เธอยกไหล่ ไม่เห็นกลัว “คุณไล่ฉันออกได้ค่ะ แต่ฉันไม่ออกหรอก เรื่องไรจะออก เงินเดือนตั้งแยะ”
ชัชวินอึ้งจนพูดไม่ออก ขณะธนพลพยายามกลั้นเสียงในคอเอาไว้ไม่ให้ขำออกมา
“ให้ตายเหอะ! คุณแม่จ้างใครมาเนี่ย???”
คำพูดของเขา ตอกย้ำให้รู้ว่าเขาจำเหยื่อในสมัยเด็กของเขาไม่ได้จริง ๆ เขาลืมเธอไปแล้ว...เธอควรจะดีใจใช่มั้ย ไม่ใช่รู้สึกน้อยใจแบบนี้
เขาส่ายหน้าดูถูก “คนที่เห็นแก่เงินอย่างคุณ ทำงานนี้ไม่ได้หรอกนะ”
“ท่านจ้างฉันเพราะฉันอดทนเก่งต่างหาก”
“อะไรนะ!” เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย เธอเถียงเขาทุกคำเลย “อดทนเก่งเหรอ?”
“อยากพิสูจน์มั้ยล่ะคะ”
เขาส่งเสียงจิ๊กจั๊กขัดใจ เพราะตัวเขาเองนั่นล่ะ ที่กำลังจะเริ่มหมดความอดทนกับพยาบาลคนใหม่
“จอดรถเลยพล!”
“นี่คุณกลัวฉันขนาดนี้เลยเหรอ”
เขาชะงัก “ว่าไงนะ?”
“ถ้าไม่กลัวก็ลองมาสู้กันสักตั้งสิคะ มาดูกันว่าใครจะแพ้ใครก่อน เอาอย่างนี้มั้ย ถ้าฉันขอลาออกเอง ฉันจะไม่รับเงินค่าจ้างก็ได้ แต่ถ้าฉันสามารถทำงานจนครบหนึ่งเดือนตามสัญญาได้ คุณจะต้องให้ฉันขี่หลังคุณเหมือนในซีรี่ย์เกาหลี”
ชัชวินอึ้งหนักกว่าเดิม ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ แค่ปัญหาสุขภาพจิตสุขภาพกายของตัวเองก็มากพออยู่แล้ว แต่กลับต้องมารับมือกับพยาบาลจอมป่วนเจ้าเล่ห์หิวเงินอีกเหรอ
ชัชวินกัดกรามแน่น จ้องมองเธอตาขวาง แต่เธอไม่กลัวเลยสักนิด กลับแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขาอย่างสนุก
‘เริ่มสนุกแล้วสิ...โอวว ตอนนี้เขาก็ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือของเธอสินะ เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย นอกจากขู่ฟ่อ ๆ เหมือนงูไม่มีพิษ อ๊า..สงสัยสวรรค์อยากให้เธอได้แก้แค้นเขา!’
“คุณชื่ออะไร?” เขาเริ่มสอบสวนเธอ ด้วยอารมณ์ที่เย็นลง แต่ไม่มีความเป็นมิตร
วานิลลาถึงกับยิ้มขำ ขยับใบหน้าเข้าใกล้เขา แล้วกระซิบกระซาบเบา ๆ “ฉันไม่บอกชื่อจริงของฉันหรอกนะ เผื่อว่าคุณจะเล่นงานฉันในอนาคต คุณจะได้หาฉันไม่เจอไงล่ะ”
ชัชวินยิ้มหยาม “ก็ได้...ผมเองก็ไม่อยากจดจำคุณไว้หรอก บางทีไม่จำเป็นต้องจำเลยล่ะ เพราะคุณจะลาออกภายในสามวันนี้แน่นอน”
วานิลลาทำหน้ายักษ์พร้อมยกกำหมัดขึ้นเหมือนจะตั๊นหน้าเขา แต่ยั้งมือไว้
“คิดว่าฉันจะปล่อยให้คุณหลุดมือไปง่าย ๆ เหรอคะคุณชัชวิน ตอนนี้คุณก็เหมือนตัวเงินตัวทองของฉัน เป็นตัวนำโชคเลยล่ะ”
“ว่าไงนะ!” เขาตวาดอย่างกราดเกรี้ยว “นี่คุณหาว่าผมเป็นตัว...ตัว...”
