"ท่านอ๋องโปรดเมตตาๆ ต่อไปบ่าวไม่กล้าอีกแล้ว" "ลากตัวออกไป" หลังจากที่ผู้ดูแลถูกพาตัวออกไป ทุกคนต่างก็หวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม "ใครเป็นคนไปช่วยพระชายาคัดเลือดสตรีเหล่านี้มา" "เรียนท่านอ๋อง คือ...ผู้ดูแลสวี่" "ปลดเขาออกจากตำแหน่งด้วยเหมือนกัน" "ขอรับ" เย่จิ่งหานมองไปยังเหล่าหญิงสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัว หญิงสาวที่ค่อนข้างใจเสาะร้องฟูมฟายออกมาตรงนั้น "ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ต่อไปบ่าวไม่กล้าเข้ามาในจวนอ๋องอีกแล้ว ท่านอ๋องไว้ชีวิตข้าด้วย" "ท่านอ๋องอย่าได้กริ้ว บ่าวจะปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี" "เจ้าเป็นใคร คู่ควรปรนนิบัติข้ารึ เข้ามา จับนางไปโบยยี่สิบที แล้วไล่ออกไปจากจวนอ๋อง หญิงนางอื่นก็ไล่ออกไปให้หมด ต่อไปหากกล้าเข้ามาในจวนหานอ๋องอีก ข้าไม่เพียงแต่จะเอาชีวิตนาง แต่จะเอาชีวิตคนทั้งตระกูลนาง" "ขอรับ ขอรับ ขอรับ......" คนกลุ่มใหญ่เมื่อครู่นี้ พลันหายไปเกินครึ่งเพียงชั่วพริบตา กู้ชูหน่วนตะลึงงัน เกิดอะไรขึ้น หรือนางจะประจบผิดเรื่อง แต่วันนั้นเขากำลังดูภาพโป๊ ทั้งยังมีหนังสือทฤษฎีเลี้ยงลูกไม่ใช่หรือ เขาอยากจะมีลูกไม่ใช่หรือ เมื่อเห็นว่าเ
"ยังจำภาพโป๊ได้หรือไม่" สีหน้าของเย่จิ่งหานพลันมืดดำ มีคนอยู่ในสวนดอกไม้มากมายขนาดนี้ นางกล้าพูดคำว่าภาพโป๊ออกมาตรงๆ ไม่รู้จักละอายบ้างหรือไร "กู้ชูหน่วน เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่" "ท่านอ๋อง ข้ารู้ว่าท่านอดกลั้นมานานแล้ว ข้าถึงได้ช่วยหาสาวงามมาให้ท่านมากมายขนาดนี้ ท่านดูสิ ผิวพรรณนุ่มเด้งชุ่มชื้น หากข้าเป็นชายชาตรี คงเข้าไปตะครุบแล้ว" "ดูคนนี้สิ นิ้วเรียวยาว อ่อนโยนจิตใจดี นี่ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเป็นภรรยาเป็นแน่" "ยังมีนี่อีก สะโพกเชิดผาย รับประกันได้เลยว่าต้องคลอดลูกชายอวบอ้วนสักคนให้ท่านได้แน่ ไม่สิ ลูกชายอวบอ้วนกลุ่มใหญ่ต่างหาก" ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดออกมาหนึ่งประโยค สีหน้าของเย่จิ่งหานก็มืดดำขึ้นเรื่อยๆ "มองจนตะลึงไปเลยใช่หรือไม่ ไม่รู้จะเลือกอย่างไรหรือ ไม่เป็นไร ที่นี่มีสาวงามทั้งหมดสิบแปดคน ไม่เช่นนั้นท่านก็รับไปทั้งสิบแปดคนเลย เปลี่ยนคืนละคน รับประกันได้ว่า ท่านจะต้องได้สุขสมทุกคืน เพลิดเพลินจนลืมวันลืมคืนไปเลย" เหล่าสาวงามหน้าแดงระเรื่อ อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า สตรีนางหนึ่งจะกล้าพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาได้อย่างไม่กระดากปาก ยิ่งคิดไม่ถึงว่า
