“จะติดคนอะไรนักหนา” เด็กหนุ่มบ่นพึมพำไม่จริงจัง นิ้วเรียวขาวสะอาดทั้งบีบจมูกดึงแก้มคนตัวเล็ก เมื่อเห็นอีกฝ่ายฮึดฮัดปัดป้องทำท่าจะลืมตาตื่นจึงได้ยอมวางมือ“ฮึ!” เสียงแค่นจากลำคอดังขึ้นสั้นๆ คล้ายไม่พอใจ ทว่าใบหน้าที่ยังไม่เติบโตเต็มที่นั้นกลับมิได้มีแววรังเกียจแม้แต่น้อย รอจนไอเย็นที่ติดมาบนร่างสลายไ
สมแล้วที่เป็นคนของฮ่องเต้...พอได้ยินรายงานของหลงซานกับโจวหนี พวกมู่หรงเซียนรวมถึงหลีจวินจึงค่อยรู้สึกคลายความโกรธลงได้บ้าง ส่วนเรื่องที่คนพวกนั้นอาจจะตายน่ะหรือผู้ใดใครสนกันใจกันเล่า!ยามซวีมาเยือน ราตรีมืดมิด เซี่ยฉงอวิ๋นที่เพิ่งส่งภรรยาเข้านอนก็ย้อนกลับมายังห้องหนังสืออีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ภายในห
“ขอบใจเสี่ยวอวี้กับต้าเป่าที่เป็นห่วงนะลูก”หลีจวินมองภาพอบอุ่นตรงหน้าในใจท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกผิด เด็กหนุ่มคิดอย่างรู้สึกผิด เป็นเพราะเขาที่ทำอะไรไม่รอบคอบ เยว่อวิ๋นถึงต้องมาบาดเจ็บเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการช่วยเหลือเขาที่มุทะลุ อีกฝ่ายจะเป็นแบบนี้ได้อย่างไรเห็นท่าทางห่วงใยจนดูล้นหลามของแต่ละ
คราวนี้มุมปากฉิงฮวนกระตุกเบี้ยวโดยแท้จริง เป็นนางกำนัลข้างกายองค์หญิงใหญ่มานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเสียกิริยาต่อหน้าอีกฝ่ายแน่นอนว่ามู่หรงเซียนย่อมไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจัง เพราะเรื่องราวระหว่างนางกับน้องชายอกตัญญูผู้นั้น หาได้เรียบง่ายและสามารถจบลงได้ง่ายดายอย่างที่กล่าวมาไม่เยว่อวิ๋นที่น
“ฮ่าๆ นายท่านต้องการสิ่งใดขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้ามาทันที ใบหน้าดำๆ ของเจ้าตัวมีแววอึกอัก เมื่อครู่เขารีบหนีเอาตัวรอด ในใจจึงเกิดความกลัวว่าเยว่อวิ๋นจะไม่พอใจ“นี่เป็นค่าเสียหาย ส่วนนี่ให้เจ้าเป็นค่าทำขวัญ” เยว่อวิ๋นไม่รู้สึกว่าการที่เสี่ยวเอ้อร์หนีเอาตัวรอดเป็นเรื่องผิดแต่อย่างใด
ฉางซิ่วที่ถูกปาโคลนใส่พลันได้สติ ยามนี้คำว่าเกรงใจถูกเขาโยนทิ้งออกจากความคิดไปโดยสิ้นเชิง ต้องรู้ว่าการมารับตำแหน่งของเขาที่ซานซีมีความเกี่ยวข้องกับองค์ชายสี่ หากฮ่องเต้รู้ว่าเขาปล่อยคนที่คิดทำร้ายโอรสของพระองค์ไป อนาคตคงไม่มีศีรษะไว้ให้สวมหมวกเป็นแน่“เจ้าหน้าที่ จับตัวพวกเขาทุกคนให้หมด”“ใต้เท้าฉา