로그인ในระหว่างที่นั่งรถลากไป ทั้งสองคนเล่าเรื่องราวให้จิงซิงอี้ฟัง แต่พวกเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากการฆาตกรรม จิงซิงอี้ก็ไม่ได้ถาม เขาสนใจเฉพาะผู้ตายและยาพิษ
ทั้งสองสนใจถุงมือหนังที่จิงซิงอี้ใช้ เด็กชายจึงแนะนำว่า “พวกท่านควรใช้ เพื่อปกป้องตัวเองจากยาพิษ และสารที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ถุงมือผ้าก็ใช้ได้ขอรับ แต่ในกรณีของยาพิษ ควรจะเป็นถุงมือหนัง และถ้าใช้แล้วก็ต้องทิ้งไปเลย ข้าจึงสั่งทำถุงมือหนังและถุงมือผ้าเอาไว้ใช้หลายคู่”
เขายังบ่นด้วยความเสียดายว่า “ถ้าเราสามารถใช้ยางจากไม้ประเภทหนึ่ง มาขึ้นรูปเป็นถุงมือได้ก็จะยิ่งดีกว่านี้มาก แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้ว่าจะเอายางของต้นไม้นี้มาจากไหน”
กงซุนเช่อถามด้วยความสนใจว่า “ยางของต้นอะไรหรือ เผื่อข้าจะหาได้”
จิงซิงอี้จึงตอบว่า “ต้นยางพารา แต่ก็ไม่รู้ว่าที่นี่มีหรือไม่ ท่านตาเป็นคนสอนข้า และยังเคยเห็นตัวอย่างของยางนี้ด้วยขอรับ มันมีความความยืดหยุ่นสูง น้ำซึมเข้าไม่ได้ด้วย ถ้าเราหาได้ จะสามารถเอามาทำประโยชน์ได้หลายอย่างเลยขอรับ”
ชายทั้งส
โม่หยวนหลิงเชิญทุกคนกินอาการกลางวันร่วมกัน นางเดินนำพวกเขาไปที่โต๊ะอาหาร 2 ตัวที่ตั้งข้างบ่อน้ำหน้า ด้านหนึ่งเป็นผู้ใหญ่นั่ง และอีกด้านเป็นของเด็กๆ พวกเขาเชิญกงซุนเช่อนั่งหัวโต๊ะ จั่นเจาอยู่ขวามือ จิงซิงอี้นั่งซ้ายมือ จากนั้นเป็นลั่วเป่ย จี่หลิวนั่ง ซัวซีเว่ย โม่หยวนหลิง ลั่วปิง และเด็กอีก 3 คน โม่หยวนหลิงทำอาหารหลายอย่างมาเสิร์ฟ และยังมีอาหารแปลกตาบางอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็น นางบอกทุกคนว่าเป็นสูตรของจิงซิงอี้ อาหารจานแรกเป็นเกี๊ยวห่อไส้กุ้ง และมีน้ำซุปใส่ถ้วยให้แต่ละคน บางคนจะกินเกี๊ยวจิ้มกับซีอิ๊ว หรือใส่ลงไปในน้ำซุปทำเกี๊ยวน้ำก็ได้จากนั้นนางกับ ซัวซีเว่ย ลั่วปิง และเจี่ยหยวน ช่วยกันเสิร์ฟข้าวกับอาหาร จิงซิงอี้บอกให้เสิร์ฟทุกอย่างให้ครบ แล้วมานั่งกินด้วยกันเลย เขาไม่ชอบพิธีรีตองมาก จานต่อมา คือ กุ้งผัดผงกะหรี่ ที่นี่หาอาหารทะเลยาก จิงซิงอี้จึงใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตเนื้อสดหวานแทน จากนั้นก็เป็นซุปเยื่อไผ่ ต้มไก่ดำใส่สมุนไพรจีน ปลานึ่งซีอิ๊ว และข้าวผัดไข่ใส่ผักต่างๆ ทุกคนก้มห
ในอีก 2-3 อาทิตย์ต่อมา ทั้งจิงซิงอี้และลั่วปิงต่างก็วุ่นวายกับการติดต่อหาคนมาซ่อมแซมตกแต่งบ้าน และสร้างโรงหมอที่หน้าบ้าน เจี่ยหยวนเดินทางกลับบ้านไปบอกโม่หยวนหลิงและซัวซีเว่ย พร้อมกับถือโอกาสกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ด้วยเมื่อรู้ข่าว โม่หยวนหลิงและซัวซีเว่ยจึงรีบเดินทางมาหา และช่วยจิงซิงอี้ทำธุระต่างๆ ซัวซีเว่ยเป็นคนลงมือซ่อมแซมและก่อสร้างโรงผลิตสมุนไพรเอง