Share

บทที่ 8

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-02 04:00:00

ด้วยอารมณ์โกรธอ๋องหมิงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องหนังสือและกระแทกปิดประตูเสียงดังลั่น พร้อมกับตะโกนสั่งองครักษ์คนสนิท

"อย่าให้ผู้ใดมารบกวน!"

เหลยคังที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงดังโครมคราม เสียงของกระแทกบ้าง เสียงของแตกบ้างดังมาจากข้างในห้องอยู่เป็นระยะ

ท่านอ๋องคงจะระบายอารมณ์อยู่เป็นแน่ ไม่ได้เห็นท่านอ๋องอารมณ์รุนแรงเช่นนี้มานานแล้ว พระชายาทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ถึงเพียงนี้

อ๋องหมิงนั่งกอดอกทำหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงาน พยายามระงับอารมณ์ของตนเองไม่ให้เดือดดาลไปมากกว่านี้

ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าดีหยางเพ่ยเพ่ย

เขาควรทำให้นางทุกข์ทรมานจนไม่สามารถทนอยู่ที่นี่ได้ หรือจะอ้างว่านางทำตัวไม่เหมาะสมแล้วขอให้เสด็จพี่ประทานหนังสือหย่าให้นางเสีย เขายอมแต่งงานกับนางตามราชโองการแล้วนี่ ก็มิใช่ว่าเสด็จพี่จะยกเลิกราชโองการไม่ได้ หากเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่านางประพฤติตัวไม่เหมาะสม

หึ...ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าไปเสวยสุข สตรีร้ายกาจเช่นเจ้าควรได้รับบทเรียน ให้ทนทุกข์อยู่กับข้าเสียที่นี่ให้สาสมเสียก่อน เบื่องั้นรึ ดี! ให้นางทนเบื่ออยู่แต่ในตำหนักอ๋องจนกระอักเลือดตายไปเสีย

อ๋องหมิงโมโหจนไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ เขาพยายามควบคุมอารมณ์อย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะไม่ลงมือกับนางอย่างในคืนนั้นอีก

ความจริงแล้วเขาเองก็รู้สึกผิดกับการกระทำครั้งก่อนอยู่ลึกๆ เขาทำร้ายนางด้วยอารมณ์โมโหผสมกับฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มเข้าไปก่อนหน้า ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีใจให้นาง แต่ก็ไม่ได้เกลียดนางถึงเพียงนั้น

แต่จะให้คนอย่างเขาไปขอโทษก็ไม่ใช่เรื่อง นางรนหาที่เอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาสั่งให้องครักษ์เงาคอยเฝ้าดูนางอยู่ตลอด ที่จริงแล้วเขาก็กลัวว่านางจะเป็นอะไรไป จึงได้ให้คนคอยติดตามดูอาการของนางอยู่ห่างๆ

พอเขาทราบว่านางเริ่มหายดีแล้วเขาจึงสั่งให้คนของเขาเลิกติดตามนาง แต่ใครจะรู้ว่าพอเขายกเลิกคำสั่ง นางก็ก่อเรื่องขึ้นมาทันที

เดิมทีเขาอยากให้ต่างคนต่างอยู่กันอย่างสงบและสันติ แต่เห็นทีตั้งแต่วันนี้เขาต้องทำให้นางหลาบจำเสียบ้าง นางเป็นใครถึงได้กล้ามาหยามเขาเช่นนี้

"ท่านอ๋อง แม่นางฝูให้มาเรียนถามว่าท่านจะไปรับสำรับเย็นกับนางหรือไม่พะยะค่ะ"

เหลยคังเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะอารมณ์โกรธเกรี้ยวของผู้เป็นนาย

ใช่แล้ว ไปหาเหวินเอ๋ออาจจะทำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้นบ้าง

"ไปตอนนี้" พูดจบอ๋องหมิงก็เปิดประตูออกมาจากห้อง

"สั่งคนมาเก็บกวาดให้เรียบร้อย"

"พะยะค่ะ"

เมื่อเหลยคังมองเข้าไปในห้องหนังสือเขาถึงกับส่ายหน้าไปมา นึกสงสารคนเก็บกวาดยิ่งนัก

