Share

บทที่ 6 เสื่อมถอย

last update Last Updated: 2025-07-26 04:16:52

บทที่ 6 เสื่อมถอย

สิ่งที่กำลังดำเนินอยู่แคว้นอีกฟาก

หลี่โหวมักพาชายารองมาเรือนหมากล้อมทุก ๆ สองวัน สมัยยังเป็นเพียงคุณชายหลี่อวิ้นรุ่ย เขาก็ชอบมาเช่นนี้ เพียงแต่ข้างกายของเขาในตอนนั้น… เป็นสตรีนางหนึ่ง นางดูแปลกตาไปจากสตรีทั่วไป จนเมื่อเวลาผ่านไปเขาจึงรู้ ว่านางเป็นหญิงสาวจากต่างถิ่น แต่มากด้วยฝีมือหมากล้อม ทุกครั้งที่นางมากับเขา มักจะมีคนเข้าหาขอประลองฝีมืออยู่เสมอ

หลี่โหวทรุดตัวลงนั่งที่ประจำเช่นเคย เดิมทีวันนี้เขามาเพื่อโอ้อวดว่าได้แต่งกับคุณหนูหวัง หญิงสาวที่ตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างหมายตาอยากได้เป็นสะใภ้ แต่หลังจากแต่งงานกับหวังอีเหมยและพานางมาที่เรือนหมากล้อม ก็มีเพียงผู้คนเข้ามาแสดงความยินดีในเรื่องการแต่งงาน ทว่ากลับไม่มีใครเอ่ยชวนเขาดวลหมากเลยสักตา

ความเงียบงันเช่นนี้ทำให้หลี่โหวรู้สึกอึดอัด เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนหันไปสั่งต้าหวัง บ่าวรับใช้ที่ติดตามเขามาตั้งแต่วัยเยาว์

“ต้าหวัง เจ้าไปเชิญท่านเจียงมาร่วมดวลหมากกับข้าสักตา”

ต้าหวังได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด ฝีมือหมากล้อมของนายท่านหากวัดตามลำดับแล้ว คงอยู่แทบจะท้าย ๆ ของเรือนหมากล้อมนี้ แต่กลับให้เขาไปเชิญท่านเจียง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งมาประลองด้วย… จะมิกลายเป็นขายหน้าตัวเองหรือ

ต้าหวังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นสายตาของหลี่โหวที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ก็ได้แต่กลืนคำคัดค้านลงไปในลำคอ ก่อนจะโค้งคำนับแล้วถอยออกไป…

“ไม่ล่ะ เสียเวลา”

เสนาบดีเจียงตอบปฏิเสธทันที น้ำเสียงเรียบเฉยไร้ความลังเล

หากพบกันภายนอก เขาคงไม่เอ่ยปฏิเสธหลี่โหวเช่นนี้ อาจรักษามารยาทยอมดวลด้วยสักตา แต่ที่เรือนหมากล้อมแห่งนี้ ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน ไม่ขึ้นกับยศถาบรรดาศักดิ์หรืออำนาจทางการเมือง หากเขาต้องลดมือลงไปดวลกับผู้ที่ฝีมือห่างชั้นเพียงเพื่อเอาใจ จะมิกลายเป็นว่าเขาฉวยโอกาสรังแกหลี่โหวหรอกหรือ

ยิ่งไปกว่านั้น… หากลงมือแล้วชนะ ก็คงไม่มีผู้ใดเห็นว่าเป็นเรื่องน่ายกย่อง แต่หากเผลอพลาดท่าเสียทีไป ไม่แน่ว่าอาจกลายเป็นเรื่องครึกโครมในวันพรุ่งก็ได้

ต้าหวังยืนตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าเอ่ยอะไร ได้แต่ก้มศีรษะล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ฟังคำรายงานของบ่าว หลี่โหวก็หน้าดำคล้ำด้วยโทสะ ดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“เสนาบดีเจียงปฏิเสธข้าเช่นนั้นหรือ” น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ

ต้าหวังก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าตอบสิ่งใด

หลี่โหวกำมือแน่นก่อนจะลุกขึ้นก้าวตรงไปยังที่นั่งของเสนาบดีเจียงด้วยตนเอง เสื้อคลุมยาวสะบัดตามแรงฝีเท้า บรรยากาศรอบตัวเขาดูเคร่งขรึมขึ้นจนผู้คนในเรือนหมากล้อมเริ่มหันมามองด้วยความสนใจ

เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าชายวัยกลางคนที่กำลังวางหมากอยู่ หลี่โหวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

“ท่านเจียง ข้าขอดวลกับท่านสักตา”

เสนาบดีเจียงละสายตาจากกระดานหมาก ลอบถอนใจเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองเขา ดวงตาฉายแววเรียบเฉย ไม่มีความยำเกรงหรือรีรอแม้แต่น้อย

“หลี่โหว ข้าไม่ว่าง” เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะหันกลับไปสนใจหมากเบื้องหน้าอีกครั้ง ราวกับว่าหลี่โหวเป็นเพียงสายลมพัดผ่าน

บรรยากาศรอบข้างพลันเงียบกริบ…

“ทุกครั้งที่ข้ามา ท่านก็รับคำท้าประลองหมากทุกครั้ง ไยครานี้จึงไม่รับ”

หลี่โหวเอ่ยถาม เสียงของเขาข่มอารมณ์โทสะเอาไว้ แต่ความไม่พอใจยังคงฉายชัดอยู่ในดวงตา

เสนาบดีเจียงเงยหน้าขึ้นมองบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้า… บุรุษที่เมื่อก่อนแทบไม่มีใครใส่ใจ หากมิใช่เพราะแซ่หลี่และสายเลือดของเขา เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดเหลียวแล ทว่าการที่หลี่อวิ้นรุ่ยก้าวขึ้นมาเป็นหลี่โหว ไม่ใช่เพราะความสามารถของเขาเอง แต่เป็นเพราะมี ผู้หนุนหลัง และคนผู้นั้นก็คือตัวเขาเอง

จากเชื้อพระวงศ์ที่ไม่ได้มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์เขาอุตส่าห์นำความไปทูลฮ่องเต้ ว่าหลี่อวิ้นรุ่ยผู้นี้ทำความดีความชอบและจะสามารถนำพาแคว้นฉู่ก้าวไปสู่ยุคใหม่ จนได้ศักดินา

เขาเคยคาดหวัง…

หวังว่าการผลักดันหลี่อวิ้นรุ่ยขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม จะช่วยให้หญิงสาวผู้นั้นสามารถใช้สติปัญญาที่นางมีผ่านสามีของนางได้ เพราะโลกนี้ไม่เปิดโอกาสให้สตรีได้ออกหน้า หรือได้รับการยอมรับในความสามารถ หากนางต้องการแสดงอำนาจหรือมีบทบาทในการกำหนดชะตา นางต้องทำผ่านบุรุษที่เป็นสามีของตน และเขาก็เต็มใจจะช่วย…ยามนางเอ่ยปากขอร้องให้ช่วยหนุนหลังคนสติปัญญาต่ำเตี้ยเช่นนี้ เขาคิดว่านางคงจะควบคุมความคิดอ่านของสามีได้

แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว

เขามองหลี่โหวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“เพราะข้าไม่มีเวลาเสียให้กับคนที่ไม่รู้จักใช้โอกาสให้คุ้มค่า”

หลี่โหวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่สีหน้าจะมืดดำลงกว่าเดิม…

“หากนางยังอยู่ ข้าคงยอมดวลหมากกับท่าน”

เสนาบดีเจียงกล่าวเสียงเรียบ แต่ทุกถ้อยคำกลับคมกริบดุจใบมีด แม้ไม่เอ่ยชื่อหลินซือเหยาออกมา คนทั้งเรือนหมากล้อมก็รู้ดีว่าเสนาบดีเจียงกำลังพูดถึงผู้ใด

“เพราะอย่างไร ทุกย่างก้าวที่เดินหมาก แต่ละตาที่ลงไป ล้วนมีนางคอยกระซิบข้างหูท่านโหวเสมอ”

ดวงตาของชายวัยกลางคนจับจ้องหลี่โหว ไม่ได้แฝงความท้าทาย หากแต่เป็นความผิดหวัง

“แต่ยามนี้… ไร้ซึ่งเงาของนางข้างกาย เกรงว่าจะเป็นการเสียเวลาเปล่า เมื่อรู้ผลแพ้ชนะตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม”

คำพูดของเสนาบดีเจียงทำให้หลี่โหวรู้สึกเหมือนถูกแทงเข้ากลางใจ ความโกรธก่อตัวจนลมหายใจของเขาติดขัด มือทั้งสองข้างกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ดวงตาที่เคยมั่นใจในตนเองเริ่มแฝงไปด้วยความปั่นป่วน ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า คำพูดนั้นสะท้อนความจริงที่เขาปฏิเสธมานาน

