"หอเลิศหล้า ?"นี่คือกลุ่มองค์กรอะไรกันอีก ทำไมถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน ความทรงจำในสมองก็ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับหอเลิศหล้าเลย"ผู้คนต่างกล่าวขานเล่าลือถึงหนึ่งหอหนึ่งเรือนที่แม้แต่ปีศาจและเทพต่างก็หวั่นเกรง หมายถึงเรือนชาลฟ้าและหอเลิศหล้า ข้อมูลที่พวกเขามี ล้วนแต่เหนือกว่าผู้ใดทั้งใต้หล้า สามารถพูดได้ว่า ขอเพียงแค่พวกเขาต้องการสืบ ไม่มีเรื่องใดที่สืบไม่เจอ"ชิงเฟิงไม่ได้บอกกู้ชูหน่วนว่านายท่านก็คือหัวหน้าของเรือนชาลฟ้าเขาไม่กล้าจะบอกว่า ช่วงนี้เขากำลังสืบหาเรื่องตัวตนของพระชายาและอี้เฉินเฟย แต่พบเจออุปสรรค ราวกับมีผู้มีอำนาจบางคนที่มองไม่เห็นคอยตัดเบาะแสของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาไม่มีความคืบหน้าใดๆ นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกู้ชูหน่วนหักนิ้ว "พูดเช่นนี้ก็หมายความว่า ลานประมูลเฟิงเซียงมีความสามารถแข็งเกร่งเลยทีเดียว""ตอนนี้สามารถพูดเช่นนี้ได้ ไม่เคยมีผู้ใดกล้าก่อกวนที่ลานประมูลเฟิงเซียง ต่อให้เป็นเชื้อพระวงศ์หรือลูกหลานตระกูลขุนนางล้วนแต่ต้องให้เกียรติพวกเขา เพราะไม่ว่าผู้ใดต่างก็มีเรื่องสกปรกโสมมกันบ้างทั้งนั้น หากล่วงเกินลานประมูลเฟิงเซียง เป็นไปได้ว่าเรื่องน่าอ
ภายในห้องพิเศษชั้นสอง สีหน้าเจ๋ออ๋องดูลึกลับมีเลศนัยวิทยายุทธของเขาไม่ถือว่าดีนัก แต่ก็ใกล้จะเข้าขั้นหนึ่งแล้ว ขาดก็เพียงแค่ยาล้างไขกระดูกที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้สภาพร่างกายได้ หญ้าจื่อเยียนนี้เขาจำเป็นจะต้องเอามาให้ได้ เพราะเขาอยากจะแซงหน้าเทพสงครามให้ได้ทว่ายามนี้...มีคนแย่งหญ้าจื่อเยียนกับเขา อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามยังเป็นกู้ชูหน่วนแววตาริษยาคู่นั้นของเจ๋ออ๋อง จ้องมองไปยังเย่จิ่งหานที่อยู่ข้างกายกู้ชูหน่วน เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวภายในห้องพิเศษอีกห้องหนึ่งที่ชั้นสอง องค์หญิงตังตังกำลังเดือดดาลเหตุใดถึงเป็นกู้ชูหน่วนอีกแล้ว นางผู้นี้มีวิชาแยกร่างหรืออย่างไร ไม่ว่าจะไปที่ใดก็เจอนางตลอดเพราะเปิดผ้าคลุมหน้าของนาง จึงทำให้ถูกเสด็จอาลงโทษอย่างหนัก ถึงขั้นถูกไล่ออกจากสำนักบัณฑิตหลวงแล้วนางเป็นถึงองค์หญิง ทว่ากลับถูกไล่ออกจากสำนักบัณฑิตหลวง นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชื่อเสียงของนางสูญสิ้นจนหมดเสี่ยวลวี่ข้ารับใช้สาวขององค์หญิงตังตังเอ่ย "องค์หญิง นังกู้ชูหน่วนไม่เอาไหนผู้นั้นไม่มีวิทยายุทธเสียหน่อย นางออกมาแย่งหญ้าจื่อเยียนเช่นนี้ คงรู้ว่าองค์หญิงกำลังรีบร้อนจะ