-โถงกลางตำหนักใหญ่-

"ศิษย์พี่มาแล้ว นั่งก่อนสิเจ้าคะ"

"อืม"

"ข้าได้ยินมาว่าศิษย์พี่หลิงฟงมา แล้วเหตุใดพี่หลิงฟงกับพระชายาถึงได้กลับมาพร้อมกันได้ล่ะเจ้าคะ"

อู๋เหยาหมิง ยังคงโมโหอยู่แต่ก็ยังตอบกลับฝูเหวิน

"อืม หลิงฟงเพียงแค่มาส่งนาง นางออกไปพบกับพี่ชายของนางที่เป็นสหายกับหลิงฟง"

ฝูเหวินลอบมองดูอาการของอ๋องหมิง นางดูออกว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี

"พระชายาก็มิไว้หน้าศิษย์พี่บ้างเลย ได้ข่าวว่าเมามายกลับมา ศิษย์พี่คงจะขุ่นเคืองใจเรื่องนี้ใช่หรือไม่เจ้าคะ"

"อืม ยังดีที่นางปลอมตัวเป็นบุรุษ มิเช่นนั้นคนคงได้เอาไปพูดกันสนุกว่าหมิงหวางเฟยเพิ่งจะแต่งเข้ามายังไม่ทันไรก็สวมหมวกเขียวให้ข้าเสียแล้ว"

นึกแล้วก็โมโห นางเป็นสตรีของเขาแม้ว่าจะแค่ในนามก็ตาม แต่นางก็มิควรจะใกล้ชิดบุรุษที่ไม่ใช่ญาติหรือสามีเช่นนี้ หลิงฟงก็อีกคน คงไม่ได้ชอบนางจิ้งจอกนี่เข้าหรอกนะ

อ๋องหมิงกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น

"ศิษย์พี่อิ่มแล้วหรือเจ้าคะ ท่านทานไปแค่นิดเดียวเอง อาหารมิถูกปากหรือเจ้าคะ ให้ข้าสั่งคนครัวให้จัดสำรับใหม่ดีไหม"

"ไม่ต้องหรอก ข้ามิค่อยหิวเท่าไหร่ ยังมีงานค้างอยู่อีกมาก พรุ่งนี้ยังต้องเข้าเฝ้าเสด็จพี่แต่เช้า"

หน้าตาของอ๋องหมิงเริ่มแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าอย่างมาก

"ศิษย์พี่อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะเจ้าคะ"

ฝูเหวินรินน้ำชาให้อ๋องหมิง และคอลอบมองดูสีหน้าท่าทางของเขาอยู่ตลอด นางต้องแน่ใจว่าเขาไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมาเพราะหึงหวงหยางเพ่ยเพ่ย

เมื่อรับสำรับเย็นเสร็จอ๋องหมิงก็กลับมาทำงานต่อที่ห้องหนังสือ

"ท่านอ๋อง องค์ไทเฮาทรงให้กงกงในวังมาแจ้งพระประสงค์ว่าหากพระชายาหายป่วยไข้แล้ว ให้ท่านอ๋องและพระชายาเข้าเฝ้าพร้อมกันในวันพรุ่งนี้พะยะค่ะ"

เหลยคังรีบเข้ามารายงาน

"อืม ส่งคนไปแจ้งนางด้วย"

"พะย่ะค่ะ" แม้จะรับคำแต่ในใจเหลยคังนั้นกลับวิตกแทนหยางเพ่ยเพ่ยอยู่ไม่น้อย

สภาพเช่นนั้น…พระชายาจะตื่นไหวงั้นรึ

อ๋องหมิงก้มหน้าก้มตากลับมาจัดการกับกองงานตรงหน้าต่อ กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็ล่วงเลยไปถึงปลายยามจื่อ*

"เหลยคัง เจ้าไปแจ้งพระชายาเรียบร้อยแล้วหรือยัง"

"กระหม่อมไปที่ตำหนักพระชายาแต่พระชายาทรงเข้าบรรทมไปตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว กระหม่อมจึงฝากเรื่องไว้กับสาวใช้ของพระชายาแทนพะยะค่ะ"

"จะได้เรื่องงั้นรึ เจ้าควรแจ้งนางให้นางรับทราบด้วยตัวเอง หากพรุ่งนี้นางไม่ตื่นข้าก็ต้องหาเหตุผลไปผัดผ่อนเสด็จแม่อีก"

"กระหม่อมจะกลับไปแจ้งพระชายาอีกครั้งพะยะค่ะ"

"ไม่ต้อง...ไปตำหนักพระชายา!"

