Share

คนสกุลอู๋ 2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-11 19:58:43

ระหว่างที่ทหารพาคนสกุลอู๋ออกไป เสียงด่าทอจากชาวบ้านก็ดังตามหลังไปอย่างรุนแรง พวกเขาเห็นใจหยวนอี โดยเฉพาะสตรีที่เคยมีประสบการณ์ถูกกดขี่ในครอบครัว การมองเห็นหยวนอีถูกรังแก ก็เหมือนเห็นตัวเองในยามที่ถูกกดขี่

"ไอ้แก่เห็นแก่ตัว! มีลูกสาวดี ๆ ไม่รู้จักรักษา! สมควรแล้วที่ต้องอยู่กับลูกชายไม่ได้เรื่อง!"

"ช่างเป็นพ่อที่ลำเอียงนัก! รักลูกชายจนไม่เห็นหัวลูกสาว! เกิดมาเป็นลูกสาวของเจ้าช่างอาภัพยิ่งนัก!"

"น่าละอายจริง ๆ! ตัดขาดลูกไปแล้วยังกล้ามาทวงบุญคุณอีก! หน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองหลวง!"

"โอ๊ย! สวรรค์ลงโทษเถิด! พ่อที่รักลูกไม่เท่ากัน สุดท้ายก็ต้องมีชีวิตที่เดียวดายเช่นนี้!"

"ลูกสาวทำทุกอย่างให้ แต่กลับใช้จ่ายกับลูกชายเสเพล! ช่างเป็นพ่อที่โง่เขลาสิ้นดี!"

"คนเช่นนี้ไม่สมควรได้รับอาหารจากโรงทานนี้! ควรปล่อยให้หิวตายไปซะ!"

หลังจากทหารพาคนสกุลอู๋ออกไป ซือหยาจึงเดินเข้าไปหาหยวนอี นางนั่งลงข้าง ๆ พี่สะใภ้แล้วยื่นมือไปพยุงหยวนอีให้ลุกขึ้นมา ใบหน้าของซือหยาเปี่ยมไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ส่วนการแจกอาหารก็ดำเนินต่อไปโดยมีฟงไฉ่ผิงเข้ามาทำหน้าที่แทน

"พี่สะใภ้ อยากช่วยครอบครัวหรือไม่ ข้าช่วยได้นะเจ้าคะ อย่างน้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   ตอนจบ

    ทันทีที่รถม้าจอดที่หน้าเรือนสกุลหาน ซือเหอก็รีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งเข้าเรือนไปอย่างไม่คิดชีวิต ท่าทางที่เคยอิดโรยพลันกลับมามีพละกำลังอีกครั้ง เขามุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของพี่สาว หวังจะเข้าไปกอดและหอมแก้มหลานสาวให้ชื่นใจแต่ทันทีที่เขาเดินเข้าใกล้ประตูห้อง ก็มีเสียงห้ามปรามดังขึ้นพร้อมกัน พ่อเฒ่าเสิ่น แม่เฒ่าหาน หยางเฉิง และแม้กระทั่งแม่เฒ่าฮัว ต่างก็ชี้มือมาที่เขาด้วยสีหน้าจริงจัง"หยุดเดี๋ยวนี้! ซือเหอ!" แม่เฒ่าหานกล่าวเสียงเข้ม นางทำจมูกฟุดฟิดด้วยความรังเกียจเล็กน้อย"ไปอาบน้ำให้สะอาดเสียก่อนลูก! เจ้าตัวเหม็นไปหมดแล้ว" พ่อเฒ่าหานกล่าวพลางหัวเราะอย่างขบขัน"เดี๋ยวกลิ่นเหงื่อกลิ่นควันเทียนจากตัวเจ้าจะไปติดหลานนะซือเหอ!" หยางเฉิงกล่าวอย่างเป็นห่วงซือเหอได้ยินดังนั้นก็อดที่จะยกมือขึ้นมาดมเสื้อผ้าตนเองไม่ได้ เขาหัวเราะออกมาอย่างขบขัน เพราะตอนนี้เขาตัวเหม็นจริง ๆ ราวกับแบกถังขยะมาด้วยสายตาของเขาถูกทอดมองไปยังหลานสาวตัวอ้วนที่อยู่ในอ้อมกอดของเจ้าแฝด อี้หมิงและอันหมิง ต่างพากันนั่งอยู่บนตั่งไม้ข้างเตียง อี้หมิงกำลังอุ้มประคองทารกน้อยไว้ด้วยความระมัดระวัง ส่วนอันหมิงก็นั่งเฝ้ามองน้องสาว

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   คลอดแล้วหรือขอรับ!?