หลังจากที่ได้ตำแหน่งโหวมา เขาพยายามอย่างหนักเพื่อกดซือเหยาลง เพื่อที่ตนเองจะได้ภูมิใจในอำนาจและตำแหน่งที่ได้รับมาอย่างสมเกียรติ นี่คือสิ่งที่เขาคิดว่าเขาสมควรได้รับ แต่เขาจะยอมรับได้อย่างไร… ว่าทุกอย่างที่เขามีในตอนนี้ มันเกิดจากการสนับสนุนของสตรี

สตรีที่ไร้หัวนอนปลายเท้า สตรีที่ไม่มีสกุลใด ๆ หนุนหลัง

การยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีในวันนี้เป็นผลมาจากความช่วยเหลือของซือเหยา ซึ่งไม่ใช่แค่จากฝีมือและความสามารถของเขาเอง มันจะทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังยอมรับว่าตนเองอ่อนแอ… ไม่มีค่าพอที่จะได้สิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง

การยอมรับความจริงที่ว่าตำแหน่งที่เขามีอยู่ได้มาเพราะการสนับสนุนจากสตรี จะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาที่ยิ่งใหญ่พังทลายลง เขาจะยอมรับได้อย่างไร

ใช่… ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่เขาประลองหมากกับเสนาบดีเจียง เขาอาจเป็นผู้ลงหมากเอง แต่แท้จริงแล้ว ใครกันที่เป็นผู้วางหมากตัวจริง

เงาของหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่เคียงข้าง ทว่าบัดนี้ไม่อยู่แล้ว…

ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วเรือนหมากล้อม ผู้คนรอบข้างลอบมองด้วยความสนใจ บางคนแสร้งทำเป็นไม่เห็น ขณะที่บางคนเริ่มซุบซิบกันเบา ๆ

แต่หลี่โหวไม่ได้ยินเสียงใดทั้งสิ้น นอกจากเสียงของความจริงที่เสียดแทงเข้าในใจเขาเอง…ความจริงที่เขาหลอกตนเองมาตลอด

เสนาบดีเจียงก้มมองกระดานหมากตรงหน้า หยิบเม็ดหมากขึ้นมาหมุนเล่นในมืออย่างใช้ความคิด เขาเองก็ไม่ใช่คนที่หวั่นไหวง่ายต่อข่าวลือ ในคราแรกที่ได้ยินข่าวเขาไม่เชื่อ ตกใจมิน้อยที่รู้ข่าวว่าหลินซือเหยากระโดดบ่อน้ำปลิดชีพตนเอง เพียงเพราะสามีแต่งภรรยาอีกคน แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปถึงสามเดือน โดยไร้เงาของหลินซือเหยาอยู่เคียงข้างหลี่โหวเหมือนเช่นเคย เขาก็เริ่มต้องยอมรับความจริง

“ซือเหยา… เจ้าจากไปจริง ๆ แล้วหรือ”

เขาไม่ได้รู้สึกเสียดายเพียงเพราะนางเป็นหญิงสาวผู้ปราดเปรื่องด้านหมากล้อม แต่เขาเสียดายความสามารถของนางที่เคยช่วยวางรากฐานหลายสิ่งให้กับแคว้นฉู่ นางเป็นมันสมอง เป็นผู้วางแผน เป็นคนที่หลี่โหวมักจะขอคำปรึกษา แม้หลี่โหวจะไม่ยอมรับต่อหน้าผู้ใดก็ตาม

แต่ตอนนี้… นางไม่อยู่แล้ว

หลี่โหวเป็นคนทะเยอทะยานก็จริง แต่เขาไม่ใช่คนฉลาดพอที่จะรักษาสิ่งที่ได้รับมา หากไร้ซือเหยาอยู่ข้างกาย อีกไม่นานอำนาจของเขาก็คงจะเริ่มสั่นคลอน

เสนาบดีเจียงถอนหายใจยาว พลางวางเม็ดหมากลงบนกระดาน หมากตานี้เขายอมเสียไปโดยไม่คิดจะเล่นต่อ เพราะไม่ว่ากี่ตาที่ผ่านมา ซือเหยาก็มักจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเสมอ

“เสียดาย… เสียดายจริง ๆ” ความก้าวหน้าของแคว้นฉู่

ชายวัยกลางคนส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะหันไปจิบชาช้า ๆ แต่แม้รสชาในถ้วยจะขมกลมกล่อมเพียงใด มันก็ไม่อาจล้างรสขมปร่าในใจเขาได้เลย…

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wanrada Namkoksee
อย่าลืมมาอัฟต่อนะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   ตอนพิเศษ 3

    ตอนพิเศษ 3ซีเยว่มองอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คล้ายกับที่มารดาและบิดาของตนประดิษฐ์ แต่ของที่นี่ดูใหม่กว่า แต่ระหว่างที่กำลังจะดูเครื่องมือและยาเหล่านั้นให้ชัดเจน บรรดาทหารก็ยกคนป่วยเข้ามา “พวกเราถูกโจมตี ต้องการหมอมาก ท่านหมอคงจะยุ่งสักหน่อย” คนเหล่านั้นพูดเพียงแค่นั้นและปล่อยหญิงสาวเอาไว้กับบรรดาคนเจ็บคนแล้วคนเล่าบาดแผลที่ซีเยว่เห็นนั้นต่างจากการสู้รบที่นางเคยเห็น แม้บาดแผลจะเล็ก แต่กลับมักมีลูกกระสุนอยู่ข้างในหญิงสาวมองกระสุนที่ว่า ดูเหมือนพวกกระสุนปืนใหญ่ แต่ว่าเล็กมาก ซีเยว่ผ่าตัดทำแผล และยื้อชีวิตของเหล่าทหารที่ดูแลเขตนี้เอาไว้ได้ แต่ว่านั่นก็ทำให้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดหายไป หญิงสาวย้อนกลับไปดูคนที่คนเหล่านี้เรียกว่าผู้บัญชาการ “ที่แห่งนี้แปลกจริง ๆ” หญิงสาวอดสงสัยไม่ได้ว่าตนมาอยู่ที่ใดกัน แต่อีกใจก็รู้สึกว่าโชคดีที่ได้ช่วยชีวิตคน แต่อุปกรณ์และชื่อที่เขียนแปะเอาไว้ที่ขวดยาบางขวดก็แปลกนัก ภาษาที่มารดาของนางเคยสอนเมื่อนานมาแล้ว มีตัวอักษรพวกนั้นเขียนอยู่บนนั้น แต่ชื่อของยากลับไม่ใช่สิ่งที่นางรู้จัก โชคดีที่คนเหล่านั้นบาดเจ็บภายนอกเป็นส่วนมาก สิ่งที่ใช้ก็มีแค่น้ำที่เหมือนสุราที่มารดาขอ

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยแสงสีทอง มีร่างหนึ่งนั่งอยู่ริมบ่อน้ำที่เคยเป็นประจำ นางมักมาที่นี่บ่อยครั้งโดยไม่รู้สาเหตุ ราวกับมีบางสิ่งดึงดูดให้นางมาอยู่ ณ จุดนี้ ระลอกคลื่นกระเพื่อมเป็นวงก่อนจะค่อย ๆ สงบนิ่ง ทว่าทันใดนั้นเอง ลมแรงกะทันหันก็พัดผ่าน นำพากลีบดอกไม้ปลิวว่อนแสงสีฟ้าประหลาดเริ่มเรืองรองขึ้นจากก้นบ่อน้ำ“ซีเยว่ มืดแล้วเจ้าเข้ามาข้างในเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน” เสียงตะโกนจากในกระท่อมเรียกให้หญิงสาววัยแรกแย้มหันไปมองมารดาด้วยรอยยิ้ม แม้จะผ่านช่วงปักปิ่นมาแล้วถึงสามปีแต่ดูเหมือนไป๋ซีเยว่จะไม่สนใจที่จะมีคู่ หญิงสาวยังคงใช้ชีวิตอยู่กับบิดามารดาและกระท่อมใหม่ที่สร้างอยู่ไม่ไกลก็คือกระท่อมของพี่ชายไป๋เจียงเฉิงที่ตอนนี้แต่งงานอยู่กินกับพี่สะใภ้ชุนเหยา“ข้าขอจัดการล้างสมุนไพรตรงนี้อีกสักนิดเจ้าค่ะ” เด็กสาวตะโกนบอกมารดาของตน ชุดของนางตอนนี้ยังอยู่ในชุดที่เตรียมพร้อมจะรักษาคน เพราะวันนี้คนไข้ของบิดาเยอะนักนางจึงเข้ามาช่วยแต่จู่ ๆ มือที่กำลังล้างสมุนไพรก็ชะงักเมื่อหญิงสาวรู้สึกถึงหมอกที่ดูหนากว่าปกติ “นี่มันหน้าร้อนนะทำไมถึงมีหมอกมากเช่นนี

