Beranda / รักโบราณ / ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม / ตอนที่ 3 จากมือที่เคยถือดาบต้องมาปั้นแป้ง

Share

ตอนที่ 3 จากมือที่เคยถือดาบต้องมาปั้นแป้ง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-22 11:06:26

หลังจากหลานสาวตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับไปถึงสามคืน ซุนฉีก็ได้ไปตามท่านหมอสวีให้กลับมาช่วยตรวจดูอาการของชิงเหมยอีกครา คำเอื้อยที่เพิ่งได้กลับมาเกิดใหม่ยังคงไม่อาจปรับตนให้เข้ากับชีวิตใหม่ได้ แม้นภาพในอดีตของเด็กหญิงจะวนเวียนเข้ามาภายในห้วงนึกคิดของนาง ราวกับได้รับรู้ทุกเหตุการณ์ที่เจ้าของร่างประสบพบเจอมาตั้งแต่เกิด

เหตุใดเด็กหญิงผู้นี้ถึงช่างอาภัพและน่าสงสารยิ่งนัก เทียบกับชีวิตของนางในชาติภพก่อนแล้ว ชีวิตของเด็กหญิงนั้นช่างโชคร้ายกว่านางยิ่งนัก ทั้งสูญเสียบิดาที่เป็นขุนนางไปในสนามรบ และสูญเสียมารดาไปตั้งแต่นางเยาว์วัย ตระกูลของบิดาก็ทอดทิ้งทำให้นางต้องมาอาศัยอยู่กับท่านยายที่เป็นเพียงแม่ค้าขายขนมในตลาด ถูกเด็กๆ วัยเดียวกันที่เป็นลูกหลานของขุนนางกับพวกเศรษฐีกลั่นแกล้งรังแก

“เหมยเอ๋อร์… ไหนขอลุงตรวจดูอาการของเจ้าเสียหน่อยเถิด…”

เด็กหญิงนอนมองผู้ที่นางรู้มาจากท่านยายว่าเขาเป็นท่านหมอที่รักษาให้แก่นางอีกทั้งยังเป็นสหายเก่าของท่านยาย เรียวแขนเล็กยื่นออกไปให้เขาจับชีพจรที่ข้อมือของนาง ใบหน้าที่มีร่องรอยตามวัยเผยรอยยิ้มออกมา

“อาการของนางเป็นเช่นไรบ้างท่านหมอสวี” ซุนฉีเอ่ยถามอาการของหลานสาวด้วยความร้อนใจ

“ยามนี้อาการของนางดีขึ้นแล้วล่ะซุนฉี เพียงแค่เจ้าให้นางได้กินอาหารบำรุงพละกำลังเสียหน่อย และกินยาตามที่ข้าเขียนให้ ร่างกายของนางก็จะกลับมาแข็งแรงเช่นเดิม” ซุนฉียิ้มออกมาทั้งน้ำตายามที่ได้ยินว่าอาการของหลานสาวดีขึ้นแล้ว

“ประเดี๋ยวเจ้านำเทียบยานี้ไปที่โรงหมอของข้า ข้าจะลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง” สวีจิ้นจงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงยินดียามที่ยื่นใบเทียบยาที่เขาเพิ่งเขียนเสร็จให้แก่สหายเก่า

“ได้เยี่ยงไรกัน เพียงแค่ท่านมาตรวจอาการของนางให้แบบไม่คิดเงินเช่นนี้ก็นับว่าเป็นบุญคุณแก่ข้าและนางยิ่งนักแล้ว”

สวีจิ้นจงรู้ดีว่าถ้าซุนฉีกล่าวเช่นนี้แล้วคงจะไม่ยอมรับน้ำใจที่เเขาจะลดค่ายาให้เด็กหญิงเป็นแน่ เขาจึงยินยอมที่จะให้นางจ่ายค่ายาในราคาเต็ม สวีจิ้นจงกล่าวลาสหายเก่าพลางส่งยิ้มให้แก่เด็กหญิง ก่อนที่เขาจะเดินออกจากเรือนของสองยายหลานไป

“เหมยเอ๋อร์… เจ้ารู้สึกเช่นไรบ้าง หากไม่สบายที่ใดให้บอกยาย อย่าได้เก็บความเจ็บปวดเอาไว้ผู้เดียว เข้าใจหรือไม่” ซุนฉีหันกลับมาถามไถ่หลานสาวที่ส่งยิ้มมาให้นาง เด็กหญิงพยักหน้าพลางคิดในใจว่า

