Share

บทที่ 7

Author: มู่เหลียนชิง
ทั่วทั้งโรงพยาบาลวุ่นวายเพราะฟู่สุยสุย แต่หนิงหนานเสว่กลับรู้สึกสมองว่างเปล่า ราวกับเหลือเพียงแค่เสียงฝีเท้าและเสียงร้องเรียกเท่านั้น เธอไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไรเลย

“คุณหนิง คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”

หมอโบกมือไปมาตรงหน้าหนิงหนานเสว่

หนิงหนานเสว่ถึงตื่นจากภวังค์ เมื่อเธอเห็นหมอ ทันใดนั้น ราวกับว่าสติทั้งหมดได้หวนกลับคืนมา “ลูกสาวฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”

“ตอนนี้อาการทรงตัวแล้วครับ แต่อาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้อาการแย่มาก ต้องเข้าห้อง ICU ก่อนครับ รอให้สัญญาณชีพคงที่แล้วค่อยพิจารณาว่าจะผ่าตัดได้ไหม”

“คุณหนิง อาการของเด็กคนนี้ตอนนี้ ถ้าผ่าตัด...”

หมอไม่ได้พูดต่อ แต่หนิงหนานเสว่รู้ดีว่าการผ่าตัดไม่มีความหมายมากนัก มันเป็นเพียงการทรมานลูกเปล่า ๆ เท่านั้น

แต่เธอตัดใจไม่ได้ ตัดใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้ลูกสาวสุดที่รักจากเธอไปแบบนี้ เธอรับผลลัพธ์แบบนี้ไม่ได้ แม้ว่าจะมีความหวังเพียงริบหรี่ เธอก็ไม่อยากยอมแพ้

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะหมอ”

ทันทีที่หันหลังกลับ น้ำตาก็ไหลรินออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว หนิงหนานเสว่รีบเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตา แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอทรุดตัวลงนั่งคุดคู้กอดตัวเอง ในเวลานี้ เธอเข้าใจจริง ๆ แล้วว่าความสิ้นหวังคืออะไร ความเจ็บปวดที่บาดลึกถึงหัวใจคืออะไร

หนิงหนานเสว่สวมชุดปลอดเชื้อหนาเตอะ นั่งอยู่ข้าง ๆ ลูกสาว ใบหน้าเล็ก ๆ ของสุยสุยซีดเผือด ไร้ชีวิตชีวา แม้ว่าทั่วทั้งตัวจะเต็มไปด้วยสายจากเครื่องมือต่าง ๆ แต่หนิงหนานเสว่ก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าชีวิตของสุยสุยกำลังจะจากไป

“สุยสุย แม่ขอโทษนะ แม่ไม่ดีเอง ถ้าแม่ไม่รักเขาจะดีมากแค่ไหน?”

หนิงหนานเสว่เริ่มย้อนคิดถึงอดีต หัวใจเต็มไปด้วยความเสียใจ ถ้าเธอไม่ได้รักฟู่เฉิน สุยสุยจะเกิดมาภายใต้ความคาดหวังของพ่อไหม?

เด็กที่น่ารักขนาดนี้ จะต้องได้รับความรักจากพ่ออย่างดีแน่นอน

เป็นเพราะเธอรักคนผิด ทำให้สุยสุยต้องทนทุกข์ทรมานตลอดหลายปีที่น้อยนิดในโลกใบนี้

หนิงหนานเสว่จับมือเล็ก ๆ ของสุยสุยเบา ๆ รู้สึกว่าเด็กคนนี้อาจจะจากไปได้ทุกเมื่อ หัวใจของเธอปั่นป่วนอย่างรุนแรง เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่

และในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็สั่นขึ้น เธอเหลือบมองแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้อง ICU อย่างอาลัยอาวรณ์

เมื่อเห็นผู้ชายที่สวมชุดสูทและรองเท้าหนังที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของหนิงหนานเสว่ก็หมองหม่นเล็กน้อย เธอรู้จักคน ๆ นี้ เขาเป็นทนายความที่เก่งที่สุดของบริษัทของฟู่เฉิน

“ทนายฟาง มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

หนิงหนานเสว่พยายามทำให้เสียงของเธอไม่ดูสิ้นหวังมากนัก

“ท่านประธานฟู่ให้ผมมาคุยเรื่องเงื่อนไขการหย่าครับ ข้อตกลงไร้สาระที่คุณเคยเสนอไปนั้นไม่ถูกกฎหมาย จึงใช้ไม่ได้ ถึงเวลาที่จะยกเลิกมันแล้วครับ”

ทนายฟางทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่ หยิบข้อตกลงการหย่าที่เขาเตรียมไว้แล้วออกมาทันที

“ท่านประธานฟู่หมายความว่า เงื่อนไขการหย่ายังสามารถพูดคุยกันต่อได้ เพียงหวังว่าคุณหนิงจะไม่ดื้อดึงไม่ยอมรับผิด”

ดื้อดึงไม่ยอมรับผิด?

