รอยยิ้มของดาเนียผลิบานเหมือนกับกลีบดอกไม้ เธอตะแคงใบหน้าเล็กน้อยเพื่อที่จะจ้องมองเขาได้อย่างถนัด
“ก็..ไม่เชิงว่าเป็นอย่างนั้น” เมื่อกล่าวจบแลนดรีก็เดินออกมาในทันที แต่ดาเนียไม่ยินยอมให้เขาได้มีโอกาสเดินหนีเธอไปเฉยๆ หรอกนะ เมื่อพบบุรุษที่ถูกใจเธอจะไม่ยอมกลับไปนอนฝันถึงเขาอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ “ข้าอยากทราบชื่อท่านค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก..ดาเนียค่ะ ดาเนียจากตระกูลเลเซิน” แลนดรีรู้จักท่านเซอร์เลเซินดีมากทีเดียว เพราะว่าบิดาของสตรีผู้นี้คือท่านอาจารย์ของเขาเอง และนั่นทำให้แลนดรีไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับบุตรีของท่านอาจารย์ที่แสนโหดเหี้ยมผู้นั้นเลยจริงๆ “ครับ” นอกจากเขาจะไม่แนะนำตัวเองกลับแล้วเขายังกระทำการอันเสียมารยาทมากๆ อย่างเช่นการเดินหนีเธอไป ดาเนียยกมือขึ้นมาเท้าเอวมองแผ่นหลังของบุรุษผู้นั้น คิ้วของเธอขมวดปมเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ “ให้ตายสิ จะเย็นชาก็ควรจะมีขอบเขตหน่อยไหม” หรือว่าเธอไม่สวยกันนะ? ดาเนียยกมือขึ้นมาตบที่แก้มของตัวเองเบาๆ เพื่อเป็นการเรียกสติ เธออาจจะไม่สวยในสายตาของเขา แต่เธอยังสามารถสวยในสายตาของบุรุษท่านอื่นได้นี่นา เพราะแบบนั้นการมายืนเศร้ามันไม่เหมาะกับคนน่ารักๆ แบบเธอหรอกนะ เข้างานดีกว่า เพื่อนรักของเธอกำลังรออยู่ วันนี้เป็นวันแรกที่วิหารได้จัดงานเพื่อให้เลดี้ที่จะเข้าร่วมพิธีบรรลุนิติภาวะในพระราชวังได้มาทำพิธีชำระล้างจิตใจที่วิหารเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ ดาเนียเคยทำพิธีนี้แล้ว บอกได้คำเดียวว่าคาดินันเอดิตนั้นแซ่บลืมมากทีเดียว นอกจากที่เขาจะหล่อเหลามากๆ แล้วเขายังมีความสามารถในการล่อลวงสตรีอีกด้วย เป็นบุรุษที่แพรวพราวจนต้องยอมเลย พิธีชำระล้างจิตใจอะไรกัน นี่คืองานเลี้ยงที่มีเอาไว้เพื่อให้บุรุษและสตรีใกล้ชิดกันต่างหาก เหล่าบุรุษชนชั้นสูงจะมาที่นี่เพื่อมามองหาสตรีที่ตัวเองพึงพอใจ หลังจากนั้นเมื่องานเลี้ยงจัดขึ้นที่พระราชวังพวกเขาจะไปร้องขอสตรีที่พึงใจเต้นรำด้วยกัน ดาเนียยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเธอมองเห็นแมดดี้ที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้า ปีนี้มีสตรีเข้าร่วมงานพิธีบรรลุนิติภาวะแค่สิบคนเท่านั้น ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ อีกทั้งไฮไลท์ของปีนี้คือเดมเกโลทีส และ เลดี้เรเซเดนที่เข้าร่วมพิธีบรรลุนิติภาวะพร้อมกันอีกต่างหาก นอกจากบุรุษจากสามตระกูลดังแล้ว ยังคงมีบุรุษมากมายที่ต้องการสตรีที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ไปให้กำเนิดทายาทของตัวเอง ดาเนียถูมือไปมา ดูท่าว่าปีนี้จะน่าสนุกมากเลยแฮะ.. แมเดอลีนส่งยิ้มให้กับดาเนียที่นั่งอยู่แถวหลัง เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยด้วยอาการง่วงนอน เพราะเมื่อคืนเอาแต่อ่านนิยายจนเกือบเช้า มันเลยทำให้เธอภาวนาอยากจะให้พิธีในวันนี้จบลงโดยเร็วที่สุด “เลดี้ไม่สบายรึเปล่าคะ?” เมื่อแมเดอลีนหันไปตามเสียงนั้นเธอก็พบเจอกัน ออร่าที่เจิดจ้าจนแสบตาของนางเอก เดมเกโลทีส เลลานี่ อ่า..