로그인ตลอดทางที่อยู่บนรถ กันติชาพรั่งพรูความอัดอั้นตันใจ บวกกับความรู้สึกผิดหวังที่เพิ่มพูนขึ้นมาตลอดช่วงเวลาที่เธอต้องนั่งรอเก้ออยู่คนเดียว ด้านภัททิราเห็นเพื่อนสติหลุดด้วยความเมามายก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงได้แต่นั่งรับฟังอยู่หลังพวงมาลัย และเออออตามน้ำไปก่อน
เมื่อถึงคอนโดหรูของกันติชา ภัททิราก็พาร่างของเพื่อนรักที่ทรงตัวแทบไม่อยู่ขึ้นไปบนห้อง ก่อนทิ้งกันติชาลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น และเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็น หวังให้เพื่อนรักได้ดื่มให้สดชื่น ทว่าพอเดินกลับมาอีกทีกันติชาก็หลับปุ๋ยไปเรียบร้อย
“โอ๊ย งั้นก็นอนตรงนี้ไปละกัน”
ภัททิราเดินเข้าห้องนอนไปนำผ้านวมมาห่มให้เพื่อนสาวผู้ช้ำรัก ก่อนเดินกลับเข้าไปนอนในห้องนอน
เช้าวันใหม่ กันติชาตื่นขึ้นมาด้วยอาการหนักอึ้งที่ศีรษะ ฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างยากเย็น พอโงหัวขึ้นมาได้ก็เห็นภัททิรากำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงเคาร์เตอร์ไอส์แลนด์
“ไง” ภัททิรากล่าวทักทายสั้น ๆ
“แกมาทำไร”
“นี่แกจำไม่ได้เหรอว่าเมื่อคืน ฉันซิ่งไปรับแกที่ผับ”
กันติชาเดินโซเซเข้าไปนั่งตรงข้ามภัททิรา พลางหลับตานึกถึงเหตุการ์เมื่อคืน ความทรงจำมากมายเริ่มผุดเข้ามาเป็นช่วง ๆ จนเธอปะติดปะต่อกันได้
“เออ จำได้แล้ว แฟแก้วดิ”
ภัททิราโคลงศีรษะเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นไปหยิบแก้วจากชั้นวางด้านหลัง เทกาแฟดำจากกาต้มลงไป และหันมายื่นให้คนเมาค้าง
“แล้วเอาไงต่อ”
“ยังคิดไม่ออกเลย” กันติชาว่าพลางยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
“ตัดใจเลยไหมล่ะ”
“พูดเหมือนง่าย แกรู้ไหมแพท ฉันชอบเขาตั้งแต่แรกเจอ ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนรักพ่อฉันก็ยิ่งชอบเขามากขึ้น แต่ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปแบบนี้วะ”
“ก็เพราะเขาเป็นเพื่อนพ่อแกไง ถ้าเขาต่อกับแกมันก็เหมือนเขาทรยศความไว้ใจที่พ่อแกมีให้หรือเปล่า ฉันคิดงั้นนะ”
“โอ๊ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย”
“แกก็ให้เวลาเขาหน่อยสิกี้ อย่าเพิ่งไปรุกมากนัก ตอนนี้มันยังสด ๆ ใหม่ ๆ อยู่ ให้เวลาเขาได้ตั้งตัวก่อน ช่วงนี้ก็ทำตัวเป็นหลานที่น่ารักของอาเชนทร์ไปก่อน โอเค๊”
กันติชาหน้านิ่วคิดตามคำกล่าวของเพื่อนรักก่อนถอนหายใจยาวออกมา
“อืม ฉันไปอาบน้ำก่อนนะเดี๋ยวไปทำงานสายจะกลายเป็นหลานที่ไม่น่ารัก” ว่าจบหญิงสาวก็ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ภัททิราจึงหันมาดื่มด่ำกับกาแฟยามเช้าของเธอต่อด้วยความสบายใจ