‘ตัวเหี้ย’ ธนพลถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อก ไม่คิดเลยว่าพยาบาลคนใหม่จะกล้าต่อกรกับชัชวินขนาดนี้ เธอไม่กลัวเขาเลยรึไงนะ
“ตัวอะไรคะ? พูดออกมาสิ พูดเลย”
เขากดกรามแน่นแล้วหุบปาก ไม่ยอมพูดคำนั้นออกมา เพราะรู้ว่าถ้าพูด เขาแพ้...
“คุณจะไม่ได้เงินสักบาท คอยดูเหอะ”
เธอยกไหล่ “เตรียมแผ่นหลังแน่น ๆ ของคุณไว้ดีกว่า เพราะน้ำหนักฉันไม่ใช่น้อย ๆ”
“ถ้าถึงตอนนั้นจริง ๆ ผมคงไม่ทำแค่แบกคุณ แต่จะโยนคุณลงถังขยะด้วย”
“โอเคค่ะ งั้นคุณก็ควรให้ความร่วมมือกับฉันเป็นอย่างดี เพี่อที่คุณจะได้โยนฉันลงถังขยะตามที่คุณพูด”
เขาเกือบจะอ้าปากเถียง แต่คิดขึ้นมาได้ว่าหากเขาสามารถโยนเธอลงถังขยะได้จริง ก็ย่อมแสดงว่าตอนนั้น เขากลับมาเดินไปตามปกติแล้ว...
“โอ้ว...” ธนพลอดทึ่งไม่ได้ ที่พยาบาลคนใหม่สามารถกำราบปิศาจได้อยู่หมัดขนาดนี้ สงสัยเขาจะต้องยกให้เธอเป็นซุปเปอร์วูเม่นซะแล้ว
วานิลลาเผลอจ้องมองหน้าชัชวินแล้วยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ‘ไม่คิดเลยว่า...จะได้มองหน้าเขาใกล้ ๆ แบบนี้อีกครั้ง...คอยดูเถอะ ฉันจะมองคุณให้เบื่อไปเลย’
“มองหน้าเหรอ?” เขาทักขึ้น
เธอตกใจหน้าเหวอ เขารู้ได้ไง
“อย่ามองมากนะ เดี๋ยวจะหลงรักผมเข้า บอกไว้ก่อนว่าผมมีคนที่รักอยู่แล้ว”
“ชิ!” จะถูกทิ้งอยู่แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก
เขาหลับตาลง เพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่าเขาต้องการความสงบ และเธอควรหุบปากได้แล้ว...
