ท้องพระโรงยามสายบรรยากาศกลับตึงเครียด"ชินหวางอ๋อง" ยืนอยู่กลางท้องพระโรง ใบหน้านิ่งสงบ แววตาแน่วแน่ ใต้ชุดคลุมขาวสะอาดตายามนี้ไม่มีสิ่งใดสั่นคลอนจิตใจของเขา"เสวี่ยเต๋ออ๋อง" ผู้เคยเร้นกาย ณ ชายแดน ยืนอยู่เบื้องหน้าฮ่องเต้ในฉลองพระองค์เต็มยศ นัยน์ตาของเขาทอแววหนักแน่นและสำนึกผิด"เสวี่ยเต๋ออ๋องถวายพระพรฝ่าบาท ข้ากลับมาแล้ว" เสวี่ยเต๋ออ๋องกล่าวเสียงหนักแน่น “อืมมมม” ชินเตอหลางกล่าวเพียงเบาๆ ในใจเคลือบแคลงอยู่8ในสิบส่วนกับคำพูดซัดทอดของหยางซูซิน"มิใช่เพื่อชี้แจง มิใช่เพื่อร้องขอ แต่เพื่อแสดงความจริงใจให้แคว้นและฝ่าบาทเห็น ว่าข้ายังภักดีต่อราชสำนัก และไม่เคยคิดทรยศ"ชินหวางอ๋องหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ไม่กล่าวคำใด ทว่าแววตากลับวัดความจริงในคำพูดของเสวี่ยเต๋ออ๋องอย่างไม่ปิดบัง"แล้วเหตุใดในตอนนั้น เจ้าจึงร่วมเดินหมากกับใต้เท้าหยางคำพูดนี้ไม่เกินจริงใช่หรือไม่" น้ำเสียงของชินหวางอ๋องเย็นเยียบแต่ไม่โกรธเกรี้ยวเสวี่ยเต๋ออ๋องหลุบตาลงชั่วครู่ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แน่วแน่ "เพราะข้าโง่... เสวี่ยเต๋ออ๋องหลงผิดไปชั่วขณะ การกลับมาครั้งนี้เพื่อยืนยันว่าข้ามิได้มีใจกบฏและพร้อมยอมให้ฝ่าบาทและชิ
ท้องพระโรงเงียบงันเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ต่างก้มหน้าเงียบกริบ เมื่อเสียงของชินหวางอ๋องดังกังวานกลางห้องบัลลังก์“ขอฝ่าบาทโปรดไตร่ตรอง…ข้ากระหม่อมชินหวาง ขอไขความจริงในคดีเมื่อยี่สิบปีก่อนและคดีที่เกิดขึ้นกับพระชายาซีหรูตลอดช่วงที่ผ่านมา”สายตาของทุกผู้คนเบิกกว้างเมื่อชินหวางอ๋องกล่าวต่อ“การวางเพลิงสังหารอย่างอำมหิตในคืนหนึ่งของฤดูหนาวเมื่อยี่สิบปีก่อน เบื้องหลังคือคนผู้หนึ่งที่ใครเล่าจะคาดถึงนั่นคือสวีเหยี่ยน...ซึ่งเป็นฮูหยินรองในตอนนั้น”เสียงฮือฮาดังขึ้นระลอกหนึ่ง สีหน้าของฮองเฮาอี้หรานซีดเผือดทันที น้ำตาไหลซึมลงจากดวงตาโดยไม่ทันรู้ตัว“ฮูหยินสวีเหยี่ยนต้องการกำจัดภรรยาเอกของใต้เท้าเสิ่น…เพื่อเปิดทางให้เป็นหนึ่งในตระกูลเสิ่น และบุตรีนั่นคือชายาของข้าเสิ่นซีหรู…ก็เป็นหนึ่งเดียวของผู้ที่รอดชีวิตจากเปลวเพลิงในคืนนั้น” เขาหยุดสูดลมหายใจพลางกำหมัดแน่น“ไม่เพียงเท่านั้น สวีเหยี่ยนฮูหยินคนนั้นยังเป็นผู้วางยาซีหรูถึงสองครั้ง และอีกผู้หนึ่ง…หยางฟางหราน บุตรีของใต้เท้าหยางซูซิน ใช้เล่ห์กลวางยา ลอบสังหาร และจับตัวพระชายาซีหรูเพื่อหวังตำแหน่งชายาเอกในภายภาคหน้า—ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวง”ชินเต