เขารู้ว่าจิงซิงอี้ต้องการอะไรจิงซิงอี้ไปคุยกับลั่วเป่ย และแจ้งว่าเขาจะย้ายไปอยู่ที่เขตเมืองชั้นนอก และจะเปิดโรงหมอที่นั่นด้วย ลั่วเป่ยเสียดายมาก แต่เขาก็รู้ว่าคนมารักษากับจิงซิงอี้เพิ่ม คนไข้มานั่งรออยู่หน้าร้าน กีดขวางการจราจร และไม่ดีกับคนป่วยที่ต้องมานั่งตากแดดตากลม ที่แถวกลางเมืองก็มีราคาแพงเกินกว่าที่จิงซิงอี้จะซื้อเองได้จิงซิงอี้ขอบคุณลั่วเป่ยที่ช่วยสนับสนุนเขา ทั้งสองยังทำธุรกิจร่วมกันอยู่ตามเดิม ลั่วเป่ยจะยังคงแนะนำคนไข้ให้ไปรักษา และจิงซิงอี้จะสั่งซื้อสมุนไพรจากเขาเป็นหลัก และจะทำยาสมุนไพรของเขาเองมาขายที่ร้านของลั่วเป่ย ในตอนนี้ ยาสมุนไพรของจิงซิงอี้ได้รับความนิยมมากขึ้น มีคนสั่งซื้อเข้ามามากมาย จึงเป็นอีก
นายหน้าเดินข้ามคูน้ำพาพวกเขาเข้าไป เขาไขกุญแจประตูรั้ว ลั่วปิงและเจี่ยหยวนที่ตามมาด้วยมองไปรอบๆ เจี่ยหยวนยังเด็กมีความกลัวนิดๆ แต่เมื่อเห็นจิงซิงอี้ที่เด็กกว่าเขา ไม่มีทีท่าสะทกสะท้านอะไร เขาจึงรวบรวมความกล้าและเดินตามไปติดๆเมื่อเดินผ่านลานหน้าบ้านที่เงียบสงัด ต้นไม้ยืนต้นใบหนาครึ้มปลูกอยู่บริเวณนี้ นายหน้าพาพวกเขาไปหน้าบ้าน และไขกุญแจประตูบ้านเข้าไป บ้านหลังนี้มีสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโถง มีห้องนอน 2 ห้อง ด้านหลังเป็นครัวและห้องน้ำ เมื่อเดินขึ้นไปชั้นบน จะมีห้องนอน 4 ห้อง มีห้องนอนใหญ่อยู่ด้านหน้าบ้าน และห้องนอนเล็กกว่าอีก 2 ห้องอยู่ติดกับหลังบ้าน ด้านหลัง มีบ้านหลังเล็กอีกหนึ่งหลัง สามารถใช้เป็นบ้านรับรองแขกหรือให้คนรับใช้อยู่ได้จิงซิงอี้พึงพอใจมาก ที่นี่มีหลายห้อง เวลาโม่หยวนหลิงกับซัวซีเว่ยมาเยี่ยมจะได้มีห้องของตัวเอง และยังมีลานหน้าบ้านที่ทำให้เขานึกถึงบ้านของตัวเองตอนที่อยู่กับจิงเซียว เขาใช้พื้นที่ตรงนี้ปลูกพืชและสมุนไพรได้บางส่วน และยังมีพื้นที่สวนหลังบ้านให้ปลูกสมุนไพรและทำโรงงานผลิตสมุนไพรได้อีกด้วย จิงซิงอี้กำลังคิดว่า หน้าบ้านสามารถเปิดโรงหมอฉางซาน
อีก 2-3 อาทิตย์ต่อมา ที่โรงหมอฉางซานของจิงซิงอี้ เขากำลังสอนให้เจี่ยหยวนอ่านหนังสือ ตอนนี้เจี่ยหยวนสามารถอ่านประโยคง่ายๆ และเขียนได้บ้างแล้ว จิงซิงอี้ไม่ได้สอนให้เขาพึ่งพาผู้สอนอย่างเดียว แต่ให้เขาฝึกแสวงหาความรู้ด้วยตนเองลั่วปิงยังพาลูกชายของเขาที่มีอายุ 12-13 ปี มาเป็นเพื่อนกับเจี่ยหยวน เด็กทั้งสองมักมาเล่นด้วยกันในยามว่าง จิงซิงอี้ไม่ได้ให้เจี่ยหยวนคอยติดตามเขาตลอดเวลา บางครั้งเขาใช้เวลาอยู่คนเดียวเพื่อทำงาน และบางครั้งก็เดินเล่น ช่วงนี้เขาจะปล่อยให้เจี่ยหยวนออกไปสร้างความสนิทสนมกับเด็กคนอื่นด้วยสำหรับลั่วปิงเอง เขาได้เรียนรู้วิธีการรักษาโรคจากการดูจิงซิงอี้รักษา ถึงแม้ว่าเขาจะรักษาอยู่หลังฉากไม้กั้น แต่ลั่วปิงก็จะได้ยินเขาพูดและซักถามอาการ เพราะจิงซิงอี้จะอธิบายทุกอย่างให้คนไข้เข้าใจ ทำให้คนไข้ประทับใจมาก เมื่อรักษาเสร็จ ถ้าไม่มีคนไข้มาก เขาจะลุกมาดูลั่วปิงจัดยาตามใบสั่ง และอธิบายให้คนไข้ฟังอีกครั้งลั่วปิงรู้สึกว่าการมาช่วยจิงซิงอี้ที่นี่ ทำให้เขาได้ความรู้มากกว่าที่เขาเรียนรู้จากการทำงานที่ตระกูลลั่ว ถึงแม้ว่าเขาจะมีสถานะสูงกว่าคนงานทั่วไป เพ
