“ที่วิหารมีข้อห้ามมากมายอีกทั้งลูกยังไม่เคยไปอยู่ที่อื่นมาก่อนนอกจากคฤหาสน์ของเรา..แมดดี้แม่รู้ว่าในใจของลูกมีความกังวลมากมายแต่ลูกจะผ่านมันไปได้ด้วยดี"
แมเดอลีนส่งยิ้มให้กับท่านแม่ผู้งดงามของเธอ ท่านแม่คือสตรีที่มีเส้นผมสีทองสว่างเป็นสัญญาลักษณ์ที่แสนสวยงามของตระกูลเกโลทีส ท่านแม่และท่านพ่อของเธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คู่ที่ได้แต่งงานเพราะความรัก สายเลือดของตระกูลทั้ง5คือสายเลือดที่พิเศษและศักดิ์สิทธิ์ เพราะแบบนั้นจึงต้องแต่งงานกันเองภายใน 5ตระกูลเท่านั้นถึงจะสามารถให้กำเนิดทายาทได้ ท่านแม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนมีถึง9ตระกูลด้วยกัน แต่ทว่าเพราะช่วงเวลาที่เลยผ่าน บางตระกูลไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ทำให้ตระกูลนั้นๆ จะต้องล่มสลายไปตามกาลเวลา ตระกูลเรเซเดนของเราเองก็เหมือนกัน หากว่าท่านแม่ให้กำเนิดเด็กผู้ชายไม่ได้ ในบางทีมันอาจจะล่มสลายตรงที่เธอต้องแต่งงานออกไปอยู่ที่อื่นก็ได้ ในนิยายไม่ได้กล่าวถึงตรงนี้เพราะว่าเธอคือตัวประกอบที่ไม่มีค่าอะไรให้ต้องมาใส่ใจ “หากว่า..ลูกมีความรักขึ้นมา แล้วบุรุษผู้นั้นไม่ได้อยู่ในหนึ่งในสี่ตระกูลที่เหลือ..แบบนั้นท่านแม่จะว่าอะไรลูกไหมคะ” เดวาหัวเราะออกมาเบาๆ เธอยกมือขึ้นมาลูบเส้นผมสีแดงของลูกสาวด้วยความรู้สึกห่วงใย “ไม่เป็นไรเลยสักนิดเดียว เจ้าสามารถตั้งครรภ์ได้..เพียงแต่อาจจะต้องมีขั้นตอนการดื่มน้ำมนต์เพื่อลบล้างคำสาป และเด็กที่เกิดมาจะไม่มีสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรักนะแมดดี้ อย่าเลือกเพราะว่าต้องเลือก แต่จงเลือกเพราะว่าเขาคือคนที่เจ้ารัก” ความรักอะไรนั่นดูเหมือนจะสลับซับซ้อนมากจริงๆ ด้วยสินะ “ลูกไปก่อนนะคะท่านแม่ ฝากลาท่านพ่อด้วยนะคะ” เดวาจับมือของลูกสาวเอาไว้ “หลังจากที่ลูกกลับมา ชีวิตของลูกจะเปลี่ยนไปมากพอสมควรเลยนะแมดดี้ เมื่อฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้น งานเลี้ยงมากมายจะถูกจัดขึ้นมาและนั่นคือการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของตลาดสมรสในจักรวรรดิโอลีวิเย่ร์ แน่นอนว่าจะมีจดหมายมากมายหลายสิบฉบับถูกส่งมาที่เรเซเดน เพื่อขอลูกแต่งงาน..เลือกให้ดีแมดดี้เพราะว่าพ่อกับแม่ไม่คิดจะบังคับให้เจ้าแต่งงานกับหนึ่งในสามตระกูลหรอกนะ” แมเดอลีนพยักหน้า เธอโอบกอดมารดาเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นในใจ บุรุษที่แค่มองก็รู้สึกได้เลยว่าเขาใช่ บุรุษผู้นั้นเธอจะหาเขาเจอไหมนะ ............... “หากยังอยากให้ตระกูลกรีนของเรายังคงอยู่และทรงอำนาจ พวกเจ้าคนใดคนหนึ่งจะต้องแต่งงานกับเลดี้เรเซเดน..แบบไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ” อาดาลยกแก้วสุราขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่สนใจ ตระกูลนี่จะล่มสลายอะไรก็ช่างสิ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเขาสักหน่อย “นี่..