กู้ชูหน่วนเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก ระหว่างที่เอื้อมมือไปลูบงูยักษ์เก้าหัวมือของนางสั่นเล็กน้อย เซียวอวี่เชียนกลับกระชากมือนางกลับมาด้วยความตกใจ "เจ้าบ้าหรืออย่างไร หากมือเจ้าถูกกัดขาดจะทำเช่นไร""ฟ่อ......"งูเก้าหัวแสนเชื่องที่กำลังเคลิบเคลิ้มได้ยินคำพูดของเซียวอวี่เชียน พลันเกรี้ยวกราด หันไปขู่เขาฟ่อฟ่อหัวของมันใหญ่เกินไป ต่อให้มันไม่ได้มีเจตร้าย เพียงแค่จงใจขู่ให้กลัว แต่ก็ทำให้เซียวอวี่เชียนตกใจจนหน้าซีดกู้ชูหน่วนเอ่ย "วางใจเถอะ มันไม่ทำร้ายข้าหรอก"กู้ชูหน่วนดึงมือตัวเองกลับมา ยื่นไปยังหนึ่งในหัวทั้งเก้าของมัน สิ่งที่ทำให้เบาใจคือ งูเก้าหัวไม่ได้มีเจตร้าย แต่กลับหลับตาลง เลียนางด้วยความสนิทสนม ให้นางลูบด้วยความเพลิดเพลินนี่เห็นได้ชัดว่ามันเชื่อใจ และเห็นกู้ชูหน่วนเป็นที่พึ่ง เป็นนายของตน หรืออาจจะเห็นนางเป็นแม่ของตนกู้ชูหน่วนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความระวังตัวในใจพลันปล่อยวาง นางลูบหัวมันทีละหัวๆ ปากพลางพูดด้วยรอยยิ้ม "ดูสิ หัวเจ้ายาวขึ้นอีกแล้ว แอบดื้อไปเล่นกับเจ้าเสือดาวน้อยอีกแล้วใช่ไหม"สิ้นเสียง กู้ชูหน่วนเองก็ชะงักไปเหมือนกันเสือดาวน้อย ?คือใครทว่ากลับเห
กู้ชูหน่วนหยิบเกล็ดผลึกรุ้งมา มุมปากพลันเผยให้เห็นยิ้มบางๆสิ่งนี้เป็นของดี มีเกล็ดผลึกเก้าชิ้นอยู่ในครอบครอง นางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะทำลายขีดจำกัดไปถึงชั้นที่สามแล้วหากนางกินเกล็ดผลึกลงไปจะไม่ทำลายขีดจำกัดติดต่อกันได้หลายชั้นเลยรึนำเกล็ดผลึกมาหลอมเป็นอาวุธ ก็เป็นอาวุธที่ไร้เทียมทานกู้ชูหน่วนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะนำเกล็ดผลึกไปทำลายขีดจำกัดของพลังหรือจะนำไปทำอาวุธก็โยนลงแหวนปริภูมิไปทันที"ทำได้ไม่เลว รอข้าว่างแล้วจะทำเนื้อมาให้เจ้าหนึ่งโต๊ะเต็มๆ เลย""ซือซือซือ..."น้องเก้าม้วนตัวอวบอ้วนของมัน ปากพลอยแลบลิ้นไม่หยุด บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ดีมีความสุขเซียวอวี่เชียนพูดประโยคที่วอนโดนชกออกไปหนึ่งประโยค "มันอ้วนขนาดนี้แล้ว ขืนกินอีกจะไม่อ้วนจนเลื้อยไม่รอดเลยรึ""ฟ่อ..."น้ำลายคำโตพ่นออกไปทางเซียวอวี่เชียน น้ำลายทั้งเหนียวทั้งข้น น่าขยะแขยงจนเซียวอวี่เชียนอยากจะอาเจียน"บ้าเอ้ย เจ้าช่วยบอกให้งูของเจ้ารักษาความสะอาดหน่อยได้หรือไม่ ข้าสกปรกจะแย่แล้ว""ใครใช้ให้เจ้าปากเสียว่ามันอ้วนเล่า ไม่กินเจ้าก็ดีแค่ไหนแล้ว น้องเก้า ขุดลงไปจากตรงนี้ ตรงนี้น่าจะยังมีสมบัติอยู่อีก""ซือซือซือ.