แสงที่เปล่งประกายรอบๆ ตัวของนางเอกนี่มันคืออะไรกัน? ออร่าแห่งความสวยงั้นเรอะ นี่เธอเลือกยืนผิดที่ไปหน่อยรึเปล่า เธอไม่ควรมายืนใกล้นางเอกสิ “ไม่เป็นไรค่ะเดม ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วง” เดมเลลานี่ส่งยิ้มให้กับแมเดอลีน “พิธีน่าเบื่อนี่ ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ ข้าเองก็ไม่ค่อยชอบการต้องมายืนฟังคนแก่พูดเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับการปฏิบัตตน..” เลลานี่คือเดมที่เก่งกาจและงดงามมากทีเดียว นางไม่ใช่นางเอกสายหวานแต่เป็นสตรีที่สามารถเป็นเดมได้ตั้งแต่อายุ17ปี เพราะเกิดในตระกูลของนักรบ เลลานี่จึงตั้งใจจะเป็นซอทมาสเตอร์เหมือนกับท่านพ่อของนาง “ชุดเดรสนี่ก็เหมือนกัน สตรีทนใส่ชุดที่หนักขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ” แมเดอรีนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมากับท่าทางเช่นนั้นของเดมเลลานี่ เพราะปกติเดมจะสวมใส่เครื่องแบบของทหารสินะ การมาสวมกระโปรงเช่นนี้ก็เลยทำให้นางเอกของเรื่องไม่ชอบเท่าไหร่นัก “แต่เดมงดงามมากเลยนะคะ ไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหนท่านก็งดงามมากทีเดียว” เลลานี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นี่คงเป็นคำชมที่รับได้ยากมากที เพราะว่าสตรีที่ชมว่าเธองดงามนั้นเจิดจรัสมากทีเดียว เส้นผมสีแดงสดนั่นทำให้มองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คือสตรีที่เกิดในตระกูลเรเซเดนอย่างแน่นอน ดวงหน้างดงามที่หาไม่ได้จากสตรีทั่วไป ดวงตาสีฟ้าอ่อนทำให้รู้สึกถึงความอ่อนโยนในทุกครั้งที่สบตากับนาง “เลดี้เองก็..เจิดจ้ามากเลยนะคะ..” นี่นางเอกกำลังชมฉันงั้นเหรอ? ใบหน้าของแมเดอลีนขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ คนอื่นชมเธอยังไม่รู้สึกเขินเท่ากับนางเอกของเรื่องชมเลยนะ ให้ตายสิ ดวงตาสีอำพันจ้องมองไปยังสตรีสองนางที่กำลังพูดคุยกัน เรือนผมสีแดงเช่นนั้นเลดี้จากตระกูลเรเซเดนสินะ เรื่องความงดงามเขาไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอก เพราะมารดาของนางคือหญิงงามแห่งยุคนี่ มารดาของนางเดิมทีเป็นคนจากตระกูลเกโททีส เพราะแบบนั้นในช่วงเวลาที่เลดี้เรเซเดนและเลลานี่อยู่ด้วยกัน พวกนางทั้งสองคนถึงได้ดูโดดเด่นมากกว่าสตรีอื่น เอสเตบันกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อมองหาสตรีที่ยังคงติดค้างอยู่ในความทรงจำ หากให้เขาเดา สตรีผู้นั้นคงจะไม่ได้งดงามเจิดจรัสมากเท่าไหร่นัก เพราะหากว่านางงดงามมาก คงจะมีบุรุษตามเกี้ยวนางไม่หยุดหย่อนอย่างแน่นอน เขาหลับตาลงช้าๆ มีอะไรบ้างนะที่จะทำให้เขาจดจำนางได้บ้าง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาด้วยความออดอ้อน ริมฝีปากเล็กๆ ที่เผยอออกมาเมื่อเขาต้องการ หรือว่า..