ชายที่อยู่หลังประตูนึกออกทันที เขาเป็นพ่อค้าที่ร้านนี้เอง เขาจึงรู้ดีว่าใครเป็นใครที่นี่ และชื่อเสียงของจิงซิงอี้ในการเป็นหมออายุน้อยก็แพร่หลายไปทั่วจิงซิงอี้พูดขึ้นมาว่า “เพื่อนของท่านเสียเลือดมาก และอาจจะช้ำในด้วย ท่านรีบพาเขาไปนอนบนเตียง ข้าจะรักษาให้เบื้องต้นก่อน”พวกเขาไม่มีทางเลือก จึงพาชายที่บาดเจ็บไปนอนบนเตียงหลังร้าน จากนั้นเจ้าของร้านก็เดินไปปิดร้านทันทีจิงซิงอี้ตรวจชีพจรของคนเจ็บและสำรวจบาดแผล จากนั้น เขาก็สอบถามอาการ และตรวจที่ช่องท้องของเขา โชคดีที่อวัยวะภายในไม่เป็นอะไร จิงซิงอี้จึงเริ่มต้นรักษาด้วยการฝังเข็มห้ามเลือด เขาบอกให้เจ้าของร้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ อย่างไม่วางใจ ให้ไปต้มน้ำ และเตรียมผ้าสะอาดมาด้วยเมื่อได้มาทั้งหมดแล้ว เขาจึงเริ่มทำความสะอาดบาดแผล และสั่งให้เจ้าของร้านหาสมุนไพรตามที่เขาบอกมา โชคดีที่มีอยู่ในร้านแล้ว เขาโรยยาลงไปบนแผลและพันผ้า จากนั้นจึงสั่งให้ต้มยาห้ามเลือดและบำรุงชี่กับเลือดให้ชายที่บาดเจ็บกินเจ้าของร้านสังเกตเห็นความคล่องแคล่วในการรักษาของจิงซิงอี้และอาการของเพื่อนก็ดีขึ้นจริง ตอนนี้คนเจ็บนอนหลับ
จิงซิงอี้กับเจี่ยหยวนกลับถึงบ้านในเวลาค่ำแล้ว เขากินข้าวเย็น และเล่าให้โม่หยวนหลิงและซัวซีเว่ยฟังคร่าวๆ จากนั้นก็เข้าไปในโรงสมุนไพร เขาจุดตะเกียงน้ำมัน นั่งลงที่โต๊ะทำงาน วางตัวอย่างเศษผ้าลงอย่างระมัดระวัง รวมไปถึงตัวอย่างเลือดของคนตายที่เขานำมาด้วย เขากางสมุดจดบันทึกข้อมูลสำคัญที่ได้จากการชันสูตรวันนี้เอาไว้เขาให้เจี่ยหยวนมาคอยช่วยงาน โดยทั้งสองคนสวมถุงมือหนังป้องกันพิษ และเริ่มวิเคราะห์ตัวอย่าง เขาใช้ตาเปล่าสังเกตอย่างพินิจพิเคราะห์ บางครั้งก็ใช้แผ่นควอตซ์ใสเจียระไนแทนแว่นขยาย เขาได้หินนี้มาจากกงซุนเช่อ และบางครั้งจะทดสอบส่วนผสมด้วยน้ำ น้ำมัน และน้ำส้มสายชูเพื่อหาปฏิกิริยา เขานึกถึงเครื่องมือทันสมัยในห้องปฏิบัติการที่มีในโลกอนาคต ตัวเขาในตอนนี้ต้องใช้แค่เครื่องมือแบบโบราณ กับน้ำยาที่ผลิตจากธรรมชาติ แต่เขาก็รู้สึกถึงความท้าทายและต้องการจะเอาชนะข้อจำกัดให้ได้เขาจดบันทึกข้อมูลที่ค้นพบลงในกระดาษ ถึงตอนนี้จะยังได้ไม่ครบ แต่ก็เริ่มมองเห็นส่วนประกอบของยาพิษ ที่สามารถออกฤทธิ์และทำลายเนื้อเยื่อของคนตายได้บ้างแล้ว เขาคิดว่า พรุ่งนี้จะออกไปหาสมุนไพรที่น่าจะออกฤทธิ







![I'll follow Apollo [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)