“ไม่หรอกค่ะ แค่รอลุ้นว่าใครจะได้แล้วใครได้รางวัลอะไรบ้าง ทุกคนแต่งตัวกันแบบไม่มีใครยอมใครต้องสนุกแน่ๆ”
ขนมหวานยิ้มหวานให้พี่ลิซ่าก็เพราะเธอกับแสนหวานยังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานของโรงแรมยังคงสถานะเป็นเด็กฝึกงานอยู่และได้ทำงานพาร์ตไทม์ด้วย เพราะพี่ลิซ่าช่วยเหลือให้โอกาสและพวกเธอก็ทำได้ดี แว่วว่าพอเรียนจบพวกเธอก็อาจจะได้ทำงานที่โรงแรมต่อทันทีเลยก็นับว่าเป็นข่าวดีมาก แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้เรียนจบมาด้านการโรงแรมโดยตรงแต่ขนมหวานก็เรียนมาทางด้านเทคโนโลยีอาหาร ส่วนแสนหวานนั้นเรียนด้านการเงินการจัดการ และทางโรงแรมก็ต้องการผู้ช่วยทั้งสองแผนก จึงรับให้พวกเธอเข้ามาฝึกงานและแผนกต้อนรับก็กำลังขาดคนพี่ลิซ่าจึงให้พวกเธอทำงานพาร์ตไทม์ช่วยวันในหยุดหรือหลังเลิกจากเวลาฝึกงาน ซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่แล้วเรียบร้อย และผลงานของพวกเธอทั้งสองก็ถูกใจผู้บริหารมากด้วย เรียกได้ว่าเด็กสร้างของพี่ลิซ่านั้นอนาคตไกลทีเดียว ส่วนกวินนั้นเป็นเลขาของพี่ลิซ่ามาได้ปีกว่าแล้วเพราะเขาเรียนจบก่อนเพื่อนๆ ทั้งสอง เพราะเขาอายุมากกว่าสองปีแต่ก็มักเรียกขานกันแบบสนิทสนมมากกว่ามีคำนำหน้าว่าพี่
“แต่รู้สึกเหมือนว่าหนูหวานจะไม่ไหวแล้วนะ สงสัยจะเมาแล้ว” แสนหวานสลัดศีรษะไปมาดูท่าทางจะมึนมากกว่าใคร
“หนมหวานก็มึนๆ แหละ แต่รอลุ้นอีกหน่อยค่อยกลับกัน”
“ดีๆ งั้นรอลุ้นๆ” แล้วทั้งสี่สาวก็พากันนั่งลุ้นรางวัลกันอย่างใจจดจ่อแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง นั่นคือการจับรางวัลสร้อยคอทองคำหนักหนึ่งบาทถึงสิบรางวัลและรางวัลรองลงมาก็มีมูลค่าน่าสนใจทุกรางวัล
“กรี๊ดดดดด นังหนูหวานแกได้รางวัลทองคำว่ะแก” กวินกรีดร้องลั่นด้วยความดีใจจนหายมึนไปเลยทีเดียว เพราะสร้อยคอทองคำบาทสุดท้ายนี้เป็นของเพื่อนในกลุ่มตน
“จริงเหรอแก ฉันไม่ได้ฝัน ไม่ได้เมาใช่ไหม” แสนหวานเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน”
“เบื่อพวกดีใจจนเวอร์ ดีใจด้วยนะหมูหวานได้ทองตั้งบาทหนึ่งแน่ะ ทองก็เหมาะกับเธอนะ ดูดอกๆ ทองๆ ดี” เสียงแหลมๆ ที่แทรกเข้ามาทำให้ทั้งสี่สาวหันไปมอง เมริน พนักงานสาวแผนกต้อนรับที่สวยจัดชนิดหาตัวจับยากและนิสัยก็ร้ายจัดเช่นกัน
“ขึ้นไปรับรางวัลเถอะหนูหวานอย่าสนใจเสียงตัวเงินตัวทองเจ็บแผลขี้เรื้อนหอนเลย” พี่ลิซ่าบอกแสนหวานที่ทำท่าจะโผนเข้าไปตบเมรินที่ชอบเรียกเธอว่า หมูหวาน เพราะรูปร่างของแสนหวานอวบอิ่มไม่ได้ผอมเพรียวนั่นเอง แสนหวานพยักหน้าอย่างพยายามหักห้ามใจแล้วดึงขนมหวานเดินไปเป็นเพื่อน
“พี่ลิซ่าว่าเมหรือคะ” เมรินแหวพี่ลิซ่าอย่างไม่พอใจ จริงๆ แล้วเมรินอยากให้พี่ลิซ่าสนใจในตัวเธอสนับสนุนเธอ เหมือนขนมหวานกับเพื่อนๆ แต่พี่ลิซ่าไม่เคยชายตาแลเธอเลย ทั้งที่ปีที่แล้วเธอก็ได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นปีนี้เธอก็ได้อีกเช่นกัน
