“เดินไปตามถนนเลยครับ จะเจอบ้านเรือนไม้หลังใหญ่ มีปีศาจหน้าวัวกับหน้าหมูยืนอยู่ที่นั่นล่ะครับ”
“ขอบคุณมาก ขออวยพรทุกท่านให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ” พูดจบศุภมิตรก็เดินนำไป อรุณนภารีบพูดว่า
“ตามท่านศุภมิตรไปสิ”
หลังจากนั้น อรุณนภา อาทิตย์ ลาย เดินตามไปทันที ชูเท็นโดจิกับอิบารากิโดจิมองหน้ากัน แล้วยักไหล่ ก่อนจะเดินตามไป
“พวกท่านเนี่ย จะพูดจะจาอะไรให้มันดี ๆ หน่อยสิ นี่อะไรแกว่งปากหาเท้าตลอด ข้าต้องโกหกอีกแล้ว” ศุภมิตรพูดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ชูเท็นโดจิไม่ได้ใส่ใจนักกลับยกเหล้าขึ้นดื่ม ศุภมิตรได้แต่ถอนใจ
เมื่อมาถึงก็พบว่า เจ้าหน้าวัวกับหน้าหมูกำลังกินอาหารอยู่ ทั้งคู่กินอาหารอย่างตะกละตะกลาม เหมือนตายอดตายอยากมาเป็นปี เมื่อเห็นคณะเดินทาง เจ้าหน้าหมูก็ลุกขึ้นเดินอุ้ยอายมาหา
“ท่านการอนไม่รับแขกแล้ว” ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่มและออกหมัดชกเข้าที่พุงของอีกฝ่าย เต็ม ๆ มันรู้สึกเหมือนกับโดนซุงท่อนใหญ่กระแทก ถึงกับอาเจียนออกมา
“เฮ้ย ! แกทำอะไรวะ” เจ้าหน้าวัววิ่งมาและชนร่างของชูเท็นโดจิถอยไปหลายก้าว พละกำลังของเจ้าหน้าวัว ไม่ได้มีมากมายอะไรสำหรับชูเท็นโดจิมันแค่คัน ๆ มันวิ่งมาชนอีก ชูเท็นโดจิออกหมัดชกไปที่หัวมัน ทำให้เจ็บจนร้องโวยวาย
“แกทำอะไร !” เจ้าหน้าไก่ออกมา ปีศาจทั้งสามมาล้อมชูเท็นโดจิเอาไว้
อิบารากิโดจิเห็นว่าตอนนี้ทุกคนสนใจ ชูเท็นโดจิอยู่ เลยตัดสินใจเข้าไปในเรือน เมื่อเข้าไป การอนก็พ่นไฟใส่หน้า
“เป็นไงล่ะมาลองดีกับข้า”
“นั่นเรียกว่าไฟเหรอ” เสียงของอิบารากิโดจิดังมาจากด้านหลังของการอน มันเย็นวาบไปทั้งตัว อิบารากิโดจิมาอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก่อนไม่รู้ การอนหันมาและร่ายมนตร์ปล่อยสำแสงใส่หน้าของ
อิบารากิโดจิ ทำให้เขาตาพร่าไป มันชักมีดออกมาหมายจะฆ่าแต่ อิบารากิโดจิหายไปจากตรงนั้นแล้ว
“คิดว่าไอ้แสงแบบนี้จะทำให้ข้า ตาพร่าได้งั้นเหรอตลกว่ะ” เสียงดังมาจากด้านหลัง มันหันมาหมายจะแทงให้ทะลุแต่อิบารากิโดจิปัดมีดทิ้งไป
“นี่จะบอกว่าแกเป็นการอนจริง ๆ เหรอ ไม่อยากเชื่อเลย” เมื่อการอนได้ยินแบบนั้นก็เลยรีบพูดว่า
“ข้านี่ล่ะ การอนหากทำร้ายข้าแกจะต้องเจอกับกองทัพปีศาจของข้า” อิบารากิโดจิได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มเห็นแล้วชวนสยอง
ทางด้านชูเท็นโดจิ เข้าถูกเจ้าสมุนทั้งสามล้อมอยู่ ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่มแล้วพูดว่า
“สงสัยจริง”
“เรื่องอะไรวะ” เจ้าหน้าไก่ถาม “ไอ้คนที่แกบอกว่าเป็นการอนเนี่ย ทำไมมีสมุนแบบสิ้นคิดแบบนี้วะ”