บทส่งท้ายชัชวินลากเธอเข้าลิฟต์ กุมมือเธอแน่นไม่ยอมปล่อย ทำเธอใจเต้นระส่ำด้วยความตื่นเต้น แม้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ร้อยเปอร์เซ็นก็ตาม“คุณวิน”“ค่อยคุยกันในรถ”“แต่ฉันต้องทำงาน”“ลางานซะ”“เอ๋...” เธอก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นข่าวร้ายหรือข่าวดี แต่มือของเขาอบอุ่นเกินกว่าจะใจแข็งได้เมื่อถึงลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล เขาเปิดประตูรถหรู แล้วยัดร่างเธอเข้าไปในรถ ตรงเบาะข้างคนขับ แล้วตัวเองก็ขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยเหล็ก เคียงข้างกันในรถแบบสองต่อสอง“คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่า...” เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เพราะสงสัยจนอึดอัดไปหมดแล้ว “ว่า...”“คุณคือพยาบาลคนที่สิบสาม...ผมรู้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว”เธออ้าปากหวอ “วันแรก!!”“คิดว่าผมจำคุณไม่ได้เหรอ”เขาขยับตัวเข้าหาเธอจนชิดใกล้ เธอเอนตัวหนีเท่าที่ทำได้ “แล้วทำไม”“ทำไม? อะไร อยากถามอะไร?”“ก็...ทำไมคุณ โอ๊ย ปวดหัว” เธออยากจะอาลวาด อยากจะทึ้งผมตัวเองให้หลุดลุ่ยชะมัด “ในเมื่อคุณรู้ว่าเป็นฉัน แล้วทำไมคุณยัง...จูบ...จูบทำไม”เขาขยับใบหน้าเข้าใกล้อีกนิด จนลมหายใจประสานกัน จนริมฝีปากเกือบชนกันรอมร่อสายตาเจ้าเล่ห์ร้ายมองเธออย่างร้อนแรงปนหวานหื่น เหมือ
เมื่อได้เห็นภาพความสุขของคนคู่แบบเต็มตา หัวใจของเธอก็แตกสลาย รู้สึกร้อนผ่าวในดวงตาจนต้องรีบหลบไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำ“ฮือ...ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนกัน ฉันจะต้องเข้มแข็ง เพื่อคนไข้ของฉัน”เธอบอกตัวเองให้ฮึดสู้แล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังแผนกงานของตัวเองทว่า...ระหว่างทางเดินนั้นเอง เธอเกือบช็อคเมื่อต้องเผชิญหน้ากับชัชวินและอัญชิสาโดยไม่ได้ตั้งใจ...เธอสบตากับชัชวินเสี้ยววินาทีหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายหลบสายตาแล้วเดินผ่านพวกเขาไปเหมือนคนไม่รู้จักกัน ด้วยสีหน้าท่าทางที่พยายามจะเข้มแข็งให้ได้ แต่ใจจะสั่นจนเกินควบคุม‘ถึงเขาจะมองเห็นเป็นปกติ แต่เขาก็จำเธอไม่ได้อยู่แล้ว เพราะงั้น ทำเหมือนไม่รู้จักกันดีที่สุด’เธอรีบสาวเท้าเดินเพื่อให้ถึงห้องทำงานโดยไว แต่ไม่ทันจะก้าวเข้าข้างใน เสียงของเขาดังขึ้นมาจากด้านหลังซะก่อน“คุณ!”เธอตกใจตาเหลือก เขาตามเธอมาทำไม เขาต้องการอะไรจากเธอเหรอ?“เราเคยรู้จักกันรึเปล่า”“เปล่านี่คะ คุณคงจำคนผิด”ตอบคำถามโดยหลบสายตา ทำท่าจะเปิดประตูเข้าห้อง...“นิล!”เธอชะงัก ตาเหลือกถลน หันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยความแปลกประหลาดใจ!!ชัชวินทำ
