ภายในห้องนอนที่ประณีตสะอาดตา อี้เฉินเฟยใบหน้าขาวซีด ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิทอย่างไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจอ่อนโรยรา ผมขาวโพลนทั้งหัวของเขาทั้งสะดุดตาและทำให้คนรู้สึกปวดใจ ข้างกายอี้เฉินเฟยยังมีเหล่าผู้อาวุโสผมขาวอีกหลายท่าน เหล่าผู้อาวุโสไม่รู้ว่าใช้กำลังภายในไปมากเพียงใด ลมหายใจเหนื่อยหอบไม่มั่นคง สีหน้าดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ทันทีที่กู้ชูหน่วนเข้าไปในห้อง ผู้อาวุโสทุกคนพากันทำความเคารพ โดยมีผู้อาวุโสใหญ่เป็นผู้นำ "คาราวะท่านหัวหน้าเผ่า ขอหัวหน้าเผ่าพบเจอแต่ความสุข" "พวกท่านรีบลุกขึ้นมาเถิด" กู้ชูหน่วนไม่ค่อยชิน ในสมองของนางมีความทรงจำเกี่ยวกับเผ่าอวี้อยู่ไม่มากนัก จู่ๆ ก็ถูกผู้อาวุโสมากมายขนาดนี้เรียกว่าหัวหน้าเผ่า นางเองก็รู้สึกแปลกๆ ตอนที่ยื่นมือออกไปประครองพวกเขา กู้ชูหน่วนเผลอจับชีพจรของผู้อาวุโสใหญ่โดยไม่ทันระวัง ผู้อาวุโสใหญ่มีกำลังภายในกล้าแกร่ง ไม่รู้ว่าวิทยายุทธไปถึงขั้นใด แต่ใช้พลังลมปราณไปมาก ยามนี้พลังลมปราณไม่มั่นคง ยิ่งไปกว่านั้น ชีพจรของเขายังคล้ายกับอี้เฉินเฟยนัก ดูเหมือนจะมีแรงกัดกร่อนบางอย่างค่อยกลืนกินพลังชีวิตของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา แม้พลังชีวิ
เหล่าผู้อาวุโสล้วนแต่ไม่อยากออกไป ยังอยากคุยกับกู้ชูหน่วน ผู้อาวุโสใหญ่แค่ส่งสายตาเย็นเยียบไป พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่ออกไปก่อน รักษาหัวหน้าเผ่า ก่อนจะไปรักษาอี้เฉินเฟยต่อ กำลังภายในของพวกเขาถูกใช้ไปมากมายเหลือเกิน ควรจะกลับไปพักผ่อนแล้วจริงๆ "หัวหน้าเผ่า ข้ารู้ว่าเจ้าผูกพันกับอี้เฉินเฟยมาตั้งแต่เด็ก แต่...เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป ทุกคนในเผ่าอวี้จะช่วยกันตามหาแก้วมังกรอย่างสุดกำลัง เฉินเฟยเด็กคนนี้จิดใจดี เขาเองก็ไม่อยากให้เจ้ารู้สึกแย่" "ขอบคุณผู้อาวุโส ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ" "อืม" กู้ชูหน่วนนั่งอยู่ตรงหน้าเตียง ยื่นนิ้วขาวเรียวยาวออกไปลูบใบหน้าที่คมชัดหล่อเหลาดุจเทพที่ซีดขาวของเขา ในความทรงจำ ทุกครั้งที่อี้เฉินเฟยเห็นนางมักจะยิ้มด้วยความเอ็นดู และอบอุ่นอยู่เสมอ นางอยากจะให้อี้เฉินเฟยยังเป็นเหมือนก่อนหน้า ยิ้มให้นางด้วยความอบอุ่น เรียกนางว่าเด็กโง่ เรียกนางว่าอาหน่วน "พี่ใหญ่เฉินเฟย ข้ารู้สึกว่าไหล่ของข้าหนักมาก มีหลายเรื่องที่รอให้ทำ แต่ข้าคิดไม่ออกว่าต้องทำอะไรกันแน่ ยามนี้...ดูเหมือนข้าจะเริ่มเข้าใจแล้ว ที่จริงแล้วหนึ่งในภารกิจของข้าก