“หนอย ! แก” เจ้าปีศาจทั้งสามพูดพร้อมกันและเรียกหอกออกมาโจมตี ชูเท็นโดจิหลบได้
“พวกแกชอบแบบไหน”
“แบบไหนอะไรหมายถึงอะไร” เจ้าหน้าไก่ถาม
“เกรียม สุก ดิบ” ชูเท็นโดจิพูดจบก็พ่นไฟออกมาเผาร่างของทั้งสาม พวกมันร้องโหยหวนก่อนที่จะล้มลงไป
เมื่อพวกชาวบ้านทราบว่าการอนโดนบุก พวกเขาก็รีบตามมาหมายจะช่วยเหลือ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าปีศาจทั้งสามถูกจัดการไปแล้ว ชูเท็นโดจินั่งดื่มเหล้าอย่างใจเย็น และยังไม่ทันไรก็มีเสียงร้องดังขึ้นมา
“ช่วยข้าด้วย” การอนวิ่งหน้าตื่นออกมา ทุกคนตกตะลึง สภาพของการอนตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยิ่งมันเห็นสมุนโดนจัดการไปแล้วก็หน้าซีดถึงกับฉี่แตก อิบารากิโดจิเดินออกมาแล้วพูดว่า
“ไอ้นี่มันพวกปาหี่ชัด ๆ ไม่ได้มีพลังอะไรมากมายเลย ข้าว่านี่คนละการอนกันแล้วมั้ง”
ชูเท็นโดจิดูสภาพอันน่าสมเพศของอีกฝ่ายแล้วก็ถอนใจเฮือกใหญ่
“เสียเวลาจริง ๆ ไม่รู้มานี่ทำไม”
พวกชาวบ้านเห็นดังนั้น จากที่เคารพบูชาก็กลายเป็นความโกรธที่ถูกหลอกมาตลอด จึงจะเข้าไปทำร้าย แต่เจ้าการอนปลอมปล่อยพลังแสงออกมาทำให้ทุกคนตาพร่า และกำลังจะหนีแต่อิบารากิโดจิโผล่มาดักหน้า และถีบมันกระเด็น
“จะไปไหนเล่า ให้ชาวบ้านเขาชื่นชมแกก่อนสิ”
ยังไม่ทันทีการอนจะทำอะไร ก็มีดาบเล่มหนึ่งพุ่งมาแทงทะลุอกของมัน ตายคาที่ ทุกคนตกตะลึง
“เห็นว่ามีคนอ้างชื่อ ท่านการอน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นขยะแบบนี้นะ” เสียงดังกังวานแต่ฟังแล้วชวนให้ขนลุกดังขึ้นมา ชายร่างสูงโปร่ง ผิวคล้ำ ผมตั้ง มีดวงตาคมเหมือนเหยี่ยวเดินออกมา เมื่อชูเท็นโดจิเห็นชายคนนี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาสาร จึงลุกขึ้นมาพร้อมจะต่อสู้ อิบารากิโดจิเองก็เช่นกัน ส่วนลายนั้นถึงขนาดแปลงร่าง
“พวกแกคิดจะทำอะไรเหรอ” มันถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“แกเป็นใคร” ชูเท็นโดจิถาม อีกฝ่ายตอบว่า “ข้า ชื่อ ได เป็นทหารของท่านการอน” คราวนี้ทุกคนรู้เลยว่ามันไม่ได้โกหกแน่
“งั้นก็มาสู้กับข้า !” ชูเท็นโดจิท้าทาย
“ขอโทษนะ ข้าไม่มีเวลาเล่นกับแก เล่นกับดาบของข้าไปก่อนก็แล้วกัน” เมื่อสิ้นเสียงของได ก็มีดวงตาปรากฏขึ้นที่ดาบเล่มนั้น มันพุ่งมาเข้ามาโจมตีชูเท็นโดจิทันที
ชูเท็นโดจิหลบ แต่ดาบปีศาจยังคงโจมตีอย่างรวดเร็วเขาไม่มีจังหวะให้สวนกลับเลย อิบารากิโดจิเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือเขาทันที เขาข่วนเข้าที่ดาบปีศาจเต็ม ๆ มันลอยออกห่างจากชูเท็นโดจิ