    หลังจากการเขียนเรียงความเชิงนโยบายที่ยาวและหนักหน่วง ซือเหอและจางเหล่ยก็เริ่มเข้าสู่ข้อสอบถัดไป ซึ่งเป็น บทความแบบแปดส่วน และการตอบปัญหาบ้านเมือง ซึ่งต้องใช้ความรู้จากวรรณคดีขงจื๊อและปรัชญาโจทย์ข้อที่สอง "จงถอดความและวิจารณ์คำสอนของเมิ่งจื่อ: 'เมื่อราษฎรได้รับการดูแลอย่างดี ใครเล่าจะคิดก่อกบฏ?'"โจทย์ข้อที่สาม "ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งขุนนางท้องถิ่น ท่านจะมีแนวทางในการควบคุมและจัดการกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพ่อค้าขนาดใหญ่และชาวบ้านในเรื่องการใช้แหล่งน้ำร่วมกันได้อย่างไร?"เมื่อซือเหอและจางเหล่ยอ่านโจทย์ทั้งสองข้อ สีหน้าของทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดซือเหอซึ่งมีความรู้ด้านวรรณคดีที่แม่นยำ และมีประสบการณ์ตรงจากการค้าขายและการจัดสรรที่ดินของสกุลตนเอง ยกยิ้มเล็กน้อยจางเหล่ยก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ เพราะข้อสอบเหล่านี้ไม่ได้ยากเกินความสามารถของพวกเขาเลย ความรู้ที่พวกเขาได้เรียนรู้มาจากซือหยาถูกจัดระบบและนำมาใช้ได้อย่างง่ายดายพวกเขาเริ่มเขียนตอบข้อสอบอย่างรวดเร็วและลื่นไหล พู่กันถูกตวัดลงบนกระดาษอย่างหนักแน่นและมั่นคง แต่หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ปัญหาที่แท้จริงของการสอบก็เริ่มปรากฏชัด

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   สนามสอบหลวง

    สนามสอบหลวงซือเหอและจางเหล่ยมาถึง กงหยวน (贡院) ตามเวลาที่กำหนด พวกเขายืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มบัณฑิตหลายร้อยคนที่แต่งกายด้วยชุดซิ่วไฉอย่างเรียบร้อย ใบหน้าของบัณฑิตทุกคนเต็มไปด้วยความตึงเครียดและหวาดหวั่น ไม่ใช่เพราะความยากของข้อสอบ แต่เป็นเพราะความทรมานของการอยู่ภายในห้องสอบตลอดสามวันสองคืนก่อนจะได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้าสู่ประตูแรกของสนามสอบ เจ้าหน้าที่สนามสอบได้เรียกบัณฑิตเข้าแถวเพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่เรียกว่า ซวนเซิน (悬身)"ถอดเครื่องแต่งกายออกให้หมด!" เสียงของเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบดังขึ้น ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและไม่แสดงความปรานีซือเหอและจางเหล่ยมองหน้ากันด้วยความรู้สึกอับอายเล็กน้อย ถึงจะมีฉากกั้นก็ไม่ช่วยอะไร พวกเขาจำต้องถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น เจ้าหน้าที่ใช้มือลูบไล้ไปตามทุกตะเข็บของเสื้อผ้าและชุดชั้นในอย่างไม่ละเว้น พวกเขาแม้กระทั่งตรวจค้นก้นบึ้งของพู่กัน ปลายขนของแปรง ตรวจดูด้านในของกระดานไม้ และเคาะที่ก้นหินฝนหมึก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการซุกซ่อนโพยใด ๆ"นำอาหารออกมาวางเรียงบนโต๊ะ!" เจ้าหน้าที่อีกคนสั่ง พวกเขาตรวจดูอาหารแห้งอย่างละเอียด ผงโจ๊กของซือหยาก็ถูกเจ้าหน้าที่ล

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   แก้มยุ้ยของลูกสาว

    ภายในห้อง ซือหยาถูกเปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนพักอยู่บนเตียง ใบหน้าของนางยังคงดูอ่อนเพลีย แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและปีติ ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มหนาอย่างดี ข้าง ๆ เตียงมีเปลไม้ไผ่สานวางอยู่ ภายในเปลปูด้วยผ้าเนื้อดีนุ่ม ๆเด็กหญิงตัวน้อยนอนหลับตาพริ้มอยู่ในเปล ผิวของนางขาวสะอาดผุดผ่องราวกับหยก แก้มยุ้ย ๆ สีแดงระเรื่อของนางดูอวบอิ่มราวกับผลท้อแรกแย้ม เป็นทารกที่อ้วนท้วนสมบูรณ์และน่ารักน่าชังหยางเฉิงเดินไปที่เตียงเขาหยิบผ้าสะอาดที่มารดาเตรียมไว้มาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของภรรยาอย่างเบามือ"ลำบากเจ้าแล้ว... ซือหยา" น้ำเสียงของหยางเฉิงแหบพร่า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความซาบซึ้งใจ"ไม่ลำบากเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าเต็มใจ... ว่าแต่ท่านพี่ตั้งชื่อให้ลูกรึยังเจ้าคะ" ซือหยาจับมือของสามีไว้ นางตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนแรงแต่จริงใจหยางเฉิงหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปล เขาเดินเข้าไปใกล้อีกนิด รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าคมคายของเขา"ตั้งแล้ว ให้นางชื่อ เสิ่นเยว่หมิง คล้องกับพี่ชายของนาง... เยว่หมิงลูกพ่อ" เขายื่นมือไปเกลี่ยแก้มยุ้ยของลูกสาวเบา ๆ ด้วยความรักใคร่ "...""พ่อค