"ข้าไม่จำเป็นต้องใช้หรอก ท่านให้ภรรยาของท่านเถอะ หากข้าจำไม่ผิด ภรรยาของท่านตั้งท้องได้เก้าเดือนแล้วใช่หรือไม่ นางใกล้จะคลอดแล้ว ท่านยังให้นางบำรุงนั่นบำรุงนี่อยู่ทุกวัน ถึงเวลาคลอดจะลำบากเอาได้ บำรุงแต่พอเหมาะดีกว่า" ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าลุงหนิวพลันชะงักงัน สีหน้าฝืดเฝื่อนเต็มไปด้วยความกังวลและโศกเศร้า "ดูเหมือนข้าจะพูดผิดไป ลุงหนิว ท่านกับป้าหนิวรักกันดีขนาดนั้น อ่อนโยนเอาใจใส่ต่อนางทุกเรื่อง ลูกของท่านจะต้องปลอดภัย เติบโตมาอย่างแข็งแรงเป็นแน่ คำพูดเมื่อครู่ ท่านอย่าใส่ใจเลย" ลุงหนิวฝืนยิ้ม รีบตอบกลับ "ไม่ๆๆๆ ไม่ได้เกี่ยวกับหัวหน้าเผ่าเลย หัวหน้าเผ่าพูดถูก ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าก็เคยเตือนข้าหลายครั้งว่าอย่าบำรุงมากเกินไป ไม่เช่นนั้นต่อไปเด็กจะคลอดยาก ข้ารู้ว่าหัวหน้าเผ่าหวังดีกับข้า" "เช่นนั้นท่านกังวลสิ่งใดล่ะ" "ใกล้จะสิบห้าค่ำแล้ว ไม่รู้ว่า..." เมื่อพูดถึงสิบห้าค่ำ ร่างของลุงหนิวก็สั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุมได้ และไม่อยากจะพูดถึงมากนัก ด้วยความบังเอิญ ป้าหนิวเดินแบกท้องโตออกมาพอดี นางร้องตะโกน "ต้าหนิว เจ้าออกไปล่าสัตว์กลางดึกมาอีกแล้วใช่หรือไม่ ไม่เจอเจ้าทั้งคืนเล
คำพูดของเขาไร้ที่ติ แต่นางไม่เชื่อ ว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าอวี้จะไม่มีวิธีการจัดการกับเย่จิ่งหานเลยแม้แต่น้อย เผ่าอวี้ตัดขาดจากโลกภายนอกมาเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้ได้ ไม่มีทางพึ่งพาการหลบๆ ซ่อนๆ แน่ "หัวหน้าเผ่า ท่านว่า ไม่เช่นนั้นท่าน..." "พอเถิด ข้าเข้าใจความหมายของท่าน เดิมทีวันนี้ข้าตั้งใจจะมาบอกลาพวกท่าน อีกเดี๋ยวก็จะไปจากเผ่าอวี้แล้ว" ผู้อาวุโสแต่ละคนต่างก็โล่งใจ แต่ก็อาลัยอาวรณ์ด้วยเช่นกัน "อาหน่วน หากเจ้าไม่คุ้นเคยกับการอยู่ด้านนอก ไม่เช่นนั้นอีกสักสองสามวันค่อยกลับมาอยู่เผ่าอวี้ต่ออีกสักหน่อย พวกข้ารอเจ้ามาตั้งนานกว่าเจ้าจะกลับมา นี่เพิ่งจะไม่กี่วันก็ต้องจากไปอีกแล้ว พวกข้าทำใจไม่ได้เลย เจ้าไม่มาดื่มเหล้า ไม่มีผู้ใดดื่มกับข้าเลย" ผู้อาวุโสหกมุ่ยปาก "เจ้าคิดว่าหัวหน้าเผ่าจะเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ เช่นเจ้ารึ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี" ผู้อาวุโสใหญ่ถลึงตาใส่ผู้อาวุโสหกอย่างไม่สบอารมณ์ไปทีหนึ่ง บอกเขาแล้วว่าไม่ต้องตามมา ก็รั้นจะตามมาให้ได้ สีหน้าของพวกเขาเช่นนี้ หัวหน้าเผ่าไม่สงสัยก็แปลกแล้ว "ข้ายังต้องออกไปตามหาแก้วมังกร ไม่สู้ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนพี่ใหญ่เฉ