“ข้าจัดการเองสหายข้า” อิบารากิโดจิพูด ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่มแล้วพูดว่า “ตามใจ”
ดาบปีศาจเข้ามาโจมตีอีกครั้งอิบารากิ มองเห็นการเคลื่อนไหวของมันออก จึงหลบได้ ดาบลอยหนี อิบารากิโดจิตั้งท่าเตรียมพร้อม มันพุ่งมาอย่างรวดเร็ว อิบารากิโดจิหลบได้และโจมตีสวนกลับไปดาบกระเด็นลงไป ดาบลอยขึ้นมาและมุดลงไปในดิน อิบารากิโดจิตั้งท่าเตรียมพร้อมดาบโผล่ขึ้นมาจากดิน อิบารากิโดจิตีลังกาหลบ ดาบลอยขึ้นฟ้าไป ลงพุ่งลงมาอีก อิบารากิโดจิใช้กรงเล็บปัด ดาบพุ่งไปอาทิตย์ อรุณนภารีบเอาดาบคู่ของตนปัดให้พ้นทาง
ดาบพุ่งทางอิบารากิโดจิคราวนี้โดนเข้าที่เขากลางหน้าผากของอิบารากิโดจิทำให้เสียหลักล้มลงไป เป็นโอกาสให้ดาบปีศาจนั่นที่จะปลิดชีพเขา
แต่อิบารากิโดจิเอาสองมือรับดาบเอาไว้ แต่ดาบพยายามกดลงมาด้วยแรงมหาสาร แขนของอิบารากิ โดจิเริ่มสั่น ความเจ็บปวดเริ่มแทรกเข้ามา เขาไม่รู้จะทำไงต่อ ได้แต่ออกแรงต้าน ชูเท็นโดจิทนดูต่อไปไม่ไหวเขาวิ่งไปจับที่ด้ามดาบและพยายามดึงออกจากมือของอิบารากิโดจิ แต่กลายเป็นว่ามันมีแรงอันมหาสารมาต้านเอาไว้ ดาบไม่ขยับเลย
“เผามันเลยสหายข้า !”
“ไม่ได้ !ไฟข้าจะเผาเจ้าด้วย !” ชูเท็นโดจิพูด ด้ามจับของดาบปีศาจมีหนามโผล่ออกมาแทงมือของ ชูเท็นโดจิแต่เขาก็กัดฟันพยายามดึงดาบออกมา เลือดเริ่มไหลออกเปื้อนหน้าของอิบารากิโดจิ ภาพนี้ทำให้ลายทนไม่ได้ เขากางกรงเล็บออกมาและกระโดดไปข่วนที่ดาบเต็ม ๆ พลังทั้งสามรวมกันดาบหักเป็นสามท่อน มันหายไป อิบารากิโดจิรีบลุกขึ้นมา
“สหายข้าเจ้าเป็นไงบ้าง” ชูเท็นโดจิไม่ตอบเขาพยายามจะหยิบน้ำเต้าใส่เหล้าขึ้นมาดื่ม แต่มือเขาเจ็บเลยทำให้เปิดไม่ได้ อาทิตย์รักษามือให้เขา ลายพูดขึ้นมา
“จะไม่ขอบคุณสักคำเลยหรือไง” อิบารากิโดจิหันมาบอกว่า
“เจ้าไม่ช่วยสหายข้าก็ช่วยข้าได้อยู่ดีนั่นล่ะ”
ลายได้ยินก็ยักไหล่
พวกชาวบ้านเริ่มสับสน และมีการโต้เถียงและทะเลาะกัน เรื่องใครเป็นนำการอนปลอมเข้ามา คนหนุ่มก็โทษคนแก่ คนแก่ก็โทษคนหนุ่ม การโต้เถียงนำสู่การทะเลาะวิวาท จนเกิดความวุ่นวาย
“นี่ข้าว่าพวกเรารีบไปก่อนที่จะโดน บาทาภัยดีกว่านะ” ศุภมิตรพูด ทุกคนเห็นด้วยและรีบเดินออกไปจากหมู่บ้านนี้ทันที ในใจของชูเท็นโดจิก็คิดว่า การอนตัวจริงต้องแข็งแกร่งมาก เพราะมีปีศาจที่มีฝีมือระดับนี้เป็นลูกน้อง
ดาบเล่มนั้นกลับไปหาได มันมองดูดาบที่ถูกทำลาย แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“คงจะมีเรื่องสนุก ๆ รอข้าอยู่แน่ ๆ”