กู้ชูหน่วนเปิดกล่อง ภายในบรรจุหยกสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวที่สลักด้วยอักษรรูนถี่ยิบตามที่นางคาดไว้ อักษรรูนบนหยกนั้นคล้ายกับกระดิ่งภินวิญญาณกู้ชูหน่วนทำตามวิธีเดิม ทุบหยกให้แตก ปรากฏว่าหลังจากหยกแตก อักษรรูนที่ฝังอยู่ข้างในก็ลอยขึ้นกลางอากาศทีละตัวอักษร และหลอมรวมเข้ากับกระดิ่งภินวิญญาณหยกทั้งสามชิ้นหลอมรวมเข้ากับกระดิ่งภินวิญญาณในชั่วพริบตา แสงสว่างจ้าก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแสงสีรุ้งอันเจิดจ้าปกคลุมทั่วทั้งผืนดิน ราวกับแสงเซียนที่รายล้อม แม้จะอยู่ห่างไกลยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจนกู้ชูหน่วนขมวดคิ้วการเคลื่อนไหวใหญ่เช่นนี้ เกรงว่ากองกำลังต่างๆ จะต้องตื่นตระหนกอย่างแน่นอน"ฟึบ......"กระดิ่งภินวิญญาณในอากาศพลันมืดลง และร่วงลงสู่พื้นเสียงดังกู้ชูหน่วนหยิบขึ้นมา และเมื่อมองดูอย่างละเอียด กระดิ่งภินวิญญาณแสดงแผนที่ แผนที่ที่สมบูรณ์ แต่แผนที่นี้แปลกมาก มองไม่ออกเลยว่าเป็นที่ใดเซียวอวี่เชียนบันทึกแผนที่ไว้ในใจ ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย "เป็นไปได้หรือไม่ว่าการค้นหาตามแผนที่นี้ จะสามารถค้นหาแก้วมังกรได้""รู้หรือว่าแผนที่นี้ระบุไว้ที่ใด""ไม่รู้ แต่ทั้งบริเวณนี้น่าจะเป็นทะเลโล
เมื่อคนนอกมองแวบแรก พวกเขาคิดว่าเป็นเพียงสร้อยข้อมือเล็กเส้นหนึ่งเท่านั้นกู้ชูหน่วนระงับความตกตะลึงในใจและยังคงปฏิเสธ "ไม่ได้ เจ้ามีเก้าหัว จะดึงดูดความสนใจเกินไป รีบลงไปซะ"น้องเก้าทำปากจู๋ มองกู้ชูหน่วนด้วยความเสียใจไม่รู้ว่ามันขยับตัวอย่างไร หัวของมันหดเล็กลงเรื่อยๆ จากเก้าหัว หดเหลือเจ็ดหัว ห้าหัว สามหัว และสุดท้ายหดเหลือเพียงหัวเดียว"……"กู้ชูหน่วนและเซียวอวี่เชียนพูดไม่ออกนี่มันงูอะไรเนี่ย?ไม่เพียงแปลงร่างได้ แต่ยังหดหัวได้อีกด้วยกู้ชูหน่วนถอนหายใจ "เห็นแก่ที่เจ้าช่วยข้าหาของล้ำค่าอย่างเต็มที่ ข้าจะยอมพาเจ้าไปด้วยเป็นการชั่วคราว แต่ห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด มิเช่นนั้นข้าจะทิ้งเจ้าไว้ที่เขาสวินหลง เข้าใจหรือไม่?"น้องเก้าหมุนตัววนอยู่บนมือของนาง ส่งเสียงฟู่อย่างมีความสุขเป็นระยะๆ และขดตัวอยู่บนข้อมือของกู้ชูหน่วนอย่างละโมบเพื่อหลับใหลเซียวอวี่เชียนส่งเสียงฮึดฮัด "เรื่องประหลาดเกิดขึ้นตลอดเลย ปีนี้มีมากเป็นพิเศษ งูใหญ่ตัวนี้ข้าสู้ไม่ได้ หลบไปให้ไกลๆ ดีกว่า"ขณะที่กำลังจะจากไปตามล่าสมบัติ พวกเขาก็พบกับเจ๋ออ๋องและบัณฑิตหลายคนจากสำนักบัณฑิตหลวงเจ๋ออ๋องเผยสีหน้ายินดีและอ