‘ท่านยายของชิงเหมยนั้นช่างรักหลานสาวของนางยิ่งนัก จากนี้ไปข้าที่มาเกิดใหม่ในร่างของชิงเหมยนั้น คงจะต้องเป็นตัวแทนของเด็กหญิงดูแลท่านยายของนางให้ดี’

“เดี๋ยวยายจะไปซื้อยากับทำอาหารให้เจ้ากิน เจ้าก็นอนพักอีกสักนิดเถิดเหมยเอ๋อร์ เดี๋ยวยายกลับมา” เด็กหญิงพยักหน้าเป็นคำตอบ ยามนี้นางยังไม่กล้าพูดคุยกับสตรีที่เป็นยายของเด็กหญิงมากนัก แม้นจะเข้าใจทุกคำพูดที่นางกล่าวออกมา

ซุนฉีห่มผ้าให้หลานสาวก่อนที่จะออกจากห้องนอนของหลานสาวไป ผู้ที่นอนนิ่งอยู่ก่อนหน้าผุดกายลุกขึ้นนั่งพลาวสำรวจรอบๆ ห้อง ดูแปลกตายิ่งนัก แต่กลับรู้สึกคุ้นเคย อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกของเจ้าของร่าง แม้จะละร่างนี้ไปแล้วแต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้นางได้รับรู้เรื่องราวที่ผ่านมา

ร่างเล็กลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินสำรวจเรือนหลังเล็กหลังนี้ พื้นที่ของเรือนหลังนี้นั้นไม่กว้างขวางแต่ทว่ามีรั้วรายล้อมเอาไว้กั้นเขตแดนของแต่ละเรือนอย่างชัดเจน ต่างจากบ้านเรือนที่คำเอื้อยเคยอยู่อาศัยมาในอดีตชาติ นางเดินสำรวจเรือนหลังเล็กเพียงไม่นานก็ดูจนทั่วทั้งบริเวณ ครั้นนึกถึงหญิงวัยกลางคนที่ออกไปซื้อยาให้นางได้เกือบหนึ่งก้านธูปแล้ว นางจึงต้องรีบกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อไม่ให้สตรีที่เป็นท่านยายของนางในชาติภพนี้ต้องเป็นกังวล ที่นางลุกขึ้นมาทั้งยังไม่มีเรี่ยวแรง

หลังจากกลับมาจากตลาด ซุนฉีก็รีบเข้าครัวไปทำอาหารและต้มยาให้หลานสาวเพียงคนเดียวของนาง กลิ่นหอมของควันไฟปะทะกับกลิ่นของอาหารที่ลอยเข้ามาภายในห้องที่ชิงเหมยนอนทำให้ท้องของเจ้าของร่างเล็กร้องออกมาเพราะความหิวโหย ก็ร่างกายนี้หลับใหลไปนานถึงสามวันสามคืน

“เหมยเอ๋อร์… ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนเถิดจะได้กินยา”

เสียงของท่านยายดังออกมาจากหน้าประตูพร้อม ชิงเหมยจึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วลงจากเตียงนอนไปยังโต๊ะที่อยู่ใจกลางของห้อง ซุนฉีมองหลานด้วยความเป็นห่วง นัยน์ตากลมมองอาหารตรงหน้าก็กลืนน้ำลายลงคอ

“ค่อยๆ กินล่ะ เจ้านอนหลับไปถึงสามคืน ยายเกรงว่ากระเพาะของเจ้าจะรับอาหารเหล่านี้มิทัน”

เด็กหญิงพยักหน้าพลางหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มในชามขึ้นมากิน ปลาแห้ง กับเกี๊ยวผัก แม้นจะเป็นอาหารที่แปลกตาแต่ก็รู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี นางกินไปเงียบๆ จนหมด ซุนฉีมองหลานด้วยความห่วงใย ก่อนที่จะเดินออกไปรินยาต้มมาให้

“ถึงจะขมหน่อยก็กินให้หมดล่ะเหมยเอ๋อร์ เจ้าจะได้มีเรี่ยวมีแรง ร่างกายก็จะได้กลับมาแข็งแรงเช่นก่อน”

ยาต้มกลิ่นฉุนนัก แต่มีหรือผู้ที่เคยมีชีวิตอยู่จนถึงวัยสิบแปดปีเช่นคำเอื้อยจะกินไม่ลง นางยกถ้วยยาต้มขึ้นมากระดกจนหมดในคราเดียว ซุนฉียิ้มออกมาพลางกล่าวชื่นชม

