Share

บทที่ 8

คนอื่น ๆ ที่เพิ่งตอบสนอง ก็ผลักอวิ๋นซูออกไปอย่างทำอะไรไม่ถูก เพื่อเข้าไปเช็ดให้กับอวิ๋นซือฉิง

แต่ถึงอย่างนั้น หนังศีรษะของอวิ๋นซือฉิงก็ยังคงเจ็บปวดราวกับว่าแยกออกจากกัน น้ำตาไหลพรากลงบนพื้น

พยาบาลผู้ดูแลที่เห็นเหตุการณ์ โกรธจนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตือน "เธอเป็นใคร เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังหาเรื่องใครอยู่"

อวิ๋นซูเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา "ก็คู่หมั้นที่ยังไม่ได้ถอนหมั้นของเฮ่อหย่วนเจ๋อน่ะสิ"

ทั้งหมดต่างตกอยู่ในความตะลึง

มองดูสายตาที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปของอวิ๋นซือฉิง

อวิ๋นซือฉิงที่กำลังผ่อนคลายชั่วพริบตาก็พลันตื่นตระหนกขึ้น รีบอธิบายอย่างร้อนรนราวกับเสือติดจั่น "พวกพี่ตกลงเป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่ตอนเด็ก ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกันเลย ฉันกับพี่หย่วนเจ๋อสิถึงเรียกว่าความรักจริงๆ พี่คะพี่คืนพี่หย่วนเจ๋อให้ฉันได้ไหมคะ"

ทุกคนค่อย ๆ มองมาที่อวิ๋นซูด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม

อวิ๋นซูถอนหายใจเฮ้อ

น้องสาวของเธอคนนี้คือที่สุดของความสตรอว์เบอร์รี่เลย!

มือทั้งสองข้างของเธอวางทับกัน และโต้ตอบอย่างนิ่ง ๆ "ในเมื่อพวกเธอทั้งสองคนรักกันอย่างมีความสุข เฮ่อหย่วนเจ๋อทำไมถึงไม่เสนอให้ยกเลิกการหมั้นกับคุณปู่ล่ะ คงไม่ได้หลอกเธอ หรือว่าแค่มาเล่น ๆ กับเธอหรอกใช่ไหม"

อวัยวะบนใบหน้าของอวิ๋นซือฉิงบิดเบี้ยว

เป็นเพราะว่ามีคนอยู่เยอะ เธอจึงจำเป็นต้องรักษากิริยาท่าทางของสตรีผู้สูงส่งเอาไว้

ทำได้แค่กัดริมฝีปากแน่น "พี่คะ ฉันรู้นะคะว่าพี่ต้องบริจาคไตเพื่อช่วยฉัน พี่เองต้องรู้สึกลำบากใจแน่ ๆ เพื่อไม่ให้พี่ลำบากใจ ฉันจะยอมตายเองค่ะ!"

ขณะที่กำลังพูด เธอยังไถลรถเข็นไปชนกับเสาด้านข้างจริง ๆ

หากเป็นเมื่อก่อน อวิ๋นซูคงจะรู้สึกสงสารอยู่แน่ ๆ

แต่ว่าในตอนนี้เธอ ไม่ใช่เธอที่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว!

ภายใต้สถานการณ์วุ่นวายเธอสงบอารมณ์และเอ่ย "ชนดี ๆ ล่ะ ออกแรงหน่อย ชนให้ตายไปเลยจะดีที่สุด ถึงตอนนั้นเรื่องก็คงจะแดงจนคนทั้งเมืองได้รู้ และคุณปู่เองก็จะได้รู้เรื่องสกปรกโสมมพวกนี้ของเธอกับเฮ่อหย่วนเจ๋อ!"