เจ็บ เจ็บที่หัว ตัวก็เจ็บ โดยเฉพาะความรู้สึกประหลาดที่ตีขึ้นจากท้องน้อยเป็นระลอกนั้น กำลังโจมดีกู้ชูหน่วนไม่หยุดหย่อนเธอหนาวสั่นสะท้าน สายลับระดับท็อปและหมอยอดฝีมือระดับโลกแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเองยังไม่ทันได้สติ ข้างหูก็มีเสียงพึมพำอย่างลำพองใจดังขึ้น"ท่านพี่ อย่าได้โทษน้องเลยนะเจ้าคะ หากจะโทษคงต้อโทษที่ท่านพี่ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม แถมยังหน้าตาอัปลักษณ์ เพียงเพราะเป็นคุณหนูสามจากฮูหยินใหญ่ ท่านพี่ถึงได้ถูกหมั้นหมายให้เป็นเจ๋ออ๋องเฟยตั้งแต่เด็ก คนที่สง่างามหล่อเหลาเช่นนั้น ไม่ใช่คนที่ท่านพี่จะคู่ควร""อี๋เหนียงได้พาคนจากจวนอัครเสนาบดีมาแล้ว ประเดี๋ยวผู้ชายพวกนั้นคงมาถึงเหมือนกัน ท่านพี่วางใจเถิด พิษเมามายพันกาลที่ท่านโดน ต้องทำให้ท่านสุขสมปางตายแน่"ความทรงจำที่แปลกใหม่ทว่าคุ้นเคยทะลักเข้ามาในหัว กู้ชูหน่วนเดือดดาล เดือดดาลจนลุกเป็นไฟกระจอกงอกง่อย กล้าดีอย่างไรถึงได้วางแผนทำร้ายเธอ"หลังจากวันนี้ผ่านไป ชาตินี้ท่านพี่ก็อย่าได้คิดจะอาจเอื้อมเจ๋ออ๋องอีก..."ซี๊ด...ม่านตาของกู้ชูหลันที่กำลังลำพองใจพลันหดลง สีหน้าเปล
หากไม่ใช่เพราะเจ้านายของพวกเขาโดนยาพิษ แถมยังติดกับดักที่คนอื่นวางไว้ คงไม่มีทางยอมให้นางยำยีเช่นนี้พวกเขาอยากจะช่วยเจ้านาย แต่จนปัญญาเพราะโดนยาพิษเช่นกัน ใจอยากช่วยแต่ไร้กำลังอีกฟากหนึ่งของทุ่งหญ้า ร่างทั้งร่างของเย่จิ่งหานไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจขยับเขยื้อน ทำได้เพียงถลึงตาจ้องกู้ชูหน่วน"เจ้าลองแตะต้องข้าแม้แต่ปลายก้อยสิ""แตะแค่ปลายก้อยจะพอได้อย่างไร อย่างน้อยก็ต้องแตะทั้งตัว"บางทีอาจเป็นเพราะดวงตาคู่นั้นของเขาเดือดพล่านมากเกินไป กู้ชูหน่วนถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา จึงรีบกดจุดเขาเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน"แค่ยืมร่างกายหรอกน่า เจ้าเองก็ไม่สึกหรอเสียหน่อย"นางพูดอย่างไม่กระดากอาย แต่กลับทำเอาเย่จิ่งหานโมโหจนแทบลมจับค่ำคืนต้องอันงดงามเย่จิ่งหานโกรธจนเส้นเอ็นปูดโปนโธ่เว้ย เทพสงครามผู้ใหญ่อย่างเขา กลับถูกหญิงที่ไหนก็ไม่รู้ข่มเหงเสียได้แต่ที่แค้นที่สุดก็คือ ตัวนางเองเสร็จสมแล้ว แต่ "น้องชาย" ของเขาไม่พอใจเป็นที่สุด ไฟราคะถูกนางโหมกระพือจนกระสับกระส่ายไปทั้งตัว แต่หญิงผู้นี้กลับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อยกู้ชูหน่วนเหนื่อยอ่อนจนสั่นเครือไปทั้งร่างนางฉีกเสื้อตัวหนึ่งแล้วคลุมท่อนบนของเ
นางเอ่ยเป็นจริงเป็นจัง แววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ทว่ากลับทำเอากู้ชูหลันและอี๋เหนียงห้าโกรธจนสั่นไปทั้งตัว"กู้ชูหน่วน เจ้าโกหก ตอนที่เจ้าบังคับให้ข้าดื่มเมามายพันกาล มิได้ท่าทางเช่นนี้เลย""น้องสาว ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดเรื่องอันใด ข้ารู้ว่าข้าผิด ไม่ควรจะไปสาย น้องสาวอย่าโกรธเลยได้หรือไม่"กู้ชูหลันเสียสติ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของนางถูกอีกฝ่ายทำลาย แต่อีกฝ่ายกลับทำเป็นใสซื่อเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย ความโกรธเอาชนะกู้ชูหลัน นางตะกายตัวขึ้นมาหมายจะบีบลอคำของอีกฝ่าย ราวกับอยากจะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตายทั้งเป็น"สามหาว"เสียง "ปึง" ดังขึ้น อัครเสนาบดีกู้ตบโต๊ะ โมโหเลือดขึ้นหน้าเว้นเสียแต่กู้ชูหน่วน ทุกคนต่างตื่นตกใจส่วนอี๋เหนียงห้าก็กระชากกู้ชูหลันให้คุกเข่าลงเสียงดังโครม "นายท่านใจเย็นเจ้าค่ะ หลันเอ๋อร์ก็แค่คิดน้อยไปจึงได้ออกไปกับคุณหนูสาม เมามายพันกาลนั่น ต้องมีคนจงใจวางยาแน่"ฮูหยินใหญ่และอี๋เหนียงสามรวมถึงคนอื่นๆ พากันแค่นหัวเราะมีคนจงใจวางยางั้นรึ? หมายถึงพวกนางอย่างนั้นหรือ?อี๋เหนียงห้าเป็นที่โปรดปรานของอัครเสนาบดี ยามปกติแล้วมักจะอวดเบ่งวางอำนาจกับพวกนางอยู่บ่อยๆ ยามนี้กู้ชูหลัน
หลังจากกลับมาถึงห้อง กู้ชูหน่วนปลดผ้าคลุมหน้าออก เมื่อเห็นใบหน้าขี้เหร่เป็นหลุมเป็นบ่อของตัวเองก็กินข้าวไม่ลงเพียงเถ้าธุลีพิษที่นางโดนเรียกว่าเพียงเถ้าธุลี เธอถอนได้ เพียงแค่ต้องใช้ยาหลายชนิด มีสองชนิดที่ค่อนข้างหายากกู้ชูหน่วนนึกย้อนในความทรงจำ แต่กลับหาไม่เจอว่าใครเป็นคนวางยานางในความทรงจำ ก่อนอายุได้สิบขวบนางก็หน้าตาน่ารักน่าชัง หลังจากสิบขวบก็ถูกผึ้งต่อยครั้งหนึ่ง ทั้งใบหน้าก็เริ่มเน่าเฟะ จนสุดท้ายก็กลายเป็นผีเดินได้แบบนี้อ๋อ พิษผึ้ง...ให้มันได้อย่างนี้สิ"คุณหนูเจ้าคะ ครั้งนี้เรามีเรื่องกับอี๋เหนียงห้ากับคุณหนูห้าเข้าแล้วจริงๆ หากนางมาหาเรื่องเราอีกจะทำอย่างไรเจ้าคะ? ไม่อย่างนั้น พวกเราไปขอร้องเจ๋ออ๋อง ให้เจ๋ออ๋องช่วยพวกเราดีไหมเจ้าคะ""สาวอนุหนึ่งกับลูกสายตรงหนึ่ง เจ้าต้องกลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?"ชิวเอ๋อร์ตกใจ "คุณหนูของบ่าว อี๋เหนียงห้าเป็นถึงคนโปรดของนายท่านเชียวนะเจ้าคะ ฐานะของนางในจวนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าฮูหยินใหญ่เลย หากนางอยากจะบีบเราให้ตาย ยังง่ายยิ่งกว่าขยี้มดตัวหนึ่งอีกเจ้าค่ะ""วางใจเถิด แค่พวกนางสองคนไม่มีทางทำอะไรเราได้หรอก""คุณหนูเจ้าคะ หลังจากท่านกลั
คำพูดของเขาไร้ที่ติ แต่นางไม่เชื่อ ว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าอวี้จะไม่มีวิธีการจัดการกับเย่จิ่งหานเลยแม้แต่น้อย เผ่าอวี้ตัดขาดจากโลกภายนอกมาเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้ได้ ไม่มีทางพึ่งพาการหลบๆ ซ่อนๆ แน่ "หัวหน้าเผ่า ท่านว่า ไม่เช่นนั้นท่าน..." "พอเถิด ข้าเข้าใจความหมายของท่าน เดิมทีวันนี้ข้าตั้งใจจะมาบอกลาพวกท่าน อีกเดี๋ยวก็จะไปจากเผ่าอวี้แล้ว" ผู้อาวุโสแต่ละคนต่างก็โล่งใจ แต่ก็อาลัยอาวรณ์ด้วยเช่นกัน "อาหน่วน หากเจ้าไม่คุ้นเคยกับการอยู่ด้านนอก ไม่เช่นนั้นอีกสักสองสามวันค่อยกลับมาอยู่เผ่าอวี้ต่ออีกสักหน่อย พวกข้ารอเจ้ามาตั้งนานกว่าเจ้าจะกลับมา