Share

บทที่ 5

Author: คุณชายสายฝน
คำพูดบิดเบือนพวกนั้นออกมาจากปากของเด็กกลุ่มนั้น แต่เจียงซู่กลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย

จะให้คนบลู่ลี่มาพูดโดยใช้หลักของเหตุและผล มันเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี

“ช่วยด้วย...”

เด็กหนุ่มที่ตกลงไปในน้ำว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งตอนนี้เขากำลังดิ้นรนอยู่เพื่อเอาตัวรอดอยู่ในน้ำ

เหล่าบรรดาเด็กหนุ่มสาวที่ยืนอยู่บนฝั่งไม่มีใครคิดจะลงไปช่วยเลยสักคน แถมยังเริ่มสั่งการด้วยว่า “แกยังไม่รีบลงไปช่วยขึ้นมาอีก ถ้าฉินควานเป็นอะไรไป ตระกูลฉินไม่ปล่อยแกไว้แน่!”

เจียงซู่มองดูคนที่กำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนอยู่ในน้ำ และสุดท้ายก็เป็นเธอที่เป็นคนลงมือ

ประโยคสุดท้ายของเด็กคนนั้นเป็นแรงกดดันที่ทำให้เธอเริ่มเกิดหวาดกลัว เพราะถ้าเด็กนั่นเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ และต้องอยู่ภายใต้คำให้การของเด็กกลุ่มนี้แล้วนั่น เธอก็จะกลายเป็นฆาตกรที่สังหารผู้เยาว์ทันที

พวกเด็กเหล่านั้นที่อยู่เหนือฟ้าและกฎหมายกล้าทำอย่างนั้นจริง ๆ

ถ้าหากเหตุการณ์มันมาถึงจุดนั้นจริง ไม่ว่าจะเป็นการประนีประนอมยอมความ หรือการปกป้องตัวเอง หรือแม้แต่การชดใช้พร้อมคำขอโทษ สุดท้ายเธอก็เป็นผู้ถูกทอดทิ้งอยู่ดี

เพราะโจวซือเหย่ไม่มีทางต้องการภรรยาที่เป็น ‘ฆาตกร’

เธอมองไปยังโจวหว่านซินที่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าสนุกสนาน มองดูเธอถูกกลั่นแกล้งตามกระบวนการที่ได้วางไว้อย่างพึงพอใจ

เจียงซู่วางกระเป๋าไวที่ริมฝั่ง ก่อนจะเริ่มถอดรองเท้าพร้อมกับกระโดดลงไปช่วยอย่างรวดเร็ว

แต่เธอประเมินความแสบของเด็กพวกนี้ต่ำไป เดิมทีเด็กหนุ่มที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ จู่ ๆ ก็เคลื่อนไหวคล่องแคล่วราวกับปลาไหล และจับคนตรงหน้าที่ตั้งใจจะมาช่วยชีวิตกดลงน้ำ

ด้วยความที่เจียงซู่ไม่ทันได้ตั้งตัว จึงสำลักน้ำอย่างรุนแรง

“แค่ก แค่ก...”

ใบหน้าของเด็กหนุ่มฉีกยิ้มด้วยความร้ายกาจอย่างเห็นได้ชัด

เจียงซู่ได้แต่มองดูเด็กผู้ชายคนนั่นว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่ง เธอได้แต่เยาะเย้ยตัวเองในใจว่าตัวเองเป็นคนโง่ ทำไมถึงไปหลงเชื่อได้ง่าย ๆ ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นว่ายน้ำไม่เป็น

ไม่ว่าเธอจะรับผิดชอบหรือไม่ และถ้าเรื่องถึงแก่ชีวิตขึ้นมา พวกเด็กกลุ่มนั้นก็ไม่สามารถรอดพ้นไปได้เหมือนกัน

ในขณะที่เจียงซู่กำลังจะว่ายขึ้นฝั่ง พวกเขากลับเก็บก้อนหินบนพื้นปาใส่ตัวเธอ ราวกับเด็กที่ยังเล่นไม่เต็มอิ่ม

น้ำที่กระเซ็นเข้าที่ดวงตาของเธอ ทำไมมองไม่ชัดไปชั่วขณะ จึงไม่สามารถขึ้นฝั่งได้

“หว่านซิน พี่เลี้ยงบ้านเธอใช้กระเป๋าแอร์เมสด้วยเหรอ ไม่ใช่ว่าขโมยมาใช้หรอกนะ”

ใบหน้าทรงไข่ได้รูปอันสวยงามของโจวหว่านซินแสดงความรังเกียจออกมา เธอถีบกระเป๋าของเจียงซู่ที่วางอยู่ตรงพื้นกระเด็นตกลงไปในน้ำ

เธอแอบหวังว่ากระเป๋าของเจียงซู่ใบนี้มาจากการขโมยจริง ๆ จะได้แจ้งตำรวจจับให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอรู้ดีว่าทั้งหมดนี้ซื้อว่าด้วยเงินพี่ชายของเธอเอง!