การเคลื่อนไหวของอวิ๋นซือฉิงหยุดชะงักไป ไม่ไปต่อหรือว่าถอยกลับ

เธอไม่เคยคิดเลยว่า อวิ๋นซูคนที่ใส่ใจเฮ่อหย่วนเจ๋อมากที่สุดคนนั้น จะพูดแบบนี้ออกมา

เธอกำหมัดแน่น ตั้งใจล้มลงมาจากรถเข็น และค่อย ๆ คลานไปหาอวิ๋นซูทีละก้าว

"พี่คะ เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบที่พี่คิดนะคะ พี่หย่วนเจ๋อแค่เห็นว่าฉันน่าสงสาร ถึงได้จัดการให้ฉันเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเลยจริง ๆ นะคะ!"

"อ๋อเหรอ แต่ว่าเมื่อกี้ฉันเพิ่งจะได้ยินว่าคนพวกนั้นเรียกเธอว่าคุณนายน้อยไม่ใช่เหรอ"อวิ๋นซูฉีกยิ้ม

ไม่เชื่อในการแสดงที่ดูทุ่มเทของอวิ๋นซือฉิง

สีหน้าของอวิ๋นซือฉิงพลันขาวซีด "พวกเขาเข้าใจผิดค่ะ...แค่...แค่พวกเขาเห็นว่าพี่หย่วนเจ๋อดูแลฉันดีมาก ๆ ก็เลยคิดว่าพวกเรา...พวกเรา..."

อวิ๋นซูโน้มตัวลงไปบีบคางของอวิ๋นซือฉิง "ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าต้องจำไว้นะ ต่อให้จะเป็นรองเท้าขาด ๆ ที่พี่ไม่ต้องการแล้ว ก็ต้องรอให้พี่โยนมันทิ้งก่อนนะ เธอถึงสามารถหยิบมันมาใส่ได้ ได้ยินแล้วใช่ไหม"

อวิ๋นซูตกตะลึง

อวิ๋นซูที่อยู่ตรงหน้านี้ มีอำนาจ! มั่นใจในตัวเอง!

ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เทิดทูนเฮ่อหย่วนเจ๋อจนสุดหัวใจ

ไม่เคยรู้สึกถึงวิกฤตการณ์ที่กระทบต่อจิตใจรุนแรงแบบนี้มาก่อน

อวิ๋นซูไม่อยากที่จะสนใจเธอแล้ว หมุนตัวกลับ และออกจากโรงพยาบาลไปเพื่อซื้อโจ๊กมาใหม่อีกชุดหนึ่ง

......

หลังจากที่ส่งอาหารแล้ว เธอก็อยู่คุยกับหลินหมู่อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่อวิ๋นซูจะลงมาข้างล่าง

รถของตระกูลเฮ่อยังคงรออยู่ที่หน้าโรงพยาบาล

อวิ๋นซูขึ้นรถไป เอ่ยกับคนขับรถ "ขอโทษนะคะที่ทำให้รอนาน"

เสียงอู้อี้ของคนขับรถที่สวมหน้ากากอนามัยอยู่เบาะหน้าเอ่ย "ไม่เป็นไรครับ คุณหนูอวิ๋น"

อวิ๋นซูหาวไปรอบหนึ่ง แล้วมองดูเวลา นี่ก็ไกลจะสิบเอ็ดโมงแล้ว

"ช่วยไปส่งฉันที่ทางเข้าชุมชนฟู่ลี่ก็พอค่ะ"

"ครับ"

รถติดเครื่องยนต์

อวิ๋นซูหาวขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ เปลือกตาบนหนักอึ้งก็ค่อย ๆ ปิดลง

แปลกจัง

ทำไมวันนี้เธอถึงได้ง่วงขนาดนี้

ปกติก็บ่ายสองบ่ายสามถึงจะนอน

อวิ๋นซูนวดขมับไปสักพัก ความเหนื่อยล้าก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

อาจจะไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

แต่กว่าจะถึงบ้านก็ยังห่างอีกไกล พักสายตาสักพักก็คงดี

อวิ๋นซูทำตัวผ่อนคลาย ไม่นาน ก็ล้มตัวลงบนเบาะรถนุ่ม ๆ

คนขับรถที่อยู่เบาะด้านหน้าเห็นแบบนี้ ก็ค่อย ๆ ถอนหายใจก็โล่งอกขึ้นมา และหันหัวรถกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