“เก่งมากหลานยาย เอาล่ะ…ครานี้ก็ไปพักผ่อนเสียเถิด อืม… พรุ่งนี้ยามอิ๋นยายต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำขนมไปขายที่ร้าน เจ้าก็นอนพักผ่อนอยู่ที่เรือนอีกสักสองสามวันแล้วค่อยไปช่วยยายก็ได้”

“เจ้าค่ะท่านยาย”

เหมือนนี่จะเป็นคราแรกที่นางได้ยินเสียงของหลานสาวตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมา ซุนฉียิ้มพลางเก็บถ้วยชามเพื่อเอาออกไปล้าง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 68 - 1 เพราะสวรรค์เมตตาให้เกิดมาได้ครองคู่ (End)

    หลังจากเฉียวจูจ้านและซูฉีเดินทางออกจากจวนกลับไปได้ไม่นาน เยว่อู๋ชางก็กลับมาจากในวังหลวง เพราะภรรยาตั้งครรภ์อ่อนๆ เขาจึงได้รับพระกรุณาจากองค์รัชทายาทให้กลับมาค้างที่จวนในทุกค่ำคืน จนกว่าครรภ์ของนางจะมั่นคง ถึงค่อยให้เขากลับไปดูแลพระองค์อย่างใกล้ชิดอีกครา“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ” เสียงหวานทักทายสามีที่กำลังเดินเข้ามาภายในศาลากลางน้ำ“อื้ม…แล้วนี่น้องหญิงกำลังทำสิ่งใดอยู่รึ”เขาเดินไปนั่งลงเคียงข้าง แล้วยกร่างบางขึ้นมานั่งบนตัก จากนั้นจึงหอมแก้มนางไปหนึ่งที สองสาวรับใช้คนสนิทและสาวรับใช้ที่อยู่คอยรับใช้นายหญิง ต้องรีบพากันหลุบตามองต่ำ“ท่านพี่!!! พวกสาวรับใช้อยู่กันเยอะแยะ ข้าอายพวกนางนะเจ้าคะ”ชิงเหมยกระซิบเสียงดุใส่สามี สองแขนเรียวโอบล้อมรอบลำคอของเขาเพราะกลัวตกเซียงซุนและหยวนเวยพากันยิ้มออกมา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเพียงใด ความรักที่นายท่านมีต่อนายหญิงหาได้ลดน้อยลงไม่ ทว่ามีแต่จะเพิ่มขึ้นในทุกวัน ยิ่งนายหญิงมีครรภ์เช่นนี้ นายท่านก็ดูจะทะนุถนอม และรักใคร่นายหญิงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ความสัมพันธ์ของสามีภรรยากลมเกล

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 68 เพราะสวรรค์เมตตาให้เกิดมาได้ครองคู่ (End)

    หลังจากนอนค้างที่จวนตระกูลซิ่วได้เพียงหนึ่งคืน เช้านี้ชิงเหมยจำต้องติดตามผู้เป็นสามี เดินทางกลับเข้าเมืองหลวง ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา ทำให้นางมิอาจเอาแต่ใจตนเองได้ ก่อนเดินทางออกจากจวน นางและสามีก็ได้กินมื้อเช้าพร้อมหน้าพร้อมตา มีท่านย่า ท่านยาย และพี่น้องตระกูลซิ่วของนาง ท่านยายเล็ก ท่านลุง ท่านป้าสะใภ้และลูกๆ ทั้งสองของท่านลุงนั้น ได้เดินทางกลับจวนตระกูลซุนไปตั้งแต่พิธีแต่งงานเสร็จสิ้นแล้ว ในวันที่นางกลับมาเยี่ยมบ้านเดิมจึงมิได้พบกับพวกเขา“เดินทางปลอดภัย ขอให้เจ้าจงรักษาตัวให้ดี หากมีเวลาก็กลับมาเยี่ยมยายบ้าง”ซุนฉีกล่าวในขณะที่นางออกมาส่งหลานสาวอยู่ที่ด้านหน้าจวน ยามนี้ขบวนขนสัมภาระและผู้ติดตามของหลานเขยกับหลานสาวเตรียมพร้อมหมดแล้ว รอเพียงแค่ให้ชิงเหมยได้ร่ำลาครอบครัวก่อนออกเดินทางก็เท่านั้น“เจ้าค่ะท่านยาย ท่านเองก็อย่าลืมรักษาสุขภาพให้ดี รอหลานกลับมาเยี่ยมนะเจ้าคะ”ชิงเหมยกล่าวออกมา น้ำเสียงข่มความอาลัยเอาไว้อย่างมิดชิด เพื่อไม่ให้ท่านยายเป็นห่วงนางมากนัก ครานี้เป็นคราแรกที่นางจะต้องห่างไกลจากท่านยายจริงๆ หาใช่เพียงแค่ไปไม่กี่