ขอร้องล่ะ อาดาล แลนดรี พวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องแต่งงานกับเลดี้เรเซเดน เพราะแบบนั้นพวกเจ้าควรจะใช้โอกาสที่นางเดินทางไปที่วิหารเพื่อทำความรู้จักกับนางก่อนที่นางจะเข้าพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่พระราชวัง.." ความรู้สึกของอดัมในตอนนี้เขาอยากจะวิ่งไปแล้วเอาหัวโขกเสาตายให้รู้แล้วรู้รอดไป พี่สาวผู้สง่างามของเขาฝากหลานชายเอาไว้ให้ดูแลสองคน เจ้าแฝดทั้งสองคนนี่มีนิสัยเอาแต่ใจในแบบที่เขาอยากจะบ้าตายวันละหลายรอบ อาดาล แฝดพี่เป็นบุรุษเจ้าสำราญที่ชื่นชอบการเล่นสนุกกับสตรีไปวันๆ ส่วนแลนดรีแฝดน้อง ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากดาบและการต่อสู้ ส่วนเขาเพื่อให้ตระกูลกรีนดำเนินต่อไป เขาจึงต้องมารับหน้าที่การดูแลตระกูลกรีนเป็นการชั่วคราวเพื่อรอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการส่งมอบตระกูลให้แก่หนึ่งในแฝดนรกนี่.. “ท่านอาครับ ที่วิหารมีสตรีไปอยู่ที่นั่นเยอะรึเปล่า หากว่ามีสตรีอยู่ที่นั่นมากพอสมควร เช่นนั้นข้าจะขออาสาไปที่นั่นเองครับ” อาดาลกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้กับท่านอาและน้องชายของเขา “ตามนั้นนะครับในเมื่อได้ข้อสรุปแล้วเช่นนั้นข้าจะไปฝึกดาบต่อ” แลนดรีลุกขึ้นในทันทีพร้อมกับถือดาบเพื่อเดินออกไปจากห้องนี้อย่างรวดเร็ว แต่อดัมจับคอเสื้อของหลานชายเขาเอาไว้ “ไม่ได้ ที่วิหารมีนักบุญหญิงมากมายเจ้าไปที่นั่นไม่ได้นะอาดาล ให้แลนดรีไปแทน วางดาบของเจ้าแล้วไปแต่งกายใหม่ซะ!!” แลนดรีกลอกตามองบนด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายมากพอสมควร เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ในเมื่อพี่ชายของเขาอาสาไปเช่นนั้นแล้วทำไมท่านอายังเลือกเขาอีก แต่เพราะเขาเป็นคนพูดไม่เก่ง อีกทั้งเขาไม่อยากจะขัดใจท่านอาเท่าไหร่ ท้ายที่สุดแล้วแลนดรีจึงเดินทางมาที่วิหารด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เขาสวมวิกผมสีดำมาเพราะไม่อยากแสดงตัวว่ามาจากตระกูลกรีน รถม้าคันแล้วคันเล่าที่แล่นผ่านไป สตรีมากมายเดินเข้าไปในวิหารพร้อมกับข้ารับใช้ที่ตามติด เขาไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ สตรีพวกนี้ไม่น่าสนุกเลยสักนิดเดียว สู้ดาบของเขาก็ไม่ได้.. แลนดรีหมุนตัวเพื่อตั้งใจจะเดินทางออกไปจากที่นี่ ท่านอาสั่งให้เขามาเช่นนั้นเขาก็มาแล้ว ตอนนี้คงถึงเวลาที่เขาจะกลับ.. “.....” เมื่อเขาหมุนตัวกลับมาก็พบเจอกับสตรีที่มีเส้นผมสีแดงในแบบที่แสนจะโดดเด่น ใบหน้านั้นงดงามเสียยิ่งกว่าภาพวาดที่ติดเอาไว้ที่ผนังของคฤหาสน์กรีน แพรขนตางอนงามกำลังช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าเขา เลดี้เรเซเดนงดงามในแบบที่การละสายตาออกจากใบหน้านั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย เขายืนมองนางเดินไปตามทางเดินของวิหารศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่กะพริบตา “สวยมากใช่ไหมล่ะ แมดดี้ของข้านั้นงดงามและเจิดจรัสเช่นนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว” ดาเนียกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับบุรุษผู้นั้นที่กำลังจ้องมองเพื่อนรักของเธอด้วยสายตาตกตะลึง “ครับ..” เรื่องความงดงามบอกตามตรงว่าเขาไม่เถียงเลยแม้แต่ครึ่งคำ เพียงแต่เลดี้เรเซเดนนั้นไม่ใช่สตรีในแบบที่เขาชื่นชอบเท่าไหร่นัก ดอกไม้ยิ่งเบ่งบานด้วยความงดงามมากเท่าใด เหล่าแมลงต่างก็แย่งชิงกันดอมดมมากเท่านั้น เขาไม่ชอบมองสตรีที่ตัวเองรักอยู่กับผู้อื่นเช่นนั้น เขาไม่ได้ใจกว้างมากขนาดนั้น.. นั่นทำให้ในใจของแลนดรีได้ข้อสรุปแล้วว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเลดี้เรเซเดนอย่างเด็ดขาด “ครับ? ง่ายๆ แบบนั้นเลย ดะ..