วันนี้วานิลลาก็เลยตื่นแต่เช้าตรู่ ลุกจากเตียงนอนอย่างเงียบเชียบ เพราะไม่อยากให้เขาตื่น ปล่อยให้เขานอนอย่างมีความสุขใต้ผ้าห่มอุ่นและหลับฝันดีจนถึงมื้อเช้าเลยก็ได้“เฮ่อ...” เธอจ้องใบหน้านิ่งสงบของเขาอย่างนึกเสียดาย ที่จะไม่ได้ตื่นในตอนเช้าแล้วพบเขานอนอยู่ด้วยแบบนี้อีกแล้วแต่เธอก็ดีใจนะ ที่เขากลับมาเดินได้อย่างสง่างามอีกครั้ง โดยมีเธอเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเธอขี่มอเตอร์ไซค์ของลุงมิ่งไปตลาดเช้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักตากอากาศสักเท่าไหร่นักเมื่อซื้อของตามที่ต้องการได้จนครบแล้ว ก็รีบกลับมาที่บ้านพัก เพื่อจะได้เริ่มทำอาหาร แต่ปรากฏว่ารถตู้หายไปจากลานจอดรถหน้าบ้านแล้ว“รถออกไปไหนแต่เช้า”ธนาพลวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากในบ้าน ตรงมาหาเธอที่เพิ่งจอดมอเตอร์ไซค์ “คุณพยาบาลครับ”“อ้าวพล! รถหายไปไหนเหรอ”ธนพลทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาพยายามสงบสติอารมณ์ “คุณวินครับ คุณวินกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วครับ เพิ่งจะออกไปไม่นานนี่เอง”คำตอบของธนพลทำให้เธอทั้งอึ้งและประหลาดใจไปเลย “เขาขับไปเองเหรอ???”“ครับ หลังจากวางโทรศัพท์จากคุณอัญ คุณวินก็ ออกไปเลย อย่างนี้ก็หมายความว่าคุณวินหายจากอาการตาบอดแล้ว
“อืออ คุณวิน...อ่า อืมม...” เธอครางสยิว บิดร่างเปลือยเปลาอย่างสุขสม ลูบคลำดุ้นเนื้อของเขาแล้วสาวรูดไม่หยุด พร้อมกันนั้นก็ก้มเข้าหาแผงอกกว้าง เลียไล้ดูดเคล้าหัวนมของเขาอย่างปรนเปรอเอาใจ“โอววว...ผมชอบคุณมากเลย” เขาสวมกอดเธอไว้แน่น ยกร่างเธอขึ้นแล้วจับดุ้นเนื้อสอดใส่อย่างรุนแรงจนมันมิดด้าม กระแทกกระทุ้งเข้าใส่ร่างสวยไม่หยุด“อ๊า คุณวิน อ๊า...โอ๊วส์” เธออ้าปากหวอ ใบหน้าสวยบิดเบ้อย่างสุขสมปนทรมาน แอ่นอกเข้าหาปากลิ้นแสนสากและว่องไวของเขาอย่างเร่าร้อน“โอววว อา อา...คุณพยาบาล” เขาครางไม่ขาดปาก กระทุ้งใส่ช่องสวาทของเธออย่างหนักหน่วง“คุณวิน...”เขาซบจูบทรวงอกของเธออย่างเว้าวอน กระซิบกระซาบด้วยเสียงแหบพร่า “ผมยังไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เราอยู่ที่นี่กันต่อดีมั้ย”วานิลลายิ้มอย่างเอ็นดู “ถ้าคุณต้องการ...”“ชัวร์ ผมยังอยากบำบัดกับคุณต่อ” ด้วยเซ็กส์และด้วยความเร่าร้อนของเธอ หญิงสาวที่ปลุกร่างผีดิบของเขาให้ลุกขึ้นมาเดินได้อีกครั้งเมื่อขึ้นจากสระน้ำ...เธอพาเขาไปเดินเล่นที่ชายหาด ท่ามกลางแสงสุดท้ายของช่วงวัน“ระวังหน่อยนะคะ ค่อย ๆ นะคะ”“ผมทำได้แล้ว ผมทำได้!” เขาดีใจไม่น้อยที่กลับมาเดินได้เหมือนเดิม แม