ทางเขตแดนเหนือ ทัพเสวียเต๋ออ๋องหยุดพักแรมก่อนเข้าสู้ดินแดนของแคว้นเป่ยกำลังเคลื่อนตัวผ่านหุบเขาในกระโจมใหญ่ในมือของเขาคือราชโองการลับจากวังหลวง“กินๆๆๆ ช้าอยู่ไยข้าหิวแล้วจวิ้นหวังวาง ทุกอย่างลงก่อนฮืมมมวันนี้มีเนื้อกระต่ายป่าราดพริกเผ็ดด้วย” เลื่อนจานไปตรงหน้ารินสุราวางลงข้างๆนิ่งไร้การตอบรับองค์หญิงใหญ่ซุนเตอหนี่ที่นั่งอยู่เคียงข้างเหลือบมองชายหนุ่มผู้สง่างามตรงหน้า ที่บัดนี้เหมือนไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นใดนอกจากจดหมายในมือ“ข่าวจากหลวงหรือเพคะ” ซุนเจอหนี่เสียอ่อนลงเสวี่ยเตออ๋องพยักหน้า ก่อนยื่นราชโองการให้นางดูเงียบ ๆไม่ทันได้อ่านจบ ซุนเตอหนี่ก็เบือนหน้าหนีอย่างตกใจ “ฟางหราน วางยาของพระชายาชินหวางอ๋องจริงหรือ”“ไม่เพียงแต่นาง ใต้เท้าหยางก็รู้เห็น...ถึงขั้นร่วมมือด้วยลงมือสังหารฮูหยินรองบ้านเสิ่นเพื่อปิดปากตอนนี้ถูกคุมตัวไว้แล้ว” ห่วงซีหรูไม่น้อยแต่พอคิดว่ามีชินหวางอ๋องที่นั่นก็ค่อยวางใจ “ทำเกินไปแล้วจริง ๆ” ซุนเตอหนี่ถอนหายใจเบาๆ“แม้เจ็บใจที่รักเขาข้างเดียว แต่การทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้...มิใช่เพียงความริษยา แต่เป็นความโหดร้าย”เสวี่ยเตออ๋องเงียบไปนานก่อนจะกล่าวช้า ๆ“ข้าไม่คิดว่
จวนสกุลหยาง ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่กลับไม่มีแสงไฟจากตะเกียงแม้แต่น้อยเงียบงันและวังเวงราวกับจวนร้างที่ลานด้านใน หยางฟางหรานในชุดคลุมสีดำสนิทและใต้เท้าหยางซูซินกำลังเร่งเก็บข้าวของใส่หีบเล็ก สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียดระคนหวาดหวั่น"เร็วเข้า! อย่ามัวชักช้ารีบไปให้พ้นจากที่นี่" หยางซูซินเสียงขุ่นเร่งบุตรสาว "คืนนี้ต้องออกเดินทางด้านตะวันตก อย่าให้คนของวังหลวงตามรอยได้พอออกไปพ้นจากที่นี่แล้วจึงหาทางส่งข่าวกับเสวี่ยเต๋ออ๋อง"หยางฟางหรานกัดฟันแน่น ใบหน้าไร้สีเลือด ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะต้องหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ ทั้งที่เคยเป็นหญิงสูงศักดิ์ที่ผู้คนชื่นชมเคยยืนเคียงข้างชินหวางอ๋องที่ผู้คนหล่าวขานว่าสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก...แต่บัดนี้กลับต้องหนีตายทว่ายังไม่ทันที่สองพ่อลูกจะได้ออกจากประตูหลัง“โครม!”บุรุษสองคนในชุดคลุมคล้ายชนเผ่าโบราณ ก้าวเข้ามาพร้อมแววตาเยือกเย็นหนึ่งคือชายชราร่างผอมสูง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นแต่แฝงด้วยแววตาคมกริบ โม่กู๋กังฮวนอีกคนคือชายร่างใหญ่ บ่าและหลังตั้งตรง แม้อายุล่วงเลย แต่เพียงยืนอยู่เฉย ๆ ก็ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามเสียแล้ว อ้ายหลัวปิงเอ่อหยางซูซินขมวดคิ้วทันที
ชินหวางอ๋องก้มศีรษะ ก่อนกล่าวชัดเจน “คือ…คนของหยางซูซิน และหยางฟางหราน” ชินวางอ๋องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ“ฝ่าบาท หากข้าจะสั่งให้คนคุมตัวสองพ่อลูกมาประหารเสีย”“เหลวไหล!” ชินเตอหลางเสียงดังขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ อี้หรานสะอื้นอย่างหนักด้วยความแค้นแคือง“ข้าน้อยให้คนจีับตาสองคนพ่อลูกไม่ให้ออกไปไหนจากบ้านหยางแล้วฮองเอาไม่ต้องห่วง” อี้หรานยังคงสะอื้น“พวกเขาสมควรตายฝ่าบาทถือว่าอี้หรานขอร้องน้องสาวคนเดียวของข้าไม่ควรจะต้องมาตายอย่างนั้น”“น้องของเจ้า อี้หรานคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าสวี่เหยียนนางร้ายกาจเพียงใดฎีกาจากเสิ่นกวงหลิว กับความสัมพันธ์ของเสิ่นกวงหลิวที่มีให้กับน้องสาวของเจ้าสวี่เหยียนนั้นเจ้ายังคิดว่าเป้นเรื่องจอมปลอมอีกหรือสวีเหยียนฆ่าคนวางเพลิงทำให้ซีหยินมารดาของซีหรูต้องตายในกองเพลิงทำให้ใบหน้าของซีหรูต้องอัปลักษณ์มีชีวิตอย่างอดสู เจ้าคิดหรือว่าเข้าไม่รู้เรื่องนี้แต่เห็นแก่ความสัมพันธ์ผัวเมียข้าจึงไม่กล่าวโทษเจ้าและยังให้โอกาสสวีเหยียนแต่นางยังไม่สำนึกผิดกล้าลงมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดวางยาซีหรู”“ยานั่นเป็นของหยางฟางหรานน้องข้าเกี่ยวข้องหรือไร”ชินเตอหลางหรี่ตาลง ราวพยายามมองผ่านม่านหมอกอดี
ภายในเรือนรักษาจนอ๋องไร้พ่ายของชินหวางอ๋องยามค่ำคืน แสงโคมแดงสลัวไหวเบาๆ ไปตามลมชินหวางอ๋องบาดเจ็บแต่ปลอดภัยดีแล้ว ซีหรูยังกุมมืออีกคนไว้แน่นสายตายังห่วงใย“ฮ่องเต้เสด็จๆๆๆๆๆ” ไฉ่หานรีบเข้ามายืนประสานมือพร้อมกับเสี่ยวอูฮองเฮาอี้หรานเดินตามร่างสูงของชินเตอหลางฮ่องเต้เข้ามาข้างใน ซีหรูลุกขึ้นย่อกายลงอย่างงดงาม“เสิ่นซีหรูถวายพระพรฝ่าบาท” เงยหน้าขึ้นสบตาชินเตอหลางช้าๆ ชินเตอหลางจ้องมองใบหน้างดงามของซีหรูพร้อมกับรอยยิ้ม“ข้าคิดไม่ผิดจริงๆ ในที่สุดแล้วใบหน้านี้ของเจ้าก็เปิดเผยออกมา” ชินเตอหลางฮ่องเต้เอ่ยช้า ๆ มองซีหรูด้วยแววตาที่ทั้งอบอุ่นและไตร่ตรอง ผิดกับใบหน้าที่แสนจะผิดหวังของอี้หรานฮองเฮา “ใบหน้าเจ้า…มิใช่สิ่งธรรมดาชินหวางอ๋องเห็นไหมในที่สุดเพชรก็คือเพชร”“พ่ะย่ะค่ะ กลัวจะมาถึงวันนี้ชินหวางอ๋องก็เหนื่อยไม่น้อยทีเดียว”ชินหวางอ๋องซึ่งพิงหมอนอยู่ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ่อนแรง“ซีหรู…ถึงเวลาแล้ว อย่าให้ความลับนั้นเป็นกำแพงระหว่างเจ้ากับชินหวางอ๋องอีกต่อไป”“นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมเจ้างดงามเพียงนี้เชียวหรือมิน่าเล่า” เสียงของฮองเฮาอี้หรานเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนเบือนสายตาลงเล็กน้อย ราวกั
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในจวนอ๋องไร้พ่ายข้างนอกนั่นองครักษ์เดินตรวจตราเข้มแข็ง ร่างสูงใหญ่ของชินหวางอ๋องนอนนิ่งอยู่บนแท่นนอน ใบหน้าซีดเผือด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเต็มหน้าผาก ร่างกายที่เคยแข็งแกร่งบัดนี้อ่อนแรงจนแทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม ดวงตาปิดสนิทริมฝีปากซีดเซียวไร้สีเลือดซีหรูนั่งอยู่ข้างแท่นนอนทั้งวันทั้งคืน ไม่กล้าแม้แต่จะหลับตาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าผากให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า มือบางลูบแขนหนาที่มีผ้าพันแผลหนาแน่นด้วยความสงสาร“นายหญิงพระชายารองเจ้าขา เสี่ยวไป๋ยกอาหารคาวหวานมาถึงนี่เพราะชายากินอะไรเสียหน่อยหากขืนยังไม่ดื่มกินอะไรเช่นนี้จะทำให้ท่านอ๋องน้อย…เอ่อเสี่ยวไป๋หมายถึงเจ้าก้อนแป้งของพระชายารองจะ พลอยหิวไปด้วยเจ้าค่ะ”“ข้ากินอะไรไม่ลง”“เจ้าค่ะต้องฝืนใจกินอะไรเสียหน่อยหากพระชายารองทำแบบนี้ท่านอ๋องรู้เข้าจะไม่สบายใจ” เสี่ยวไป๋พยุงซีหรูยังโต๊ะกลางห้องที่วางถาดอาหารไว้“ก็ได้กินเสียหน่อยข้าจะได้มีแรงคอยดูแลและเฝ้าไข้ท่านอ๋องได้ ใช่ไหมเสี่ยวไป๋”“แน่นอนเจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋ตักข้าวยิ้มๆ ซีหรูรีบใช้ตะเกียบในมือคีบเอาอาหารใส่ปากเคี้ยวงับๆ“กินเยอะๆ เจ้าค่ะ” เสี่ยวไป่คีบเอาหมูไก่วางในถ้วยข้าวซ