กันติชาเข้าบริษัทด้วยอาการที่ยังไม่เป็นปกติ ถึงแม้ว่าจะซัดยาแก้ปวดเข้าไปแล้วก่อนออกจากคอนโด ทว่าอาการปวดศีรษะนั้นเพียงแค่บรรเทาลงไปบางส่วน หนำซ้ำตอนอยู่บนรถไฟฟ้าเธอได้กลิ่นน้ำหอมฉุนจนขึ้นสมอง ทำให้หญิงสาวเกิดอาการพะอืดพะอมมาจนถึงตอนนี้
“พี่อลิซคะมียาดมไหมคะ”
“อุ๊ยตายแล้วน้องกี้ทำไมหน้าซีดเป็นไก่ต้มแบบนั้นคะ อ่ะนี่ค่ะยาดม” อลิษาอุทานด้วยความตกใจก่อนเปิดลิ้นชักหยิบยาดมสมุนไพรขวดพลาสติกสีเขียวขึ้นมาส่งให้ผู้ช่วยคนสวย
“ขอบคุณค่ะ”
“ไหวไหมคะ ไปห้องพยาบาลไหมพี่พาไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ กี้ไหว”
“แน่ใจนะ ถ้าไม่ไหวต้องรีบบอกพี่เลยนะคะ”
“ค่ะพี่อลิซ”
กันติชายกยาดมขึ้นมาจ่อที่ปลายจมูก สูดกลิ่นหอมอะโรมาจากสมุนไพรเข้าไปก็พอจะช่วยบรรเทาความวิงเวียนไปได้บ้าง
“พี่อลิซคะ กี้ขอไปชงอะไรร้อน ๆ ดื่มหน่อยนะคะ”
“จ้า ถ้าเปลี่ยนใจอยากไปหาหมอ หรืออยากลากลับไปพักผ่อนบอกพี่ได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ค่ะ”
กันติชาฝืนยิ้มให้กับพี่เลขาฯ ก่อนจะพาร่างกายอ่อนระโหยโรยแรงเดินไปห้องชากาแฟ อลิษามองตามแผ่นหลังบอบบางด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ต้องหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นตรงทางเดิน
“สวัสดีค่ะคุณเชนทร์ มิสเตอร์เฉินขอเลื่อนนัดเป็นบ่ายโมงตรงนะคะ”
“ครับ ผมขอกาแฟด้วยครับ”
“ได้ค่ะ” อลิษารับคำสั่งพร้อมรีบลุกออกไปยังห้องชงกาแฟ
คเชนทร์หันไปมองโต๊ะที่ว่างเปล่าของผู้ช่วยเลขาคนใหม่ด้วยความสงสัย ก่อนหันไปจับลูกบิดประตูห้องทำงาน
“ตายแล้วน้องกี้!!!”
เสียงร้องหวีดแหลมของอลิษา ทำให้คเชนทร์รีบพุ่งไปยังต้นเสียงอย่างรวดเร็ว และภาพที่ชายหนุ่มเห็น คือ อลิษากำลังช่วยประคองกันติชาที่กำลังนั่งอ่อนแรงอยู่บนพื้นขึ้นอย่างยากลำบาก
ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นจึงรีบเข้าไปช่วย“เกิดอะไรขึ้น”
“น้องกี้เป็นลมค่ะ”
“ผมเองครับ”
“ค่ะ”
อลิษาถอยออกมาเพื่อหลีกทางให้ประธานหนุ่ม เขาย่อตัวลงช้อนร่างบางลอยขึ้นจากพื้นได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะอุ้มเธอออกจากห้องชงกาแฟ ตรงไปยังลิฟต์โดยสารที่อยู่สุดทางเดิน
“ไปไหนคะ” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา
“ไปห้องพยาบาล”