อ๋องหมิงออกคำสั่งแล้วลุกขึ้นเดิมนำไปในทันที

ทำไมต้องไปแจ้งเองหรือท่านอ๋องจะหาเรื่องไปพบหน้าพระชายากันแน่

เหลยคังรับรู้ได้ถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง ก่อนจะรีบเดินตามอ๋องหมิงไป

เมื่อไปถึงยังหน้าตำหนักจันทรา อู๋เหยาหมิงเอาแต่ยืนจ้องเข้าไปในตำหนักไม่ทำอะไรเสียทีจนเหลยคังต้องเอ่ยเตือน

"ให้กระหม่อมไปตามสาวใช้ให้มาปลุกพระชายาดีไหมพะยะค่ะ"

"ไม่ต้อง! ข้าจะเข้าไปเอง เจ้ารออยู่ข้างนอกนี่ก็พอ"

พูดจบเขาก็เปิดประตูก่อนจะเดินหายเข้าไปภายในตำหนักที่บัดนี้มืดสนิทเพราะคนในตำหนักเข้านอนกันไปหมดแล้ว

เฮ้อ! หากข้าไม่กล่าวกระตุ้น ท่านอ๋องคงจะยืนเฝ้าอยู่หน้าตำหนักจันทราทั้งคืนเป็นแน่

ท่านอ๋องของเขาทรงเป็นอะไรไปหรือว่ามีอะไรบางอย่างที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปกันแน่ หากเป็นเช่นนั้นได้ก็ย่อมดีแท้แน่นอน อย่างไรเขาก็อยากเห็นท่านอ๋องปรองดองกับพระชายามากกว่าทะเลาะกันดังเช่นเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

อ๋องหมิงเดินเข้ามาหยุดยืนจ้องมองเพ่ยเพ่ยอยู่ข้างเตียงนอนของนาง ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงนั้นหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ขาและแขนของนางก่ายไปบนหมอนข้างใบใหญ่ ผ้าห่มก็ร่นลงไปกองอยู่ปลายเท้า

หึ...ช่างดูไม่สมกับเป็นกุลสตรีเอาเสียเลย

อู๋เหยาหมิงเอื้อมมือไปกระตุกที่แขนเสื้อของนางเบาๆ แล้วเรียกนางให้ตื่น

"หยางเพ่ยเพ่ย"

แม้เขาจะเรียกนางเสียงค่อนข้างดังแต่กลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับจากร่างเล็กที่นอนหลับใหลอยู่ เขาจึงออกแรงกระตุกไปที่ชายแขนเสื้อและเรียกนางเสียงดังขึ้นอีก

"หยางเพ่ยเพ่ย!"

เพ่ยเพ่ยพลิกหมุนตัวมาทางเขาแล้วฟาดแขนกลับมา แม้ว่าตายังคงปิดสนิทอยู่

"อะไร จะเรียกทำไมเนี่ย! "

"ตื่นแล้วลุกขึ้นมาคุยกับข้า!" เขากล่าวเสียงดังขึ้นอีก

เพ่ยเพ่ยค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาตามเสียงเรียกของเขา นางเห็นเพียงภาพเลือนรางในความมืด นางกำลังฝันถึงกงยูพระเอกในดวงใจของนางอยู่ ในความฝันเพ่ยเพ่ยสวมบทเป็นนางเอก

ด้วยความเมาและยังอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นเพ่ยเพ่ยจึงคิดเอาว่าตนนั้นยังคงอยู่ในความฝันและตอนนี้ก็ฝันว่าอ้ปป้ากงยูมาอยู่ตรงหน้าแล้ว

"อ้ปป้ามาจริงๆ หรอเนี่ย ฝันดีชะมัด"

