ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้นทำให้กองพลต้องเลิกคิ้วขมวดแล้วเหลือบตามองนาฬิกาที่ข้างหัวเตียงจนต้องเม้มปากแน่น เพราะตอนนี้มันสายมากแล้ว เขาไม่เคยตื่นสาย สงสัยที่บ้านจะให้เด็กรับใช้ขึ้นมาตาม เผลอๆ อาจเป็นป้าของเขาเองก็ได้ที่ขึ้นมาตามถึงห้อง ชายหนุ่มมองคนที่อ่อนเพลียเผลอหลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขาเห็นเธอครั้งแรกตั้งแต่อยู่ในท้อง ให้ตายสิ! เขามันแก่กว่าเธอตั้งหลายปี และพอมาเจออีกก็จับฉุดมาเป็นเมีย!
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะดังเร่งให้เขารีบไปเปิดประตูห้องอีกครั้งจนเขาต้องรีบลุกขึ้นหยิบกางเกงบ็อกเซอร์ที่ถอดกองขดเป็นเลขแปดข้างเตียงขึ้นมาใส่แล้วถลกดึงผ้าห่มมาปิดร่างเปลือยของเด็กสาวที่หลับสนิทบนเตียงตัวเองให้มิดชิด ก่อนจะเดินลงส้นเท้าหนักๆ ไปยังประตูแล้วกระชากเปิดแง้มออกให้พอได้ยื่นหน้าออกไปส่องดูคนมารบกวน
“ป้าบู่” พอเห็นว่าเป็นป้าตัวเองก็ได้แต่เอ่ยเรียกชื่อท่านเสียงแผ่ว
“ใช่น่ะสิ เราเถอะ ไม่สบายรึเปล่าตาหินถึงได้ตื่นสายแบบนี้ฮึ” คนห่วงหลานเอ่ยถามพร้อมกับมองใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อของกองพล
“ไม่ครับ วันนี้ผมขี้เกียจเลยว่าจะโดดงานสักหน่อยครับ” เขาตอบกลับหลบตา แต่คนเป็นป้าก็จับพิรุธได้
“ใช่เหรอ?”
“จริงๆ ครับ ผมสบายดี ป้าบู่ไม่เชื่อก็แตะหน้าผากผมดูสิครับ” เขายื่นมือออกไปคว้าจับมือเหี่ยวย่นของป้าขึ้นมาอังหน้าผากตัวเองแล้วเอ่ยต่อ “เห็นไหม ผมสบายดี ป้าบู่อย่าห่วงผมเลยครับ”
“ไม่ห่วงได้ไง ก็ป้าเลี้ยงของป้ามาตั้งแต่เด็ก” นางชักดึงมือกลับพร้อมกับมองค้อนหลานตัวดีของตนเอง
“แหม! ผมก็รักป้าบู่นะครับ ไม่เอานะครับ ผมขอพักสักวันนะครับ ว่าแต่พ่อของผมอยู่บ้านไหมครับวันนี้” เขาถามถึงพ่อที่รักยิ่งของเขาทันที
“เห็นว่าจะออกไปข้างนอกนะ ถ้าเหนื่อยก็พักผ่อนเถอะ ไม่ป่วยป้าก็ดีใจแล้ว ป้ารักหลานนะ”
“หลานก็รักป้าครับ” เขาแทรกตัวผ่านประตูห้องโดยไม่อายว่าตัวเองใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวติดตัวมาโอบกอดป้าที่รักที่สูงแค่อกตัวเองพร้อมก้มโน้มลงมาหอมแก้มเหี่ยวๆ ของท่านแรงๆ อย่างหยอกเย้าเอาใจท่าน
“อ่ะ...พอเลยนะพ่อตัวดี ดูสิ ทำเป็นเด็ก แล้วเนี่ยใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวไม่อายรึไง เดี๋ยวเด็กรับใช้ก็เดินมาเห็นหรอก” นางดันหน้าหลานชายออกห่างพร้อมตีแขนของพ่อตัวดีไปสองสามทีและกองพลก็ยอมคลายกอดของตัวเอง
“ก็ผมรักของผมนี่ครับ ยิ่งแก่ยิ่งน่าเอ็นดูป้าของผม ไปแล้วนะครับ ผมสบายดีแข็งแรงมากด้วยครับ ขอพักผ่อนก่อนนะครับ”
เขาบอกท่านแล้วแทรกตัวกลับเข้าไปในห้อง เมื่อป้าของเขาก็เดินจากไปจากหน้าห้องนั่นแหละ กองพลถึงยอมปิดประตูแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะลงไปข้างล่างเพื่อหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ชั้นล่างเพื่อมาทำแผลถลอกที่หลังเนียนๆ ของหญิงสาว
ซี้ด!
