LOGINรุ่งเช้าของวันต่อมา...
ที่หน้าประตูเรือนเมฆาคล้อย รถม้าคันขนาดกลางที่ดูเรียบง่ายแต่แข็งแรงทนทานได้ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว อาหลิวและภรรยาที่ได้พักผ่อนและมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย ยืนรออยู่ด้านข้างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
หรงจื่อเหยาเดินออกมาจากเรือนพักในชุดของคุณหนูใหญ่ที่ดูทะมัดทะแมงเหมาะแก่การเดินทาง แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสง่างามของบุตรสาวตระกูลสูงศักดิ์ นางเดินตรงมายังเสี่ยวชุนและอาซิงที่ยืนรอส่งอยู่
"เสี่ยวชุน อาซิง" จื่อเหยาหันไปกำชับคนสนิททั้งสอง "พวกเจ้าจงอยู่ที่นี่ ดูแลความเรียบร้อยทั้งหมดแทนข้า...เสี่ยวชุน เจ้าต้องดูแลแม่นางไป๋หลี่ให้ดี ส่วนเจ้าอาซิง...จงคอยดูแลความปลอดภัยของทุกคนในเรือนพัก อย่าให้ใครหน้าไหนเข้ามาสร้างความวุ่นวายได้"
"เจ้าค่ะคุณหนู/ขอรับคุณหนู" ทั้งสองรับคำเสียงหนักอย
หลายเดือนผ่านไปนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ที่เมืองเหยียนสุ่ย...ผ่านพ้น ในตอนนี้ฤดูร้อนที่ร้อนระอุได้ผ่านไปนานแล้วและถูกแทนที่ด้วยสายลมเย็นสบายแห่งต้นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้รอบเรือนเมฆาคล้อยเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีเหลืองทองอร่าม บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความตึงเครียด บัดนี้กลับสงบสุขและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา จื่อเหยาได้ใช้ช่วงเวลาหลายเดือนนี้ในการฟื้นฟูร่างกายและสร้างฐานอำนาจเล็ก ๆ ของนางขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ โดยอาศัยชื่อเสียงของคุณชายหลี่เหยาที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นตำนานที่เล่าขานกันไปทั่วทั้งอำเภอ แต่กลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลยแม้แต่คนเดียว บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่จื่อเหยากำลังนั่งอ่านตำราแพทย์ที่พ่อบ้านสวีอุตส่าห์ไปหามาให้อย่างใจเย็น โดยมีเหลิ่งเยว่ยืนเฝ้าอารักขาอยู่ไม่ห่างนั้นเองที่ตัวตนของนางถูกจื่อเหยารู้แล้วจากอาการบาดเจ็บในครั้งก่อน...เสียงฝีเท้าที่รีบร้อนของพ่อบ้านสวีก็ดังขึ้นจากทางเดินหน้าห้องพัก&nb
เหลิ่งเยว่เตรียมจะรับคำ ทว่าได้มีเสียงของเสี่ยวชุนดังแทรกขึ้นมาอย่างสั่นกลัว "คะ...คุณหนูเราต้องฆ่าพวกเขาเลยหรือเจ้าคะ" คำถามที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและหวาดกลัวของเสี่ยวชุน ทำให้หรงจื่อเหยาที่กำลังจะออกคำสั่งต่อไปถึงกับชะงักงันพร้อมกับคิดว่าโชคดีที่นางได้ให้นางจางกับอาเฉียงหลอกล่อเสี่ยวเฉินออกไป ก่อนที่นางจะหันไปมองบ่าวรับใช้คนสนิทที่อยู่กับนางมาตั้งแต่ต้น...ใบหน้าของเสี่ยวชุนซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำใส ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม...ที่ไม่ใช่เกิดจากการแสดงอีกต่อไปแล้ว จื่อเหยารู้สึกราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจของตน...นางเกือบลืมไปแล้ว...ว่าเด็กสาวตรงหน้า...ก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น นางเดินเข้าไปหาเสี่ยวชุนช้า ๆ แววตาที่เคยเย็นเยียบพลันอ่อนแสงลงเล็กน้อย "
ช่วงเย็นจนถึงช่วงหัวค่ำภายในโรงเตี๊ยมจิ่นซิ่วของเมืองอันคังผ่านไปอย่างเงียบสงัด...แต่สำหรับหรงจื่อเหยาแล้ว นางรู้ดีว่านี่เป็นเพียงความเงียบที่ซ่อนเร้นไว้ซึ่งกระแสคลื่นใต้น้ำอันรุนแรง ทั้งนี้เป็นเพราะนางรู้เรื่องแผนการบางอย่างมาจากสายลับพิเศษนั่นเอง หากจะเป็นเรื่องอันใดนั้น คงต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าในตอนที่นางสั่งให้วิญญาณของนางจางไปตามติดอยู่กับจ้าวมามา 'นายหญิงเจ้าคะ...' เสียงกระซิบที่เย็นเยียบของวิญญาณป้าจางดังขึ้นในหัวของนางตั้งแต่ตอนที่ขบวนรถม้าเพิ่งผ่านเข้าประตูเมืองอันคังมาได้ไม่นานนัก 'เมื่อครู่...ข้าน้อยได้ยินนางพูดคุยกับบ่าวรับใช้ที่ชื่อเสี่ยวถัง...นางกำชับนังเด็กนั่นว่าเมื่อไปถึงเมืองอันคัง ให้รีบไปติดต่อญาติห่าง ๆ ของนางที่ชื่อจิ่วกุ่ยหวัง ฉายาหวังขี้เมา...ดูเหมือนว่าพวกมันจะวางแผนใช้ชายผู้นี้ให้มาสร้างเรื่องอื้อฉาวเพื่อทำลายชื่อเสียงของนายหญิงในคืนนี้เจ้าค่ะ!'
