เข้าสู่ระบบซุนอีเหยียนที่ป้อนยาและพูดคุยเรื่องสัญญาของทั้งสองครอบครัวก็เป็นอย่างที่นางว่า สัญญาน่าจะเป็นโมฆะไปหากมู่ซงหยวนแต่งงานกับสตรีใดสักคนที่ไม่ใช่ซุนจือหลิน แต่เพราะร่างกายของมู่ซงหยวเห็นทีว่าจะหาสตรีที่มาแต่งด้วยได้ยาก บ้านมู่เลยใช้สัญญาที่ทั้งสองครอบครัวให้กันไว้มาบีบบังคับซุนกวางหวา
ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นใครที่แต่ง แต่เพราะว่าซุนกวางหวามีซุนจือหลินเป็นบุตรสาวคนเดียวที่ยังไม่ได้ออกเรือน และบ้านมู่ก็เหลือมู่ซงหยวนคนเดียวที่เป็นลูกชายที่ยังไม่ออกเรือนเช่นกัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นสองคนนี้เพราะว่าก็ไม่มีใครแล้วที่จะให้มาแต่งกัน
"ท่านแม่เล็ก…ข้า"ซุนจือหลินรู้ว่าท่านแม่เล็กจะพูดเรื่องอะไร นางแอบได้ยินที่ท่านพ่อกับท่านแม่เล็กพูดคุยกันเรื่องการแต่งงานของนางกับคนบ้านมู่ที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อน
"รู้แล้วหรือว่าข้าจะพูดสิ่งใด"
"เจ้าค่ะ"
"ซุนจือหลินฟังข้าให้ดีนะ มันเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธออกไปสัญญาของผู้ใหญ่แต่ลำบากเด็ก ข้าเองก็ลำบากใจที่จะพูดมู่ซงหยวนคนที่จะมาเป็นสามีของเจ้า เขาไปเป็นทหารช่วงสงครามนานหลายปี แต่มีข่าวว่าเขาบาดเจ็บสาหัสจึงถูกส่งตัวกลับบ้านและคงจะพิการ
ซุนจือหลินที่ยังไม่อยากแต่งงานเพราะท่านพ่อของนางก็ป่วยอยู่ หากแต่งออกไปแล้วใครจะช่วยท่านแม่เล็กดูแลท่านพ่อ อีกอย่างมู่ซงหยวนผู้นั้นเป็นทหารคงจะนิสัยโหดน่าดู นางเองก็กลัวเหมือนกัน
"อีกสามวันมู่ซงหยวนคงจะถึงบ้าน เมื่อถึงวันนั้นเรื่องแต่งงานคงจะเป็นหลักเป็นแหล่งที่ชัดเจนมากขึ้น"
"ท่านแม่เล็กข้ารู้ว่าท่านกับท่านพ่อไม่มีทางเลือก แต่ข้าเป็นห่วงท่านพ่อเจ้าค่ะไหนใครจะช่วยท่านแม่เล็กดูแลท่านพ่ออีกเจ้าคะ"
"ข้าอยากไรเล่า ข้าเป็นเมียดูแลสามีเป็นหน้าของข้า เจ้าแต่งออกไปมีสามีก็ดูแลสามีเจ้าให้ดี ๆ ก็แล้วกัน"
"แต่ท่านแม่เล็กไม่เคยทำ…"
"เจ้าเด็กโง่ข้าทำเป็นเพียงแค่ข้าขี้เกียจทำก็เท่านั้นเอง"ซุนอีเหยียนหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาเจ้าเด็กคนนี้ไม่คิดเป็นห่วงตัวเองบ้างหรือไง ตัวเองกำลังจะแต่งงานไปเจอนังยักษ์มู่น่าหลิงเชียวนะ ยังจะมาห่วงนางกับซุนกวางหวาอยู่อีก
"เงินน่ะมีไม่มาก แต่ที่ข้าพูดไม่ได้ให้เจ้าปฏิเสธเงินนี้ให้เจ้าเก็บติดตัวไว้ถึงจะไม่ได้มาก แต่ก็พอที่เจ้าจะไม่อดยากยามอยู่ที่อื่น"ซุนอีเหยียนเก็บเงินที่แบ่งไว้เป็นสินติดตัวของนางไว้ให้ซุนจือหลินติดตัว ถึงจะไม่ได้มากเท่าตอนที่ซุนเพ่ยหนิงบุตรของนางออกเรือน แต่จำนวนนี้ก็ถือว่าไม่ใช่น้อย ๆ