เดี๋ยวสินั่นท่านจะไปไหนกัน ทางเข้าวิหารไปอีกทางต่างหาก..” แลนดรีมองหน้าของสตรีที่กำลังส่งยิ้มให้เขาด้วยแววตาที่เย็นชาประดุจน้ำแข็ง หากเลดี้เรเซเดนนั้นนับได้ว่างดงาม เช่นนั้นเลดี้ผู้นี้ก็ถือได้ว่านางน่ารักเหมือนกับเด็กๆ และมีความตรงมาตรงไปมากพอสมควร “ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะเข้าไปในวิหาร” ดาเนียจุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมท่าทีเย็นชาของเขามันถึงได้ถูกใจเธอนัก “เช่นนั้นท่านมาที่นี่ทำไมกันคะ มาหาภรรยาในอนาคตอย่างนั้นหรือ?”สวัสดีค่ะ มิก้าเองค้า..วันนี้มิก้าอายุ 7 ขวบแล้ว ท่านพ่อได้จัดงานวันเกิดให้มิก้าทุกปี แต่ว่าปีนี้จะยิ่งใหญ่มากกว่าปีที่ผ่านมาหน่อย เพราะท่านพ่อจะประกาศชื่อกลางของมิก้า และชื่อจริงออกมาด้วยค่ะมิก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ที่คฤหาสน์เรเซเดนก็จริงแต่ทว่าก็ยังมีไปนอนกับท่านพ่อและท่านแม่ที่คฤหาสน์วีไซร์อยู่บ้างเมื่อ2ปีที่แล้วท่านแม่คลอดน้องชายมาให้มิก้าสองคนค่ะ ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆ กันที่ท่านแม่คลอดน้องชายฝาแฝดออกมา แต่ทว่าที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือคนหนึ่งมีเส้นผมสีเงินเหมือนกับมิก้าแต่อีกคนกลับที่เส้นผมสีแดงเหมือนกับท่านแม่ท่านตาเชื่อว่านั่นคือปาฏิหาริย์ล่ะ มิก้ามาเล่นกับน้องบ่อยมากทีเดียว แต่เพราะว่าน้องพึ่งจะสองขวบก็เลยยังเล่นกับมิก้าได้ไม่มากนัก“มิก้า..นี่คือของขวัญของมิคนเก่งครับ”ท่านลุงเอดิตส่งมอบคทาของคาดินันที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ให้แก่มิก้า ซึ่งมิก้าเองก็ไม่เข้าใจว่าท่านลุงให้สิ่งนี้กับมิก้าทำไมกัน?“เมื่อมิก้าโตขึ้น หลานจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งคาดินันของลุง..หลานจะเป็น..นักบุญหญิงคนแรกของจักรวรรดิแห่งนี้ เป็นเช่นนั้นดีหรือไม่?”มิก้าไม่เข้าใจว่าอะไรดีหรือว่าไม่ดีกันแน่ มิก้าชอบขี่ม้าและ
ผมยาวสีแดงของแมเดอลีนนั้นถูกรวบขึ้นไปไว้ที่ด้านบน สาวใช้สองคนกำลังวุ่นอยู่กับการแต่งหน้า ส่วนอีกคนกำลังปักเครื่องประดับรูปดอกไม้ลงไปบนมวยผม“ท่านดัชเชสช่างงดงามมากเลยค่ะ”ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางมากมายบนใบหน้าก็ฉายชัดถึงความงดงามที่ไร้ผู้เปรียบเทียบ“ข้าไม่ชินกับ..ใบหน้าของตัวเองในยามนี้เลย”แมดดี้ประหม่ามากพอสมควร เธอกำลังนั่งอยู่ที่ห้องแต่งตัวของเจ้าสาวในวิหาร และเมื่อจัดการแต่งหน้าและทำผมเสร็จเรียบร้อย ชุดแต่งงานที่ถักด้วยลูกไม้สีขาวก็ถูกสวมลงมาบนร่างกายของเธอ กระโปรงนั้นมีน้ำหนักมากพอสมควร และชุดนี้ก็สง่างามมากทีเดียว ขั้นตอนสุดท้ายคือการสวมผ้าคลุมหน้าลูกไม้ลงมาบนศีรษะของเธอแมเดอลีนมารู้ทีหลังว่าทั้งชุดแต่งงานและผ้าคลุมหน้านี้ท่านหญิงไดอาน่าเป็นผู้ถักมันด้วยตัวเอง ท่านเริ่มต้นถักมันตั้งแต่เอสเตบันไปออกรบ ท่านถักเอาไว้เพื่อรอคอยให้เธอมาสวมใส่สักวันหนึ่งเมื่อได้คิดถึงที่มาของชุดแต่งงานนี้แมเดอลีนก็น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ เธอว่าครอบครัวของตัวเองนั้นดีแล้ว มันโชคดียิ่งกว่านั้นเมื่อมาพบเจอครอบครัวของสามีที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ท่านแม่ของเธอและท่านแม่ของเอสเตบันสนิทสนมกันมากพอสมควรใ