กลิ่นหายหอมกรุ่นที่ไม่เหมือนกัน “.....” กลิ่นกายที่ไม่เหมือนใครของนาง เอสเตบันดีดนิ้วเบาๆ ราวกับว่าเขาคิดอะไรออก เห็นทีว่าคืนนี้เขาจะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับของวิหารแห่งนี้ซะแล้วสิ เป็นไปได้มากทีเดียวที่สตรีผู้นั้นจะอยู่ที่นี่เพราะเท่าที่เขาดูแล้วนางน่าจะยังไม่ได้จัดงานพิธีบรรลุนิติภาวะ ไม่อย่างนั้นนางคงจะไม่สามารถมาเที่ยวที่ร้านสุราเช่นนั้นได้หรอก “....” เขามองเห็นลุควิคที่กำลังเดินเข้าไปหาเลล่า หมอนั่นเข้าร่วมการสนทนาได้อย่างราบรื่นมากทีเดียว “ไม่เข้าไปหรือครับ ท่านดยุคไม่กลัวว่าท่านเคาน์จะแย่งชิงเลลานี่ไปอย่างนั้นหรือ?” เอสเตบันแค่นหัวเราะก่อนที่เขาจะยื่นมือไปรับแก้วสุราที่อาดาลส่งให้ “ข้าไม่สนใจเรื่องความรู้สึกอะไรแบบนั้นหรอกนะอาดาล เลลานี่จะเป็นดัชเชสของข้าอย่างแน่นอน เพราะข้าให้สิ่งที่นางต้องการได้มากกว่าลุควิคอยู่แล้ว” อาดาลจิ๊ปากเบาๆ “แต่ถึงอย่างนั้น..ท่านก็ไม่ควรวางใจนี่ครับ ไม่มีสิ่งใดจะสามารถเอาชนะใจของสตรีได้ เท่ากับความรักหรอก” เอสเตบันนิ่วหน้า “ข้าไม่ขอรับคำแนะนำเรื่องสามีภรรยา กับคนที่ไม่เคยรักใครเช่นเจ้าหรอกนะอาดาล” อาดาลหัวเราะเสียงดัง “ข้าไม่เคยรักใครก็จริง แต่เรื่องความอ่อนไหวของสตรีข้ารู้ดีนะครับท่านดยุค”สวัสดีค่ะ มิก้าเองค้า..วันนี้มิก้าอายุ 7 ขวบแล้ว ท่านพ่อได้จัดงานวันเกิดให้มิก้าทุกปี แต่ว่าปีนี้จะยิ่งใหญ่มากกว่าปีที่ผ่านมาหน่อย เพราะท่านพ่อจะประกาศชื่อกลางของมิก้า และชื่อจริงออกมาด้วยค่ะมิก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ที่คฤหาสน์เรเซเดนก็จริงแต่ทว่าก็ยังมีไปนอนกับท่านพ่อและท่านแม่ที่คฤหาสน์วีไซร์อยู่บ้างเมื่อ2ปีที่แล้วท่านแม่คลอดน้องชายมาให้มิก้าสองคนค่ะ ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆ กันที่ท่านแม่คลอดน้องชายฝาแฝดออกมา แต่ทว่าที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือคนหนึ่งมีเส้นผมสีเงินเหมือนกับมิก้าแต่อีกคนกลับที่เส้นผมสีแดงเหมือนกับท่านแม่ท่านตาเชื่อว่านั่นคือปาฏิหาริย์ล่ะ มิก้ามาเล่นกับน้องบ่อยมากทีเดียว แต่เพราะว่าน้องพึ่งจะสองขวบก็เลยยังเล่นกับมิก้าได้ไม่มากนัก“มิก้า..นี่คือของขวัญของมิคนเก่งครับ”ท่านลุงเอดิตส่งมอบคทาของคาดินันที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ให้แก่มิก้า ซึ่งมิก้าเองก็ไม่เข้าใจว่าท่านลุงให้สิ่งนี้กับมิก้าทำไมกัน?“เมื่อมิก้าโตขึ้น หลานจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งคาดินันของลุง..หลานจะเป็น..นักบุญหญิงคนแรกของจักรวรรดิแห่งนี้ เป็นเช่นนั้นดีหรือไม่?”มิก้าไม่เข้าใจว่าอะไรดีหรือว่าไม่ดีกันแน่ มิก้าชอบขี่ม้าและ
ผมยาวสีแดงของแมเดอลีนนั้นถูกรวบขึ้นไปไว้ที่ด้านบน สาวใช้สองคนกำลังวุ่นอยู่กับการแต่งหน้า ส่วนอีกคนกำลังปักเครื่องประดับรูปดอกไม้ลงไปบนมวยผม“ท่านดัชเชสช่างงดงามมากเลยค่ะ”ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางมากมายบนใบหน้าก็ฉายชัดถึงความงดงามที่ไร้ผู้เปรียบเทียบ“ข้าไม่ชินกับ..ใบหน้าของตัวเองในยามนี้เลย”แมดดี้ประหม่ามากพอสมควร เธอกำลังนั่งอยู่ที่ห้องแต่งตัวของเจ้าสาวในวิหาร และเมื่อจัดการแต่งหน้าและทำผมเสร็จเรียบร้อย ชุดแต่งงานที่ถักด้วยลูกไม้สีขาวก็ถูกสวมลงมาบนร่างกายของเธอ กระโปรงนั้นมีน้ำหนักมากพอสมควร และชุดนี้ก็สง่างามมากทีเดียว ขั้นตอนสุดท้ายคือการสวมผ้าคลุมหน้าลูกไม้ลงมาบนศีรษะของเธอแมเดอลีนมารู้ทีหลังว่าทั้งชุดแต่งงานและผ้าคลุมหน้านี้ท่านหญิงไดอาน่าเป็นผู้ถักมันด้วยตัวเอง ท่านเริ่มต้นถักมันตั้งแต่เอสเตบันไปออกรบ ท่านถักเอาไว้เพื่อรอคอยให้เธอมาสวมใส่สักวันหนึ่งเมื่อได้คิดถึงที่มาของชุดแต่งงานนี้แมเดอลีนก็น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ เธอว่าครอบครัวของตัวเองนั้นดีแล้ว มันโชคดียิ่งกว่านั้นเมื่อมาพบเจอครอบครัวของสามีที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ท่านแม่ของเธอและท่านแม่ของเอสเตบันสนิทสนมกันมากพอสมควรใ