ปากน้อยร้องซี้ดรู้สึกแสบหลังทั้งๆ ที่ยังหลับอยู่ แต่ก็ร้องเจ็บแสบหลังตัวเองจนต้องตื่น
“คุณทำอะไรคุณหิน อ่ะ...รุ้งแสบค่ะ” เธอที่ถูกพลิกนอนคว่ำหน้าเอี้ยวหน้าหันมาถามคนที่นั่งข้างๆ ตัวเองทันทีด้วยความสงสัย
“ก็บอกแล้วไงจะทาแผลที่ถลอกที่หลังให้ไง แสบหน่อยนะ เพราะมันฆ่าเชื้อโรค” เขาบอกเธอพร้อมก้มลงเป่าหลังให้เธอและนั่นทำให้ใกล้รุ้งอดใจเต้นแรงกับความเอาใจใส่และอ่อนโยนที่ผิดจากหน้าตาและหุ่นของเขา
“ขอบคุณค่ะ แต่รุ้งทำเองดีกว่าค่ะ” เธอบอกเขาพร้อมกับขยับตัวจะลุกขึ้น แต่เขาก็กดลำคอเธอไว้ไม่ให้ขยับตัวลุกขึ้น
“อยู่เฉยๆ น่า ฉันไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครหรอกนะ แต่ฉันอยากทำให้เธอ ทาตรงนี้ก็จะเสร็จแล้ว แล้วเนี่ยแม่กับพ่อเธอรู้ไหมว่าเธอจะมา” เขาลืมไปเลยว่าการที่พาเธอมาแบบนี้จะทำให้พ่อกับแม่เธอเป็นห่วง
“ยังค่ะ เพราะรุ้งตั้งใจมาเซอร์ไพรส์พ่อตันกับแม่ปองค่ะ”
“อือ...เดี๋ยวทาแผลให้เสร็จ เธอก็นอนพักสักตื่นนะแล้วค่อยไปหาพ่อกับแม่ แต่ต้องดูด้วยล่ะ อย่าให้ใครเห็นว่าเธอมาอยู่ที่นี่” เขาบอกพร้อมกับดึงผ้าห่มปิดแผ่นหลังเนียนทันทีเมื่อทาแผลให้เสร็จ และลืมไปเลยว่าชื่อจริงของเธอชื่ออะไร
“ว่าแต่ชื่อจริงเธอชื่ออะไร เห็นแต่เธอแทนตัวเองว่ารุ้ง คงชื่อเล่นสินะ”
“ใกล้รุ้งค่ะคุณหิน ส่วนชื่อเล่นก็รุ้งค่ะ”
“อายุล่ะ?”
“ยี่สิบสองปีค่ะ”
“เรียนจบแล้วเหรอ?”
“ค่ะ รุ้งเรียนจบแล้ว”
“อืม...นอนเถอะถ้าเหนื่อย ฉันไม่กวนเธอแล้ว”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นลงจากเตียงพร้อมเก็บกล่องปฐมพยาบาลแล้วนำไปเก็บไว้ที่โต๊ะทำงานของตัวเองที่มุมห้อง ส่วนตัวเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างมือ ส่วนใกล้รุ้งก็ได้แต่งงไม่เข้าใจคนตัวโตที่เดินจากไป แต่พอพลิกตัวนอนคว่ำหน้าเหมือนเดิม เสียงสั่นเตือนของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอจำได้ว่าเป็นของตัวเองจึงรีบลุกขึ้นมองหากระเป๋าตัวเอง พอเห็นว่ากระเป๋าสะพายใบเล็กตัวเองวางกองที่พื้นก็หมายจะลุกขึ้นไปรับสายที่โทรเข้ามา แต่ก็ต้องสูดปากเจ็บกลางร่างตัวเองเมื่อขยับตัวเร็ว
“อ่า...เจ็บ!” เธอพึมพำกับตัวเองแล้วกัดฟันแน่นหอบผ้าห่มห่มร่างตัวเองลุกก้าวลงจากเตียงไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิด แต่แล้วสายก็ตัดไป แต่เธอก็เปิดดูหน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูสายที่ไม่ได้รับ พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ้มมุมปากแล้วกดต่อสายกลับทันที