“ฉันไม่ได้ว่าใครหรอกแค่เปรยๆ เปรียบๆ ไปอย่างนั้นเอง แต่ใครจะรับก็ได้นะไม่ว่ากัน”
“พี่ลิซ่าไม่เห็นเมในสายตาเลยใช่ไหม เมเป็นญาติพี่นะ ทำไมไม่ส่งเสริมเมเหมือนนังเด็กอ้วนผอมนั่น”
“ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้มั้งเม ก็เลยไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่สนับสนุน ขี้อิจฉาและปากเสีย”
“อีวินนี่...” เมรินในชุดราชินีหิมะหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธชี้หน้ากวินอย่างโกรธเคือง
“ฉันแนะนำให้เธอกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ไปหาเพื่อนๆ เธอซะเม คืนนี้พี่อยากสนุกไม่อยากมีเรื่องอะไรกวนใจ”
“เมจะฟ้องคุณป้าว่าพี่ลิซ่าไม่สนใจน้องตัวเอง”
“ถ้าจะให้ดีบอกแม่เธอมาที่บ้านพี่ด้วยก็ดีนะเม จะได้พูดสะดวกปากหน่อยว่าลูกสาวแกเป็นยังไงบ้าง หรือบางทีก็น่าจะพากันไปพบจิตแพทย์บ้างทั้งแม่ทั้งลูก เหมือนจะเป็นโรคจิตชอบจิกกัดคนอื่น”
พี่ลิซ่ากอดมอกมองเมรินด้วยแววตาเย็นชา เมรินเม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างขัดใจ
“ฉลองปีใหม่ทั้งทีพระเจ้าก็ส่งชะนีขี้อิจฉามาป่วนกวนใจกะเทย” กวินบ่นตามหลังเมรินไป พี่ลิซ่าก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาพฤติกรรมของเมริน...
เมรินเป็นญาติผู้น้องของพี่ลิซ่า แต่พี่ลิซ่าไม่ค่อยชอบสองแม่ลูกคู่นี้เท่าไหร่ เพราะ เมรินกับแม่ของเธอนั้นชอบมาวุ่นวายเจ้ากี้เจ้าการกับแม่ของเธอ และยังชอบทำอะไรเวอร์วังอวดร่ำอวดรวย จริงอยู่แม้ครอบครัวของเธอจะค่อนข้างฐานะดี แต่คนทุกคนยากดีมีจนก็ต้องทำงานเลี้ยงชีพตัวเอง ไม่ใช่รอใช้รอกินสมบัติเก่ารอมรดกจากพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ซึ่งพี่ลิซ่านั้นไม่เคยมีความคิดแบบนั้นในหัว สำหรับเธอแล้ว คุณค่าของคนเรามันอยู่ที่ว่าทำอะไรได้บ้าง ไม่ใช่มีอะไรบ้าง และสำหรับเธอการหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยลำแข้งของตัวเองคือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและทรงคุณค่าที่สุด ใครจะว่าอย่างไรเธอไม่เคยสนใจ ไม่ว่าจะเพศไหนหากไม่มีทำงาน ไม่รู้คุณค่าของตัวเอง ก็ไม่ต่างอะไรกับคนไร้ค่าอยู่ดี
ขนมหวานกับแสนหวานเดินมารอขึ้นไปรับรางวัลแต่ท่าทางแสนหวานจะตื่นเต้นมากและดื่มหนักไปหน่อยเริ่มจะเดินไม่ตรงทาง แต่เพื่อรางวัลใหญ่เธอก็พยายามจะเดินให้ตรงทาง
“ไหวไหมหนูหวาน”
“ไหวสิ แค่นี้สบายม้ากกกก”
“โอเคๆ เดินดีๆ ล่ะเอ้าถึงบันไดแล้ว” ขนมหวานบอกเพื่อนรักเมื่อพากันมาถึงบันไดเตี้ยๆ ทางเดินขึ้นเวที แสนหวานพยักหน้าหงึกๆ แล้วสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามเดินขึ้นไปก่อนขั้นแรก
“เห็นมั้ยว่าสบายมาก ฮ่าๆ”
“จ้า รีบไปบอสรออยู่” ขนมหวานบุ้ยใบ้ให้เพื่อนรักรีบเดินไปเพราะผู้จัดการสาขาของพวกเธอยืนรออยู่บนเวที