เมื่อหนิงหนานเสว่ได้ยินคำนั้นก็หัวเราะออกมาทันที ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็เพราะเธอดื้อดึงไม่ยอมรับผิดไม่ใช่เหรอ?

เพราะถ้าไม่ดื้อดึงถึงเพียงนี้ เรื่องก็คงไม่กลายเป็นแบบนี้ การที่ตกหลุมรักฟู่เฉิน บางทีอาจจะเป็นความผิดพลาดตั้งแต่แรก เป็นหายนะตั้งแต่แรก

“กลับไปบอกเขาว่า นอกจากเรื่องนี้ ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น”

“ถ้าเขาทำไม่ได้ เราก็จะยืดเวลาออกไปเรื่อย ๆ ฉันไม่มีทางเห็นด้วยเด็ดขาด”

หนิงหนานเสว่เก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ มองทนายความคนนั้นอย่างเย็นชา ด้วยท่าทางมุ่งมั่นมาก

“คุณหนิง การทำแบบนี้ไม่มีความหมายอะไรเลยนะครับ จากมุมมองคนที่เป็นมืออาชีพมาก เงื่อนไขการหย่าที่ท่านประธานฟู่ให้คุณนั้นถือว่าดีมากแล้ว การแต่งงานที่ไม่มีความรักไม่มีความหมายเลยครับ”

ทนายฟางขมวดคิ้ว พยายามเตือนด้วยความหวังดี

ถูกต้อง ในสายตาของทุกคน หนิงหนานเสว่ควรรับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นเอง ฟู่เฉินไม่รักเธอ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี

แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจแล้วว่าฟู่เฉินจะรักเธอหรือไม่ เธอแค่อยากให้ฟู่เฉินมอบความรักของพ่อให้สุยสุยสักเล็กน้อย ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต แม้จะเป็นการแสดงเธอก็ยอม

แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ คำขอเพียงเล็กน้อยนี้อาจจะไม่ได้รับการตอบสนองเลย

“ท่าทีของฉันชัดเจนแล้ว”

“ขอโทษค่ะ ฉันยุ่งอยู่ ขอตัวก่อนค่ะ”

หนิงหนานเสว่ทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้แล้วหันหลังกลับเข้าไปในห้อง ICU

ตอนนี้สุยสุยกำลังต่อสู้กับความเป็นความตาย แต่พ่อของเธอกลับอยากหย่าให้เร็วที่สุดเพื่ออิสรภาพ ในใจของเขามีเพียงสวีจือหรูเท่านั้น เธอและลูกรวมกันยังเทียบกับสวีจือหรูของเขาไม่ได้

การรับรู้เช่นนี้ยิ่งทำให้หนิงหนานเสว่เจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีด เธอเฝ้ามองลูกของเธอ น้ำตาไหลรินเป็นหยด ๆ

อีกด้าน ทนายฟางรีบรายงานสถานการณ์จริงให้ฟู่เฉินทราบทันที

“รู้อยู่แล้วว่าเธอจะไม่อยู่นิ่ง ๆ หรอก”

ฟู่เฉินหัวเราะเยาะ สายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจไม่อาจเก็บซ่อนได้

ในขณะนั้นเอง เลขาจางก็เดินเข้ามา “ท่านประธานฟู่ หนิงไห่เทาปรากฏตัวอีกแล้วครับ สงสัยจะมาขอเงินจากคุณหนิงอีก”

“เงิน? ฝันไปเถอะ!”

“รีบสั่งระงับบัตรธนาคารทั้งหมดของหนิงหนานเสว่ทันที ฉันอยากจะดูว่าเธอไม่มีเงินแล้วจะมาวุ่นวายกับฉันยังไง”

สีหน้าของฟู่เฉินเป็นปกติ ผ่อนคลายราวกับกำลังสั่งอาหารเย็นอย่างไงอย่างงั้น

ยังไงซะเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงที่หยิ่งทรนงคนหนึ่ง เมื่อไม่มีเงินอยู่ในมือแล้วก็จะยอมหย่าเอง

ฟู่เฉินไม่มีความเห็นอกเห็นใจผู้หญิงแบบนี้เลยแม้แต่น้อย

อีกด้าน อาการของสุยสุยยังไม่คงที่ หมอหมายความว่าถ้าไม่ผ่าตัด คงจะอยู่ไม่พ้นคืนนี้

“เราผ่าตัดค่ะ!”