เดิมทีเขาไม่ได้อยากประมูลม้วนหนังแกะโบราณ แต่วันนั้นเขาถูกความริษยาครอบงำจนเลือดขึ้นหน้า ถึงได้ใช้เงินมหาศาลประมูลมา หากนางไม่พูด เขาก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีม้วนหนังแกะโบราณนั่นอยู่ "ท่านอ๋อง ท่านว่าเหตุใดเผ่าเทียนเฝินถึงอยากได้ม้วนหนังแกะโบราณเล่า จะเพราะในบันทึกโบราณนั่นมีความลับอะไรบางอย่างอยู่หรือไม่" "ไม่รู้" สัญลักษณ์ในม้วนบันทึกโบราณ เขาศึกษาอยู่นานแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี กู้ชูหน่วนขยับไปทางที่นั่งเขา พยายามตีสนิท "ท่านอ๋อง ท่านเอาม้วนหนังแกะโบราณไปซ่อนไว้ที่ใด ของสิ่งนี้ห้ามวางไว้ไม่เป็นที่ทาง ข้าเห็นพวกเผ่าเทียนเฝินร้ายกาจนัก ที่ที่หาง่ายเกินไป พวกเขาต้องหาเจอเป็นแน่" ในที่สุดเย่จิ่งหานก็เข้าใจจุดประสงค์ของนางสักที ที่แท้ของที่นางพยายามตามหาตลอดเมื่อวานนี้ ก็คือม้วนหนังแกะโบราณ "วางใจเถอะ ข้าเก็บซ่อนไว้มิดชิด รับประกันได้ว่าไม่มีผู้ใดหาพบ อีกอย่าง เห็นจวนอ๋องของข้าเป็นตลาดนัดที่ผู้ใดจะเข้ามาก็ได้หรืออย่างไร" "ข้าเชื่อว่าท่านซ่อนไว้มิดชิดมาก เมื่อวานข้าหาจนทั่ว เกือบจะพลิกจวนอ๋องหาแล้ว ก็ยังหาไม่เจอ" "อ่อ...เจ้ารีบร้อนตามหาม้วนหนังแกะโบราณไปใย"
"หากเจ้าหาแก้วมังกรสองลูกสุดท้ายเจอ เผ่าอวี้เห็นแก่แก้วมังกร เป็นไปได้ว่าอาจจะให้เจ้ายืมแก้วมังกรห้าลูก หรืออาจจะถือโอกาสแก้คำสาปเลือดให้กู้ชูหน่วน ไม่เช่นนั้น...เหอะๆๆ..." เย่จิ่งหานรู้ แม่ของเขาทรยศหักหลังเผ่าอวี้ กลายเป็นความอัปยศของเผ่าอวี้ คนของเผ่าอวี้ไม่มีทางมีเยื่อใยใดต่อเขา ยิ่งไม่มีทางช่วยเขาโดยไม่มีสาเหตุ ก่อนเสด็จแม่จะจากไป เรื่องที่นึกถึงอยู่ตลอดก็คือการตามหาแก้วมังกร หลายปีมานี้ เขาคอยสืบหาเบาะแสของแก้วมังกรอยู่ตลอด ไม่ว่าจะแบบลับๆ หรือแบบเปิดเผย และคอยแอบเผยเบาะแสของแก้วมังกรให้เผ่าอวี้โดยไม่ให้พวกเขารู้อยู่ตลอด เพียงเพื่อจะสานความต้องการแทนเสด็จแม่ "ยามนี้นอกจากเจ้าจะต้องกังวลเรื่องแก้วมังกรแล้ว ควรจะกังวลเรื่องเด็กในท้องด้วยไม่ใช่หรือ เจ้าอย่าลืมว่าคำสาปเลือดสืบทอดต่อกันรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะคลอดเด็กชายหรือหญิง ล้วนแต่ต้องทรมานราวกับตายทั้งเป็น" "ข้าจะเก็บเด็กเอาไว้" เย่จิ่งหานทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค ก่อนจะออกไปด้วยความฉุนเฉียว เหลือให้เห็นเพียงแผ่นหลังที่หนักแน่นแน่วแน่ ซูมู่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา คิ้วที่คมเข้มดุจเทือกเขากระจุกกันเป็นก้อน อดเป็น