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1ยามสาย ลมเย็นพัดโชยผ่านสวนดอกไม้รอบเรือน เด็กหญิงตัวน้อยยังคงนั่งอยู่บนตักของมารดา ดวงตากลมใสจับจ้องมือตัวเองที่ซือเหยากำลังประคองไว้“ท่านแม่ ข้ามีคนรักได้ไหมเจ้าคะ” เด็กน้อยเอ่ยถามมารดาเสียงใส นางเห็นพี่ชายมีคนรัก และเขาบอกว่ารักหญิงสาวผู้นั้นมาก วันหนึ่งจะต้องแต่งงานให้ได้ ซีเยว่ไม่เข้าใจ แต่นางอยากมีบ้างซือเหยามองบุตรสาว พลางใช้นิ้วเรียวเกลี่ยเส้นผมนุ่มที่ปรกหน้าผากของนางออก “ได้สิ เจ้าสามารถรักใครก็ได้ แต่จงอย่ารักใครมากกว่าตัวเอง”“เพราะเหตุใดหรือเจ้าคะ”ซือเหยานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มบาง ๆ “เพราะเมื่อเจ้ารักใครมากเกินไป เจ้าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา แม้กระทั่งทำร้ายตัวเอง”เด็กหญิงกะพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่เข้าใจ “แต่ท่านแม่ก็รักข้ามากกว่าตัวเองไม่ใช่หรือเจ้าคะ”ซือเหยาหัวเราะเบา ๆ พลางกระชับอ้อมกอด “เจ้าคือบุตรของข้า เจ้าคือชีวิตของข้า นั่นเป็นความรักที่แตกต่างออกไป”เด็กหญิงเงยหน้ามองมารดา นางยังคงไม่เข้าใจทั้งหมด แต่กลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นจากน้ำเสียงอ่อนโยนของมารดาได้เป็นอย่างดี“เจ้าจงรักตัวเองให้มาก จำไว้ว่าหากวันใดเจ้าต้องเลือกระหว่างตัวเจ้าเองกับผู้อ

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   บทที่ 34 เริ่มต้นด้วยร้าย จบด้วยรักแท้

    บทที่ 34 เริ่มต้นด้วยร้าย จบด้วยรักแท้ซือเหยายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในหมู่บ้าน หญิงสาวที่เคยเป็นเพียงเงาไร้ตัวตนในจวนหลี่ ตอนนี้กลับมีชีวิตที่สงบสุข นางช่วยไป๋อวิ๋นรักษาผู้คน ศึกษาการแพทย์ และพบว่าชีวิตไม่ จำเป็นต้องจมอยู่กับอดีต“พอข้าได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ข้าคิดว่าเจ้าจะกลับไปแก้แค้น” ไป๋อวิ๋นพูดขณะบดสมุนไพรซือเหยาหัวเราะเบา ๆ “แก้แค้นเพื่ออะไร คนอย่างเขาไม่ต้องรอให้ข้าทำอะไร ก็คงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว”ไป๋อวิ๋นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “เจ้าคิดถูกแล้ว… คนที่ไม่เห็นค่าผู้อื่น สุดท้ายก็ไม่มีใครเหลืออยู่ข้างกาย”ซือเหยายิ้มบาง ๆ นางเคยทุกข์ทรมาน เคยหวังจะให้คนที่ทำร้ายตนต้องชดใช้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป นางตระหนักว่าการปล่อยวางทำให้หัวใจของนางเป็นอิสระชีวิตนางเพิ่งเริ่มต้น… และมันจะไม่จบลง โดยที่นางเองไม่ได้เสียเวลาไปกับการคิดแก้แค้นและเอาคืนผู้ใด นางอยู่กับปัจจุบัน เลือกที่จะมีความสุขกับสิ่งที่มี แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านผ้าม่านบางเบาที่ปลิวไหวตามสายลมยามเช้า ซือเหยานั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองทิวทัศน์ของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบนับตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาในกระท่อมไม้ไผ่แห่งนี้ ทุกวันผ่านไปอย่างเรียบง่าย