ขณะนี้

ชั้นบนสุดของตึกฟู่ลี่

เฮ่อเหยียนสือที่มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า และอีกข้างหนึ่งกำลังถือแก้วไวน์ ยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่างเต็มบาน ที่มองเห็นทั่วทั้งเป่ยเฉิง

เมืองทั้งเมือง สว่างราวกับตอนกลางวัน โอกาสทางธุรกิจมีอยู่ทั่วทุกที่

ในใจของเขากลับมีแต่ผู้หญิงคนนั้นอยู่เต็มไปหมด!

เขาจิบไวน์อย่างหงุดหงิด ความรู้สึกในใจของเขากลับไม่ได้ลดลง

เสียงหัวเราะของเย่ชางเหยียนเพื่อนสนิทที่อยู่ด้านหลังดังขึ้นไม่หยุดตั้งแต่ที่เข้ามา

"คิดไม่ถึงว่านายแต่งงานกับคู่หมั้นของเฮ่อหย่วนเจ๋อจริง ๆ ขำตายเลย"

เฮ่อเหยียนสือหันหน้ากลับไป โจมตีด้วยสายตาที่คมราวกับคมดาบอย่างรวดเร็ว

เย่ชางเหยียนหยุดหัวเราะอย่างรวดเร็ว และเอ่ยถามอย่างจริงจัง "นายจะหย่าจริง ๆ เหรอ เดี๋ยวถ้าพ่อนายรู้ ว่านายไม่ได้แต่งงาน แล้วเร่งรัดให้นายแต่งงานอีกจะทำยังไง"

ตอนที่อยู่เมืองนอก มีคนเร่งแค่คนเดียว

หลังจากที่กลับมา ก็เป็นทั้งตระกูลใหญ่ที่เร่งรัดให้แต่งงาน

ด้วยการพิจารณาถึงข้อนี้เฮ่อเหยียนสือถึงได้หาคนมาแต่งงานแบบสายฟ้าแลบในตั้งแต่ตอนแรก

เฮ่อเหยียนสือหรี่ตาลง

เย่ชางเหยียนไม่หวังให้เขาตอบกลับ หยิบรูปของอวิ๋นซูขึ้นมา ทำเสียงจุ๊ ๆ เอ่ย "หน้าตาค่อนข้างสวย นายไม่เสียดายจริง ๆ เหรอ"

เฮ่อเหยียนสือจิบไวน์ไปหนึ่งอึก ความเข้มข้นของไวน์ชั้นดีเปลี่ยนเป็นความขมติดที่ปลายลิ้น

น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย "ฉันไม่ชอบความยุ่งยาก"

เย่ชางเหยียนได้ยินดังนั้น ก็ไม่พูดอะไรต่อ

เฮ่อเหยียนสือได้ตัดสินใจแล้ว

สิ่งที่เขาตัดสินใจไปไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้อีก

มีสายโทรศัพท์เข้ามาทำลายความเงียบพอดี

เย่ชางเหยียนรับสาย ฟังที่ปลายสายพูดจบ ก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา "หาที่มาของไตเจอแล้วงั้นเหรอ ทำไมเร็วจัง ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไป"

พูดจบ เขาก็วางสายโทรศัพท์ และพูดกับเฮ่อเหยียนสือ "ที่โรงพยาบาลมีเรื่อง ฉันขอตัวกลับก่อน"

เฮ่อเหยียนสือพยักหน้ารับแบบขอไปที

เย่ชางเหยียนเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็อดไม่ได้ที่จะเตือนสติขึ้นมา "เรื่องการหย่า นายพิจารณาดูดี ๆ ก่อนเถอะนะ ฉันคิดว่าผู้หญิงที่ชื่ออวิ๋นซูนี่ก็ไม่เลวนะ"