เพ่ยเพ่ยยกยิ้ม ส่งสายตาหวานเยิ้มให้อ๋องหมิง ก่อนจะลุกขึ้นใช้สองมือเล็กดึงสาบเสื้อของอ๋องหมิงให้โน้มตัวเข้ามาหา จนตอนนี้ใบหน้าของนางและเขาอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น

"อ้ปป้าจริงๆ ด้วย"

เพ่ยเพ่ยวางนิ้วเรียวยาวลงบนใบหน้าคม ก่อนจะลากนิ้วลูบไล้ไปบนแก้มเรื่อยมาจนมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหนาของเขา

"อุ๊ย! นุ่มอ่ะ ได้จูบอ้ปป้าสักครั้ง เพ่ยเพ่ยสัญญาเลยว่าจะตั้งใจทำงาน"

อ๋องหมิงจ้องหน้าเพ่ยเพ่ยเขม็ง ตะลึงค้างกับการกระทำอันอุกอาจของนาง

ทำสายตาหวานหยาดเยิ้มราวกับจะยั่วยวนข้า

แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ นางกำลังคิดว่าเขาคือชายชื่อ 'อ้ปป้า' นั่นต่างหากเล่า

อ๋องหมิงเอื้อมมือมากำข้อมือของเพ่ยเพ่ยไว้เพื่อหยุดการกระทำนั้น เขาออกแรงกำมือเพ่ยเพ่ยแน่นจนนางรู้สึกเจ็บ

"โอ้ย! เจ็บนะ"

เมื่อความเจ็บเริ่มจู่โจม เพ่ยเพ่ยจึงค่อยๆ ได้สติ เธอลืมตาขึ้นในความมืดแล้วเพ่งมองบุรุษตรงหน้า ด้วยแสงรำไรจากโคมไฟบนโต๊ะกลางห้องจึงทำให้นางเห็นเขาได้ถนัดตายิ่งขึ้น

"มาได้ไงวะ?"

เพ่ยเพ่ยถึงกับสบถออกมาอย่างลืมตัว

"โอ้ย!…ท่านอ๋องหม่อมฉันเจ็บนะเพคะ ปล่อยหม่อมฉันนะ"

เพ่ยเพ่ยที่รู้ตัวแล้วพยายามอย่างสุดแรงที่จะดึงมือของตนให้หลุดพ้นจากมือแกร่งของเขา

"หึ! สตรีไร้ยางอาย กลางวันออกไปนั่งดื่มสุรากับบุรุษ เมามายจนต้องหอบหิ้วกันกลับมา แม้ยามหลับก็ยังพร่ำเพ้อถึงชายอื่น ต้องให้ข้าเตือนความจำหรือไม่ว่าเจ้าแต่งงานแล้วและเป็นถึงหมิงหวางเฟย"

"..."

"หากไม่คิดจะไว้หน้าข้าก็ควรไว้หน้าตระกูลหยางของเจ้าบ้าง"

อะไรของเขาวะ? มาถึงก็ด่าเอาๆ

นางกำลังฝันดีอยู่เลย ทำไมเขาต้องมาขัดจังหวะนางกับอ้ปป้าด้วยเนี่ย มาถึงก็ด่านางชุดใหญ่ไฟกะพริบขนาดนี้

เป็นอะไรมากป่ะเนี่ย

"ท่านพูดเรื่องอะไรของท่านกัน ท่านกำลังป่วยใช่หรือไม่เพคะ ปกติท่านอ๋องก็ไม่เคยสนใจไยดีสตรีอื่นนอกจากแม่นางฝูของท่านอยู่แล้วมิใช่หรือ แล้วท่านจะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับข้ากันเล่า มิใช่ว่าท่านควรจะดีใจหรอกหรือที่ข้าไปสนใจชายอื่น"

อิตาอ๋อง แกต้องเป็นไบโพล่าแน่ๆ

ไม่ชอบนางแต่ตามเข้ามาด่าถึงห้อง ย่องเข้ามาเงียบๆ อย่างกับพวกแอบถ้ำมอง แล้วนี่อะไรกัน โมโหราวกับว่าหึงหวงอย่างนั้นแหละ ย้อนแย้งอย่างไรไม่รู้