ไม่พูดถึงเรื่องนี้ยังพอทน แต่พอพูดถึง เจ๋ออ๋องก็หงุดหงิดจนหยุดไม่อยู่จวนเจ๋ออ๋องก็เสียไปแล้วเรือนอีกหลายหลังก็เช่นกัน ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน ยังดีที่เสด็จแม่นำของล้ำค่าไปขาย พอจะซื้อเรือนหลังเล็กหลังหนึ่งสำหรับไว้อาศัยชั่วคราวได้อีกอย่างตอนนั้นก็แพ้เดิมพัน เสียเงินมหาศาล เขายังไปหยิบยืมเงินมาอีกจำนวนมาก จนถึงตอนนี้ก็ยังติดหนี้อยู่เจ๋ออ๋องจ้องมองกู้ชูหน่วนที่กำลังอมยิ้มพลางมองไปรอบๆ และเย่จิ่งหานที่ไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ก่อนจะกัดฟันกรอดแล้ววางป้ายลงช่างเถอะต่อให้ซื้อหญ้าจื่อเยียนมา ก็ใช่ว่าจะกลั่นยาไขกระดูกได้สำเร็จ รอไปอีกหน่อยแล้วกันพวกเขาทั้งสองคนอดทนได้ ทว่าองค์หญิงตังตังกลับทนไม่ได้ นางยังคงเสนอราคาต่อ "หนึ่งแสนหนึ่งพันตำลึง""หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง" กู้ชูหน่วนเอ่ย"หนึ่งแสนห้าหมื่นหนึ่งพันตำลึง" องค์หญิงตังตังโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเสี่ยวลวี่รีบเตือน "องค์หญิง หนึ่งแสนหน้าหมื่นหนึ่งพันตำลึงแพงเกินไป ไม่คุ้ม""ไม่ได้ ข้าไม่มีทางปล่อยให้นางสมหวัง นางต้องการสิ่งใด ข้าคนนี้จะแย่งมาให้หมด""สองแสนตำลึง""เฮือก......"องค์หญิงตังตังเกือบจะกระอักเลือดออกมาหญ้าจื่อเ
ซี้ดดด...เสียงลมหายใจกระตุกดังไปทั่วมุกอุ่นประภพ เป็นมุกอุ่นประภพเช่นนั้นหรือ...ของล้ำค่าระดับนี้ ควรจะปิดท้ายไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงนำออกมาประมูลตั้งแต่ชิ้นที่สองฝูงชนพลันแตกตื่นฮือฮากู้ชูอวิ๋นเอ่ย "ท่านพ่อ มุกอุ่นประภพทั้งใต้หล้ามีเพียงแค่สองเม็ด ของล้ำค่าเช่นนี้ ไม่ว่าต้องเสียเงินเท่าใด ก็ต้องคว้ามาให้ได้"อัครเสนาบดีกู้ใจเต้นตึกตักไม่หยุด สายตาที่ทอดมองไปยังมุกอุ่นประภพเปล่งประกาย ความปรารถนาไม่ปิดบังแต่อย่างใดประมุกอุ่นประภพคือของล้ำค่า ไม่ว่าผู้ใดก็อยากได้ลมหายใจของเจ๋ออ๋องและองค์หญิงตังตังเร็วขึ้นหลายจังหวะ ต่างก็รู้สึกโชคดีที่เมื่อครู่กู้ชูหน่วนชิงหญ้าจื่อเยียนไปแล้ว มุกอุ่นประภพดีกว่าหญ้าจื่อเยียนเป็นไหนๆเสี่ยวลวี่พูดเสียงสั่น "องค์หญิง นั่นใช่มุกอุ่นประภพจริงหรือ""เจ้าพูดจาเหลวไหล ลานประมูลเฟิงเซียงคือสถานที่แบบใด พวกเขาจะขายของปลอมได้อย่างไร""เช่นนั้นพวกเราจะประมูลใช่หรือไม่""แน่นอนสิ มีมุกอุ่นประภพแล้ว เท่ากับมีเครื่องรางที่ทำให้ฟื้นจากความตายได้ อย่างอื่นจะไม่เอาก็ได้ แต่มุกอุ่นประภพต้องประมูลมาให้ได้""องค์หญิง แต่เงินที่พวกเราพกมาทั้งหมดมีไม่ถึงสามล้