“ค่ะพี่โอม” เธอทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงสดใสเหมือนปกติที่คุยกับรุ่นพี่หนุ่ม
“ถึงบ้านยังครับน้องรุ้ง”
“ถึงแล้วค่ะพี่โอม พี่โอมไม่ต้องห่วงรุ้งนะคะ”
“ครับ”
“รุ้งมาพักผ่อนหลังเรียนจบสักอาทิตย์ก็กลับกรุงเทพเริ่มงานใหม่ที่สมัครไว้ก่อนจะกลับค่ะ และที่ทำงานเขาก็ตอบรับรุ้งทำงานแล้ว ขอบคุณพี่โอมที่แนะนำให้รุ้งไปสมัครงานที่บริษัทญาติพี่โอมนะคะ”
“ยินดีครับ ก็เราไม่ยอมมาทำงานเป็นผู้ช่วยพี่นี่”
“ไม่อยากเป็นเด็กเส้นค่ะ อีกอย่างไปที่นี่ก็เส้นเหมือนกัน...คิกๆ”
เสียงหัวเราะและคำเรียกปลายสายอย่างสนิทสนมของเธอทำให้คนที่เดินออกมาจากห้องน้ำได้ยินและยืนกอดอกพิงประตูตั้งใจฟังว่าเธอโต้ตอบกลับคนในสายยังไง และก็เผลอกัดกรามแน่นไม่พอใจเมื่อได้ฟังรวมๆ แล้วใกล้รุ้งคุยกับผู้ชายและเหมือนว่าเธอจะสนิทกับคนในสายมากเสียด้วยสิ
กองพลกัดกรามเดินย่างสามขุมตรงไปหาคนที่ยืนหันหลังหอบผ้าห่มคุยโทรศัพท์ พอเดินมาหยุดข้างหลังคนตัวเล็กก็เสียมารยาทกระชากแย่งโทรศัพท์ที่แนบหูเธอมาคุยทันที
ว้าย!
“สวัสดีครับ คุณเป็นใคร?”
“คุณหินคืนมือถือรุ้งนะคะ” เธอมองเขาด้วยสายตาตำหนิไม่พอใจ เมื่อเขาไร้มารยาทมาแย่งโทรศัพท์ในมือตัวเองไป
“แล้วคุณเป็นใคร น้องรุ้งไปไหนครับ” โอมถามกลับพร้อมขมวดคิ้วย่นสงสัยคนที่อยู่ๆ ก็โผล่มาคุยสายกับตนเอง
“ผัว!” กองพลตอบกลับแล้วก็กดตัดสายทิ้งทันที
คนที่ถูกสารภาพรักได้แต่ยืนนิ่งตัวแข็งให้เขากอด เธอบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่รู้แต่ว่ารู้สึกดีตัวลอยเคว้งในอากาศเมื่อได้รู้หัวใจของคนป่าเถื่อน เธอดันเขาออกห่างและพยายามขืนตัวเองในวงแขนแข็งแรง แต่เขาก็ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดแต่กลับตรงข้าม เขากอดรัดเธอแน่นกว่าเดิม “รุ้งหายใจไม่ออกค่ะ ปล่อยก่อนได้ไหมแล้วรุ้งจะให้คำตอบคุณหิน” เธอบอกเมื่อเขากอดรัดเธอแน่นจนเริ่มหายใจไม่ออก “ฉันขอโทษ ก็ฉันกลัวเธอจะหนีฉันไป” เขาทำเพียงแค่คลายอ้อมกอดให้หลวม ไม่ยอมปล่อยเธอ “รุ้งไม่หนีหรอกค่ะ เพราะยังไม่ใส่เสื้อผ้าเลย” เธอบอกเขาเมื่อเขาไม่ยอมปล่อย “ฉันจะกอดเธอแบบนี้ บอกมาสิรุ้ง อยู่กับฉัน แต่งงานกับคนอย่างฉันได้ไหม” “แล้วทำไมถึงต้องเป็นรุ้งคะ?” เธอยังไม่ยอมตอบคนตัวโต แต่ถามกลับแทน “เพราะฉันรักเธอยังไงล่ะ ฉันรักเธอถึงต้องเป็นเธอเท่านั้นเด็กน้อย” เขาตอบสวน