นี่เพิ่งจะไม่กี่วันก็ต้องจากไปอีกแล้ว พวกข้าทำใจไม่ได้เลย เจ้าไม่มาดื่มเหล้า ไม่มีผู้ใดดื่มกับข้าเลย" ผู้อาวุโสหกมุ่ยปาก "เจ้าคิดว่าหัวหน้าเผ่าจะเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ เช่นเจ้ารึ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี" ผู้อาวุโสใหญ่ถลึงตาใส่ผู้อาวุโสหกอย่างไม่สบอารมณ์ไปทีหนึ่ง บอกเขาแล้วว่าไม่ต้องตามมา ก็รั้นจะตามมาให้ได้ สีหน้าของพวกเขาเช่นนี้ หัวหน้าเผ่าไม่สงสัยก็แปลกแล้ว "ข้ายังต้องออกไปตามหาแก้วมังกร ไม่สู้ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนพี่ใหญ่เฉ
"ข้าไม่จำเป็นต้องใช้หรอก ท่านให้ภรรยาของท่านเถอะ หากข้าจำไม่ผิด ภรรยาของท่านตั้งท้องได้เก้าเดือนแล้วใช่หรือไม่ นางใกล้จะคลอดแล้ว ท่านยังให้นางบำรุงนั่นบำรุงนี่อยู่ทุกวัน ถึงเวลาคลอดจะลำบากเอาได้ บำรุงแต่พอเหมาะดีกว่า" ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าลุงหนิวพลันชะงักงัน สีหน้าฝืดเฝื่อนเต็มไปด้วยความกังวลและโศกเศร้า "ดูเหมือนข้าจะพูดผิดไป ลุงหนิว ท่านกับป้าหนิวรักกันดีขนาดนั้น อ่อนโยนเอาใจใส่ต่อนางทุกเรื่อง ลูกของท่านจะต้องปลอดภัย เติบโตมาอย่างแข็งแรงเป็นแน่ คำพูดเมื่อครู่ ท่านอย่าใส่ใจเลย" ลุงหนิวฝืนยิ้ม รีบตอบกลับ "ไม่ๆๆๆ ไม่ได้เกี่ยวกับหัวหน้าเผ่าเลย หัวหน้าเผ่าพูดถูก ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าก็เคยเตือนข้าหลายครั้งว่าอย่าบำรุงมากเกินไป ไม่เช่นนั้นต่อไปเด็กจะคลอดยาก ข้ารู้ว่าหัวหน้าเผ่าหวังดีกับข้า" "เช่นนั้นท่านกังวลสิ่งใดล่ะ" "ใกล้จะสิบห้าค่ำแล้ว ไม่รู้ว่า..." เมื่อพูดถึงสิบห้าค่ำ ร่างของลุงหนิวก็สั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุมได้ และไม่อยากจะพูดถึงมากนัก ด้วยความบังเอิญ ป้าหนิวเดินแบกท้องโตออกมาพอดี นางร้องตะโกน "ต้าหนิว เจ้าออกไปล่าสัตว์กลางดึกมาอีกแล้วใช่หรือไม่ ไม่เจอเจ้าทั้งคืนเล
เหล่าผู้อาวุโสล้วนแต่ไม่อยากออกไป ยังอยากคุยกับกู้ชูหน่วน ผู้อาวุโสใหญ่แค่ส่งสายตาเย็นเยียบไป พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่ออกไปก่อน รักษาหัวหน้าเผ่า ก่อนจะไปรักษาอี้เฉินเฟยต่อ กำลังภายในของพวกเขาถูกใช้ไปมากมายเหลือเกิน ควรจะกลับไปพักผ่อนแล้วจริงๆ "หัวหน้าเผ่า ข้ารู้ว่าเจ้าผูกพันกับอี้เฉินเฟยมาตั้งแต่เด็ก แต่...เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป ทุกคนในเผ่าอวี้จะช่วยกันตามหาแก้วมังกรอย่างสุดกำลัง เฉินเฟยเด็กคนนี้จิดใจดี เขาเองก็ไม่อยากให้เจ้ารู้สึกแย่" "ขอบคุณผู้อาวุโส ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ" "อืม" กู้ชูหน่วนนั่งอยู่ตรงหน้าเตียง ยื่นนิ้วขาวเรียวยาวออกไปลูบใบหน้าที่คมชัดหล่อเหลาดุจเทพที่ซีดขาวของเขา ในความทรงจำ ทุกครั้งที่อี้เฉินเฟยเห็นนางมักจะยิ้มด้วยความเอ็นดู และอบอุ่นอยู่เสมอ นางอยากจะให้อี้เฉินเฟยยังเป็นเหมือนก่อนหน้า ยิ้มให้นางด้วยความอบอุ่น เรียกนางว่าเด็กโง่ เรียกนางว่าอาหน่วน "พี่ใหญ่เฉินเฟย ข้ารู้สึกว่าไหล่ของข้าหนักมาก มีหลายเรื่องที่รอให้ทำ แต่ข้าคิดไม่ออกว่าต้องทำอะไรกันแน่ ยามนี้...ดูเหมือนข้าจะเริ่มเข้าใจแล้ว ที่จริงแล้วหนึ่งในภารกิจของข้าก