มีผู้ใดบ้างที่ตอนเพิ่มราคา ไม่ได้เพิ่มทีละหลายพันหรือหลายหมื่น ส่วนนาง เพิ่มครั้งหนึ่งก็สามล้านตำลึงเลย เช่นนี้จะยังประมูลได้อย่างไรแม้พวกเขาอยากจะประมูล แต่ก็ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นมาจ่ายได้อัครเสนาบดีกู้เกือบจะกระอักเลือดออกมากู้ชูอวิ๋นหน้าขาวซีด "ท่านพ่อ ไม่เช่นนั้นมุกอุ่นประภพนี่ก็ปล่อยไปเสียเถิด""ไม่ได้ จะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด คนเราล้วนแต่ต้องเกิดแก่เจ็บตาย หากมีมุกอุ่นประภพอยู่ในมือ อาจพูดไม่ได้ว่าสามารถอยู่อย่างเป็นอมตะไม่แก่เฒ่า แต่อย่างน้อยก็สามารถอยู่ได้นานขึ้นอีกเป็นสิบกว่าปีอย่างสบายๆ อีกอย่าง ขอเพียงแค่มีมุกอุ่นประภพ หากมีผู้ใดต้องการความช่วยเหลือ พวกเราสามารถให้พวกเขาเช่าในราคาที่สูงได้ เพียงปล่อยเช่าไม่กี่ครั้ง ก็ได้ต้นทุนกลับคืนมาแล้ว"อัครเสนาบดีกู้เสียงสั่นเครือ "สิบล้านหนึ่งหมื่นตำลึง"เจ๋ออ๋องหน้าเขียวปั้ด พลันชูป้ายขึ้นมา "สิบล้านห้าแสนตำลึง"อัครเสนาบดีกู้ตะลึงงัน เจ๋ออ๋องล้มละลายแล้วไม่ใช่หรือเหตุใดยังมีเงินสิบกว่าล้านให้ใช้อยู่อีกหรือเขาก็จะเหมือนกับตน ที่ไปหยิบยืมเงินจากทั่วทุกสารทิศนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เจ๋ออ๋องได้ยืมเงินจากคนอื่นไปเยอะแล้ว เ
เฮือก…ทุกคนแทบจะกระอักเลือดจากสิบเจ็ดล้านเพิ่มเป็นยี่สิบห้าล้าน นางนับเลขเป็นหรือไม่อัครเสนาบดีกู้เกือบจะกระอักเลือดออกมาเดี๋ยวนั้นองค์หญิงตังตังและเจ๋ออ๋องก็หน้าเขียวปั้ดกู้ชูหน่วนอีกแล้ว จงใจจะหาเรื่องพวกเขาใช่หรือไม่พวกเขาประมูลสิ่งใด นางก็จะแย่งสิ่งนั้นสินะเสี่ยวลู่ยิ้มกว้าง บิดเอวเพรียวบางหันไปพูดกับกู้ชูหน่วนเสียงอ่อน "แขกหมายเลขยี่สิบแปดให้ราคาที่ยี่สิบห้าล้านตำลึงเงิน ยังมีผู้ใดต้องการจะเพิ่มอีกหรือไม่"อัครเสนาบดีกู้ถือป้ายเอาไว้อยู่นาน ยกไม่ขึ้นเสียที ภายในใจเต็มไปด้วยความเกลียดชังไม่รู้จบแม้กู้ชูหน่วนจะเป็นลูกสาวของเขาอีกคนหนึ่งเช่นกัน แต่พวกเขาตัดความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูกกันไปนานแล้ว กู้ชูหน่วนไม่มีทางยกมุกอุ่นประภพให้เขาเสี่ยวลวี่เอ่ย "องค์หญิง ยี่สิบห้าล้านตำลึงแพงเกินไป ไทเฮา...เกรงว่าจะหาเงินมากมายขนาดนั้นไม่ได้ในเวลาอันสั้นนี้ ไม่เช่นนั้น...""ไม่ได้ ข้าไม่มีทางยอม ยี่สิบหกล้านตำลึง""สามสิบล้านตำลึง" กู้ชูหน่วนพูดด้วยความเกียจคร้าน"สามสิบล้านหนึ่งหมื่นตำลึง""สี่สิบล้านตำลึง"องค์หญิงตังตังเกือบจะเป็นลมหมดสติไปสี่สิบล้านตำลึงซื้อไข่มุกอุ่นประภ