ใกล้รุ้งถูกอุ้มมายังห้องนอนของเขาแบบไม่เต็มใจ พอมาถึงเขาก็จัดการลอกคราบเธอจนเหลือแต่ร่างเปลือย และเขาเองก็เช่นกัน กองพลเหมือนคนหิวโหยอดอยากมานานนับปีก็มิปาน เมื่อเขาโถมตัวขึ้นคร่อมทับแล้วดุนดันท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่ตื่นตัวตั้งแต่อุ้มเธอเดินมารึเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันแข็งขึงพร้อมแล้ว และตอนนี้เขาก็กระเสือกกระสนเข้ามาในตัวเธอจนจุกเจ็บ เพราะเธอห่างหายไปนานหลายเดือน “อ่ะ...เจ็บ!” ใบหน้าสวยของว่าที่คุณแม่บิดเบ้ด้วยความจุกเจ็บกลางร่าง และขยับตัวถอยหนี แต่คนเหนือร่างก็ขยับตาม “อ่า...ขอโทษที่ใจร้อน ก็ฉันคิดถึงเธอเด็กน้อย อ่า...ไม่ไหวแล้ว ให้ฉันเถอะนะ ตั้งกี่เดือนไม่เจอกัน อ่า...” “อ่ะ...แต่รุ้งท้องอยู่” เธอบอกเขาเพื่อให้เขาไม่รุนแรงกับตัวเอง จะว่าไปเธอเองก็คิดถึงความดุดันของบุรุษเหนือร่างเหมือนกัน เธอมักฝันและละเมอร้องหาเขาบ่อยๆ ยามค่ำคืน และตอนนี้ก็เป็นจริงแล้ว เธอกำลังนอนอยู่ใต้ร่างของกองพลและเขากำลังเคลื่
สามหนุ่มพี่น้องสุปรีย์เป็นเศร้าเป็นซึม คนที่เคยมั่นใจในตัวเองและจองหองผยองในตัวเองกลับต้องมานั่งหน้าเศร้ายกแก้วบรั่นดีขึ้นชนกันเองสามพี่น้อง กองบินก็ยังตามหาสาวน้อยไม่เจอ กองทัพเองก็เหมือนกัน เธอหนีไปพร้อมกับลูกของเขา จนตอนนี้ก็ยังตามหาไม่เจอ เขามันเลวเอง ส่วนกองพลพี่ชายคนโตก็ไม่ต่างกัน ใกล้รุ้งลูกสาวคนงานในเหมืองก็หนีไปพร้อมกับขโมยหัวใจที่ด้านชาของเขาไปด้วย เพล้ง! “หมดแก้วว่ะ!” คนเป็นพี่ชายบอกน้องชายทั้งสอง “เออว่ะ! หมดแก้วให้กับความรักระยำ แม่ง! ทำไมต้องหลงรักเด็กนั่นด้วยวะ!” กองบินเอ่ยสบถในตอนท้ายอย่างรวดร้าวอกตัวเองเมื่อนึกถึงหน้าหวานๆ ของคนที่จากไป “หึหึ...นั่นดิ ทำไมต้องพาลูกผมหนีไปด้วย แม่งเชี้ย! ไม่สงสารคนเป็นพ่ออย่างผมรึไงวะ! เนี่ยจ้างนักสืบและคนของตัวเองก็ออกตามหา แม่ง! ดันเป็นลูกสาวผู้ว่าอีก หาตัวยากเป็นบ้าเลยพี่” กองทัพเอ่ยบ้าง 
สองอาทิตย์แล้วที่ใกล้รุ้งหายไปจากสายตา ที่สำคัญเขาบาดเจ็บ เพราะวันที่ไล่จับกำนันชัดได้ปะทะกันจนโดนยิงที่อกซ้าย ดีที่เฉียดขั้วหัวใจสาหัสเอาการ แต่ก็ถือว่าคุ้ม เพราะสามารถจับกำนันชัดเข้าคุกได้สำเร็จ และนี่เขาเพิ่งฟื้นได้สติขึ้นมา กองพลมองทุกคนที่มาเยี่ยมมาเฝ้าไข้ มีพ่อที่เคารพรัก ป้าที่รักที่เลี้ยงเขามาจนโตและคุณแม่ที่เคารพรัก แม้ท่านจะแต่งงานใหม่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แต่ท่านและครอบครัวใหม่ก็ไม่เคยทิ้งลูกชายอย่างเขาและน้องชายทั้งสอง “แม่ดีใจที่หินอาการดีขึ้น