"ท่านแม่เล็ก…"ซุนจือหลินมองเงินในถุงมีถึง 200 อีแปะ มันช่างมากเกินไปสำหรับนาง นี่อาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของบ้านก็ได้ ทำไมท่านแม่เล็กถึงนำมาให้นาง
"ไม่ใช่เงินก้อนสุดท้ายของที่บ้านถึงจะเหลือไม่มาก แต่พอที่จะซื้อสมุนไพรมาต้มให้ท่านพ่อของเจ้าสักพัก"กินแต่ข้าวต้มกุ๊ยกับผักป่าลวกก็ใช่ว่าบ้านไม่มีเงิน เพียงแต่ช่วงนี้ต้องประหยัดใช้จ่ายสิ่งใดต้องคิดคำนวณดี ๆ
"อีเหยียนอยู่บ้านหรือไม่"เป็นมู่ต๋าที่มาแทนภรรยาอย่างมู่น่าหลิงเพื่อจะมาพูดคุยเรื่องสัญญา เขาเองก็ลำบากใจเพราะรู้ว่าซุนกวางหวาสหายเองก็ป่วยหนักอยู่ จะมาทักทวงสัญญาแบบนี้เห็นที่จะไม่เหมาะสม
แต่มู่น่าหลิงก็ยืนยันที่จะให้เรื่องการแต่งงานเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ที่นางไม่มาคุยด้วยตนเองคงเพราะมาแล้วก็จะต้องเจอกับซุนอีเหยียนไม่ใช่ซุนกวางหวา เพราะครั้งที่แล้วที่มู่น่าหลิงมาคุยนางก็ทะเลาะกับซุนอีเหยียนเสียยกใหญ่
ซุนอีเหยียนถอนหายใจเพราะรู้ว่าเป็นใครที่อยู่หน้าบ้านและมาด้วยเรื่องอันใด "ซุนจือหลินเจ้าเข้าไปในห้องก่อนห้ามออกมาเด็ดขาดคุยเสร็จข้าจะไปเรียกเจ้าเอง"
"เจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"ซุนจือหลินรีบเข้าไปอยู่ในห้องนอนทันทีเสียงที่ตะโกนอยู่หน้าบ้านคงจะเป็นคนบ้านมู่ท่านแม่เล็กถึงมีใบหน้าที่คล้ำเครียดเช่นนี้
.
.
.
"ข้ามาแล้ว"
"ต้องขออภัยเจ้าด้วยนะอีเหยียนที่มารบกวนในเวลาเช่นนี้"มู่ต๋าไม่ได้มาคนเดียวเขามากับลูกชายคนโตมู่ฉวนและนำของมาเยี่ยมซุนกวางหวาเล็กน้อย เพราะหากมาตัวเปล่าคงจะน่าเกลียดที่มาช้าก็เพราะไปหาของเยี่ยม เพราะมู่น่าหลิงภรรยาไม่ได้ให้อะไรมาเลยนางไม่ต้องการที่จะให้สิ่งใดติดไม้ติดมือไปอยู่แล้ว
"รบกวนอะไรกันพี่มู่ต๋ามาข้าก็รับรู้แล้วว่าจะคุยเรื่องอันใด เชิญ ๆ เข้ามานั่งในบ้านก่อนเจ้าคะ"
"นี่ ข้านำผลไม้มาเยี่ยมเจ้ากวางหวาได้ยินว่าป่วยหนักเชียวหรือ"
"เรื่องป่วยหนักเป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะพี่กวางหวาอาการไม่ค่อยดีข้าทำได้เพียงต้มยาสมุนไพรให้ดื่มเท่านั้น อย่างที่รู้บ้านเราขาดเสาหลักของครอบครัวที่ล้มป่วยไปอย่างพี่กวางหวาชีวิตความเป็นอยู่จึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเจ้าค่ะ"
"อีเหยียนที่เจ้าพูดข้าเองก็เห็นใจครอบครัวเจ้านะ และข้าเองก็เห็นใจลูกสามของข้าด้วยหากไม่แต่งกับซุนจือหลินชาตินี้ทั้งชาติเจ้าสามลูกข้าก็คงจะไม่มีสตรีที่ไหนมาแต่งงานด้วย…เพราะ…ว่าเขาพิการเดินไม่ได้"มู่ต๋าลำบากใจที่จะบอกแต่ในจดหมายที่เจ้าหน้าที่อ่านให้ฟังใจความมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