“โอวว...” เขาทิ้งร่างเหน็ดเหนื่อยลงสวมกอดกายชุ่มเหงื่อของเธอไว้ แล้วจูบไซ้ซอกคอหอมละมุนอย่างหลงใหล ระบายริมฝีปากอย่างโหยหา“คุณวิน...” ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอกับเขาเพิ่งจะร่วมรักกันอย่างเมามันส์ กระแทกกระทั้นเข้าใส่กันจนน้ำสวาทเนืองนองไปหมด“ผมมีความสุขจัง” เสียงกระซิบแหบพร่าของเขาทำให้ใจที่เต้นระส่ำของเธอสงบลงนิดหน่อย บางทีเธออาจทำถูกก็ได้ ที่ยอมมีเซ็กส์กับเขาเธอดีใจนะ ที่ทำให้เขามีความสุข แม้มันจะเป็นแค่ความสุขของร่างกาย ไม่ใช่ความสุขของใจ แต่ก็ยังดีกว่าการใช้ชีวิตแบบซังกะตายเหมือนสามเดือนที่ผ่านมา“คุณไม่ใช่ซอมบี้นี่นา”เขายิ้มกริ่ม ดวงตาดุดันดูเจ้าเล่ห์สมกับเป็นคนร้ายกาจแล้ว “มันยังใช้งานได้”“ใช้ได้ดีด้วย”“ยอมรับแล้วเหรอ”“คุณทำฉันแทบตาย”“ผมชอบกลิ่นของคุณจัง” เขากระซิบเสียงแหบพร่า ตั้งใจเย้าหยอกหญิงสาว ทำเธออายจนแก้มแดงก่ำ อยากจะมะเหงกเขานัก“พูดอะไรของคุณเนี่ย”“อยากเห็นหน้าจัง” พลางขยับใบหน้าหล่อเหลาเข้าใกล้ใบหน้าของเธอ จนลมหายใจประสานกันเธอยิ้มแทบไม่ออก “ถ้าได้เห็นหน้า คุณไม่ชอบฉันหรอก เพราะงั้น คุณไม่ต้องเห็นหน้าฉันหรอกนะ จินตนาการถึงฉันด้วยใบหน้าของ...ออเดรย์ เฮปเบิร์น ก็แ
“โอ๊ย โอ๊ย อื้อ” ปากของเขาประกบกับร่องรักของเธอ พร้อมกระแทกนิ้วเข้าใส่รูสวาทถี่ยิบ เร่งนิ้วทุกครั้งที่เธอขยับตัวจะถอย “อ๊า...”เธอไม่ได้จะต่อต้านการปรนเปรอของเขาหรอกนะ เพียงแต่มันเสียวจนทนไม่ไหวต่างหาก“อื้อ โอยย อูยย...ซี๊ดส์ อ๊า” เธอครางลั่นก่อนจะบิดร่างอย่างทรมาน ยามถึงจุดสุดยอดแห่งปรารถนา น้ำสวาทแตกกระจายออกมาราวกับฉี่แตก “โอววว”เธอครางอย่างเหน็ดเหนื่อย หอบหายใจถี่ยิบจนหน้าอกกระเพื่อมไหว เนินสวาทกระตุกร่อน เร่าร้อนแผดเผาเข้าไปถึงรูสวาทภายใน“อ่า...” เขาเองก็ครางกระสันราวกับเหน็ดเหนื่อย เมื่อผละริมฝีปากออก เขายื่นฝ่ามือขึ้นลูบไล้ร่างกายเปลือยเปล่านวลเนียนอย่างโหยหาเธอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาหวานฉ่ำ แรงปรารถนาฉุดให้เธอลุกขึ้นนั่งแล้วก้มลงใช้ปากลิ้นกับแท่งเนื้อแข็งทื่อของเขา ด้วยความเต็มใจ“อ่า...” เขาทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา ดื่มด่ำกับการปรนเปรอของหญิงสาวด้วยความกระสัน กายแกร่งเกร็งจนเส้นเอ็นผุดไปทั้งร่าง เสียวซ่านในทุกอณูเนื้อยามโดนตวัดเลียไปทั่วทั้งบ้องเนื้อ“โอววว...” เขาครางแผ่วเบา หายใจแรงจนตัวหอบโยน ดุ้นเนื้อขนาดยาวราวแปดนิ้ว แข็งคัดชูชันตั้งแต่หัวจดปลาย เปลือกหนังสีน้ำผึ้งเ