ภายในห้องนอนที่ประณีตสะอาดตา อี้เฉินเฟยใบหน้าขาวซีด ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิทอย่างไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจอ่อนโรยรา ผมขาวโพลนทั้งหัวของเขาทั้งสะดุดตาและทำให้คนรู้สึกปวดใจ ข้างกายอี้เฉินเฟยยังมีเหล่าผู้อาวุโสผมขาวอีกหลายท่าน เหล่าผู้อาวุโสไม่รู้ว่าใช้กำลังภายในไปมากเพียงใด ลมหายใจเหนื่อยหอบไม่มั่นคง สีหน้าดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ทันทีที่กู้ชูหน่วนเข้าไปในห้อง ผู้อาวุโสทุกคนพากันทำความเคารพ โดยมีผู้อาวุโสใหญ่เป็นผู้นำ "คาราวะท่านหัวหน้าเผ่า ขอหัวหน้าเผ่าพบเจอแต่ความสุข" "พวกท่านรีบลุกขึ้นมาเถิด" กู้ชูหน่วนไม่ค่อยชิน ในสมองของนางมีความทรงจำเกี่ยวกับเผ่าอวี้อยู่ไม่มากนัก จู่ๆ ก็ถูกผู้อาวุโสมากมายขนาดนี้เรียกว่าหัวหน้าเผ่า นางเองก็รู้สึกแปลกๆ ตอนที่ยื่นมือออกไปประครองพวกเขา กู้ชูหน่วนเผลอจับชีพจรของผู้อาวุโสใหญ่โดยไม่ทันระวัง ผู้อาวุโสใหญ่มีกำลังภายในกล้าแกร่ง ไม่รู้ว่าวิทยายุทธไปถึงขั้นใด แต่ใช้พลังลมปราณไปมาก ยามนี้พลังลมปราณไม่มั่นคง ยิ่งไปกว่านั้น ชีพจรของเขายังคล้ายกับอี้เฉินเฟยนัก ดูเหมือนจะมีแรงกัดกร่อนบางอย่างค่อยกลืนกินพลังชีวิตของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา แม้พลังชีวิ
ผู้อาวุโสทั้งสามท่านนิ่งเงียบไปชั่วขณะ พวกเขาหาข้ออ้างจะออกไปด้วยความลังเล กู้ชูหน่วนหยิบมีดสั้นออกมาจากแหวนปริภูมิ กดลงไปที่คอของตนเอง "วันนี้หากพวกท่านไม่บอกความจริงทั้งหมดกับข้าให้ชัดเจน ข้าจะตายตรงหน้าพวกท่านเดี๋ยวนี้" "อย่าอย่าอย่า...เจ้ารีบวางมีดลงเสีย หากเจ้าเป็นอะไรไป พวกเราจะอธิบายกับชาวเผ่าอวี้อีกเป็นหมื่นเป็นพันคนได้อย่างไร" "เช่นนั้นก็บอกมา หากพวกท่านรู้จักข้า ก็น่าจะรู้ว่าข้ามีความอดทนไม่มากนัก" กู้ชูหน่วนแน่วแน่หนักแน่น อีกทั้งยังไม่ยอมปล่อยมีดในมือ เพียงแค่นางออกแรงอีกเล็กน้อย คงได้ตายอยู่ที่นี่เป็นแน่ ผู้อาวุโสทุกคนต่างก็ร้อนรนกระวนกระวาย อยากจะไปแจ้งผู้อาวุโสใหญ่ แต่กู้ชูหน่วนก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาออกไป สุดท้ายก็เป็นผู้อาวุโสเจ็ดผู้มีนิสัยบุ่มบ่ามใจร้อนที่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว "ในเมื่อเจ้าอยากรู้ เช่นนั้นข้าจะบอกเจ้าก็ได้" "น้องเจ็ด..." "โธ่ นิสัยของหัวหน้าเผ่าก็ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้ หากนางเป็นอะไรไป ต่อให้เจ้าปิดบังความลับมากเพียงใดแล้วจะประโยชน์รึ" "อาหน่วน เจ้าคือหัวหน้าเผ่าที่อายุน้อยที่สุดของเผ่าอวี้เรา วิทยายุทธขั้นเจ็ด เพื่อปกปิดสถานะของเจ