ในห้องหนังสือ หลีลั่ว เฉินชิง ชิงเฟิง เจี้ยงเสวี่ยต่างก็รอฟังคำสั่งอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพนอบน้อม เย่จิ่งหานสองมือไพล่หลัง สีหน้ามืดดำ กำชับไปทีละเรื่อง "เฉินชิง พักงานในมือทั้งหมด แล้วรีบส่งเครือข่ายข่าวกรองทั้งหมดของเรือนชาลฟ้าออกไปตามหาแก้วมังกร จะต้องหาเบาะแสของแก้วมังกรที่เหลืออยู่อีกสองลูกมาให้ได้ด้วยเวลาที่สั้นที่สุด" "ขอรับ" "หลีลั่ว ส่งองครักษ์ลับที่เก่งที่สุดออกไปยี่สิบคนโดยเร็วที่สุด ข้าจะไปที่เผ่าอวี้ด้วยตัวเอง" ชิงเฟิงรีบชิงพูดก่อน "นายท่าน แม้พวกเราพอจะรู้เบาะแสที่หลบซ่อนของเผ่าอวี้ แต่ครั้งก่อนพวกเราตามหาตั้งนาน ก็ยังไม่อาจเข้าไปในเผ่าอวี้ได้จริงๆ ดินแดนที่ซ่อนเร้นของเผ่าอวี้ เกรงว่าคงจะเข้าไปไม่ได้ง่ายๆ" "เจ้าโง่ มาถึงตอนนี้ เจ้ายังไม่เข้าใจความเป็นจริงอีกรึ สำนักซิวหลัวก็คือหนึ่งในกองกำลังที่อยู่ด้านนอกของเผ่าอวี้ เข้าไปในเผ่าอวี้ไม่ได้ ก็ไปที่สำนักซิวหลัว" "ขอรับ" ชิงเฟิงก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด รู้เช่นนี้เมื่อครู่เขาจะไม่เปิดปากพูดเลย "ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ย ข้ามีหน้าที่อื่นมอบให้พวกเจ้า" ตุบ... ม้วนหนังสือโบราณถูกโยนมาในมือเจี้ยงเสวี่
ความทรงจำที่ถูกปกคลุมไปโดยฝุ่นไหลทะลักคล้ายกับเขื่อนแตก ถาโถมเข้ามาในหัวของเย่จิ่งหานอย่างต่อเนื่อง ทุกฉากล้วนแต่เป็นภาพที่แม่ของเขาเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เพราะฤทธิ์ของคำสาปเลือด ภายในใจของเย่จิ่งหานเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีด หากเป็นไปได้ ชาตินี้เขาไม่ขอนึกถึงภาพที่หดหู่เช่นนั้นอีกต่อไป ช่างทรมานเหลือเกิน ไม่ว่าคำพูดใดบนโลกใบนี้ก็ไม่อาจบรรยายความทรมานนั้นได้ ร่างกายค่อยๆ ถูกกัดกร่อนจากภายในสู่ภายนอก กระดูกทั่วทั้งร่างแตกหักเป็นชิ้นๆ ส่งเสียงดังประหนึ่งบรรเลงพิณผีผา ผู้ที่ถูกคำสาปเลือด ต้องใช้เวลาประมาณยี่สิบวัน กระดูกถึงจะงอกกลับมาใหม่ ระหว่างยี่สิบวันนี้โดยทั่วไปแล้วไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย ระหว่างที่กระดูกงอกก็ไม่ได้รู้สึกดีไปกว่าตอนที่แตกหักเท่าใดนัก กว่ากระดูกจะงอกกลับมาด้วยความยากลำบาก ก็ใกล้จะถึงวันที่สิบห้าอีกครั้ง เมื่อถึงวันนั้น ก็จะต้องกลับไปเริ่มวงจรเดิมๆ อีก สตรีที่ถูกคำสาปเลือด ไม่สู้แทงนางให้ตายไปในครั้งเดียว จะได้ไม่ต้องทนรสชาติความเจ็บปวดที่ตายทั้งเป็นเช่นนั้น เย่จิ่งหานไม่อยากจะเชื่อเลยว่า หากกู้ชูหน่วนเองก็ถูกคำสาปเลือด ต่อไปชีวิตของ