“คงจะดีหากว่าท่านคาดินันไม่หลบหนีออกไปอีก..แบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า..”นักบุญผู้หนึ่งกล่าวออกมาพร้อมกับวางเอกสารมากมายลงเบื้องหน้าของเอดิต“แล้วก็ทางคฤหาสน์วีไซร์ประกาศเรื่องงานแต่งงานของท่านดยุคและท่านดัชเชส มาแล้วนะครับ ท่านดยุคแห่งวีไซร์ต้องการให้ท่านคาดินันเป็นผู้จัดงานแต่งให้ทั้งสองท่านด้วยตัวเอง..เรื่องการจัดเตรียมความพร้อมของวิหาร ทางคฤหาสน์วีไซร์ได้ส่งทหารมาจัดเตรียมสถานที่แล้ว..”เอดิตแค่นหัวเราะออกมา เขาเบนสายตาออกไปมองที่ด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงานสายลมพัดมาเบาๆ และนั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ นี่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้วในอีกไม่กี่เดือน ทุกอย่างกำลังเดินทางไปด้านหน้าเรื่อยๆ และตัวเขาเองก็เช่นกัน จะมัวมานั่งเสียใจกับเรื่องความรักที่ไม่สมหวังไม่ได้เพราะฉะนั้น..เขาจะต้องก้าวไปข้างหน้าเสียที“เจ้าช่วยตรวจสอบเรื่องการจัดงานด้วยนะ อย่างให้มีอะไรผิดพลาด..ข้าอยากให้ในวันงานวันนั้นทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด”เจ้าคงจะงดงามมากทีเดียวแมดดี้ ในชุดแต่งงานสีขาวนั้นเจ้าคงจะทั้งงดงามและโดดเด่นจนข้าละสายตาไปจากเจ้าไม่ได้ ในวันที่เจ้ามีความสุขที่สุด ข้าได้ยื
ครั้งที่แล้วเขาพลาดในช่วงเวลาที่แสนสำคัญบางช่วงเวลาที่จะได้ดูแลแมดดี้ในตอนที่นางตั้งครรภ์และช่วงเวลาที่เขาจะได้เห็นหน้าลูกในตอนที่คลอดออกมา ไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ค่อยๆเติบโตของมิก้า ไม่มีโอกาสได้อุ้มนางในตอนที่นางยังเป็นทารก เพราะแบบนั้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมห่างจากภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาดไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร“เช่นนั้นเราเดินทางกลับวีไซร์กันเถิด..”แมเดอลีนพยักหน้า เธอเคยไปที่นั่นก็จริงอยู่แต่ทว่าการไปอยู่ที่นั่นในฐานะดัชเชส นั้นยังไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว“ข้าจะพาแมดดี้กลับก่อนนะครับ ข้าไม่อยากจะพานางเดินทางในช่วงเย็นเดี๋ยวนางจะไม่สบาย”โอทีสพยักหน้า“เรื่องมิก้า..”“ข้ารู้ครับว่าท่านพ่อตาอยากจะอยู่กับหลานสาวก่อน ช่วงนี้คงจะต้องฝากท่านพ่อตาเลี้ยงดูมิก้าไปก่อน เพราะแมดดี้พึ่งจะตั้งครรภ์..ข้าอยากทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้แมดดี้”เดวาส่งยิ้มให้กับเอสเตบัน“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเลย เจ้าทั้งสองคนพึ่งได้ใช้ชีวิตตามลำพังด้วยกันแค่ไม่นาน..ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหลานเดี๋ยวเราจะเลี้ยงดูให้เจ้าเอง”เอสเตบันก้มหน้าลงเพื่อขอบคุณท่านแม่ยาย“ท่านแม่ครับเช่นนั้นเรากลับกัน..”