หลังจากเหตุการณ์นองเลือดผ่านไป ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน ทุกที่ล้วนแต่แขวนผ้าขาวไว้อาลัย เลือดสีแดงสดและหลุมศพถูกสร้างขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อ...หยดไหลลงมา จู่ๆ กู้ชูหน่วนก็กุมหน้าอกของตัวเอง เจ็บปวดจนแม้แต่หายใจก็ยังยากลำบาก เหล่าชาวบ้านที่ล้อมอยู่รอบตัวนางพลันหน้าเปลี่ยนสี ปากพลอยพูดอะไรบางอย่าง ทว่านางกลับไม่ได้ยินเลยสักคำ เห็นเพียงแค่สายตากังวลและห่วงใยของพวกเขา นางตบกระโหลกศีรษะของตนเองอย่างแรง ดูเหมือนนางจะลืมอะไรบางอย่าง แต่นางลืมอะไรกันแน่ เหตุใดนางนึกอะไรไม่ออกเลย "อาหน่วน..." ผู้เฒ่าผมขาวหลายคนรีบเข้ามาด้วยความร้อนรน ประครองนางเอาไว้ ก่อนจะกดจุดฝังเข็มของนาง แล้วอุ้มนางกลับไปรักษาที่ห้อง หลังจากนั้น นางก็สลบไป ท่ามกลางความสะลึมสะลือ นางคล้ายจะได้ยินบางประโยค "ไม่เช่นนั้นก็ปลดปล่อยพลังที่ผนึกอยู่ภายในร่างของหัวหน้าเผ่าไปเสียเลย ยามนี้พลังที่นางผนึกไว้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้วครึ่งหนึ่ง พลังลมปราณพลุ่งพล่านไปมาไม่หยุด จู่โจมอวัยวะภายในของนาง ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ร่างกายของนางจะรับไม่ไหว" "ไม่ได้ ยังหาแก้วมังกรทั้งหมดไม่ครบ หากผนึกถูกทำลาย เผ
"พี่หน่วน ใช่ท่านจริงๆ หรือ ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าคิดถึงท่านจะตายอยู่แล้ว" เสียงเด็กน้อยดังขึ้นกะทันหัน หลังจากนั้นก็มีเด็กผู้ชายวัยเจ็ดแปดขวบวิ่งเข้ามากอดขาของนางอย่างปุบปับ ไม่นานนัก เด็กที่วิ่งเล่นกับเด็กผู้ชายคนนั้นเห็นนาง ก็พากันกรูเข้ามาหมด แย่งกันเข้ามากอดขาของนาง พลางตะโกนด้วยความตื่นเต้น"พี่หน่วน ข้าคิดว่าข้าดูผิดไปเสียอีก เหตุใดคราวนี้ท่านจากไปนานเพียงนี้ พ่อแม่ของข้าบ่นถึงท่านไม่หยุด" "พี่หน่วน คราวก่อนท่านบอกว่า ครั้งหน้ากลับมาจะซื้อว่าวให้ข้า ว่าวของข้าเล่า" "ไปไปไป เจ้าเด็กนี่ วันทั้งวันคิดแต่จะเอาว่าวจากพี่หน่วน พี่หน่วนเพิ่งกลับมา ต้องเหนื่อยแย่แน่ ควรให้นางพักผ่อนให้เต็มที่" กู้ชูหน่วนก้มหน้ามองเด็กทั้งชายและหญิงสิบกว่าคนกำลังพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างกายนาง แต่ละคนท่าทางสนิทสนมกับนางยิ่งนัก ราวกับนางเป็นพี่สาวแท้ๆ ของพวกเขา เสียงความเคลื่อนไหวที่นี่ดึงดูดคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านพลันตกตะลึง ทั้งหญิงชายเด็กและคนแก่ต่างก็ล้อมกันเข้ามา "เอ๊ะ คุณพระช่วย ใช่อาหน่วนจริงๆ ด้วย ข้าคิดว่าข้าเห็นภาพลวงตาเสียอีก อาหน่วน พวกเรา...พวกเราคิดถึงเจ้าจนแท