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   วันสอบเซี่ยงซื่อ 3

    เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบของหมอตำแยพร้อมกับโฮ่วหมิงที่วิ่งตามมาดังขึ้นจากด้านนอก สัญญาณแห่งการรอคอยกำลังจะสิ้นสุดลง... อีกไม่นานชีวิตน้อย ๆ ก็จะลืมตามาดูโลก...หมอตำแยหม่า สวมชุดผ้าฝ้ายสีน้ำตาลเรียบ ๆ มือถือตะกร้าหวายสานอย่างดี ภายในบรรจุอุปกรณ์ทำคลอดที่จำเป็น ใบหน้าของนางดูเคร่งขรึมและสุขุม ไม่แสดงอาการตกใจแม้แต่น้อยเมื่อเห็นหยางเฉิงยืนรออยู่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกนางรีบเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่โดยมีหยางเฉิงก้าวตามไปติด ๆ ด้วยความเป็นห่วง เมื่อหมอตำแยหม่าเห็นหยางเฉิงทำท่าจะตามเข้าไปในห้องด้วย นางก็หยุดยืนขวางประตูไว้ทันที"หยุดอยู่ตรงนั้นเถิดเจ้าหนุ่ม! นี่เป็นเรื่องของผู้หญิง! ห้องคลอดไม่ใช่ที่ที่บุรุษพึงเข้าได้ เจ้าออกไปรอข้างนอกเถอะ!" เสียงของนางดังและหนักแน่นราวกับคำสั่ง"ขะ... ข้าเป็นห่วงภรรยาข้ารับ" หยางเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงติดขัด มือใหญ่ของเขาเกือบจะแตะบานประตู แต่ก็ถูกสายตาอันเฉียบขาดของหมอตำแยยับยั้งไว้หมอตำแยหม่าไม่กล่าวอันใดอีก นางทำเพียงปิดประตูไม้บานใหญ่ลงอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เสียงล็อกประตูตามมาเบา ๆ ทำให้หยางเฉิงได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยความกระวนกระวายใจน้ำร้อนถูกส่งเข้าไ

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   วันสอบเซี่ยงซื่อ 2

    ซือหยานั่งมองเห็นรถม้าทั้งสองคันที่มีน้องชายและพ่อแม่ของนางอยู่ในนั้น รถม้าวิ่งไปตามถนนใหญ่สามารถมองเห็นได้จากชานเรือน สายตาของนางเต็มไปด้วยความหวัง พลางชี้ให้ลูก ๆ ดูร้านน้ำชาและโรงเตี๊ยมที่ตั้งอยู่ในระยะไม่ไกลนัก"ท่านแม่... เท้าท่านแม่บวมอีกแล้ว ลูกจะนวดให้เองนะขอรับ"อี้หมิงเดินเข่าเข้ามาใกล้เท้าของมารดา มือเล็ก ๆ ของเขาเริ่มบีบนวดที่น่องและข้อเท้าที่บวมเล็กน้อยของซือหยาอย่างเบามืออันหมิงค่อย ๆ คลานมาซบที่หน้าท้องนูนใหญ่ของมารดา แก้มอวบ ๆ ของเขาแนบลงไปกับผ้าไหมบางเบาที่ห่อหุ้มชีวิตน้อย ๆ ไว้ เขาจุมพิตลงไปที่ท้องเบา ๆ แล้วเริ่มพูดคุยกับน้องน้อยที่อยู่ในครรภ์"น้องน้อย... พี่อันหมิงอยู่นี่นะ เป็นเด็กดี ไม่ทำให้ท่านแม่เจ็บนะ เมื่อไหร่ที่เจ้าออกมา พี่ชายจะแบ่งของอร่อยให้เจ้ากิน" เขาพูดกับท้องของมารดาเบา ๆ ราวกับกลัวว่าเสียงจะดังเกินไปจนทำให้น้องตกใจ ซือหยายกมือขึ้นลูบศีรษะของลูกชาย ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความสุขอย่างเปี่ยมล้น หยางเฉิงนั่งลงข้าง ๆ และโอบไหล่ภรรยาไว้ มองภาพลูก ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น ภาพสี่คนพ่อแม่ลูกกับอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิด ช่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status