สำหรับพี่สะใภ้ในนามคนนี้ เธอดูหมิ่นดูแคลนเป็นอย่างมาก รังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อของตระกูลเธอราวกับปลิงไม่มีผิด

ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายของเธอประสบอุบัติเหตุแล้วล่ะก็ จะมีเหรอที่ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้จะได้มาเป็นพี่สะใภ้เธอ!

“ก็แค่ของปลอม”

ไม่รู้สิ่งที่อีกคนพูดนั่นหมายถึงกระเป๋า หรือหมายถึงเจียงซู่กันแน่

ใช่แล้ว การมาประชุมผู้ปกครองของเธอไม่ได้มาในนามพี่สะใภ้ แต่มาในนามพี่เลี้ยงต่างหาก ตามที่เด็กพวกนั้นพูด

และไม่ต้องถามเลยว่าทำไมพี่เลี้ยงถึงมีสิทธิ์ได้เข้าประชุมผู้ปกครอง เหตุผลสั้น ๆ ง่าย ๆ เลยคือ โจวหว่านซินเต็มใจเอง

และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเจียงซู่ไม่อยากมาประชุมผู้ปกครอง เพราะเธอไม่อยากเป็นหนึ่งในความบันเทิงของพวกเขา

ครั้งแรกที่เธอมาประชุมผู้ปกครองให้โจวหว่านซิน เธอเหมือนกับคุณย่าที่มีความสุขมากจนแทบขาดใจ เธอคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับสักที

แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าสิ่งที่รอเธออยู่ไม่ใช่การยอมรับ แต่มันคือการถูกกลั่นแกล้งต่างหาก ทันทีที่เจอโจวหว่านซิน เธอก็ถูกพวกเขาสาดด้วยน้ำสกปรกหนึ่งถังอย่างไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ล่วงหน้า

สภาพเธอดูน่าสมเพชมาก

หัวใจของเจียงซู่ไม่ใช่ก้อนหินที่จะสามารถแข็งแกร่งได้ตลอดเวลา การที่เธอถูกน้องสาวสามีเรียกพรรคพวกมารุมหยามเธอแบบนี้ เธอเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ใช่น้อย

ทันใดนั้น เธอก็รู้เจ็บที่บริเวณหน้าผากจากการโดนหินปาใส่

“ฮ่าฮ่า ในที่สุดฉันก็ปาโดนแล้ว”

ผู้ที่ลงมือตรงหน้าพูดขึ้นด้วยความดีใจและตบมือชอบใจอยู่บนฝั่ง

เจียงซู่มองเด็ก ๆ ที่ยืนอยู่บนฝั่ง ความรู้สึกเจ็บปวดเอ่อล้มราวกับว่ากำลังแบกรับความเจ็บปวดของคนทั้งโลกไว้อยู่

เธอที่กำลังอายุเข้าเลขสามแล้ว ต้องมาถูกเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกลั่นแกล้งรังแก

เมื่อเด็กสารเลวพวกนี้เติบโตเริ่มเข้าสู่สังคม ต้องมีคนอีกมากมายที่กลายเป็นเครื่องมือความบันเทิงของพวกเขา และไม่มีใครสามารถเอาผิดพวกเขาได้ เพราะมีพ่อแม่อำนาจล้นฟ้าที่คอยกลบขี้ให้ลูกอยู่ข้างหลัง

โจวซือเหย่ทำลายความจริงใจของเธอ ส่วนน้องสาวของเขาก็เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ สมกับเป็นพี่น้องกันจริง ๆ

ความรู้สึกภายในใจเจียงซู่ที่ถูกกดทับมาเป็นเวลานานจนไม่สามารถกลั้นไว้ได้แล้ว ในเมื่อเธอไม่คิดที่จะรักษาโจวซือเหย่ไว้อยู่แล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องเอาใจน้องสาวสามีตรงหน้าอีกต่อไป!

