“ชอบหรือไม่” เยว่อวิ๋นถาม“ชอบขอรับ/ชอบเจ้าค่ะ” สองพี่น้องตอบพร้อมเพรียง ประกายในดวงตาระยิบระยับไม่ต่างกัน“ท่านแม่ กระต่ายน้อยน่ารักขนาดนี้ เราเลี้ยงไว้ ไม่กินมันได้ไหมเจ้าคะ” เสี่ยวอวี้ถามมารดาอย่างกล้าๆ กลัวๆหากเป็นก่อนหน้านี้เด็กหญิงไม่มีทางถามคำถามนี้ออกมาแน่ ถ้าท้องยังหิวจะไปมีใจมองอะไรน่ารัก
มุมปากแม่เฒ่าเซี่ยเบี้ยวไปชั่วขณะ คล้ายคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้“จะ เจ้า เจ้าไม่เคารพผู้อาวุโส” กล่าวจบนางก็ทำท่าจะหวีดร้องโวยวาย ทว่ากลับเห็นเยว่อวิ๋นหมุนร่างไปสั่งเซี่ยหูเสียก่อน“ปิดประตูซะ”เซี่ยหู่ที่ตามหลังมาพลันสะดุ้งเฮือก เขาสบสายตาเย็นชาของเยว่อวิ๋นแล้วรีบปิดประตูรั้วเสียงดังโครมโดยไ
“หยุดนะ! แข็งข้อแล้ว! สะใภ้รองเจ้าคิดจะก่อกบฏอย่างนั้นหรือ!” แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกหลานตัวเองที่ถูกตีจนดิ้นพล่านกับพื้นพลางกรีดเสียงร้องโหยหวนเยว่อวิ๋นไม่สนใจเสียงสาปแช่งของแม่เฒ่าเซี่ย และยิ่งไม่คิดใส่ใจต่อเสียงก่นด่าของคนที่ถูกนางตี นางเตะพวกเขามานอนเรียงรายกันบนพื้น แม้แต่เซี่ยจินกับอู๋ซื่อที่พยายาม
ล้อเล่นหรือ เมื่อกี้ก่อนอาสะใภ้จะไปบอกเอาไว้แล้วว่า ใครกล้าขยับตัวหรือส่งเสียงกลับมาจะตี ขนาดอาหญิงเล็กที่ปกติไม่ใช้สมองยังไม่กล้าขัดคำสั่งนาง เขายิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่เห็นว่าแม้แต่บิดาที่เป็นบุรุษร่างสูงใหญ่ยังไม่กล้าขัดคำสั่งอาสะใภ้ เซี่ยเสี่ยวเกอยิ่งไม่คิดเชื่อคำพูดย่าตัวเองถึงจะยังเด็กแต่เขาไม่
เยว่อวิ๋นใช้ไม้กระบองในมือส่งบ้านใหญ่ออกไป เซี่ยต้าจวงที่เลี่ยงออกมาเห็นว่าพวกเขาจากไป ก็รีบกลับมาจัดการร่างหมูป่าตามความตั้งใจเดิม โดยไม่สนใจจะถามถึงเรื่องที่นางทุบตีคนสักนิดแม้เซี่ยต้าจวงจะเป็นคนซื่อทว่าเขาไม่ได้โง่ ที่ผ่านมาอาสะใภ้สี่ถือดีว่าพวกเขาทำอะไรนางไม่ได้ เอาเปรียบบิดาเขาสร้างปัญหาให้ไว้
ซิ่งฮวาเป็นเด็กหญิงวัยสิบปี ที่บ้านนางไร้บิดามีเพียงมารดานามฉีซื่อที่ป่วยออดแอดอยู่ เนื่องจากสองแม่ลูกคนหนึ่งยังเด็กทำงานอะไรไม่ค่อยได้ ส่วนอีกคนก็ร่างกายไม่แข็งแรงสองวันนั่งปักผ้า สามวันนอนซมป่วย ฐานะความเป็นอยู่ของพวกนางจึงย่ำแย่เป็นอย่างมาก“อาสะใภ้รอง…” เด็กหญิงถูกจับได้ว่าแอบมองก้มหัวทักทายด้วย
“ท่านแม่ เรื่องนี้ข้าผิดเองขอรับ เป็นเพราะข้าเปิดประตูให้พวกท่านย่าจึงทำให้เกิดเรื่องขึ้น ข้าผิดไปแล้วขอรับ” ต้าเป่าเอ่ยรับผิด เด็กชายกล่าวต่อ “ท่านแม่ ท่านลงโทษข้าเถอะขอรับ”เยว่อวิ๋นไม่ได้พูดอะไรอีก นางเพียงหรี่เปลือกตาลงต่ำพลางแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง“ดีนี่ ปกป้องความผิดกันเอง แล้วโกหกข้าสีหน้าไม่เ
ถึงจะดูอ่อนเยาว์กว่าในความคิด แต่นางคืออาอวิ๋นของเขาไม่ผิดแน่!“ไม่มี ทุกอย่างทำตามคำพูดท่านทั้งสิ้น” ชายหนุ่มนึกถึงคำสอนเด็กๆ ของอีกฝ่ายเมื่อครู่ แล้วเกิดความรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกขึ้นมาทันทีเกรงว่าครึ่งหลังที่บอกว่าไม่ชอบการตกตัญญูอย่างโง่งมนั่น น่าจะจงใจพูดให้เขาได้ฟังมากกว่ากระมัง ก็ใ