"ข้าต้องบอกตามตรงว่าทางเราไม่พร้อมจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้มีทางเลือกวันนี้ที่พี่มู่ต๋ามาก็คงจะมาคุยเรื่องนี้แทนมู่น่าหลิงภรรยาของพี่ใช่หรือไม่"ยามอยู่ต่อหน้ามู่ต๋าซุนอีเหยียนต้องเอ่ยชื่อมู่น่าหลิงอย่างสุภาพเพราะให้เกียรติมู่ต๋ากับมู่ฉวนลูกชายคนโตที่มาด้วยทั้งสองคนเป็นคนซื่อ ๆ นิสัยเชื่อฟังภรรยาเป็นสิ่งที่ดี ถ้าภรรยาของพวกเขาเป็นคนดี
"ข้าไม่ขออ้อมค้อมนะอีเหยียนอีกสามวันมู่ซงหยวนจะกลับถึงบ้าน และอีกสองวันพวกเราจะจัดพิธีแต่งงานขึ้น"
"ช่างรวดเร็วดีจริงลูกชายไปรบกลับมาบาดเจ็บพักผ่อนยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ต้องเข้าพิธีแต่งงานเสียแล้ว ข้าก็พอเข้าใจได้ว่าเพราะอันใดถึงรวดเร็วเช่นนี้"
"…"
"แต่งรวดเร็วเช่นนี้ไม่ทราบว่าเป็นความต้องการของมู่ซงหยวนหรือมู่น่าหลิงกันแน่"ซุนอีเหยียนล่ะอยากที่จะระเบิดออกมาให้ราบคาบ คนเป็นพ่อก็เชื่อฟังภรรยาจนไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ลูกคนโตอย่างมู่ฉวนถึงจะรักน้องชายแต่คนผู้นี้ไม่ได้มีอำนาจอะไรในบ้านถึงแม้จะเป็นลูกคนโต
พูดสิ่งใดไปก็ไม่เป็นผลดูท่าอำนาจในบ้านอยู่ที่มู่น่าหลิงและนางจะรักและเชื่อฟังคำพูดลูกคนรองกับคนเล็กสุด ช่างเป็นแม่คนที่รักลูกเท่าเทียมเสียจริง
"ท่านน้าอีเหยียนถึงน้องชายของข้าจะร่างกายไม่ครบส่วน แต่ข้าขอเอาหัวของข้าสาบานว่ามู่ซงหยวนน้องของข้าเป็นคนดี เขาจะรักและเทิดทูนภรรยาอย่างแน่นอนขอรับ"
"นิสัยใจคอของคนทั้งสองก็ให้พวกเขาศึกษาปรับเข้าหาใจกัน หากเจ้ามู่ฉวนให้คำสาบานว่าน้องชายของเจ้าเป็นคนดี ข้าจะบอกให้เจ้าฝากคำของข้าไปถึงมู่ซงหยวนด้วยว่า 'ซุนจือหลินนางเป็นคนซื่อ ๆ นิสัยเรียบร้อย เพราะฉะนั้นหากน้องชายของเจ้าไม่เป็นดั่งคำที่เจ้าพูดข้าจะไปเอาลูกสาวของข้าคืนทันที"ซุนอีเหยียนเอ่ยคำว่าลูกสาวออกไปอย่างเผลอตัว แต่ไม่คิดที่จะไปแก้ไขคำพูดเพราะสิ่งที่นางพูดคือความจริง
"ข้าสาบานและขอสัญญาต่อหน้าฟ้าดิน หากน้องชายของข้าไม่เป็นดังที่ข้าพูดท่านน้านำตัวซุนจือหลินกับไปได้เลยขอรับ"
จ้าวเฟยหลงโดนรุมทึ้ง รุมด่า จากการวางแผนและการแสดงของเขาที่มันดีเลิศเกินไปจนทำให้มีการหลั่งน้ำตาเกิดขึ้น"ปล่อยข้านะไอ้พวกเด็กบ้าพลัง"ตอนนี้จ้าวเฟยหลงนั้นอยู่ด้านล่างสุดโดยมีอาหาน เสี่ยวหมิง เจี้ยนโปและคนสุดท้ายคือมู่ซงหยวนที่เป็นคนนอนทับอยู่ด้านบน"โทษฐานที่โกหกพวกข้า"อาหหานกัดเข้าที่ใบหูของพี่จ้าวเฟยหลงอย่างไม่แรงนะ เพราะเพียงแกล้งเล่นเหมือนตอนที่อยู่ด้วยกันเท่านั้น"โอ๊ย !!!!"