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   บทที่ 33 ดาบนั้นคืนสนอง

    บทที่ 33 ดาบนั้นคืนสนองซีเยว่และชุนเหยากำลังหัวเราะคิกคักเล่นเจ้ากระต่ายน้อย ทั้งสองอยู่ในสายตาของครอบครัว“วันนี้ไป๋อวิ๋นบอกว่าท่านลุงอาการดีขึ้นมาก แม้อายุจะมากขึ้นแต่กลับแข็งแรงยิ่งกว่าแต่ก่อนเสียอีก” ซือเหยามาบอกกับลี่จินที่กำลังนั่งมองลูกสาวของนางก ับคนที่มีพระคุณพร้อมกับสามีที่นั่งยิ้มอย่างยินดี“ที่จริงวันนี้ข้ามาที่นี่ เรื่องหนึ่งก็มาเอายาให้ท่านลุง แต่ว่าท่านพี่ ข้ามีเรื่องจากเมืองหลวง” ตั้งแต่ไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งขึ้น สุดท้ายทั้งสองก็ตั้งใจว่าจะเป็นพี่น้องของกันและกัน ไม่มีฮูหยินและสาวใช้อีกต่อไป“ข่าวจากเมืองหลวงหรือ” ซือหยามองหน้าลี่จิน “ใช่เจ้าค่ะ สาวใช้ที่เคยอยู่ในจวน...” คำที่หายไปไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเอ่ยถึงใคร “ทำไมหรือ” “นางบอกว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เหมือนเขาจะกระโดดบ่อน้ำเดียวกับที่ท่านพี่เคยกระโดด” มือเรียวของซือเหยาถูกยกขึ้นทาบอกทันที ไม่ใช่เพราะนางกังวลเรื่องของอดีตสามี แต่เป็นเพราะกังวลว่าอีกฝ่ายจะมาโผล่ที่นี่“แล้วศพเจอหรือไม่” ลี่จินส่ายหน้า “ไม่พบ หายไปเหมือนกับตอนท่านพี่ไม่มีผิด” ซือเหยารู้สึกกังวลใจแปลก ๆ เกรงว่าคนผู้นั้นจะมาโผล่ที่นนี่“แต่เรื่องเกิด

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   บทที่ 32 เจ้าตัวเล็ก

    บทที่ 32 เจ้าตัวเล็กวันเวลาผ่านไป ผ่านร้อนผ่านหนาวไปหลายฤดู แต่หลินซือเหยาก็ยังคงอยู่กับไป๋อวิ๋นที่บนเขา ต่างกันตรงตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่อย่างเดียวดายแล้ว“ท่านพ่อท่านแม่ขอรับ ผลไม้อันนี้แก้เจ็บคอได้ใช่ไหมขอรับ” ไป๋เจียงเฉิงวิ่งถือมะขามป้อมเข้ามาในกระ ท่อม ไป๋อวิ๋นหันมามองแล้วก็พยักหน้า“เจ้าเก่งมากอาเฉิง ต่อไปต้องให้เจ้ามาช่วยพ่อรักษาคนไข้แล้วกระมัง” เด็กน้อยกระโดดขึ้นทันที “ข้าอยากช่วยขอรับ ให้ข้าช่วยได้นะขอรับ” ซือเหยาส่ายหน้า "ลูกต้องโตกว่านี้อีกนะจ๊ะอาเฉิง แล้วน้องสาวของลูกไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ”ซือเหยาถามหาไป๋ซีเยว่ มองไปด้านหลังลูกชายก็ไม่เจอกับลูกสาว “นางวิ่งตามกระต่ายป่า ข้าห้ามก็ไม่ฟัง นั่งเล่นกระต่ายอยู่ตรงชายป่านั่น” ไป๋อวิ๋นได้ยินก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงชายป่าที่ว่า เขากังวลเพราะตรงนั้นมันใกล้กับน้ำพุ หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เขาไม่อยากจะคิด แม้ว่าจะอยากทุบทิ้งไปเสียแต่คุณค่ามากกว่า อย่างน้อย ๆ ก็เอารั้วมากั้นเอาไว้แล้ว“ซีเยว่ลูก ซีเยว่” เด็กหญิงนั่งลูบขนกระต่ายป่าอยู่ น่าแปลกที่สัตว์ตัวเล็ก ๆ มักจะยอมให้ซีเยว่ได้จับ หากเป็นคนทั่ว ๆ ไปเข้าใกล้สัตว์ตัวเล็กเช่นนี้พวกมันก็ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status