เธอว่ายน้ำอ้อมไปขึ้นฝั่งอีกด้าน และตรงไปหาเด็กผู้หญิงที่เพิ่งปาหินใส่เธอเมื่อครู่โดยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เธอจับเด็กคนนั้นผลักลงไปในน้ำ พร้อมกับดึงผมและกดหัวลงน้ำ เด็กผู้หญิงคนนั้นสำลักน้ำเข้าไปหลายอึก

“แกทำอะไรน่ะ!? ”

ทุกคนต่างตกตะลึง

ไม่มีใครคาดคิดว่าเจียงซู่จะกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนี้!

เจียงซู่หันกลับไปมองกลุ่มของโจวหว่านซิน “สนุกไหม? ”

แผลที่หน้าผากของเธอเริ่มมีเลือดซึมออกมาและไหลไปตามมุมหน้าผากจนเข้าตา เป็นภาพที่ดูน่ากลัวและดุร้ายในเวลาเดียวกัน ในชั่วขณะนั้น เธอราวกับปีศาจรากษสที่ออกมาจากนรกเพื่อมาทวงคืนชีวิต

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โจวหว่านซินเห็นเจียงซู่ดุร้ายขนาดนี้ เพราะปกติเธอจะเป็นคนยอมคนเหมือนลูกเจี๊ยบในกำมือ ใครจะทำอะไร รังแกเธออย่างไรก็ได้เหมือนเบี้ยล่าง

“เจียงซู่ แกบ้าไปแล้วหรือไง? ยังไม่ปล่อยอีก!”

เจียงซู่มองไปยังเจ้าของคำพูดเมื่อครู่พร้อมกับถามว่า “เล่นพอหรือยัง?”

โจวหว่านซินเหมือนถูกอีกคนทำให้ขายหน้า จึงข่มขู่ขึ้นมาว่า “แกไม่อยากอยู่ในบ้านตระกูลโจวแล้วใช่ไหม!? ”

เมื่อเห็นอีกคนกล้าขัดขืนต่อต้านตัวเองขนาดนี้ แน่นอนว่าเธอจะต้องไปนินทา ใส่ร้ายให้พี่ชายตนเองฟังอย่างแน่นอน

เจียงซู่ดึงมือกลับพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ใช่ ไม่อยากอยู่แล้ว”

เมื่อครู่เธอเสียการควบคุมไปชั่วขณะจึงเผลอลงมือกับเด็กคนนั้นลงไป

เด็กผู้หญิงว่ายเข้ามาเกาะริมฝั่ง พร้อมกับไอสำลักน้ำและหายใจหอบไม่หยุด เพื่อน ๆ เห็นดังนั้นจึงรีบไปช่วยกันดึงเธอขึ้นมาจากน้ำ

เจียงซู่เดินเข้าไปใกล้พร้อมกับพูดเสียงเบาให้มีเพียงแค่เขาและคนตรงหน้าได้ยินเท่านั้น “เกลียดฉันมากนักไม่ใช่เหรอ แน่จริงก็ทำให้พี่ชายแกมาหย่ากับฉันสิ”

ถ้าพูดถึงคนทั้งตระกูลโจวแล้ว คนที่อยากให้เธอไสหัวออกไปมากที่สุดก็คือโจวหว่านซิน คนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้

โจวซือเหย่รักน้องสาวคนนี้มาก หากมีเธอคอยช่วยอยู่เบื้องหลังเติมไฟยุยงเรื่องหย่า จะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน

เจียงซู่หวังว่าเธอจะทำสำเร็จ

โจวหว่านซินผลักเธอออกด้วยท่าทางรังเกียจที่เธอเข้าไปใกล้ “แกคิดว่าฉันทำไม่ได้เหรอ?”

เจียงซู่ถอยออกหนึ่งก้าวด้วยแรงผลักของอีกคนก่อนจะยืนได้อย่างมั่นคงทีหลัง และมองด้วยสายตายั่วยุ “งั้นก็ทำให้ดูหน่อยละกัน ไม่งั้นฉันรอสมน้ำหน้าอยู่”

เธอรู้จักคนตรงหน้าดี โจวหว่านซินเป็นคนไม่ชอบการโดนท้าทายมากที่สุด

เจียงซู่หยิบกระเป๋าที่ยังไม่จมขึ้นมาจากน้ำด้วยความรู้สึกเสียดาย

พวกคนไร้ศีลธรรม กระเป๋าแพงขนาดนี้ยังกล้าเตะลงน้ำอีก ไม่รู้กระเป๋าที่ตกน้ำแล้วยังจะขายได้อยู่ไหมนะ

ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้คุณย่าเห็นว่าเธอใช้ชีวิตกินอิ่ม อยู่ดีมีสุข เธอคงไม่สะพายออกมาหรอก

รู้สึกกระเป๋าเสียหายค่อนข้างมาก กลับไปต้องให้โจวซือเหย่ชดเชยให้มากขึ้นกว่านี้

โจวหว่านซินจ้องมองแผ่นหลังของเจียงซู่ที่กำลังเดินจากไป เพื่อนร่วมชั้นของโจวหว่านซินเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “ซินซิน พี่เลี้ยงบ้านเธอกำเริบใหญ่แล้วนะ กล้าพูดกับเธอถึงขนาดนี้ ท่าทางเหมือนไม่อยากทำงานต่อแล้วอย่างงั้น? ”

โดยเฉพาะวันนี้ เธอหยิ่งผยองเอามาก ๆ

เมื่อก่อนตอนที่ถูกรังแก ไม่เคยจะเห็นว่าเธอจะต่อต้านรุนแรงขนาดนี้มาก่อน

สีหน้าโจวหว่านซินก็ไม่สู้ดีนัก เธอได้แต่กัดฟันแน่น

คอยดูเถอะ เธอจะให้พี่ชายจัดการนางผู้หญิงเลวนั่นให้ได้!

โจวหว่านซินหันไปมองเด็กผู้หญิงที่ถูกเจียงซู่กดลงน้ำ และเริ่มพูดแผนการในหัวออกมา “เหยาเจีย เธอกลับไปบอกแม่ของเธอว่าถูกรังแก”

แม่ของเหยาเจียเป็นคนอารมณ์รุนแรง ขี้โมโห คอยดูเถอะ เจียงซู่เตรียมรับศึกหนักที่กำลังจะมาถึงได้เลย!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 128

    หลังจากออกจากกั่งรุ่ย เจียงซู่ก็รีบตรงกลับไปโรงพยาบาลทันทีคุณย่ายังไม่ฟื้น เธอก็ไม่สบายใจส่วนทางโจวซือเหย่นั้น หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วงเช้า เขาก็เปิดดูโทรศัพท์ แต่เจียงซู่ไม่ได้ติดต่อมาสีตาคมมืดมิด ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลเจียงเท่าไหร่เวิงอี๋เห็นโจวซือเหย่เหม่อลอยจึงอดไม่ได้ตะโกนว่า “พี่ซือเหย่…”เมื่อได้ยินเสียง โจวซือเหย่ถึงมีสติกลับมา ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”เวิงอี๋กัดริมฝีปาก: “ฉันบอกว่าคุณหมอเหมี่ยวให้ฉันไปรับผลตรวจค่ะ”สายตาของโจวซือเหย่กวาดมองไปที่หน้าอกของเธอ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันจะไปเป็นเพื่อน”เวิงอี๋พูดอย่างเกรงใจ่วา “จริง ๆ ฉันไปเองได้ค่ะ”โจวซือเหย่พูดตรง ๆ ว่า “ฉันจะไปขับรถ”เมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสำคัญ ดวงตาของเวิงอี๋ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่โรงพยาบาลเจียงซู่จ้องมองคุณย่าอี้ที่ยังคงหมดสติอยู่ด้วยความหนักใจ เพราะคุณหมอบอกว่าการหมดสติครั้งนี้เป็นเหมือนการซ้ำเติมร่างกายที่อ่อนแอของคุณย่าให้แย่ลงไปอีกหลังจากออกมาจากห้องตรวจของหมอ เจียงซู่ก็ขาอ่อนแรง เซถลาเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่คว้ากำแพงไว้ได้ทันในเวลานั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงของโ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 127