ท่านประธานหนุ่มกลับมาทำงานที่บริษัทได้เกือบอาทิตย์ โดยไร้เงาผู้ช่วยเลขานุการสาวสวย คเชนทร์ไม่ได้รับการติดต่อจากกันติชาเลย พอโทรไปถามกฤษณ์ดนัยก็ได้คำตอบแบบเดิมซ้ำ ๆ ว่ากันติชาใกล้กลับมาแล้ว จนแล้วจนรอดก็ผ่านไปเกือบสัปดาห์เต็ม หากไม่ได้งานช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ ชายหนุ่มคงได้อกแตกตายเสียก่อนในแต่ละวัน คเชนทร์ลองกดโทรหากันติชาหลายต่อหลายครั้ง หวังว่าจะโทรติดและเธอรับสาย ทว่าปลายสายนั้นกลับปิดเครื่อง แม้แต่เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ชายหนุ่มก็ยังอุตส่าห์กดเข้าไปดูวันละหลายรอบ ราวกับจะรอให้เกิดปาฏิหาริย์อะไรขึ้นสักอย่างวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เขายังคงทำเช่นนั้น หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฝ่ามือหนาก็หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูขึ้นมาด้วยความเคยชิน ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งตัวตรง เลื่อนดูรูปภาพในอินสตาแกรมของแฟนสาวที่เพิ่งจะอัปเดตเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ในภาพนั้นเธออยู่ในชุดบิกินี่สีแดงเพลิงกำลังนอนอาบแดดอยู่ริมสระว่ายน้ำ องค์ประกอบภายในภาพมีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาคือท่าจอดเรือยอชต์ที่อยู่ไกลออกไป มีเรือยอชต์ที่ดูคุ้นตาจอดลอยลำอยู่เหนือผิวน้ำนอกจากนี้ยังมีแคปชั่น ‘พา
กันติชากลับมาอยู่บ้านได้สามวัน คเชนทร์ก็ตามมาเชียงใหม่ตั้งแต่วันแรก ทว่าต้องรออยู่หน้าบ้านทุกวัน เนื่องจากกฤษณ์ดนัยให้ลูกน้องที่เป็นชายฉกรรจ์ร่วมสิบคนเฝ้ารอบบ้าน ทั้งสองทำได้เพียงมองหน้ากันผ่านหน้าต่างห้องนอนของหญิงสาว ไม่สามารถพูดคุยกันได้ เพราะผู้เป็นพ่อยืดโทรศัพท์มือถือของลูกสาวเอาไว้ แต่เธอก็ยังมีอิสระอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ถูกกักขังอยู่แต่ในห้องนอน หญิงสาวจึงขอร้องป้าอิ่มให้ช่วยไปดูแลถามไถ่คนรักกันติชาลงมือเข้าครัวทำอาหารคาวหวาน ให้เด็กในบ้านนำไปส่งให้คเชนทร์ที่นั่งปักหลักทำงานอยู่ในศาลานั่งเล่นหน้าบ้านไม่ยอมไปไหน ตกกลางคืนก็อาศัยนอนหลับพักผ่อนภายในรถเอสยูวีที่เช่ามาจากสนามบินกฤษณ์ดนัยเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างภายในบ้านตลอดจนศาลาหน้าบ้านผ่านกล้องวงจรปิด บางครั้งลูกสาวสุดที่รักก็ทำกับข้าวไปร้องไห้ไป เช็ดน้ำตาป้อย ๆ อยู่หน้าเตา ทำเอาหัวใจคนเป็นพ่อเจ็บปวดไม่น้อยเหตุการณ์ทุกอย่างก็ดำเนินไปเช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง จนเวลาล่วงเลยครบสัปดาห์เต็มในช่วงบ่ายที่กันติชาคิดว่าผู้เป็นพ่อยังทำงานอยู่ในไร่ส้ม หญิงสาวแอบย่องลงมาเพื่อจะออกไปหาคเชนทร์ และต้องผ่านห้องทำงานของกฤษณ์ดนัย เธอก็ได้ยินบทสนท