ชูเท็นโดจิจับทางได้จึงคว้าข้อมือ ยุรนันท์เอาไว้ทัน และกระหน่ำหมัดใส่เขาไม่หยุด ยุรนันท์เจ็บหนัก เขาสลัดมือให้หลุด แล้วถอยมายังไม่ทันได้ตั้งตัวชูเท็นโดจิก็เขามาจับร่างของเขาทุ่มข้ามหัวลงไปกระแทกกับพื้นเสียงดังสนั่น ชูเท็นโดจิ ชูมือเป็นสัญญาณว่าตัวเองชนะแล้ว แต่เขารับรู้สึกจิตสังหารเลยหันไปดูยุรนันท์ลุกขึ้นมาเขากลายเป็นนรสิงฆ์เต็มขั้น รูปร่างเขาตอนนี้ดูสูงใหญ่ หัวกลายเป็นสิง มีเขี้ยวเล็บที่ ดูน่ากลัว เขาคำรามเสียงดังก้อง และเขาประชิดตัวตบกรงเล็บมา ชูเท็นโดจิตั้งรับแต่เขาถูกตบกระเด็น“ยุรนันท์แปลงร่างแล้ว เจ้าชูเท็นโดจิไม่รอดแน่” ราชินีย์ตะวันเอ่ยขึ้น อรุณนภาหน้าเสียอยากจะบอกให้ชูเท็นโดจิยอมแพ้ไปซะเพื่อรักษาชีวิต แต่ราชาสุริยะที่นิ่งมานานกลับบอกนางว่า“ดูสายตาเขาสิ”อรุณนภามองไปสายตาของชูเท็นโดจิ นางเห็นความมุ่งมั่ง ที่จะเอาชนะให้ นางจึงตัดสินใจตะโกนเสียงดังไปว่า “สู้เขานะชูเท็นโดจิ !”ชูเท็นโดจิได้ยินเขาก็มีกำลังใจมาขึ้นมาและเข้าไปต่อสู่กับยุรนันท์ทันที เขารวมพลังไปที่หมัดและชกเข้าไปเต็ม ๆ ที่หน้าของยุรนันท์แต่อีกฝ่ายไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังตบกรงเล็บใส่ ชูเท็นโดจิหล
อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็รู้สึกโล่งอกแต่ก็แอบโกรธเขาอยู่เหมือนกันที่เขามาสาย อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราชินีตะวันมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย จริง ๆ นางอยากจะตัดสินสิทธิ์ชูเท็นโดจิให้แพ้ไปเลย แต่หากทำแบบนั้น คงจะโดนทั้งอาณาจักรครหาได้ เลยไม่พูดอะไรปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไป ชูเท็นโดจิหันมายิ้มให้กับอรุณนภา และไม่ได้สนใจยุรนันท์เท่าไหร่ แถมยังยกเหล้าขึ้นดื่มต่อหน้าต่อตา ยุรนันท์กัดฟัน กรอด ๆ ด้วยความโกรธ“ไอ้คนไร้มารยาท ทำไมถึงได้มาช้า !” แต่ชูเท็นโดจิทำเหมือนไม่ได้ยิน เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์“จะช้า จะเร็วมันสำคัญตรงไหน ยังไงซะแกก็ต้อง แพ้ !” ชูเท็นโดจิพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มอีก ยุรนันท์ยิ่งโมโหจัดเขาจึงท้าว่า“ถ้าเจ้าแพ้ข้า เจ้าต้องไสหัวออกไปจากนรสิงฆ์นครตลอดชีวิต แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าก็จะยอมออกจากนรสิงฆ์นครเช่นกัน” มีเสียงฮื่อฮาดังขึ้น ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่ม แล้วพูดเสียงดังว่า“ก็ได้ข้ารับคำท้า”สัญญาณเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น ชูเท็นโดจิออกหมัดก่อน แต่อีกฝ่ายหลบได้ และออกหมัดสวนไป ชูเท็นโดจิหลบได้ แต่เขารู้สึกถึงแรงลมจากหมัด รู้เลยว่าถ้าโดนเข้าไปจัง ๆ เขาได้เจ็บหนักแน่ ยั