"เจ้าอย่าได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปว่าที่ข้าโมโหเช่นนี้เพราะข้ามีใจต่อสตรีมากเล่ห์เช่นเจ้า ข้าเพียงไม่ชอบให้ใครมาหยามเกียรติของข้าก็เท่านั้น"

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามพร้อมกับออกแรงบีบข้อมือของนางแรงขึ้นอีก

"โอ้ย! หม่อมฉันเจ็บนะเพคะ"

เพ่ยเพ่ยร้องขึ้นอีกครั้ง เขาไม่เพียงไม่ปล่อยมือนางแต่กลับเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆ

อ๊ะ! อีตาอ๋องนี่ อารมณ์รุนแรงเกินไปแล้ว

"แล้วท่านอ๋องเข้ามาในห้องนอนของหม่อมฉันทำไมกันเล่า ดึกดื่นเช่นนี้หากว่าไม่ต้องการให้หม่อมฉันคิดเข้าข้างตัวเอง ท่านอ๋องก็ควรรีบนำพาตัวเองออกไปซะ"

"ข้าก็ไม่ได้อยากจะรั้งอยู่ที่นี่นานนักหรอก เหวินเอ๋อยังรอข้าอยู่ ข้าเพียงมาบอกเจ้าเท่านั้น เจ้าต้องเข้าวังไปพบเสด็จแม่กับข้าพรุ่งนี้เช้า เตรียมตัวให้พร้อมแล้วอย่าให้ข้าต้องรอ ทำตัวดีดีเวลาอยู่ต่อหน้าเสด็จแม่และเสด็จพี่ อย่าทำให้ข้าหมดความอดทนกับเจ้า"

พูดจบเขาก็ผลักนางออกอย่างแรงจนหลังของเพ่ยเพ่ยกระแทกกับเบาะนอน

"โอ้ย! ผลักมาได้" เพ่ยเพ่ยเม้มปากแน่น

"หม่อมฉันรับทราบเพคะ หากหมดธุระแล้วก็ เชิญ!...เพคะ!"

ไอ้เจ้าอ๋องซาดิสม์ ไอ้อ๋องไบโพล่า พูดอย่างกับว่าหึงหวงเรา ทำเป็นเอ่ยอ้างถึงแม่นางฝู ขี้อวดอ่ะ ใครเขาอยากรู้กัน

เพ่ยเพ่ยได้แต่ก่นด่าเขาในใจ สายตาก็จ้องตอบกลับอ๋องหมิงอย่างไม่เกรงกลัว

"แล้วอย่าให้ข้ารู้นะว่าเจ้าอ้ปป้านั่นมันเป็นผู้ใด"

พูดเสร็จเขาก็สะบัดแขนเสื้ออย่างแรงก่อนจะหันหลังเดินจากไปทันที

"เอ่อ ทำไมเขาถึงรู้จักอ้ปป้าได้ล่ะเนี้ย นี่มันเมืองจีนไม่ใช่หรอ จะเป็นไปได้ยังไง เอ๊ะ! หรือว่า..."

"เพ่ยเพ่ยเอ้ย! นี่แกละเมอเรียกอ้ปป้าอีกแล้วหรอวะเนี่ย"

เพ่ยเพ่ยได้แต่นึกตลกตัวเอง เวลานางดื่มเหล้าเมาทีไร นางจะต้องละเมอหาอ้ปป้าทุกครั้งไป เรื่องที่นางเมาแล้วชอบละเมอ เพื่อนๆ ของนางหลายคนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเรื่องจริง

อ๋องหมิงเมื่อเดินออกมาจากตำหนักจันทราแล้วจึงหันไปเอ่ยกับคนสนิทด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

"เหลยคัง!"