รู้ไหมแม่กลุ้มใจมากกลัวว่าแม่จะเสียลูกชายคนนี้ของแม่ไป” นารีที่นั่งเก้าอี้ข้างเตียงของลูกชายจับมือใหญ่สากกร้านของลูกชายมาจูบหลังมือเบาๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบล้นออกมานอกดวงตา เพราะตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา นางร้องไห้ตลอดที่เข้ามาในห้องของลูกชายแล้วพบว่านอนนิ่งหมดสติพร้อมเครื่องช่วยหายใจ แต่วันก่อนลูกชายฟื้นขึ้นมาพร้อมกับหมอเข้ามาตรวจอาการและถอดเครื่องช่วยหายใจออก “ขอบคุณพระเจ้าที่ยังเข้าข้างลูกชายของแม่ แม่รักหินนะลูก” นางบอ
เพล้ง! ถ้วยข้าวต้มถูกปัดทิ้งกระทบพื้นทันทีเมื่อไอ้เนตรยกมาให้เขาทาน กองพลแทบคลั่งเมื่อตื่นเช้ามาไม่เจอใกล้รุ้ง และถามไอ้เนตร ไอ้เนตรก็บอกแต่ว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เจอ เพราะมาถึงก็เห็นเจ้านายนอนอยู่คนเดียวในห้อง และนั่นทำให้ผู้มาใหม่อย่างกองบินและกองทัพที่เพิ่งมาถึงพากันอยากรู้ทันทีว่าทำไมอารมณ์ของพี่ชายในเช้านี้ถึงได้เดือดดาลนัก “มึงจะไปไหนก็ไปเถอะไอ้เนตร เดี๋ยวกูกับพี่เหมจัดการพี่หินเอง” กองทัพเอ่ยไล่คนสนิทของพี่ชายออกไปให้พ้นสายตา พร้อมมองไปทางถ้วยข้าวต้มที่ตกแตกกระจายกับพื้น “มึงทำไมไม่กินข้าวไอ้พี่หิน” กองบินเอ่ยถามพร้อมดึงลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงของคนหน้าไม่รับแขก “กูไม่กิน! กูไม่อยู่มันแล้วโรงพยาบาล กูจะกลับบ้าน แล้วเรื่องกำนันชัดไปถึงไหน?” กองพลตอบกลับเสียงห้วน“แล้วไม่แกล้งป่วยแล้วเหรอ เห็นว่าเมื่อคืนมีพยาบาลส่วนตัวมาเฝ้
“อ่ะ...อื้อ ลึกอีกได้ไหมคะ อ่า...” ใกล้รุ้งกระดากอายเหลือเกินที่เรียกร้องให้เขาเข้าหาแบบนี้ “อ่า...นิ้วไม่ได้ลึกเท่าดุ้นเนื้อของผัวหรอกนะทูนหัว อ่า...อยากได้ไหม” เขาถามเธอพร้อมกับดึงนิ้วออกมาดูดเลียพร้อมยกหน้าขึ้นจากกลางหว่างขาของเธอ “อ่า...ร้อน รุ้งไม่ไหวแล้วคุณหิน ได้โปรดเถอะ อื้ม...รุ้งต้องการคุณค่ะ” เธอสุดจะอาย แต่ก็พูดออกไปแล้วว่าต้องการคนเถื่อนสารเลวคนนี้ “โอว์...ทูนหัว ต้องการผัวเหรอจ๊ะ อ่า...ผัวก็ต้องการรุ้งเหมือนกันครับผม” แผลที่หัวไม่ได้มีผลกับการเสพสวาทรวมร่างกับใกล้รุ้งเลยสักนิด จริงอย่างที่หล่อนบอกว่ามันไกลหัวใจเขาตั้งเยอะ กองพลรีบจัดการถอดชุดของโรงพยาบาลตัวเองออกทันที เมื่อตอนนี้เขาและหญิงสาวไม่อาจลีลาได้อีกแล้ว “อ่ะ...อื้อ” เธอแอ่นเด้งเร่าตอบรับความใหญ่ที่สอดกระแทกเข้าหาทันที ความใหญ่โตอัดจุกในท้องน้อย ทั้งแน่นและอึดอัดและสุขในคราเดียวกันเมื่อเอวสอบของบุรุษเริ่มโยกไหวกดคลึงเร่าจังหวะเข้าออกในตัว