ทางด้านกฤษณ์ดนัยผู้รักลูกสาวดั่งแก้วตาดวงใจ ยิ่งกันติชาเกริ่นว่ามีคนที่คบหาดูใจอยู่อยากนัดให้มาเจอกันอย่างเป็นทางการก็รีบเคลียร์งานที่ไร่เปี่ยมรักให้เสร็จสิ้น และรีบเดินทางมากรุงเทพฯทันทีด้วยงานที่เสร็จเร็วก่อนกำหนด ทำให้กฤษณ์ดนัยเดินทางมาถึงคอนโดของลูกสาวก่อนเวลานัดหลายชั่วโมงกฤษณ์ดนัยขับรถซีดานคันงามที่เช่ามาจากสนามบินเข้ามาจอดบนลานจอดรถหน้าคอนโด ขณะที่กฤษณ์ดนัยกำลังลงจากรถ ก็มีรถแอสตันมาร์ตินสีดำเงาวับขับผ่านไป ความสวยหรูของซูเปอร์คาร์คันแพงระยับดึงดูดสายตาของเขาให้มองตามไปจนกระทั่งรถคันดังกล่าวจอดห่างออกไปไม่ไกลนักสารถีหนุ่มที่ก้าวลงจากรถเป็นคนที่กฤษณ์ดนัยคุ้นเคยเป็นอย่างดีจนเกือบจะอ้าปากเรียก ทว่าหญิงสาวที่ก้าวตามลงมาจากที่นั่งอีกฝั่งข้างคนขับทำให้กฤษณ์ดนัยชะงักไปยิ่งฝ่ายชายเดินเข้ามาโอบเอวบางเข้าแนบชิด ก้มลงหอมแก้มฝ่ายหญิง ก่อนเดินโอบกอดคลอเคลียกันไปยังทางขึ้นคอนโด ทำเอากฤษณ์ดนัยมองตาค้าง ในหัวสมองขาวโพลน พยายามตั้งสติปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด กว่าจะตั้งสติได้ว่าเพื่อนรุ่นน้องคนสนิท คือคนที่ลูกสาวสุดที่รักกำลังคบหาอยู่ ทั้งสองคนก็เดินหายลับสายตาไปแล้วเมื่อสติสัมปชัญญะก
ร่างอรชรในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มยาวกรอมเท้า เปิดเปลือยแผ่นหลังขาวเนียนจรดบั้นเอว ทว่าดูไม่โป๊เท่าไรนัก เพราะได้ทรงผมดัดลอนรวบครึ่งศีรษะแผ่สยายจนถึงกลางหลัง พอได้เห็นผิวสวยวับ ๆ แวม ๆเธอหมุนตัวสำรวจความเรียบร้อยของตนเองอยู่ที่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ดวงหน้าสวยถูกแต่งแต้มอย่างประณีตด้วยเครื่องสำอางราคาแพงยิ่งทำให้กันติชาสวยสง่ายิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวร่างสูงเดินเข้ามาทางด้านหลัง ก่อนหยุดยืนเคียงข้าง คเชนทร์สวมชุดสูทแบรนด์หรูสีน้ำเงินเข้มเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มมองภาพสะท้อนของคนรักในกระจกด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเปิดเผย“อาเชนทร์แน่ใจนะคะว่าจะควงกี้เปิดตัว”“ไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อนเลยครับ” ว่าจบเขาโน้มตัวลงจูบข้างขมับหญิงสาวหนึ่งทีตั้งแต่วันที่คเชนทร์ประกาศต่อหน้านุชนภางค์ว่ากันติชาคือคนรัก ชายหนุ่มก็ไม่คิดปกปิดความสัมพันธ์นี้อีกต่อไป เขาไปไหนมาไหนกับกันติชาอย่างเปิดเผย พนักงานหลายคนในบริษัทเริ่มสังเกตเห็น จนมีการจับกลุ่มซุบซิบกันบ้างเป็นธรรมดา หากแต่ไม่สร้างความเสื่อมเสียให้กับกันติชา เขาก็ไม่คิดเข้าไปก้าวก่ายทางด้านเศรษฐาลูกค้าคนสำคัญ เมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักมาก่อเรื่