พูดจบ ดึงประตูเปิดออกแล้วจากไป

หลังจากที่ภายในห้องทำงานได้รับแสงสว่างชั่วคราวในเวลาอันสั้น ก็พลันตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง

มีเพียงของเหลวสีแดงเข้มคลุมเครือที่กำลังแกว่งไปมาอยู่ เหมือนกับงูที่น่าหลงใหล หลอกล่อให้ใจคนลุ่มหลง

โรงพยาบาล

อวิ๋นซูที่นอนอยู่บนเตียงขยับเปลือกตาอย่างยากลำบาก

อยากที่จะลุกขึ้นมานั่ง กลับพบว่าแขนขาถูกปิดบังคับอยู่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

อวิ๋นซูกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างสับสน ถึงได้นึกออกมาว่า ที่นี่เป็นห้องผ่าตัด!

เธอเย็นวาบไปทั้งร่าง

นึกถึงเฮ่อหย่วนเจ๋อในทันที!

เขาต้องทำอะไรสักอย่างในรถแน่นอน เธอถึงได้เป็นลมไป!

อวิ๋นซูต่อสู้ดิ้นรนสุดกำลังอย่างไม่ยินยอม ไม่ว่าจะทำยังไงโซ่ตรวนก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว

ในขณะที่เธอกำลังจะหมดหวัง ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก

เฮ่อหย่วนเจ๋อสวมชุดป้องกันและสวมหน้ากากอนามัยเดินเข้ามา

เมื่อเห็นอวิ๋นซู ดวงตาของเขาเฉียบคมยิ่งกว่ามีดผ่าตัดเสียอีก

เมื่อวานหลังจากที่ออกมาจากโรงแรม เขาไปที่ร้านเครื่องประดับและทำสร้อยเส้นหนึ่งให้กับอวิ๋นซือฉิง นึกไม่ถึงว่าพอเขามาถึงโรงพยาบาล กลับเห็นอวิ๋นซือฉิงนั่งคุกเข่าอยู่ทางเข้าแผนกผู้ป่วยในอย่างน่าสงสาร บนหัวบนหน้าเต็มไปด้วยโจ๊ก หัวเข่าก็ถูกกดทับลงจนแตกไปหมด

หลังจากที่รู้ว่าทั้งหมดเป็นผลงานของอวิ๋นซู เขาก็โกรธจนทุบห้องพักผู้ป่วยทิ้ง

หลังจากที่ใจเย็นลง และได้รู้ว่าเธอยังอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่ ก็ได้ทำการเปลี่ยนคนขับรถ และวางยาสลบภายในรถ

พออวิ๋นซูสลบไป เขาก็มัดเธอติดกับเตียงผ่าตัด

เฮ่อหย่วนเจ๋อไล่มองอวิ๋นซูจากข้างบนลงไปข้างล่าง "รู้สึกดีนักใช่ไหมที่ได้รังแกคนอื่น ตอนนี้เปลี่ยนเธอเป็นฝ่ายถูกรังแกบ้าง รู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะ"

อวิ๋นซูขี้เกียจจะอธิบาย

เธอเขย่ากุญแจมือ ในการปะทะที่เยือกเย็นเธอตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ "เฮ่อหย่วนเจ๋อ ปล่อยฉัน! นายไม่กลัวว่าคุณปู่จะรู้เรื่องเหรอ ห๊ะ!”

เฮ่อหย่วนเจ๋อยิ้มอย่างโหดเหี้ยมเอ่ย "ถึงตอนนั้นที่คุณปู่รู้ พวกเราก็แต่งงานกันแล้ว ตอนนั้นฉันก็จะบอกว่าเธอเอาเรื่องไตมาข่มขู่ฉันให้แต่งงานกับเธอ ด้วยความที่ฉันสงสารซือฉิง ฉันถึงต้องรีบแต่งงานกับเธอ"

พูดจบ เขาหันไปพูดกับคุณหมอที่อยู่ด้านหลัง "คุณหมอเย่ รบกวนด้วยนะครับ"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status