จ้าวม่านฉีกับเหลียงจงซินมององค์รัชทายาทที่กำลังเล่นสนุกกับเหล่าพระสหายอย่างลืมพระชันษาหมดสิ้นเสียแล้วด้านล่างที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้าแล้ว เพราะของที่ร้านขายหมดแล้วที่เตรียมมาปลานิลขนาดเล็ก 50 ตัว ขนาดกลาง 50 ตัว และขนาดใหญ่สุด 50 ตัว ได้ขายหมดแล้ว"ลูกด้านบนเสียงดังอันใดกันหรือ"ซุนกลางหวาเอ่ยถามบุตรสาว เพราะได้บินด้านบนมีเสียงดังมาได้สักพักแล้วเหมือนเสียงเด็กน้อยเล่นกันด้านบน"สหายของพี่ซงหยวนมาหาเจ้าค่ะคงจะพูดคุยเล่นกันเสียงดังตามประสาคนไม่ได้เจอกันนานน่ะเจ้าคะ""แต่พี่เห็นหลังจากหมดลูกค้าจ้าวม่านฉีกับเหลียงจงซินก็ขึ้นไปด้านบนนะ""น่าจะคอยดูแลสหายพี่ซงหยวนน่ะเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินเองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่
ร้านเมี่ยงปลาห้าสหายหลังจากผ่านงานสีขาวดำมาทุกคนก็เดินหน้าต่อใช้ชีวิตต่อ ในส่วนของเรื่องที่ผ่านมาทุกคนไม่ได้ลืมว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง แต่เพียงเก็บไว้เป็นความทรงจำเท่านั้น"เจ้าสามพ่อดีใจด้วยนะที่เจ้าเป็นเถ้าแก่ใหญ่เสียแล้ว""ท่านพ่อหากข้าไม่มีท่านข้าเองก็คงจะไม่มีวันนี้ขอรับขอบคุณที่เลี้ยงข้ามาขอรับ"มู่ซงหยวนเลือกที่จะไม่พูดถึงมู่จื่อเหมยและมันจะตายไปพร้อมกับเขา อินซงผู้นั้นมีลูกกับท่านแม่มู่สองคนคือมู่จื่อชิวและมู่จื่อเหมย แต่ทุกคนรับรู้เพียงมู่จื่อชิวคนเดียวเท่านั้น"เจ้าก็คือลูกของพ่อเป็นน้องสามของเจ้าใหญ่และเป็นพี่สามของจื่อเหมย""ขอบคุณขอรับท่านพ่อ""ท่านพ่อ พี่ซงหยวน เชิญชั้นบนเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินตั้งใจจะแจ้งข่าวดีกับทุกคนในวันนี้ วันนี้ร้านเปิดเป็นวันแรกมีส่วนลด 10 อีแปะในเมี่ยงปลาเผาทุกชุด เมี่ยงปลาชุดเล็กจะขายที่ 50 อีแปะ ชุดกลาง 80 อีแปะ ชุดใหญ่ 120 อีแปะ ส่วนแบบนึ่งชุดเล็ก 30 อีแปะ ชุดกลาง 60 อีแปะ ชุดใหญ่ 100 อีแปะมีลูกค้ามาอุดหนุนที่ที่ร้านจนโต๊ะเต็มทุกโต๊ะเลย และก็มีซื้อกลับไปกินที่บ้านก็จะเร็วและสะดวกสำหรับคนที่ไม่ต้องการที่จะรอคิวให้เสียเวลาที่ร้านจะมีเมี่ยงปลาสองแบบคื
ทุกคนทำเต็มที่กันแล้วพยายามที่จะช่วยยื้อชีวิตของมู่น่าหลิงให้นานที่สุด เพื่อรอท่านหมอที่มู่ซงหยวนไปตามทุกคนไม่มีใครคาดคิดว่ามู่น่าหลิงจะทำเช่นนี้"นางเลือกแล้วว่าจะจบชีวิตตนเองเช่นนี้"มู่น่าหลิงนางคงคิดมาแล้วว่าจะเลือกทางนี้ถึงได้มียาพิษติดตัวเช่นนี้ นางรักมู่จื่อชิวมากเกินไปจนไม่รักชีวิตตนเองยอมหลับหูหลับตาและเชื่อในสิ่งที่นางจินตนาการไว้เท่านั้น"ท่านพ่อ…อึก""นางเลือกแล้ว…รอท่านหมอมาก่อนก็แล้วกัน"ซุนจือหลินมองบรรยากาศโดยรอบก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะนำพางานขาวดำมาให้บ้านมู่ แต่อย่างน้อยก่อนที่ท่านแม่มู่จะไปก็ได้ละลายความติดค้างในใจให้มู่ซงหยวนและทุกคนได้รับรู้ถึงจะเป็นเรื่องที่เกินจะคาดเดาไว้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ไปอย่างไม่มีอะไรที่ติดค้างกันชดใช้กันในชาตินี้ก็พอ "ท่านพ่อ…""ขอโทษเจ้าด้วยนะที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้วันนี้แทนที่จะได้กินข้าวด้วยกัน""ท่านพ่อข้าขอถามเรื่องพี่ซงหยวนได้หรือไม่""ได้ทุกอย่างตอนนี้ถึงเวลาแล้ว""หากพี่ซงหยวนไม่ใช่ลูกของพวกท่านแล้วเหตุใดไม่มีใครรู้ แม้แต่ท่านพ่อของข้าก็คงจะไม่รู้""ในตอนนั้นมู่น่าหลิงนางก็ตั้งท้องอยู่อีกไม่กี่เดือนนางใกล้จะคลอด แต่นางแท้งไปเสียก่อ