"พะยะค่ะ"

"เจ้าเคยได้ยินชื่อ 'อ้ปป้า' หรือไม่ ชื่อประหลาดนัก มันเป็นภาษาของแคว้นใด"

"กระหม่อมไม่เคยได้ยินชื่อแปลกเช่นนี้มาก่อนเลยพะยะค่ะ"

"ส่งคนไปสืบมาให้ข้า"

อ๋องหมิงสั่งเหลยคังเสียงเรียบ สีหน้าราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
55 จะสืบได้มั้ยเนี่ย อั้ปป้าๆ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 111

    -จวนตระกูลหยาง- "มากันแล้ว มากันแล้วขอรับ!" เสียงพ่อบ้านทั้งวิ่งทั้งตะโกนเรียกทุกคนในเรือนไปพร้อมๆ กัน ทุกคนวางมือจากงานที่ทำอยู่อย่างลนลานก่อนจะรีบไปรวมตัวกันที่หน้าประตูจวนเพื่อนต้อนรับอ๋องหมิงและพระชายา ระหว่างเดินทางอ๋องหมิงให้ม้าเร็วมาแจ้งตระกูลหยางล่วงหน้าแล้วว่าเขากำลังพาเพ่ยเพ่ยกลับมาชางห

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 110

    เพ่ยเพ่ยมองทั้งสามและพิจารณาถึงสิ่งที่อี้ซินบอก ใช่แล้ว คนเคร่งขรึมหน้าตาไร้อารมณ์เช่นเขาความจริงแล้วไม่น่าจะมีเด็กที่ไหนอยากเล่นด้วยเลยต่างหาก อาจเป็นเพราะสัมพันธ์พ่อลูกที่ตัดอย่างไรก็ไม่ขาดกระมัง เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลารับสำรับเย็น ไม่น่าเชื่อว่า อาหารพื้นๆ ในเรือนหลังไม่ใหญ่แต่อาหารมื้อนี้สำหรับ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 109

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ เมื่อไหร่จะตื่นเสียที พวกเรารอตั้งนานแล้วนะ" เด็กทั้งสองเคาะประตูอยู่หน้าห้องไม่หยุด อี้ซินมีสีหน้าซีดเผือด นางพยายามห้ามนายน้อยและคุณหนูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สองแฝดผู้เอาแต่ใจก็หาได้ฟังใครไม่ หลังจากที่รอบิดากับมารดามาตั้งแต่เช้า กระทั่งพวกเขารับสำรับเช้าเสร็จแล้วแต่ท่านพ่อท่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 108

    "เมื่อกี้เจ้าจูบข้าก่อน" อ๋องหมิงมองเพ่ยเพ่ยพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้น หัวใจกระตุกเพราะนางไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน ทุกครั้งมีเพียงเขาที่เป็นฝ่ายจูบนางก่อนและเกือบทุกครั้งคือการบังคับให้นางต้องรับจูบจากเขา "ใช่เพคะ มิได้หรือ" "ทำไมจะมิได้ เปิ่นหวางชอบ" เพ่ยเพ่ยมอบจุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปากของเขาอีกครั

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 107

    "แล้วหม่อมฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าหม่อมฉันพูดอันใดไปบ้าง ท่านอ๋องก็บอกหม่อมฉันสิเพคะ" "เจ้าจับหน้าเปิ่นหวาง เรียกข้าว่าอ้ปป้าแล้วยังบอกว่าหากได้จูบอ้ปป้าสักครั้งจะตั้งใจทำงาน" "หา! หม่อมฉันเนี่ยนะเพคะกล่าวเช่นนั้นออกมา" แต่ภาษาวัยรุ่นแบบนั้น ไม่ใช่แกแล้วเขาจะคิดเองได้หรือไงเล่ายัยบ้า เมื่อคิดได้เช่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 106

    "เจ้าพูดอะไรของเจ้า ยิ่งฟังเจ้าข้าก็ยิ่งงง ท่านอ๋องเคยไปรังแกเจ้าด้วยรึ" "หึ เจ้าอยากโดนรุมซ้อมดูบ้างไหมล่ะ คนของเขาเท้าหนักๆ กันทั้งนั้น เพราะอารมณ์หึงหวงอย่างมิมีเหตุผลของเขาอย่างไรล่ะ" อย่าให้เขาบรรยายเลย บุรุษยุคนี้ หน้าใหญ่ใจโต ถือว่าตนมีอำนาจก็ไม่เห็นหัวใครทั้งนั้น กดทุกคนให้อยู่ต่ำหมดไม่ว่า

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status