หนิงหนานเสว่ตัดสินใจแทบจะทันที แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าผ่าตัดแล้วสุยสุยจะอยู่ได้นานแค่ไหน แต่ในฐานะแม่ เธอทนเห็นลูกสาวของเธอตายไม่ได้จริง ๆ!

แต่เมื่อรูดบัตร หนิงหนานเสว่ก็พบว่าบัตรธนาคารทั้งหมดของเธอถูกระงับ เงินไม่พอสำหรับค่าผ่าตัดเลย เธอเหลือเงินสดในกระเป๋าเพียงหนึ่งแสนบาทเท่านั้น ซึ่งเธอเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น

แต่ไม่คิดว่าจะต้องใช้ในเวลานี้

เธอรู้ดีว่านี่คือการแสดงออกถึงความไม่พอใจของฟู่เฉิน เพื่อลงโทษที่เธอไม่ยอมหย่า แต่ตอนนี้สุยสุยกำลังนอนรอเงินช่วยชีวิตอยู่บนเตียงผ่าตัด เธอไม่มีเวลามาสนใจอะไรมาก จึงโทรหาฟู่เฉินทันที เธอต้องช่วยลูกให้ได้

อีกด้าน พลุสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ฟู่เฉินกอดสวีจือหรู แววตาและสีหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและอ่อนหวาน

“อาเฉิน พลุสวยมากเลย ขอบคุณนะ ฉันชอบมาก”

สวีจือหรูซบอกเขาอย่างมีความสุข เผยให้เห็นใบหน้าด้านข้างที่งดงาม รอยยิ้มแห่งความสุขเปล่งประกายท่ามกลางแสงพลุ งดงามอย่างมาก ราวกับเกสรดอกไม้

“สุขสันต์วันครบรอบนะ”

ฟู่เฉินจูบหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความรักที่ไม่อาจละลายได้

โทรศัพท์สั่นสะเทือน ฟู่เฉินเหลือบมองชื่อผู้โทรเข้าแล้วกดวางสายด้วยสายตารังเกียจ สุดท้ายก็ปิดเครื่อง

“ขออภัย หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

เสียงที่ทำให้คนสิ้นหวังดังมาจากปลายสาย

หนิงหนานเสว่นั่งร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทางอยู่ข้างเตียงของสุยสุย มองดูเลือดที่ลูกสาวของเธอกระอักออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้เลย

“คุณแม่... ไม่ร้องไห้นะคะ”

“คุณแม่... เราไม่ต้องการคุณพ่อแล้ว คุณแม่ต้องมีความสุขนะคะ”

มือเล็ก ๆ ของฟู่สุยสุยออกแรงดึงหน้ากากออกซิเจนออก อยากจะพูดกับแม่เป็นครั้งสุดท้าย แต่โชคร้ายที่เมื่อมือเล็ก ๆ ยื่นออกไปกลางอากาศ ทันใดนั้นมันก็ตกลงมาอย่างไร้เรี่ยวแรง เครื่องมือทุกชิ้นต่างส่งเสียงกระหึ่มขึ้นมาในทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 415

    หนิงหนานเสว่กลับมาถึงบ้าน เจียงเหยียนเชินเตรียมอาหารเย็นมากมายไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น หารือแผนการในขั้นต่อไปการยื่นขอสินเชื่อธนาคารของฟู่ซื่อกรุ๊ปถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เหตุผลก็คือสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ปน่าเป็นห่วง มีความเสี่ยงสูงเกินไปภายในห้องทำงานท่านประธาน ฟู่เฉินโยนเอกสารลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด เกิดเสียงทึบออกมาเขานวดหว่างคิ้ว พยายามคลายความเหนื่อยล้าหลายวันมานี้ แต่กลับพบว่าทุกอย่างไร้ประโยชน์สวีจือหรูยกนมร้อนเดินเข้ามา แธอสวมชุดนอนสีชมพูอ่อน ดูอ่อนโยนและเป็นกันเอง“อาเฉิน อย่าเหนื่อยเกินไปเลยค่ะ ดื่มนมแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ” เสียงของเธออ่อนโยน แฝงไปด้วยความเจ็บปวดใจฟู่เฉินรับนมมา แล้วดื่มไปอึกหนึ่ง ความอุ่นของนมเหมือนจะคลายความหงุดหงิดภายในใจของเขาได้เล็กน้อย“จือหรู ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทย่ำแย่มาก ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี” เขาถอนหายใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไร้กำลังสวีจือหรูเดินไปที่ด้านหลังของฟู่เฉิน แล้วนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา การเคลื่อนไหวของเธอนุ่มนวลและเอาใจใส่“อาเฉิน ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 414