ในขณะเดียวกันโจนาธานที่กำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนรักของตนที่โต๊ะวีไอพีพร้อมกับผู้บริหารจากสาขาอื่นๆ ก็ถูกเชิญมาเป็นคนมอบรางวัลสุดท้ายของงาน ชายหนุ่มเดินขึ้นมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของบรรดาสาวๆ ทำให้แสนหวานคิดเข้าใจว่าทุกคนกรี๊ดให้เธอ ที่ได้รับรางวัลใหญ่ หญิงสาวหันไปยิ้มให้ทุกคนด้านล่างแล้วโบกมือราวกับนางสาวไทยได้มงกุฎ แล้วยังเดินไปเดินมาหลายรอบโดยไม่ได้สนใจคนที่ยืนรอมองรางวัลให้ตน จนพิธีกรเอ่ยปากบอกแสนหวานจึงหันกลับมายังพิธีกรและผู้ที่จะมอบรางวัลให้ตน และเมื่อหันมาเจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอในระยะใกล้ขนาดนี้ ทำให้เธอเกิดอาการประหม่าและตื่นเต้นจนแสนหวานสะดุดขาตัวเอง
ตอนที่44. ตอนพิเศษ8. จบบริบูรณ์เข็มอัปสรอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อนึกถึงความสุขที่ตนได้รับตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา เธอยอมรับว่ามาร์โคปฏิบัติต่อเธอดีทุกอย่าง อย่างไม่น่าเชื่อ...“มีความสุขกับคนที่ตัวเองรัก แล้วก็ใช้เวลาให้คุ้มค่าสิยะ”“แหม.. พองี้พูดดีเชียวนะ”“อิอิ.. คนสมหวังในความรัก ก็มีความสุขสิยะ เธอเองก็เหมือนกัน ใช้เวลาให้คุ้มค่าสิ อย่ามัวแต่คิดมาก ตักตวงความสุขใส่ตัวเยอะๆ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง”“ตั้งแต่มีสามีเป็นตัวเป็นตนก็บ่นเป็นยายแก่เลยนะยะ” เข็มอัปสรเหน็บแนมเพื่อนไม่จริงจังนัก เจติยาหัวเราะเสียงใส“แหงล่ะ เพราะอีกหน่อยก็จะได้บ่นเจ้าตัวเล็กในท้องต่อไง”“ไม่น่าเชื่อว่าอาโทนจะน้ำยาดีขนาดนี้เปิดปุ๊บติดปั๊บ เธอนี่ร้ายจริงๆ”สองสาวพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน สักพักเข็มอัปสรก็วางสายและพบว่ามาร์โคถือถาดอาหารว่างมาวางข้างๆ หญิงสาวปรายตามองใบหน้าหล่อเหลาและเรือนกายแข็งแกร่งที่กกกอดเธอไว้ทั้งคืนแล้วก็หน้าแดง ภาพการร่วมรักอันเร่าร้อนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาก็ฉายชัดในหัว แก้ มสาวที่แดงเพราะแดดก็ยิ่งแดงจัดยิ่งขึ้น“น้ำส้มมาแล้วครับที่รัก..”มาร์โคพูดกับเธอมากขึ้นไม่เฉยชาเหมือนเมื่อก่อน จริงๆ แล้ว
ตอนที่43. ตอนพิเศษ 7.“หรือว่ามาร์คทำมากกว่าจูบอีกล่ะ พ่อจะได้จัดการยิงหัวมันกระจุยเสียตอนนี้เลย”“คุณพ่อ..” เข็มอัปสรเสียงสูงทั้งหน้าเสียเมื่อผู้เป็นพ่อทำท่าขึงขังจริงจังมากขึ้น ทั้งกลัวว่าบิดาจะทำตามที่พูดจริงๆ“ไม่พูดด้วยแล้ว กับทุกคนเลย..” ว่าแล้วก็วิ่งตึงๆ ขึ้นห้องของตนไปโดยไม่สนใจใคร“คงเอาอยู่หมัดนะมาร์ค”“ครับคุณท่าน”“อะไรกัน.. ยังจะมาคุณทงคุณท่านอยู่อีก เรียกคุณพ่อได้แล้ว..”