“ข้ายังจำท่าของเจ้าได้ คราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะแพ้ !” ชูเท็นโดจิออกหมัดไป อีกฝ่ายใช้มือปัดการโจมตีและสวนกลับด้วยการกระแทกศอก แต่คราวนี้ชูเท็นโดจิหลบได้และเหวี่ยงหมัดสวนไป อมเรศวรหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หน้า ชูเท็นโดจิยังคงออกหมัดมา หมายจะโจมตีอีกครั้งแต่คราวนี้อมเรศวรก้มตัวหลบและชกหมัดขวาไปเป้าหมายคือปลายคางแต่ชูเท็นโดจิเอามือไปรับหมัดเอาได้และชกเข้าที่แขนทำให้อมเรศวรต้องรีบถอยออกมา เขาต้องการหยุดการต่อสู้โดยเร็วจึงตัดสินใช้เพลงแตะแต่ว่าชูเท็นโดจิจับขาเขาเอาไว้ เหวี่ยงร่างของอมเรศวรลอยไปเขาล้มลงไปกระแทกพื้น อมเรศวรลุกไม่ขึ้นอีกแล้ว เท่ากับว่าชูเท็นโดจิชนะ เขาเดินไปหาอมเรศวรประคองให้ลุกขึ้นและถามว่า“เจ้าไม่ได้ออมมือใช่มั้ย”“เปล่า เลยเจ้าอ่านทางมวยข้าได้แล้ว ข้าถึงได้แพ้” หลังจากที่อมเรศวรแพ้ไปแล้ว เจ้าชายเมืองอื่นก็รีบถอนตัวไปเกือบหมด เพราะเห็นฝีมือของชูเท็นโดจิแล้วไม่อยากเสี่ยงต่อสู้ด้วย เหลือแต่มารุตกับยุรนันท์เท่านั้น ซึ่งยุรนันท์ได้เข้าไปรอรอบชิงเลยด้วยความช่วยเหลือของราชินีตะวัน แถมในตอนแรกนางจะให้ชูเท็นโดจิต่อสู้เลยด้วยซ้ำแต่มารุตบอกว่า“ให้เขาไปพักก่อน ไม่งั้นมันไม่
“สหายข้า” เสียงของอิบารากิโดจิเรียกชูเท็นโดจิจากภวังค์ เพื่อนรักของเขาอยู่ตรงหน้า ในยามนี้เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้น “มีอะไรอิบารากิ” ชูเท็นโดจิกำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิห้ามเอาไว้ “หยุดกินได้แล้ว สหายข้า”ชูเท็นโดจิแปลกใจมาก อิบารากิโดจิ ไม่เคยห้ามเขาเลย เวลาจะทำอะไร แต่วันนี้กลับห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า “ห้ามข้าทำไม” “เจ้าดูสภาพตัวเองหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ตัวเจ้าที่ข้ารู้จัก” อิบารากิโดจิพูด“ช่างข้าสิ” ชูเท็นโดจิสะบัดมือออก และยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิปัดมือเขา“หยุดซะที แต่ก่อนเจ้าเป็นนักสู้ แต่ตอนนี้เมาเหมือนหมาไม่มีผิด”“หุปปากไปเลย แกจะเข้าใจอะไร” ชูเท็นโดจิ จะยกเหล้าขึ้นดื่ม อิบารากิโดจิใช้มือปัด ทำให้ชูเท็นโดจิเริ่มโมโห“อย่ามายุ่งกับข้า เดี๋ยวก็ได้เสียแขนอีกข้างหรอก”“อย่างเจ้าตอนนี้ ตบแมลงยังไม่ตายเลยมั้ง” อิบารากิโดจิพูดเย้ย ชูเท็นโดจิได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า เขาออกหมัดไป อิบารากิโดจิแม้จะมีแขนเดียว แต่ความเร็วของเขายังเท่าเดิม ทำให้ชูเท็นโดจิชกพลาด แขนเสื้อของอิบารากิโดจิฟาดหน้าเขา ทำให้เขาได้สติถ้าอิบารากิโดจิมีแขนข้างนี้ ตาเข