    สวีจ้าวคิดจะฉกฉวยผลประโยชน์ตอนที่ผู้อื่นโชคร้าย ทว่าตอนนี้เพื่อบริษัทแล้ว เขาจำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอของสวีจ้าว“ฉันจะพิจารณาดู” ฟู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความหงุดหงิดเมื่อสวีจ้าวเห็นดังนั้น ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่พึงใจฟู่เฉินเดินมาถึงทางตันแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงต้องยอมรับเงื่อนไขของเขาอีกด้านหนึ่ง หนิงหนานเสว่เริ่มแอบสืบสวนสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ป เธอพบจุดบางอย่างที่น่าสงสัย เงินทุนของฟู่ซื่อกรุ๊ปเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โครงการจำนวนมากมีการรายงานผลกำไรที่เป็นเท็จวิกฤตของฟู่ซื่อกรุ๊ปร้ายแรงยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกอย่างมาก“รุ่นพี่ ฉันตรวจพบบางอย่างที่น่าสนใจค่ะ” หนิงหนานเสว่นำผลการตรวจสอบส่งให้กับเจียงเหยียนเชิน“ทางฉันก็จะรวบรวมข้อมูลภายในบางส่วนของฟู่ซื่อกรุ๊ปไว้ด้วยเหมือนกัน สถานการณ์ของพวกเขาไม่สู้ดีนักจริง ๆ” เจียงเหยียนเชินตอบกลับ“อืม ถึงเวลาแล้วค่ะ” สายตาของหนิงหนานเสว่ฉายแววเย็นเยือก เธอจะไม่ปล่อยฟู่เฉินไปอย่างแน่นอนภายในโรงพยาบาล สวีจือหรูยังคงเล่นบทสะใภ้ยอดกตัญญูต่อหน้าแม่ฟู่อยู่ทุกวันเธอจะมาส่งอาหารที่เตรียมมาอย่างพิถีพิถันให้กับแม่ฟู่ และย

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 413

    หลังจากฟู่เฉินใช้ยาไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากฟู่ซื่อกรุ๊ปห้องทำงานท่านประธานของฟู่ซื่อกรุ๊ป เอกสารที่กองอยู่เป็นภูเขากระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะทำงานที่กว้างขวาง ฟู่เฉินขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าเขานวดขมับที่ปวดตึง พยายามทำให้ตนเองมีสติขึ้นมาบ้าง ทว่าช่วงนี้สถานการณ์ของบริษัททำให้เขายากที่จะผ่อนคลายได้อย่างแท้จริงอยู่ ๆ แม่ฟู่ก็ล้มป่วย บวกกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทเผชิญกับวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน“ประธานฟู่ คุณดื่มกาแฟสักแก้วเถอะค่ะ” สวีจือหรูยกกาแฟร้อนที่มีควันกรุ่น ๆ เดินเข้ามา รอยยิ้มอันอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “คุณยุ่งมาทั้งเช้าแล้ว พักผ่อนสักครู่เถอะนะ”ฟู่เฉินเงยหน้าขึ้น พลางมองใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรู ความอบอุ่นพวยพุ่งขึ้นมาในใจเขารับกาแฟ แล้วดื่มไปหนึ่งอึก กาแฟที่มีรสขมเจือไปด้วยความอบอุ่น“จือหรู ขอบคุณนะ” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความซาบซึ้งและเหนื่อยล้า“คุณกับฉันยังจะเกรงใจอะไรกันคะ” สวีจือหรูเดินไปที่ข้างกายของฟู่เฉิน พลางนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา “ทางคุณป้าฉันจะดูแลให้ดีที