“คงจะดีหากว่าท่านคาดินันไม่หลบหนีออกไปอีก..แบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า..”นักบุญผู้หนึ่งกล่าวออกมาพร้อมกับวางเอกสารมากมายลงเบื้องหน้าของเอดิต“แล้วก็ทางคฤหาสน์วีไซร์ประกาศเรื่องงานแต่งงานของท่านดยุคและท่านดัชเชส มาแล้วนะครับ ท่านดยุคแห่งวีไซร์ต้องการให้ท่านคาดินันเป็นผู้จัดงานแต่งให้ทั้งสองท่านด้วยตัวเอง..เรื่องการจัดเตรียมความพร้อมของวิหาร ทางคฤหาสน์วีไซร์ได้ส่งทหารมาจัดเตรียมสถานที่แล้ว..”เอดิตแค่นหัวเราะออกมา เขาเบนสายตาออกไปมองที่ด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงานสายลมพัดมาเบาๆ และนั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ นี่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้วในอีกไม่กี่เดือน ทุกอย่างกำลังเดินทางไปด้านหน้าเรื่อยๆ และตัวเขาเองก็เช่นกัน จะมัวมานั่งเสียใจกับเรื่องความรักที่ไม่สมหวังไม่ได้เพราะฉะนั้น..เขาจะต้องก้าวไปข้างหน้าเสียที“เจ้าช่วยตรวจสอบเรื่องการจัดงานด้วยนะ อย่างให้มีอะไรผิดพลาด..ข้าอยากให้ในวันงานวันนั้นทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด”เจ้าคงจะงดงามมากทีเดียวแมดดี้ ในชุดแต่งงานสีขาวนั้นเจ้าคงจะทั้งงดงามและโดดเด่นจนข้าละสายตาไปจากเจ้าไม่ได้ ในวันที่เจ้ามีความสุขที่สุด ข้าได้ยื
ครั้งที่แล้วเขาพลาดในช่วงเวลาที่แสนสำคัญบางช่วงเวลาที่จะได้ดูแลแมดดี้ในตอนที่นางตั้งครรภ์และช่วงเวลาที่เขาจะได้เห็นหน้าลูกในตอนที่คลอดออกมา ไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ค่อยๆเติบโตของมิก้า ไม่มีโอกาสได้อุ้มนางในตอนที่นางยังเป็นทารก เพราะแบบนั้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมห่างจากภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาดไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร“เช่นนั้นเราเดินทางกลับวีไซร์กันเถิด..”แมเดอลีนพยักหน้า เธอเคยไปที่นั่นก็จริงอยู่แต่ทว่าการไปอยู่ที่นั่นในฐานะดัชเชส นั้นยังไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว“ข้าจะพาแมดดี้กลับก่อนนะครับ ข้าไม่อยากจะพานางเดินทางในช่วงเย็นเดี๋ยวนางจะไม่สบาย”โอทีสพยักหน้า“เรื่องมิก้า..”“ข้ารู้ครับว่าท่านพ่อตาอยากจะอยู่กับหลานสาวก่อน ช่วงนี้คงจะต้องฝากท่านพ่อตาเลี้ยงดูมิก้าไปก่อน เพราะแมดดี้พึ่งจะตั้งครรภ์..ข้าอยากทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้แมดดี้”เดวาส่งยิ้มให้กับเอสเตบัน“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเลย เจ้าทั้งสองคนพึ่งได้ใช้ชีวิตตามลำพังด้วยกันแค่ไม่นาน..ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหลานเดี๋ยวเราจะเลี้ยงดูให้เจ้าเอง”เอสเตบันก้มหน้าลงเพื่อขอบคุณท่านแม่ยาย“ท่านแม่ครับเช่นนั้นเรากลับกัน..”