ดาเนียมองหน้าของแมเดอลีน ราวกับว่าเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากสหาย และแมดดี้ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาท่านเซอร์อดัมในทันที“ขออภัยที่ข้ามาขัดจังหวะนะคะท่านเซอร์ ดาเนียเติบโตมาในคฤหาสน์เรเซเดนซะส่วนใหญ่ ในความคิดของข้านั้นนางไม่ใช่แค่สหายรักของข้าแต่นางยังเป็นเหมือนกับน้องสาวของข้าอีกด้วย เรื่องที่จะให้ดาเนียไปเป็นผู้นำตระกูล ข้ามองว่ามันอาจจะข้ามขั้นไปหน่อยค่ะ นางไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้เลย..”เซอร์อดัมส่งยิ้มให้แมเดอลีน“นั่นสินะครับ อาจจะเป็นข้าที่ทำข้ามขั้นตอนไปหน่อย เช่นนั้นในช่วงเวลานี้ข้าอยากจะให้ดาเนียเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์กรีนเพื่อศึกษาและจัดการเกี่ยวกับงานมากมายในตระกูลกรีน..พ่อบ้านของเราจะสอนเลดี้ดาเนียเองครับ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวล..”แมดดี้จับมือของดาเนียเอาไว้“ดาเนีย..นั่นใช่ความต้องการของเจ้าจริงๆรึเปล่า เจ้าอยากจะอยู่กับอาดาลและแลนดรีจริงไหม นี่มันไม่ใช่เรื่องของความรักที่เกิดขึ้นในนิยายหรอกนะแมดดี้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลกรีนเจ้าจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด เจ้ายินดีที่จะแบกรับความรับผิดชอบพวกนั้นรึเปล่า”แมเดอลีนเอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงดาเนียเผ
เมื่อโอทีสกลับมาถึงคฤหาสน์เขาก็ได้รับรู้ว่าแมดดี้ของเขาตั้งครรภ์ลูกคนที่สองแล้วดยุคเอสเตบันนั่งยิ้มราวกับคนเสียสติส่วนแมดดี้กำลังตกใจมากกว่าที่จะดีใจชิ..เจ้าเด็กนั่นทรมานลูกสาวของเขาจนนางตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วอย่างนั้นสินะ แต่ทว่าในใจของโอทีสจะโกรธก็โกรธไม่ลง เมื่อเขาเห็นท่าทีตกใจของเอสเตบันในตอนที่ได้รับทราบข่าวว่าแมดดี้ไม่สบายจนต้องไปตามหมอ..ในบางทีไอ้เด็กมั่นหน้าคนนั้นอาจจะรักลูกสาวของเขาจริงๆ ก็เป็นได้“นี่คือใบถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินค่ะ แล้วก็เงินทองอีกจำนวนหนึ่ง”อันที่จริงในการแต่งงาน สตรีต่างหากที่จะต้องจัดเตรียมสินเดิมติดตัวเมื่อแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชาย แต่ทว่าท่านหญิงอาน่าได้ส่งมอบเงินจำนวนหนึ่งและใบถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ท่านบารอนโอทีส“ข้าไม่ต้องการของพวกนี้หรอกครับท่านหญิง..ในเมื่อ..เมื่อเด็กทั้งสองคน..ทั้งสองคนนั้นรักกัน..ข้าก็ไม่อาจขัดขวาง”เดวาหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเธอเห็นสามีพูดไปกัดฟันไป“ข้าไม่คิดจะให้มิก้าเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็นวีไซร์ ท่านบารอนมีบุตรีเพียงผู้เดียวก็คือแมดดี้เพราะแบบนั้นข้ายินดีที่จะให้มิก้าใช้ชื่อตระกูลว่าเรเซเดนต่อไปค่ะ”โอทีสก้มหน้าลงเล็กน้