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 67 - 1 หยินหยางสอดประสาน

    หลังจากที่เยว่อู๋ชางเดินออกจากห้องหอไปได้ไม่นานนัก สองสาวรับใช้คนสนิทของชิงเหมยก็เข้ามาด้านใน ร่างระหงนั่งสัปหงกอยู่บนเก้าอี้ หยวนเวยจึงรีบไปเตรียมน้ำให้นางอาบ ส่วนเซียงซุนรับหน้าที่เข้าไปปัดกวาดเตียงนอน ครั้นได้เห็นร่องรอยของการร่วมหอในค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้างามของสาวรับใช้ที่ยังไม่เคยออกเรือนก็ถึงกับร้อนผ่าว ในใจพลันรู้สึกยินดี ที่ท่านเขยและคุณหนูใหญ่ ไม่ได้ปล่อยให้คืนเข้าหอผ่านไปอย่างไร้ค่า“ข้าน้อยเตรียมน้ำเสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหนู อุ๊ย!!! ฮูหยินเล็ก”หยวนเวยกลับเข้ามาภายในห้องพลางกล่าวรายงาน ก่อนที่นางจะปิดปากครั้นรู้ตัวว่านางเรียกขานสถานะเดิมของชิงเหมยที่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซิ่ว แล้วจึงเปลี่ยนคำเรียกขานคุณหนูใหญ่ของนางใหม่ ยามนี้คุณหนูใหญ่ก้าวผ่านค่ำคืนของการเป็นผู้ใหญ่มาแล้ว หมายความว่าบัดนี้ชิงเหมย นางได้กลายมาเป็นฮูหยินเล็กสกุลเยว่เต็มตัวแล้ว"ฮูหยินเล็ก อืม… ใช่แล้วล่ะ สถานะข้าในยามนี้กลายเป็นฮูหยินของพี่ชางแล้วสินะ" ใบหน้างามปรากฏคลื่นแห่งความสุขออกมา แม้จะยังคงง่วงงุนแต่ทว่าใบหน้าของนางกลับอิ่มเอิบ“เช้านี้ท่านเขยดูอารมณ์ดียิ่ง

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 67 หยินหยางสอดประสาน

    ท่ามกลางความเงียบสงบจากภายนอก ภายในห้องหอกลับมีเสียงครางทุ้มหวานของคู่บ่าวสาว ดังสอดประสานกันขึ้นมาเป็นระยะ คราแรกที่ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มรุกล้ำเข้าไปภายในกลีบบุปผางามของนาง ชิงเหมยก็แทบจะปิดบังบังความเจ็บปวดเอาไว้ไม่อยู่ นางแสดงออกมาผ่านทางสีหน้าและแววตา ปลายหางตามีหยาดน้ำเปียกชุ่มอยู่เพียงเล็กน้อย แต่ทว่านางกลับไม่กล้าเอ่ยปากขัดขวางอารมณ์ที่เร่าร้อนของเขามือบางกอบกุมผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ก่อนที่นางจะค่อยๆ ผ่อนคลายลง ความรู้สึกเจ็บปวดในคราแรก จึงแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกวาบหวาม เร่าร้อน เข้ามาแทนที่ ยามนี้ผิวกายของนางและเขาต่างร้อนผ่าว ทุกคราที่เขาขยับโยกกาย ก่อให้เกิดความรู้สึกหลากหลาย สิ่งนี้น่ะหรือที่พวกผู้ใหญ่เรียกว่า หยินหยางสอดประสาน ชิงเหมยเพิ่งได้รู้ซึ้งก็ในวันนี้นี่เอง ความรู้สึกที่มีทั้งสุขและทุกข์ผสมผสานกันไป ทว่าความทุกข์นั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่หอมหวานชวนลุ่มหลง“น้องหญิง…เจ้าเจ็บหรือไม่”ชายหนุ่มเหนือร่างงามหาได้ทำตามแต่ใจตนเองผู้เดียวไม่ เขาหยุดจังหวะการรุกล้ำ แล้วเอ่ยถามความรู้สึกของผู้เป็นภรรยาออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แม้อารมณ์ใคร่