    “คุณย่า—”เจียงซงหวาเห็นดังนั้นก็เตรียมจะเดินเข้าไป แต่แม่เจียงกลับรั้งเขาไว้ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี แค่มองตากันก็เข้าใจความหมายของกันและกันเจียงซู่พูดอย่างร้อนรน “พ่อคะ รีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”ระหว่างผลประโยชน์กับความกตัญญู เจียงซงหวาเลือกอย่างแรก“หาทางให้โจวซือเหย่หยุดให้ได้”“พ่อ!”เจียงซู่มองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?ความน่าเกลียดของมนุษย์ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวเจียงซงหวาเจียงซู่กัดฟันกรามแน่น พูดว่า “ได้ หนูสัญญา!”หลังจากการนำตัวคุณย่าอี้ส่งโรงพยาบาล ท่านก็ได้รับการช่วยชีวิต แต่จะฟื้นเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองเจียงซงหวาเร่งเร้า “ย่าของแกไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้แกไปขอร้องโจวซือเหย่ซะ”เจียงซู่ไม่ได้ลุกขึ้น “รอคุณย่าฟื้นก่อนค่ะ”เจียงซงหวาพูดว่า “ฉันให้เวลาแกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ไม่ว่าจะฟื้นหรือไม่ก็ตาม แกต้องไปขอร้องโจวซือเหย่ให้ได้”เขาทิ้งท้ายคำพูดแล้วทำท่าทางราวกับรังเกียจความอัปมงคล ไม่อยากจะอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเจียงซู่กุมมือที่เหี่ยวย่นของคุณย่าไว้ ในใจเต็มไปด้วยความเจ็บปว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 126

    กิ๊กของเจียงเจียเหวินกลับไปแล้ว เหลือเพียงคนในตระกูลเจียงอยู่ในห้องวีไอพีเท่านั้นเสียงสะอื้นของเจียงเจียเหวินและเสียงหายใจหอบถี่ของเจียงซงหวาทำให้ความกดอากาศในห้องลดลงถึงจุดเยือกแข็งเมื่อละครตลกที่ไร้สาระนี้จบลง เจียงซู่ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้วเธอประคองคุณย่าเพื่อจะเดินออกไป ทว่าเธอเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เจียงซงหวาก็เรียกไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้!”เจียงซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “มีอะไรอีกไหมคะ?”เจียงซงหวาใช้อำนาจความเป็นพ่อสั่งว่า “เรื่องนี้แกจะจัดการยังไง?”เจียงซู่: “พ่อคะ พ่อถามผิดคนแล้วล่ะ”ตั้งแต่เกิดขึ้นเรื่องจนกระทั่งจบลง เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิดใบหน้าแก่ ๆ ของเจียงซงหวาดูไม่สู้ดีนัก “แกหมายความว่ายังไง? ตอนนี้โจวซือเหย่ยังคงเล่นงานตระกูลเจียงอยู่ แกคิดจะยืนดูเฉย ๆ ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างนั้นเหรอ? แกยังเป็นคนในตระกูลเจียงอยู่ไหม? อย่าลืมนะ ถ้าไม่มีฉัน แกอดตายไปนานแล้ว!”“อะไรกันเนี่ย นังลูกอกตัญญู”เจียงซู่: “ก่อนห้าขวบ แม่หนูเป็นคนเลี้ยงหนูค่ะ หลังห้าขวบ คุณย่าเป็นคนเลี้ยงหนูจนโต”เจียงซงหวา: “ถ้าไม่มีเงินของฉัน พวกเขาจะเอาอะไรมาเลี้ยงแก?!”เจียงซู่: “

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 125

    เจียงซงหวาพูดเสียงหนัก “ลูกในท้องเหวินเหวิน เป็นลูกของนายแน่นอน!”“ผมไม่ได้แตะต้องลูกสาวคุณแม้แต่ปลายก้อย” โจวซือเหย่กล่าวเย้ยหยัน “ลูกสาวคุณมีความสามารถแบบนั้นจริง แต่ตระกูลโจวเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงลูกให้คนอื่น”กล่าวจบ นอกจากโจวซือเหย่ ทุกคนต่างมีหน้าแตกต่างกันไป แม้แต่เจียงซู่เองยังเบิกตากว้างเขาหมายความว่ายังไง?เธอเห็นพวกเขานอนด้วยกันกับตาแท้ ๆ...เจียงซงหวาโกรธจัดทันที “นายไม่คิดจะรับผิดชอบงั้นเหรอ?”โจวซือเหย่: “ไม่ใช่ลูกผม ทำไมผมจะรับ?”จังหวะนั้นเอง ผู้ชายที่โจวซือเหย่ให้คนพาเข้ามาก็เปิดปากพูด “เจียงเจียเหวิน ทำไมเธอถึงให้ลูกของฉัน เรียกคนอื่นว่าพ่อล่ะ?! เธอทำแบบนี้ไม่ละอายใจต่อฉันบ้างเหรอ?”แม่เจียงถลึงตาพลางตะคอกใส่เขา “พูดเพ้อเจ้ออะไร? ถ้ายังใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!”ผู้ชายคนนั้นสวนกลับทันควัน “ผมพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ก็ถามลูกสาวคุณดูก็รู้เอง! ผมกับเธอไม่รู้ว่านอนด้วยกันมากี่ครั้งแล้ว คืนนั้นที่โจวซือเหย่เมามาก ไม่ได้แตะเธอเลยด้วยซ้ำ เธออยากแสดงให้สมจริงและให้ตรงกับช่วงเวลาที่จะตั้งท้อง คืนนั้นเธอยังจงใจมาหาผม คืนนั้น เราเอากันตลอดทั้งคืน”“เจียงเ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 124