"หรือว่าพวกเขาต้องการใช้กลิ่นหอมของหมูย่างดึงดูดสมบัติอะไรบางอย่าง?""มีความเป็นไปได้ มิเช่นนั้นหมูจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาจะกินหมดได้อย่างไร""ไป เราไปดูกัน"เหล่าบัณฑิตพูดเสร็จก็ไปเลย พวกเขารวมกลุ่มกันแอบไปดู เจ๋ออ๋องเดิมทีไม่อยากไป แต่ทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว จึงตามไปด้วยจากระยะไกล พวกเขาเห็นกองไฟหลายกองที่พวกเขาก่อขึ้น เซียวอวี่เชียนกำลังย่างหมูอย่างเร่งรีบจนเหงื่อท่วมตัวกู้ชูหน่วนกำลังโบกพัดไปมา พร้อมกับโรยเครื่องเทศบนเนื้อหมูและสัตว์ที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยคืองูตัวเล็กงูตัวเล็ก เล็กกว่าตะเกียบเสียอีก แต่กินเก่งอย่างน่าประหลาดใจ มันกัดกินเนื้อหมูคำแล้วคำเล่า โดยไม่กลัวว่าท้องจะแตกไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นพวกเขากำลังแอบดูหรือไม่ งูตัวเล็กจึงเงยหัวขึ้น และส่งเสียงขู่พวกเขาเมื่อมองไปที่พื้น แม้แต่เศษกระดูกของเนื้อหมูป่าก็ไม่มีสักชิ้น ขณะนั้น พวกเขาไม่รู้ว่าเนื้อหมูเหล่านั้นหายไปไหนหลังจากเสียงขู่ของงูตัวเล็กดังขึ้น งูจำนวนมากจากระยะไกลก็พุ่งเข้ามา งูเหล่านี้มีสีสันหลากหลายและมีหลายสายพันธุ์ พวกมันพุ่งเป้าไปที่เหล่าบัณฑิตที่มาแอบดูสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปมาก งูเหล่าน
"ก็อย่างที่เห็น สิงโตอัคคีตัวนี้ก็ไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆ ก็หลีกทางให้ นี่เป็นโอกาสทองที่หาได้ยากยิ่ง หากพลาดไป เกรงว่าการจะหนีออกมาอีกครั้งคงยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์แน่"เจ๋ออ๋องเดินกลับมา เอ่ยเสียงเย็นชา "สิงโตอัคคีเป็นสัตว์อสูรขั้นสองสูงสุด แม้แต่พวกเจ้าสี่คนรวมกันก็ยังสู้มันตัวเดียวไม่ได้ นับประสาอะไรกับที่นี่มีสิงโตอัคคีอยู่เต็มไปหมด""ไม่ต้องเป็นห่วง หากเจ๋ออ๋องกลัว ก็ไปก่อนเถิด"เจ๋ออ๋องเตือนด้วยความหวังดี แต่กลับถูกเมินเฉย ทำให้ความโกรธพุ่งทะยานขึ้นบัณฑิตคนอื่นๆ รีบดึงเจ๋ออ๋องออกไป "ท่านอ๋อง นางอยากตายก็ปล่อยให้นางตายไปเถิด พวกเรารีบไปจากที่นี่กันก่อน พระสนมเหลียนมีท่านเป็นโอรสแค่องค์เดียว หากท่านเป็นอะไรไป พระสนมเหลียนจะทำอย่างไร"เจ๋ออ๋องยังคงอยากไปเกลี่ยกล่อมกู้ชูหน่วน แต่กู้ชูหน่วนไม่ฟัง เขาพาพวกเซียวอวี่เชียนเดินหน้าต่อ เมื่อคนอื่นๆ เห็นดังนั้น ก็รีบดึงเจ๋ออ๋องออกไป กลัวว่าหากช้าไปแม้แต่นิดเดียว พวกเขาจะกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรนอกภูเขาใหญ่ เจ๋ออ๋องได้รับบาดเจ็บ เดินวนไปวนมา มองเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาใหญ่อย่างกระวนกระวายสองชั่วยามแล้ว พวกนางยังไม่ออกมาอีก? หรือว่าจะถ