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 412

    “คุณหมอ แม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ?” ฟู่เฉินรีบก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวถาม“การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากครับ ผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายแล้ว” หมอกล่าว “แต่ว่าผู้ป่วยอายุมากแล้ว ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ต้องการนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอีกสักระยะ”เมื่อฟู่เฉินได้ยินคำพูดของหมอ ในที่สุดก็คลายความวิตกกังวลลงเขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก รู้สึกหมดแรงไปหมดทั้งร่าง“ขอบคุณครับหมอ ขอบคุณพวกคุณ” ฟู่เฉินพูดด้วยความซาบซึ้ง“นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรทำครับ” หมอกล่าว “ญาติสามารถเข้าไปดูผู้ป่วยได้แล้ว แต่ว่าอยากรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยนะครับ”ฟู่เฉินพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยแม่ฟู่นอนอยู่บนเตียงอย่างสงบ สีหน้าซีดขาว บนศีรษะมีผ้าก๊อซหนา ๆ พันอยู่ฟู่เฉินมองดูท่าทางที่อ่อนแอของแม่ฟู่ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและตำหนิตนเอง“แม่ ผมขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ผมไม่ควรยั่วโมโหแม่” ฟู่เฉินกุมมือของแม่ฟู่เอาไว้ พลางกล่าวอย่างแผ่วเบา “แม่จะต้องหายเร็ว ๆ นะครับ ต่อไปผมจะไม่ทำให้แม่โกรธอีกแล้ว”เหมือนแม่ฟู่จะได้ยินคำพูดของฟู่เฉิน น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาไม่กี่วันต่อมา ฟู่เฉินเฝ้าอยู่ภายในโรงพยาบาล

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 411

    หลังจางวางโทรศัพท์แล้ว ใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรูก็มลายหายไป เข้ามาแทนที่ด้วยใบหน้าอันชั่วร้ายเธอมองดูโทรศัพท์มือถือในมือ พลางพึมพำกับตัวเองว่า “ยัยแก่ คอยดูไว้เถอะ พอฉันจัดการลูกชายของแกเสร็จแล้ว คนต่อไปก็คือแก!”และฟู่เฉินในตอนนี้ กำลังนั่นอยู่ภายในห้องทำงาน คิ้วขมวดมุ่นในเวลานี้เอง หน้าจอมือถือของฟู่เฉินก็สว่างขึ้น ข่าวบันเทิงฉบับหนึ่งเข้ามาสู่สายตาของเขา ความสัมพันธ์ของเจียงเหยียนเชินกับหนิงหนานเสว่ถูกเปิดเผย ทั้งสองคนไปเที่ยวด้วยกันอย่างหวานชื่น คาดว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้เมื่อฟู่เฉินมองเห็นท่าทางที่สนิทสนมของหนิงหนานเสว่กับเจียงเหยียนเชินในข่าวนี้ ความหงุดหงิดที่ไม่รู้สาเหตุก็พวยพุ่งขึ้นมาในใจเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วต่อสายหาหนิงหนานเสว่ ทว่าปลายสายกลับมีเสียงอัตโนมัติที่เย็นชาแว่วดังออกมา “ขออภัย สายที่ท่านเรียกยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”ฟู่เฉินโยนโทรศัพท์ไปด้านข้างอย่างหงุดหงิด เขาเพียงแค่รู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเท่านั้น ราวกับว่ามีไฟกองหนึ่งกำลังเผาไหม้ในโรงพยาบาล แม่ฟู่นอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมา ยากที่จะหลับลงภายในสมองของเธอปรากฏภาพของหนิงหนานเสว่กับเจ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 410

    ฟู่เฉินเห็นท่าทางอ่อนโยนของสวีจือหรูนั้น ความเหน็ดเหนื่อยในใจก็หายไปเป็นปลิดทิ้งเขาโอบสวีจือหรูเข้ามาในอ้อมกอดเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “ผมไม่เหนื่อย มีคุณอยู่ ผมก็ไม่เหนื่อยแล้ว”ทั้งสองคนพลอดรักกันอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นฟู่เฉินก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ใครกัน?” ฟู่เฉินถามขึ้น“อาเฉิน ฉันเอง” เสียงของแม่ฟู่ดังมาจากนอกประตู “แกเปิดประตูหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”ฟู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูทันทีที่แม่ฟู่ก้าวเข้ามา ก็เห็นฟู่เฉินกับสวีจือหรูในท่าทีที่สนิทสนมกัน ความโกรธในใจก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งหายใจไม่ทั่วท้อง หน้าอกของแม่ฟู่พลันหายใจติดขัด และเป็นลมล้มลงไปแม่ฟู่เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง อาการของเธอเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยอย่างที่สุดแม้ในใจของสวีจือหรูจะไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ก็จำต้องฝืนใจคอยดูแลแม่ฟู่ อย่างไรเสีย ต่อหน้าฟู่เฉิน เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์ความอ่อนโยนและเอาใจใส่ของตัวเองไว้“ป้าคะ วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า?” สวีจือหรูถือชามโจ๊กชามหนึ่ง เดินมานั่งข้างเตียงผู้ป่วย เอ่ยถามเบา ๆ บนใบหน้าของเธอมีรอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status