เมื่อขึ้นมานั่งภายในรถม้า...จื่อเหยาก็รู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวของนางได้กลับคืนมาอีกครั้ง นางจึงเอนกายพิงผนังรถม้าอย่างสบายใจ...ส่วนแววตาที่แสร้งทำเป็นเลื่อนลอยนั้นมาบัดนี้กลับทอประกายแห่งความเย็นชาและมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม (ได้เวลาทวงคืนทุกสิ่งที่เป็นของเจ้าของร่างนี้...พร้อมกับดอกเบี้ยแล้ว...เหมยลี่) ทันใดนั้นเอง...นางก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในรถม้า...ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นวิญญาณของนางจาง อาเฉียง และเสี่ยวเฉิน ที่ลอยเข้ามานั่งอย่างเบียดเสียดอยู่ตรงข้ามกับนางด้วยท่าทีตื่นเต้น 'นายหญิง/พี่สาว...ท่านจะให้พวกเราติดตามกลับไปเมืองหลวงด้วยจริง ๆ หรือขอรับ/เจ้าคะ?' เสียงของทั้งสามดังขึ้นพร้อมกันในหัวของจื่อเหยา แววตาโปร่งแสงของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างปิดไม่มิด จื่อเ
"พวกเจ้ารีบไป!" จ้าวมามาหันไปสั่งบ่าวรับใช้หญิงสองคนที่ติดตามมาด้วย "ช่วยกันจับตัวคุณหนูใหญ่ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย! เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ข้าเตรียมมาให้เรียบร้อย! เราจะให้ท่านเจ้ากรมหลี่เห็นหลานสาวสุดที่รักในสภาพเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!" บ่าวรับใช้หญิงร่างกำยำสองคนรับคำแล้วเดินตรงเข้ามาหาจื่อเหยาทันที แต่ยังไม่ทันที่มือหยาบกร้านของพวกนางจะได้แตะต้องตัวของจื่อเหยา! เสียงกรีดร้องอย่างแหลมหูของเด็กสาวที่นั่งขดอยู่เป็นก้อนกลมพลันส่งเสียงออกมา...พร้อมกันนั้นนางก็ได้ดีดตัวลุกขึ้นราวกับกระต่ายตื่นตูม! นางถอยกรูดไปจนชิดมุมห้อง แววตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและบ้าคลั่งอย่างสมจริง! ไม่เพียงแค่นั้น นางยังคว้าแจกันดินเผาที่ร้าวบิ่นใบหนึ่งขึ้นมาถือไว้ในมือเพื่อเป็นอาวุธอีกด้วย ซึ่งท่าทางของนางในยามนี้ทำให้จ้าวมามาถึงตกตะลึง&
เมื่อนางกลับมานั่งลงที่มุมเดิม เจ้าตัวก็รีบหักขนมเปี๊ยะชิ้นโตส่งให้วิญญาณของเสี่ยวเฉินที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างด้วยแววตาที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ 'เอาไปสิ' 'ขอบพระคุณพี่สาว!' เสี่ยวเฉินรับของเซ่นไหว้นั้นมาด้วยความดีใจเช่นเดิม จากนั้นเขาก็รีบกินมันเข้าไปด้วยความเอร็ดอร่อยทันที เมื่อเห็นท่าทางของเด็กชายเช่นนี้จื่อเหยาก็อดที่จะยิ้มออกมาอย่างรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ แล้วในระหว่างนี้นางก็ได้อาศัยการตรวจสอบเรื่องกับดักซ้ำกับระบบอีกครั้งแม้ว่านางจะไว้ใจต่อคำรายงานของเสี่ยวเฉินก็ตาม...ถึงกระนั้นนางคิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่ควรจะประมาท [ระบบ ช่วยตรวจสอบเส้นทางในอุโมงค์ให้ที ว่าปลอดภัยตามคำรายงานของเสี่ยวเฉินหรือไม่] ติ๊ง!&n







![I'll follow Apollo [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)