กู้ชูหน่วนออกคำสั่งอย่างเผด็จการ "เอาถุงกระสอบทั้งหมดมาวางไว้ตรงนั้น วางเรียงกันเป็นถุงๆ สิบถุงต่อหนึ่งกลุ่ม"ทุกคนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง กลับเห็นสิงโตอัคคีเชื่อฟังอย่างว่าง่าย วางถุงกระสอบลงบนพื้น สิบถุงต่อหนึ่งกลุ่ม ไม่มากไม่น้อย และสิงโตอัคคีแต่ละตัวก็ยืนอยู่ด้านข้างอย่างต้อยต่ำราวกับมด ปล่อยให้กู้ชูหน่วนออกคำสั่งต่ออย่างเงียบๆสิงโตอัคคีเหล่านี้ไม่รู้ว่าไปทำงานหนักอะไรมา แต่ละตัวหอบถี่มากทุกคนขยี้ตาไม่ได้ตาฝาด สิงโตอัคคีเหล่านี้เชื่อฟังกู้ชูหน่วนจริงๆโลกนี้จะมหัศจรรย์เกินไปแล้ว?กู้ชูหน่วนไม่ได้มีวิทยายุทธ สิงโตอัคคีขั้นสองสูงสุดกลับกลัวนางราวกับเสือหลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เริงร่ากับสายตาตกตะลึงของทุกคน"พวกเจ้าไปได้แล้ว"ทันทีที่กู้ชูหน่วนพูดจบ สิงโตอัคคีแต่ละตัววิ่งหนีไปอย่างบ้าคลั่ง ในพริบตาก็หายลับไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นเพียงภาพลวงตาฟิ้ว......จะไปแล้วรึ?สิงโตอัคคีเชื่อฟังขนาดนี้เลยหรือ?ในแววตาของกู้ชูอวิ๋นฉายแววเคียดแค้นวูบหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอ่อนหวานดังเดิมมียอดฝีมือจำนวนมากตามสังหารนาง แต่กลับปล่อยให้น
ทุกคนเงยหน้าขึ้น กลับเห็นกลุ่มสีดำที่เป็นสิงโตอัคคีพุ่งเข้ามาเมื่อสัตว์อสูรเหล่านี้ปรากฏตัว พวกมันก็ล้อมพวกเขาไว้ทั้งหมด รอคำสั่งของกู้ชูหน่วน โดยยกนางขึ้นเป็นนายเหนือหัว และพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของนางทุกเมื่อสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปมาก พวกเขาถอยหลังด้วยความหวาดกลัว มองดูฉากที่อยู่ตรงหน้าอย่างหวาดผวากู้ชูหน่วนลูบหัวสิงโตอัคคีตัวหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกายนางไม่ไกลนัก และมองจางเชาด้วยรอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดาได้ "จะฆ่าข้ารึ? เจ้าว่า เจ้ามีแค่คนเดียว แต่ข้ามีลูกน้องจำนวนมาก จะส่งเจ้าไปให้ตัวไหนดีล่ะ?"จางเชากลืนน้ำลาย เขาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะพลิกผันไปได้เพียงนี้เขาแค่อยากได้ใจสาวงามเท่านั้นอยากได้สมบัติจากกู้ชูหน่วนเท่านั้นต่อหน้าบัณฑิตจำนวนมาก เขาไม่อยากเสียหน้า และไม่อยากเสียชีวิต เขาจึงได้แต่ประนีประนอม "กู้ชูหน่วนอย่าใช้อสูรรังแกคน""ข้าจะใช้อสูรรังแกคนแล้วจะทำไม? หากเก่งจริง เจ้าก็เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาสักฝูงสิ""เจ้า......" จางเชาพูดไม่ออกเสียงของกู้ชูหน่วนไพเราะ อ่อนหวาน และน่าฟัง แต่คำพูดกลับทำให้คนขนลุกซู่ "ข้ามีทางเลือกให้เจ้าสามทาง หนึ่งคือตัดแขนตัวเองทิ้งซะ ส
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