ดาเนียมองหน้าของแมเดอลีน ราวกับว่าเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากสหาย และแมดดี้ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาท่านเซอร์อดัมในทันที“ขออภัยที่ข้ามาขัดจังหวะนะคะท่านเซอร์ ดาเนียเติบโตมาในคฤหาสน์เรเซเดนซะส่วนใหญ่ ในความคิดของข้านั้นนางไม่ใช่แค่สหายรักของข้าแต่นางยังเป็นเหมือนกับน้องสาวของข้าอีกด้วย เรื่องที่จะให้ดาเนียไปเป็นผู้นำตระกูล ข้ามองว่ามันอาจจะข้ามขั้นไปหน่อยค่ะ นางไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้เลย..”เซอร์อดัมส่งยิ้มให้แมเดอลีน“นั่นสินะครับ อาจจะเป็นข้าที่ทำข้ามขั้นตอนไปหน่อย เช่นนั้นในช่วงเวลานี้ข้าอยากจะให้ดาเนียเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์กรีนเพื่อศึกษาและจัดการเกี่ยวกับงานมากมายในตระกูลกรีน..พ่อบ้านของเราจะสอนเลดี้ดาเนียเองครับ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวล..”แมดดี้จับมือของดาเนียเอาไว้“ดาเนีย..นั่นใช่ความต้องการของเจ้าจริงๆรึเปล่า เจ้าอยากจะอยู่กับอาดาลและแลนดรีจริงไหม นี่มันไม่ใช่เรื่องของความรักที่เกิดขึ้นในนิยายหรอกนะแมดดี้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลกรีนเจ้าจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด เจ้ายินดีที่จะแบกรับความรับผิดชอบพวกนั้นรึเปล่า”แมเดอลีนเอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงดาเนียเผ
เมื่อโอทีสกลับมาถึงคฤหาสน์เขาก็ได้รับรู้ว่าแมดดี้ของเขาตั้งครรภ์ลูกคนที่สองแล้วดยุคเอสเตบันนั่งยิ้มราวกับคนเสียสติส่วนแมดดี้กำลังตกใจมากกว่าที่จะดีใจชิ..เจ้าเด็กนั่นทรมานลูกสาวของเขาจนนางตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วอย่างนั้นสินะ แต่ทว่าในใจของโอทีสจะโกรธก็โกรธไม่ลง เมื่อเขาเห็นท่าทีตกใจของเอสเตบันในตอนที่ได้รับทราบข่าวว่าแมดดี้ไม่สบายจนต้องไปตามหมอ..ในบางทีไอ้เด็กมั่นหน้าคนนั้นอาจจะรักลูกสาวของเขาจริงๆ ก็เป็นได้“นี่คือใบถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินค่ะ แล้วก็เงินทองอีกจำนวนหนึ่ง”อันที่จริงในการแต่งงาน สตรีต่างหากที่จะต้องจัดเตรียมสินเดิมติดตัวเมื่อแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชาย แต่ทว่าท่านหญิงอาน่าได้ส่งมอบเงินจำนวนหนึ่งและใบถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ท่านบารอนโอทีส“ข้าไม่ต้องการของพวกนี้หรอกครับท่านหญิง..ในเมื่อ..เมื่อเด็กทั้งสองคน..ทั้งสองคนนั้นรักกัน..ข้าก็ไม่อาจขัดขวาง”เดวาหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเธอเห็นสามีพูดไปกัดฟันไป“ข้าไม่คิดจะให้มิก้าเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็นวีไซร์ ท่านบารอนมีบุตรีเพียงผู้เดียวก็คือแมดดี้เพราะแบบนั้นข้ายินดีที่จะให้มิก้าใช้ชื่อตระกูลว่าเรเซเดนต่อไปค่ะ”โอทีสก้มหน้าลงเล็กน้