หลังสิ้นสุดกิจกรรมเอาท์ติ้งของบริษัทกันติชาและอลิษาก็กลับมาหัวหมุนยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากมีโพรเจคใหญ่ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ทำให้สองสาวต้องจัดการงานกองโตของคเชนทร์กันมือเป็นระวิงแต่ทว่าแม้งานจะยุ่งเพียงใด คเชนทร์ก็ยังคงหมั่นเติมความหวานให้คนรักไม่เคยขาด บางวันก็ส่งดอกไม้มาให้กำลังใจทั้งที่เจอหน้ากันทุกวัน ทำให้บนโต๊ะของผู้ช่วยสาวมีดอกไม้ประดับส่งกลิ่นหอมไม่เคยขาด เมื่อดอกไม้เริ่มทำท่าจะเหี่ยวเฉาเมสเซนเจอร์ก็นำดอกไม้ช่อใหม่มาส่งหากวันใดเลิกงานเร็ว คเชนทร์ก็จะพาหญิงสาวไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนบ้าง ดูหนังฟังเพลงบ้างสิ่งเล็กน้อยที่คเชนทร์ทำให้นั้น กลับสร้างความสุขให้เธอได้อย่างมากมาย แม้จะทำงานหนักแต่กลับหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งในตอนนี้ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะไป ๆ มา ๆ ระหว่างคอนโดของกันติชาและบ้านของคเชนทร์โดยจะย้ายเข้าบ้านเป็นการถาวรก็ต่อเมื่อกันติชาบอกกฤษณ์ดนัยผู้เป็นบิดาแล้วเท่านั้น ซึ่งทั้งคู่ก็มีความเห็นตรงกันคเชนทร์เสนอว่าหลังจากโพรเจคสำคัญผ่านพ้นไป ชายหนุ่มจะเดินทางไปเชียงใหม่พร้อมเธอ เพื่อพูดคุยกับกฤษณ์ดนัยอย่างเป็นทางการยิ่งใกล้งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เข้า
กว่าคเชนทร์จะพากันติชากลับขึ้นฝั่งก็ปาเข้าไปเช้ามืด หลังจากตื่นขึ้นมากลางดึก ชายหนุ่มพาเธอไปอาบน้ำ ก็ยังไม่วายจัดหนักเธอต่ออีกหลายยกกันติชาต้องแอบย่องเข้าห้องพัก เพราะเกรงว่าอลิษาจะตื่น ค่อย ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าท่ามกลางความมืดอย่างระมัดระวัง ก่อนล้มตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงกว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ในช่วงสายของอีกวัน โดยวันนี้เธอได้ตกลงกับแฟนหนุ่มสุดเอาแต่ใจว่าต้องอยู่ห่างกันสักพัก จนกว่าจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ มิเช่นนั้นทั้งคู่อาจถูกจับได้ถ้าหายไปด้วยกันอีกโชคดีที่อลิษาไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร เพราะพี่เลขานุการคนสนิทกว่าจะกลับจากปาร์ตี้เมื่อคืนก็ดึกดื่นค่ำคืนไปแล้ว จึงไม่ได้สังเกตว่ากันติชากลับมาเกือบสว่างหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยสองสาวจึงชวนกันออกไปกินข้าวเช้า ก่อนจะลงไปทำกิจกรรมกันที่ชายหาดอีกครั้ง“น้องกี้ ไปโดนตัวอะไรกัดมาหรือเปล่าคะ ที่คอเป็นรอยแดง ๆ”กันติชาเดินออกมาในชุดแม็กซี่เดรสยาวกรอมเท้า เปิดเปลือยแผ่นหลังขาวผ่อง ก็โดนอลิษาทักเข้า หญิงสาวจึงเดินไปส่องกระจกเอียงคอดูก็เห็นจ้ำแดงสองจุดบริเวณซอกคอระหงค่อนไปทางด้านหลังทำให้เธอไม่ทันได้สังเกต“น้องกี้ ข้างหลั







