคู่นั้นราวกับว่ายังไม่พอใจยังไม่อิ่มกับจูบที่แสนหวานเมื่อครู่
เช้าวันต่อมา....
"ครามมานั่งนี่" พ่อเรียกผมเสียงเครียดคือตอนนี้ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ห้องรับแขกทุกคนจ้องหน้าผมด้วยสายตากดดันจนผมรู้สึกได้
"มีอะไรเหรอครับทำไมทุกคนถึงเอาแต่มองหน้าผมแบบนี้เหมือนผมไปทำอะไรผิดมา"
"เหอะ ยังไม่รู้ตัวเหรอคะพี่ชาย"
"รู้ตัว??รู้ตัวอะไรเฟย่า"
"อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องค่ะ" ยัยโฟกัสก็อีกคน
"คราม อาทิตย์หน้าลูกต้องเข้าพิธีหมั้นกับน้องข้าวสวยนะลูก"
"ว่าไงนะครับแม่"
"หูหนวกเหรอครับพี่ชาย" เจ้าสายฟ้าที่นั่งเล่นเกมส์มือถืออยู่ข้างๆแม่หันมาพูดกับผมด้วยสีหน้ากวนโอ๊ย
"อาทิตย์ลูกต้องหมั้นกับน้อง"
"ไม่ครับครามไม่ยอมหมั้นกับยัยข้าวสวยเด็ดขาด"
"ไม่ได้!!!ยังไงลูกก็ต้องหมั้น ครามต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ครามทำไว้" รับผิดชอบอะไรวะ ผมคิดในใจ
"เป็นลูกผู้ชายต้องมีความรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองนะลูกแม่สอนครามมาเสมอครามจำได้ไหม" จำได้น่ะผมจำได้อยู่แล้วเพราะแม่สอนผมตั้งแต่เด็กแต่มันไปเกี่ยวอะไรกับการหมั้นผมยังไม่ได้ทำอะไรยัยตัวแสบนั่นเลยนอกจาก....
"ถ้าพี่ครามไม่ไปจูบยัยข้าวสวยเมื่อวานพี่ก็ไม่โดนจับหมั้นหรอก"
"ข้าวสวยมาฟ้องเหรอครับว่าผมจูบเธอ"
"น้องไม่ได้ฟ้องหรอกลูก"
"แล้วแม่กับทุกคนรู้ได้ไงครับว่า...เอ่อผมจูบกับข้าวสวยเมื่อวาน" คือผมคิดว่าไม่มีใครเห็นแน่ๆเพราะหลบมุมขนาดนั้นแล้วอีกอย่างถ้าเห็นกันตั้งแต่เมื่อวานทำไมถึงไม่มีใครพูดอะไรเลยล่ะทำไมถึงมาพูดวันนี้
"แล้วพี่ครามจูบยัยสวยจริงหรือเปล่าล่ะ"
"มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดคือพี่กับเพื่อนเราเอ่อออ.." ผมจะอธิบายยังไงให้ทุกคนเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเริ่มต้นมาจากใคร
"จะเข้าใจผิดหรือเข้าใจถูกไม่มีใครรู้หรอกแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นก็คือพี่จูบยัยข้าวสวยไปแล้วแถมจูบซะนานหลายนาทีเลยด้วย"
"กล้องวงจรปิด??"
"เออดิ เต็มๆจอเลยอ่ะโหยเพิ่งรู้ว่าพี่ชายผมจูบสาวได้ดูดดื่มขนาดนี้ 5555 บอกเทคนิคมั่งดิว่าทำยังไงยัยข้าวสวยถึงเคลิ้มได้ขนาดนั้น"
"สายฟ้าเงียบลูก ส่วนครามหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมันเป็นสิ่งยืนยันทุกอย่างว่าเราทำอะไรน้องบ้างเพราะฉะนั้นครามต้องหมั้นกับน้องเพราะน้องเสียหาย"
ผมพูดอะไรไม่ออกเลยครับเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตรงสระน้ำมีกล้องวงจรปิดติดไว้หลายมุม มิน่าล่ะยัยข้าวสวยถึงชวนผมไปคุยตรงนั้น แสบนักนะยัยข้าวสวย
มีใครสงสารพี่ฟ้าครามบ้างไหม555555