    โจวซือเหย่ยังคงนิ่งสงบ ราวกับกำลังคุยกันว่า คืนนี้จะกินอะไรดีเจียงเจียเหวินกลับไม่ใจเย็นแบบนั้น ถึงกับหัวใจสั่นวูบเมื่อโดนสายตาเย็นเฉียบของเขามองมา เธอกลืนน้ำลายที่ไม่มีอยู่จริง จู่ ๆ ดวงตาเริ่มแดงก่ำขึ้น “พี่เขย ถึงเรื่องนี้จะผิดต่อพี่เค้า แต่พี่จะปฏิเสธลูกของตัวเองไม่ได้นะ พี่พูดแบบนี้ พี่กำลังอยากบีบให้พวกเราสองแม่ลูกไปตายนะคะ”แม่เจียงเห็นลูกสาวช้ำใจก็รู้สึกสงสาร “ซือเหย่ เป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับหน่อยสิ จะได้แล้วทิ้งแบบนี้ไม่ได้นะ!”เจียงเจียเหวินกัดฟันแน่น “ถ้าพี่จะไม่ยอมรับ ฉันก็จะพาลูกไปตายด้วย!”พูดจบ เธอก็ทำท่าจะวิ่งออกไปแม่เจียงเห็นดังนั้นก็รีบคว้าไว้ทันที “เหวินเหวิน! คนดีของแม่ ลูกพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรคือตายไม่ตาย? ถ้าลูกตาย แล้วแม่กับพ่อจะอยู่ยังไง? ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่นะ!”สองแม่ลูกร้องไห้ฟูมฟาย ทำตัวราวกับกำลังแสดงละครโศกนาฏกรรมแม่เจียงกอดเจียงเจียเหวินแน่น แล้วหันไปจ้องโจวซือเหย่ “ถ้านายไม่ยอมรับเด็กคนนี้ล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณท่านโจว! นี่เป็นเหลนคนแรกของท่านนะ! ฉันไม่เชื่อว่าคนใจดีแบบท่าน จะปล่อยให้นายบีบลูกสาวฉันไปตาย!”เจียงซงหวาขัดภรรยาได้จังหวะเหมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 123

    แม่เจียงรีบเสริมทันที “ฉันบอกแล้วว่าเด็กคนนี้มันอกตัญญู โตมาก็เลี้ยงไม่เชื่อง ตอนนั้นคุณควรทิ้งมันไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แถมยังเสียเงินมากมายไปกับมันเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลยสักนิด!”ทั้งครอบครัวเป็นใจเดียวกัน ต่างรุมประณามเจียงซูไม่เว้นคำเจียงซงหวาถึงกับไปหาความช่วยเหลือจากภายนอกพอได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า เจียงซู่ถึงรู้ว่าพวกเขาลากเรื่องทั้งหมดไปกดดันผู้ใหญ่ท่านแล้วที่โรงพยาบาลคุณย่าอี้จับมือเธอไว้แน่น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสาร “ลำบากหนูมากแล้ว”พอได้ยินประโยคนั้น จมูกของเจียงซู่ก็แอบร้อนผ่าวขึ้นมา ตั้งแต่เรื่องเกิดจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสนใจความรู้สึกของเธอจริง ๆโจวซือเหย่มองว่าเธอคิดร้ายตระกูลเจียงคิดว่าเธอไม่สำนึกบุณคุณแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเธอต่างหากที่เจ็บหนักที่สุดในเรื่องนี้คุณย่าอี้ถอนหายใจ “เป็นความผิดของย่าเอง ที่สอนพ่อของหนูไม่ดี”ความจริงคุณย่าอี้เป็นคนมีการศึกษา สมัยสาว ๆ เป็นถึงครูสอนหนังสือ ในยุคสมัยของท่าน ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะได้เรียนหนังสือคนมีการศึกษา แต่กลับเลี้ยงลูกชายออกมาเป็นพวกเห็นแก่ได้แต่งงานครั้งแรกเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status