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 66 - 1 วันคืนแห่งความสุข

    ขบวนสินเดิมของเจ้าสาวยาวเกือบหนึ่งลี้ ถือว่าไม่น้อยหน้าสมกับเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่ ผู้คนต่างพากันนึกอิจฉานางขึ้นมา ด้วยไม่คิดว่าสตรีที่เกิดจากตระกูลธรรมดาอย่างซุนฉี จะสามารถมอบสินเดิมให้กับหลานสาวมากมายถึงเพียงนี้ แม้ผู้คนจะรู้ดีว่ามิใช่ของตระกูลซุนเพียงตระกูลเดียว แต่ก็รู้สึกนับถือซุนฉี ที่อีกฝ่ายคอยเก็บสะสมทรัพย์สินมากมาย เพื่อให้หลานเป็นสินเดิมติดตัวไปยามออกเรือน“คุณหนูเจ้าคะ หิวหรือไม่เจ้าคะ ข้าน้อยเตรียมขนมมาให้ หากคุณหนูหิวก็กินรองท้องไปก่อนหนาเจ้าคะ ดูจากการเคลื่อนขบวนแล้ว ข้าน้อยคิดว่ากว่าจะถึงจวนตระกูลเยว่ก็คงอีกสองเค่อ” เซียงซุนเปิดม่านเกี้ยวแล้วบอกคุณหนูของนางด้วยความห่วงใย เพราะวันนี้คุณหนูหาได้กินสิ่งใดลงไม่ อาจจะเป็นเพราะความตื่นเต้น“อื้อ…”ชิงเหมยมองออกไปผ่านผ้าคลุมหน้าก็เห็นว่าข้างทางมีชาวบ้านมากมาย ใบหน้าทุกคนต่างยิ้มแย้มออกมาด้วยความยินดี ทำให้นางรู้สึกประทับใจยิ่งนัก ไม่คิดว่างานแต่งงานของนางจะทำให้ผู้คนสนใจมาชื่นชมมากมายถึงเพียงนี้และก็เป็นอย่างที่เซียงซุนบอก เพราะกว่าจะถึงจวนตระกูลเยว่ก็ใช้เวลานานเกือบสองเค่

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 66 วันคืนแห่งความสุข

    หนึ่งปีต่อมาวสันตฤดูเวียนมาถึง นั่นก็หมายความว่า กำหนดการพระราชทานสมรสระหว่างคุณชายรองสกุลเยว่กับคุณหนูใหญ่สกุลซิ่วก็มาถึงเสียที ชิงเหมยต้องไปออกเรือนที่ตระกูลซิ่ว ทำให้ซุนฉี ซุนเฉียว เหลียงจง หลิวเวย และลูกๆ ทั้งสองของนาง ต้องเดินทางจากจวนตระกูลซุน ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านซานฉี เข้าเมืองถิงฮวาไปพำนักที่ตระกูลซิ่วชั่วคราว ก่อนที่จะถึงวันวิวาห์ เพื่อร่วมกันส่งหลานสาวออกเรือน“ข้ารู้สึกใจหายยิ่งนัก หลังจากเหมยเอ๋อร์ออกเรือนไปแล้ว ข้าจะทำเยี่ยงไร” ซุนฉีนึกใจหายขึ้นมา หลานสาวอาศัยอยู่กับนางมาตั้งแต่เกิด จนมาถึงวัยสิบแปดปี วัยที่เหมาะสมแก่การออกเรือน“ท่านกล่าวอันใดเยี่ยงนั้น ท่านไม่อยากเห็นเหมยเอ๋อร์มีความสุขหรอกรึ” ผิงหลันแสร้งถามออกมาทั้งๆ ที่ใจนางเองก็ไม่ต่างจากซุนฉีแม้แต่น้อยหลังจากหลานสาวกลับจากเยี่ยมบ้านเดิมตามธรรมเนียม ชิงเหมยก็ต้องออกเดินทางเข้าเมืองหลวงทันที เพราะว่าที่หลานเขยของนางต้องทำงานรับใช้ราชวงศ์ ไม่อาจลางานนานได้ และเพราะหน้าที่ของเขา ทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทางไกล จวนของเขาที่เตรียมไว้ยามนี้ตกแต่งไว้รอนายหญิงของจวนเรียบร้อยแล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status