อเล็กซิโอยิ้มให้ลูกเขย มาร์โคก้มลงกราบที่เท้าของทั้งสองอย่างนอบน้อม สองสามีภรรยามองชายหนุ่มวัยสามสิบปีตรงหน้าอย่างชื่นชม มาร์โคเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ในความดูแลของเจสัน พวกเขาเห็นมาร์โคมาตั้งแต่เด็กๆ และรู้ความเป็นมาของเขาดีและนึกเอ็นดูชื่นชมเด็กชายที่มักก้มหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอยามที่พบเจอพวกเขา“ต่อไปนี้มาร์คเป็นลูกชายแม่แล้วนะ ฝากดูแลน้องด้วย หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน พูดคุยกันดีๆ และช่วยแม่กับพ่อดูแลครอบครัวด้วย”“ผมสัญญาว่าจะเป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ และเป็นสามีที่ดีของเมร่าครับ”“พ่ออยากอุ้มหลานแล้วนะเนี่ย”“นี่ก็ไวไปค่ะ” ขนมหวานค้อนสามีอย่างหมั่นไส้“ก็ตอนนี้ไอ้โจมันคุยว่าหนูเจด้าแพ้ท้อง”“น
ตอนที่42. ตอนพิเศษ 6.“ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อเราเป็นผัวเมียกัน”“ฉันแค่พูดไปอย่างนั้นไม่ได้เป็นจริงๆ เสียหน่อย แล้วก็ปล่อยฉันเดียวนี้ด้วย”“คำก็ปล่อยสองคำก็ปล่อย แต่คุณหนูเข้ามาหาผมเอง และพาผมเข้าห้องเองนะ แถมยังจะให้ผมถูหลังให้ด้วย แต่ผมว่าเราทำอย่างอื่นกันก่อนดีกว่าค่อยไปอาบหน้าถูหลัง..”“มะ ไม่นะ อะ อย่า...”เรียวปากนุ่มที่กำลังจะคัดค้านหายไป เมื่อมาร์โคปิดปากเธอด้วยปากของเขา ชายหนุ่มครางอย่างพอใจกับความหวานล้ำเคยได้ลิ้มรสมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้จะนานกว่าสามปีก็ยังคงหวานอย่างที่เฝ้าถวิลหาไม่มีเปลี่ยน กลิ่นกายสาวหอมกรุ่นด้วยน้ำหอมชั้นดีก็ยังคงตรึงใจ และเขาก็ชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายนุ่มละมุนของเข็มอัปสรมากที่สุด เรียกได้ว่าหลงใหลก็ว่าได้ และเขาก็จะไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆ นี้หลุดลอยไป มือใหญ่จัดการดึงรั้งเสื้อคลุมตัวสวยออกไป ร่างงามที่มีเพียงบิกินีชิ้นน้อยปกปิดก็ถึงกับหนาวยะเยือกและร้อนผ่าวสลับกันเข็มอัปสรรู้สึกเหมือนตัวเองลอยละลิ่วไปในอวกาศทั้งยังรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวแปลกๆ บวกกับ ความเสียวซ่านหมุนมวนอยู่ในช่องท้อง เลือดในกายร้อนระอุจนรู้สึกเหมือนว่ามันเดือดพล่านจนร่างกายแทบพุพอง ผิวสาวแดง
ตอนที่41. ตอนพิเศษ 5.“ประชุมเสร็จแล้วก็กลับไปดีกว่า หรือจะหาเหยื่อแถวนี้ที่ไม่ใช่พี่มาร์คก็คงจะได้ เพราะเธอก็ไม่ได้ขี้เหร่ เผลอๆ ได้ผู้ชายดีๆ ติดมือกลับบ้านด้วยนะ ด้วยความหวังดี มุมโน้นเพื่อนของพี่มาร์คมีโสดหลายคน เธอลองไปอ่อยสิ นี่ไม่ได้ดูถูกหรืออะไรนะ พูดจริงๆ สมัยนี้ผู้หญิงเราต้องอ่อยต้องแอ๊วผู้ชายบ้าง เราสวยเลือกได้ชีวิตเราอนาคตเราเลือกได้นะนีน่า”เจติยาบอกอย่างจริงใจนีน่าพยักหน้าเร็วๆ เหมือนยอมรับ และนึกปลงว่าเธอคงไม่มีวาสนาจะได้เป็นเจ้าของชายที่แอบหมายปอง“ขอให้โชคดี ขอให้ได้ขอให้โดนนะจ๊ะ”เจติยาเดินจากไปแล้ว นีน่าก็ถอนใจหนักๆ แล้วหันไปมองกลุ่มนักธุรกิจหนุ่มๆ ที่นั่งจิบไวน์กันอยู่อย่างครุ่นคิด“เอาวะ ยายเจด้าก็พูดถูก สมัยนี้ถ้าไม่อ่อยก็ไม่ได้ผัวกับเขาเสียทีหรอก อย่างน้อยๆ เพื่อนคุณมาร์คก็ไม่ขี้เหร่และรวยด้วย”นีน่าบอกตัวเองแล้วลุกขึ้นตรวจตราความเรียบร้อยสวยงามของตนก่อนจะเดินไปยังกลุ่มชายหนุ่มเหล่านั้นด้วยความหวัง...