เรื่องอะไรนางต้องลำบากลำบนเป็นหนี้เพื่อซื้อผู้หญิงให้สามีตัวเองด้วย!“เยว่ซื่อเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนักนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องครอบครัวข้า แค่สามีข้ารู้จักสวีเหยาเจ้าก็คิดจะยัดเยียดคนเข้ามาแล้วรึ เจ้านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี”“เจ้าเองก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้เหตุผล แล้วทีเจ้าลา
เซี่ยเหล่าซานมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกสะใภ้ตัวเอง นางสงสารสวีเหยาจริงเสียที่ไหนกัน ก็แค่อยากสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นเท่านั้นแหละ“สะใภ้รองเจ้าว่างมากนักหรือไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็กลับเข้าบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้คนเขาระอาเลย” อยู่ต่อหน้าเยว่อวิ๋นเซี่ยเหล่าซานไม่สะดวกจะสั่งสอนลูกสะใภ้ จึงได้แต่ถลึงตา
พอรู้ว่าคนไปแล้วนางเจียงจึงขมวดคิ้ว บ่นสามีที่ไม่รู้ความเบาๆ “ดูเจ้าสิ อายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้ เยว่ซื่อมอบของตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าก็ไม่คิดอะไรแบมือรับอย่างเดียวหรือ”ผู้ใหญ่บ้านฟังแล้วหน้าแดง รู้สึกว่าตนบกพร่องมารยาทไปจริงๆ เจียงซื่อเห็นเขาคิดได้ก็ไม่พูดต่อ นางเพียงส่งผักที่กอดไว้ให้อีกฝ่าย
อีกด้าน เยว่อวิ๋นจัดการแบ่งใบชาที่ซื้อมาใส่ห่อพร้อมขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาอีกหนึ่งกล่อง เตรียมของเสร็จนางก็กำชับต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ให้คอยดูคนป่วยสองคนด้านใน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านบ้านของผู้ใหญ่อยู่ห่างจากบ้านของเยว่อวิ๋นพอประมานใช้เวลาเดินเกือบๆ หนึ่งเค่อ เยว่อวิ๋นเดินไปตามทางอย่างไม่ร
พอเยว่อวิ๋นจากไปในห้องก็พลันเงียบงันชั่วขณะ เซี่ยฉงอวิ๋นที่เมื่อครู่ต่อล้อต่อเถียงก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหลีจวินไม่กล่าววาจา เห็นอย่างนั้นหลีจวินก็ใจแป้วขึ้นมาทันที“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม ขะ... ข้าเป็นลูกค้าบ้านเจ้านะ” หลายวันมานี้เขาถูกคนตรงหน้ากลั่นแกล้งจนหัวหมุนขยาดไปหมดแล้ว“แล้วอย่างไร เจ้ายังไม่
เรื่องราวของสวีเหยาถูกโจษจันไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวยังไม่แต่งงานคนหนึ่ง กลับวิ่งไปหาบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้วเพื่อขอเป็นอนุ นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่น่าอับอายอย่างแท้จริงพริบตาที่เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่เพียงครอบครัวสวีที่กลายเป็นตัวตลก แต่บ้านจ้าวเองก็หนีไม่พ้นเช่นกันป้าจ้าวที่เคยเดินเชิดหน้านินทาคน
ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร
อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา
ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