“ขอร้อง ล่ะ!” มัน เน้นเสียงตรงคำว่า ล่ะ ทำให้เกิดคลื่นเสียงมาทำให้ชูเท็นโดจิเสียหลัก การอนรีบลุกขึ้นมาและกำลังจะหนีแต่ ชูเท็นโดจิตั้งตัวได้กระโดดไปดักหน้าการอนเอาไว้ และทุบหัวของการอสด้วยสองมือร่างของการอนค่อย ๆ จมลงไปในดินจนเหลือแต่หัว กระดูกทั้งตัวแหลก ชูเท็นโดจิทุบซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้หัวของมันแหลกไปแล้ว“การอนตาย แล้ว !” ชูเท็นโดจิประกาศเสียงดังลั่นหลังจากที่การอนตายพวกออร์คก็ถูกสังหารไปจนหมด อรุณนภา กับ อาทิตย์รีบไปตามหาพ่อกับแม่ ซึ่งก็พบว่า ยุรนันท์พาทั้งสองออกมาแล้ว ราชาสุริยะนั้นได้บาดเจ็บหนัก ส่วนราชินีตะวันปลอดภัยดี ทุกคนเข้าไปกอดกันด้วยความรัก และร้องไห้ออกมาด้วยซาบซึ้งในใจ ชูเท็นโดจิเดินมาเห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มออกมา อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็วิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ากลับมา เจ้ากลับมา” อรุณนภาพูดทั้งน้ำตา ชูเท็นโดจิกอดนาง“ข้ากลับมาแล้วว่าแต่มีเหล้ากินมั้ยเนี่ย” เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ นางจึงตะโกนชื่อของเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ตะโกนตาม“ชูเท็นโดจิ ชูเท็นโดจิ” เสียงเรียกชื่อเขาดังไปหมด แต่มันไม่ได้ดังด้วยความหวดกลัวเหมือนกับทุกครั้ง หากแต่เต็มไปด้วยความช
การอนแม้จะรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของชูเท็นโดจิ ก็หาได้กลัวไม่ มันเข้าโจมตีชูเท็นโดจิด้วยการกระหน่ำหมัด แต่กลายเป็นว่า ชูเท็นโดจิหลบหมัดทั้งหมดได้ และคว้าข้อมือของการอนเอาไว้ออกแรงบีบอย่างแรง จนการอนร้องลั่งด้วยความเจ็บปวด เมื่อสลัดออกมาได้ ก็พบข้อมือมีรอยไหม้เป็นรูปมืออยู่ นั่นทำให้มันตกตะลึง จึงตัดสินรวมพลังไปที่ฝ่ามือและกระแทกใส่ชูเท็นโดจิ แต่กลายเป็นว่าครั้งนี้เขาไม่สะเทือนเลย แถมยังชกการอนกระเด็น“บังอาจมาทำร้ายอรุณนภา ข้าจะฆ่าเจ้าซะ !” ชูเท็นโดจิหยิบหินที่พื้นมาซัดออกไป การอนเอามือปัดแต่ครั้งนี้หินทะลุมือของมันเป็นรู ชูเท็นโดจิเขามาประชิดตัวพ่นไฟใส่ร่างของการอนมันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด อย่างที่มันไม่เคยเจอมาก่อน“เคยใช้แต่ตัวปลอมสินะ งั้นก็มาเจอกับความเจ็บปวดของจริง เป็นยังไงล่ะ” ชูเท็นโดจิชกซ้ำร่าง การอนกระเด็น ล้มลงไปฝ่ายของการอนเมื่อเห็นนายล้มลงไปแล้วกำลังใจก็เริ่มเสีย ทำให้ฝ่ายต่อต้าน เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น แต่มันเร็วไปที่จะดีใจ การอนลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ร่างของมันกลับเป็นร่างแรก แถมอาการบาดเจ็บลดลงไปมาก“ไม่คิดเลยนะว่าจะเจอคนที่ทำให้ข้าเจ็บได้ งั้นก็หายไปซะ !” ร