คนตรงหน้าคือชายชราวัยประมาณห้าสิบกว่า เขาอายุยังไม่ย่างหกสิบ แม้จะดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงดี ทว่าผมกลับขาวโพลนไปทั้งหัว ชายแก่เห็นนางแล้ว ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มเมตตา "อาหน่วน ยังเจ็บอยู่หรือไม่" "ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณพวกท่านที่ช่วยข้าไว้" "ไม่เป็นไรก็ดี นังหนูอินเอ๋อร์ชอบพูดพล่ามไม่เรื่อย เจ้าอย่าไปฟังนางเพ้อเจ้อ มา กินข้าวก่อน เจ้าสลบไปตั้งหลายวันหลายคืน" ชายแก่หยิบโจ๊กสมุนไพรที่ร้อนระอุถ้วยหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะเป่าเบาๆ แล้วป้อนให้กู้ชูหน่วนกับมือ โจ๊กสมุนไพรกลิ่นหอมโชย เพียงแค่กู้ชูหน่วนดมแวบเดียวก็รู้แล้วว่าโจ๊กสมุนไพรถ้วยนี้ใช้ยาสมุนไพรที่ล้ำค่า และยาบำรุงหายากมาเคี่ยวกว่าหลายชั่วยามถึงจะเคี่ยวออกมาได้ "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงอี้เฉินเฟย เหล่าผู้อาวุโสก็กำลังช่วยเขาอย่างเต็มกำลัง จะรอดหรือไม่ ก็ต้องดูคืนนี้แล้ว" ไม่รู้เป็นเพราะนึกถึงอาการบาดเจ็บของอี้เฉินเฟยหรืออย่างไร ภายในดวงตาขุ่นมัวคู่นั้นของชายแก่มีความเจ็บปวดที่ไม่อาจคลาย ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ท้องของกู้ชูหน่วนจึงว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย นางกินพลางเอ่ยถาม "พวกท่านไม่ได้จำคนผิดใช่หรือไม่" "แม้ปู่ไป๋เฉ่าจะแก่แล้ว
"พี่หน่วน ตรงนี้มีตัวอักษรอยู่สองตัว ท่านบอกว่าเป็นชื่อของข้า แต่เหล่าผู้อาวุโสต่างก็อ่านไม่ออก ข้าจึงบอกเขาไป พวกเขาบอกว่า ท่านถูกข้าตามเกาะแกะจนทนไม่ไหวถึงได้สลักตัวอักษรลงไปมั่วๆ สองตัว อ้อ เหล่าผู้อาวุโสยังบอกอีกว่า คำว่าเอ๋อร์ของอินเอ๋อร์ มีขีดหายไปด้วย" กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วมุ่น ขีดหายที่ไหนกัน แบบนี้เขาเรียกว่าเขียนย่อต่างหาก หลังจากที่นางข้ามมิติมาที่นี่ อย่าว่าแต่แกะสลักกระต่ายให้นางเลย นางไม่รู้จักเด็กคนนี้เสียด้วยซ้ำ อีกอย่าง...... "ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว" "อินเอ๋อร์สิบสามแล้ว ใกล้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว" อายุสิบสามปี... ซึ่งก็หมายความว่า กระต่ายตัวนี้ สลักให้นางเมื่อสามปีก่อน กู้ชูหน่วนลูบจี้กระต่ายเบาๆ จี้นี่มันวาวไปหมด คนใส่น่าจะลูบคลำอยู่บ่อยๆ ถึงได้แววขนาดนี้ หรือว่า...ร่างเดิมก็เป็นคนที่ทะลุมิติมาเหมือนกัน ? ถ้าหากร่างเดิมก็ทะลุมิติมาอีกคน เช่นนั้นเหตุใดลายมือถึงเหมือนกับลายมือนางไม่มีผิด กู้ชูหน่วนตกอยู่ในความมึนงงสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ "พี่หน่วน เป็นอะไรไป เหตุใดสีหน้าถึงดูแย่ขนาดนี้" "อี้เฉินเฟยล่ะ" "พี่ใหญ่เฉิ