เสียงกีบม้าเกือบยี่สิบตัว กระทบพื้นดังสนั่น พร้อมเสียงร้องตะโกนระงม"โครมๆๆๆ!" เกี๊ยวหรูหราที่เคลื่อนตัวอยู่กลางทางระเบิดพังลงแทบในพริบตา เศษไม้ปลิวว่อนกลางอากาศ กลุ่มมือสังหารราวยี่สิบคนในชุดดำทะยานพุ่งเข้าล้อมกรอบอย่างรวดเร็ว ดวงตาแต่ละคู่ฉายแววสังหารเยียบเย็นไร้ปรานี“ฆ่า…เสิ่นซีหรู”ชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวออกจากเศษซากเกี๊ยวที่กำลังถล่ม มือหนึ่งฉวยคว้าข้อมือบางของซีหรูมากำไว้แน่น เสียงคำรามต่ำหลุดออกจากลำคอเขา"อารักขาชายาข้า! ไฉ่หาน ไม่ต้องห่วงข้า อารักขาพระชายา!!"คำสั่งเปี่ยมด้วยอำนาจและเด็ดขาดโดยไม่ลังเล ชินหวางอ๋องใช้ร่างสูงใหญ่ของตนเองโอบล้อมร่างบางไว้เต็มที่ แผ่นหลังกว้างตั้งตรงรับคมมีดที่ฟาดมาโดยตรงแทนซีหรู เขาขยับตัวอย่างรวดเร็วราวกับเสือโคร่งที่กำลังปกป้องลูกน้อยเสียงใบมีดเสียดแทงผิวเนื้อดัง “ฉึบ!” เลือดสดพุ่งซึมออกจากบาดแผลลึกบนบ่ากว้างของเขาทันที แต่เขากลับไม่แม้แต่จะร้องครวญสักคำ เพียงยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น"ท่านอ๋อง!" ไฉ่หานร้องด้วยความตกใจ ทะยานเข้าต่อสู้กับมือสังหารอีกทาง เสี่ยวอูที่รีบวิ่งเข้ามาขวางมือสังหารที่ตั้งใจพุ่งเข้าหาซีหรูชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวหลบการโจ
“ไปเถิด ไปในที่ที่เจ้าจะมีความสุข...ท่านอ๋องจะดูแลเจ้าและลูกของเขาข้าเชื่อเช่นนั้น” เขากระซิบด้วยน้ำเสียง จริงจัง ซีหรูเงยหน้าขึ้นมองดวงตาอบอุ่นของผู้เป็นบิดาน้ำตาไหลรินเงียบๆ ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่นั้นอย่างแนบแน่นชินหวางอ๋องยืนนิ่งปล่อยให้นางได้กล่าวลาไม่มีคำเร่งเร้า ไม่มีการเร่งรัดเมื่อซีหรูปล่อยมือออกในที่สุด ชินหวางอ๋องจึงโอบรัดเอวบางของนางอย่างอ่อนโยน พาขึ้นเกี๊ยวที่เตรียมไว้ก่อนจาก เสิ่นกวงหลิวตะโกนตามหลังมาเสียงหนักแน่นว่า “ดูแลตัวเองให้ดีนะ เจ้าตัวน้อยในท้องนั่นก็ด้วย!”ซีหรูหันกลับไปส่งยิ้มทั้งน้ำตา ขณะที่ชินหวางอ๋องโอบไหล่นางแน่นขึ้นอย่างให้กำลังใจเกี๊ยวค่อยๆ เคลื่อนออกจากประตูบ้านเสิ่นอย่างเงียบงัน มีเพียงเสียงสายลมอ่อนๆ พัดผ่าน และดวงใจสองดวงที่ค่อยๆ เริ่มผูกพันกันลึกซึ้งยิ่งขึ้น"ตั้งแต่นี้ไป... ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องเสียน้ำตาเพียงลำพังอีก" เสียงกระซิบของชินหวางอ๋องดังอยู่ข้างหูนาง แผ่วเบาแต่หนักแน่นราวกับคำสัตย์สาบานซีหรูกัดริมฝีปากน้อยๆ พยักหน้าช้าๆ ซบใบหน้าไว้กับอกกว้างที่แสนอบอุ่น รู้แน่แล้วว่าต่อจากนี้ ไม่ว่าจะมีพายุลูกใดในชีวิต ซีหรูก็จะไม่ต้องเผชิญมันเพียง