ด้วยความที่อารมณ์ยังคุกรุ่นอยู่และยังไมได้เจอหน้าเพื่อนรักที่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ ทำให้เข็มอัปสรคิดแผนเอาคืนมาร์โคกับนีน่าเพราะคิดว่าชายหนุ่มคงจะชอบนีน่า เพราะเห็นท
ตอนที่40. ตอนพิเศษ4.“หนูเมร่าเข้าใจ หนูเมร่าขอโทษค่ะ”“หนูเมร่าต้องไปขอโทษคุณพ่อกับพี่มาร์ค”“แต่หนูแม่ร่าไม่ได้เป็นคนทำนะคะ” หญิงสาวทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ขนมหวานจึงลูบแก้มนวลของลูกสาวเบาๆ“แม่รู้จ้ะ แต่ความผิดพลาดนั้นก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ถึงลูกจะไม่ได้ทำ แต่ความผิดก็ยังคงมีและเกิดขึ้นแล้วนั่นคือทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง ทำให้งานพัง และทำให้คุณพ่อโกรธ” ขนมหวานอธิบายเหตุผลให้ลูกสาวของตนฟังอย่างใจเย็น“หนูเมร่าเรียนจบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่ง ดังนั้นการจะพูดจะคิดจะทำอะไร ต้องตั้งสติดีๆ อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล อย่าเป็นเหยื่อให้ใครมาหลอกล่อให้เราหลงกล ตกไปในเกมของเขาได้ เมื่อเราเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเราก็จะถูกควบคุม..”เข็มอัปสรเห็นด้วยกับมารดาทุกประการ เพราะเธอเองที่ขาดสติ จนเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เธอผิดเองจริงๆ นั่นล่ะ ถ้าเธอมีสติ ตั้งหลักดีกว่านี้สักนิด เธอจะไม่ถูกยายนีน่านั่นจูงจมูกหลอกล่อได้ง่ายๆ“หนูเมร่าจะไปขอโทษคุณพ่อค่ะ
ตอนที่39. ตอนพิเศษ 3.“ไม่ได้เข้ากันเลย” เข็มอัปสรทำทีบ่นแต่พอได้ยินชื่ออาหารก็ท้องร้องทันที น้องๆ พากันหัวเราะพี่สาวคนสวย“หัวเราะพี่เหรอ แบบนี้ต้องโดนจั๊กจี๋ๆๆ นี่แน่ะๆๆ”ว่าแล้วเข็มอัปสรก็ไล่จั๊กจี้เอวน้องๆ อย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของทั้งสามดังก้องไปทั้งบ้าน แม้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาจะไม่อยู่แต่ทั้งสามพี่น้องก็รักและดูแลกันอย่างดี อีกทั้งอเล็กซิโอกับขนมหวานก็อุ่นใจเพราะมีบอดีการ์ดฝีมือดีอย่างมาร์โคและลูกน้องของเขาคอยดูแลบ้านระหว่างที่พวกเขาบินฮันนีมูนรอบโลก ที่ไม่รู้ว่าเป็นการฮันนีมูนรอบที่เท่าไหร่แล้วและไม่อาจจะนับได้เช่นกัน...“เราจะต้องหาทางทำให้คุณพ่อไล่นายมาร์คหน้าตายนั่นออกจากบ้านให้ได้เลย ทำไงดีนะ คิดสิคิดๆๆ” เข็มอัปสรเดินไปเดินมาในห้องของตนอย่างครุ่นคิด สามปีมาแล้วที่มาร์โคเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอในฐานะบอดีการ์ดของบิดา และให้เขาคอยตามดูแลเธอยามที่พวกท่านไม่อยู่บ้านหลายๆ วัน และยังให้มาร์โคเป็นเลขาคนสน