เจ๋ออ๋องหัวเราะขมขื่นต่อให้พวกเขาต้องการก็ไม่ทันแล้วเงินของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าเป็นของนางเอง หรือเทพสงครามให้นางตั้งห้าสิบล้านตำลึง นางไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดภายในห้องพิเศษหมายเลขสาม ซ่างกวานฉู่อยู่ในชุดสีขาวดุจหิมะ เขานั่งอยู่ริมหน้าต่าง ต้มชาพลางลิ้มรสชาติชาไปด้วย มุมปากยกยิ้มบางๆ ทอดมองลงไปด้านล่างนิ่งๆของประมูลออกไปสองชิ้นแล้ว เขายังไม่ได้เสนอราคาเลยสักครั้งบริเวณที่นั่งธรรมดา เชิงเฟิงกระซิบกระซาบเสียงเบา "ท่านอ๋อง ราคาที่พระชายาเสนอสูงเกินไป พวกเราขาดทุนยิ่งนัก"กู้ชูหน่วนหูดี รีบยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาทันที "ชิงเฟิง ทีอย่างนี้ฉลาดได้สักทีสินะ ใช้ได้เลยทีเดียว"ชิงเฟิงใจเต้นตึกตัก รู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอยู่ตลอดเป็นอย่างที่คิด กู้ชูหน่วนพูดขึ้นมาด้วยท่าทางหนักแน่นมั่นใจ "ไปจ่ายเงินเถอะ""อะ...อะไรนะ จ่ายเงินอะไร""จะอะไรเสียอีก ก็มุกอุ่นประภพที่ประมูลมาได้อย่างไรเล่า""นี่...นายท่านไม่ได้ร่วมการประมูล เหตุใดข้าน้อยต้องจ่ายเงินด้วย"กู้ชูหน่วนกระพริบตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์ อธิบายให้ชิงเฟิงฟังทีละคำ "เขาคือนายของเจ้า ข้าคือภรรยาของนายเจ้า เช่นนั้นข้าก็
"กอบกู้เอง" เย่จิ่งหานเป่าใบชาในถ้วย ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสักนิด เมินเฉยต่อแววตาออดอ้อนน่าสงสารของนางชิงเฟิงได้แต่อธิษฐานในใจนายท่านจะต้องยืนหยัดไว้ไม่เช่นนั้นนิสัยใช้เงินมือเติบของพระชายา เกรงว่ากิจการที่จวนอ๋องสั่งสมมาทั้งหมดคงจะถูกผลาญจนสิ้นในไม่ช้ากู้ชูหน่วนท้าวคาง หน้าด้านหน้าทน "ข้าไม่มีเงิน""แก้ปัญหาเอง""ข้าเป็นเพียงหญิงอ่อนแอผู้หนึ่ง สถานการณ์นี้ใหญ่เกินไป ข้าแก้ไม่ไหว"ครั้งนี้เย่จิ่งหานขี้เกียจแม้แต่จะตอบนาง ยิ่งไม่ต้องหวังให้เขาส่งสายตาใดๆ ให้นางเลยกู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบๆเย่จิ่งหานหลอกยากกว่าองค์หญิงตังตังและไทเฮานัก ท่าทางหน้าหนาหน้าทน ไม่สะทกสะท้านใดๆ เขาไม่กลัวว่าจะถูกนางทำให้ชื่อเสียงป่นปี้บ้างเลยหรือ"ขอเชิญแขกหมายเลขยี่สิบแปดจ่ายเงินรับมุกที่ด้านหลัง" ผู้ดำเนินรายการย้ำอีกครั้งมีคนตะโกนออกมาจากกลุ่มคน "หมายเลขยี่สิบแปด เจ้ากล้าเพิ่มราคา แต่ไม่กล้าจ่ายเงินหรือ ลานประมูลเฟิงเซียงไม่ใช่ว่าเจ้าอยากจะตะโกนเท่าไหร่ก็ได้ หากเจ้าไม่มีปัญญาจ่าย อย่างน้อยก็ต้องทิ้งของที่มีอยู่ในตัวที่เหมือนกันไว้หนึ่งอย่าง""คนผู้นี้ดูไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย เกรงว่าจะมาลานป
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