ทันทีที่มู่น่าหลิงเอ่ยประโยคที่ทุกคนในบ้านไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ยินและไม่ได้เตรียมใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกินขึ้น เพราะเรื่องแบบนี้นั้นมันยากเกินไปที่จะเกิดขึ้นได้"เงียบทำไมหรือเจ้าสามข้าไม่ใช่ท่านแม่ของเจ้า ข้าไม่ใช่แม่เจ้า!"มู่น่าหลิงในตอนนี้เหมือนคนที่เสียสติไปแล้ว เอ่ยย้ำ ๆ คำพูดเดิม ๆ ว่าไม่ใช่แม่ของมู่ซงหยวน"หึหึ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่ใช่ท่านแม่ของข้า แต่ก็ขอบคุณที่อุตส่าห์ดูแลข้ามาอย่างอนาถเช่นนี้"หากเขานั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงเช่นนี้คงจะไม่มีวันรู้เรื่องที่ติดค้างในใจมาตลอด หากไม่ให้คนตามสืบคงจะไม่มีวันรู้ได้เลยและที่สำคัญนั้นรู้อีกหลายเรื่องเลยทีเดียว"…""เจ้าสาม""ท่านพ่อข้าทำใจได้แล้วขอรับ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมขอรับท่านพ่อ""…"มู่ต๋านั้นมืดแปดด้านเมื่อเรื่องที่ปกปิดนั้นถูกเปิดเผยโดยมู่น่าหลิงและที่สำคัญมู่ซงหยวนก็รับรู้อยู่แล้ว เรื่องนี้เขาไม่เคยพูดเลยและไม่มีใครรู้ด้วย แม้แต่สหายอย่างซุนกวางหวาหรือชาวบ้านก็ไม่มีใครรู้หรือสงสัยกัน มีแค่เขากับมู่น่าหลิงและหมอตำแยที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ท่านจากไปเพราะโรคชรา"ดีน่ะสิ รู้อยู่แล้วข้าจะได้ไม่ต้องถนอมน้ำใจใครอีก"
บ้านซุนซุนจือหลินและมู่ซงหยวนได้เดินทางกลับบ้านในวันเดียวกับที่มู่จื่อเหมยนั้นมาหาที่ร้าน เพราะอีกไม่กี่วันร้านก็จะเปิดแล้วจะต้องกลับมาบ้านและแจ้งท่านพ่อท่านแม่ซุน"นี่เจ้าค่ะชุดข้าซื้อมาให้ท่านพ่อท่านแม่ในวันเปิดร้านของพวกเราเจ้าค่ะ""ให้พวกแม่ไปด้วยหรือ"ซุนอีเหยียนไม่คิดว่าซุนจือหลินจะให้นางไปร่วมยินดีด้วย เพราะแค่ที่ซุนจือหลินทำให้ครอบครัวมันก็มากเกินพอแล้วมีความเป็นอยู่ชีวิตที่ดีขึ้นนางนั้นก็ดีใจมากแล้ว"ท่านแม่ ท่านก็เป็นคนสำคัญของข้า ท่านพ่อ ซุนเพ่ยหนิง ด้วยทุกคนคือครอบครัวของข้านะเจ้าคะ""เจ้าจะเก่งเกินไปแล้วตัวแค่นี้เอง""ลูกพ่อเก่งมากจริง ๆ"ซุนกวางหวาไม่คิดว่าชีวิตจะมีวันนี้ วันที่ชีวิตดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดและครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุขถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจะเจอเรื่องที่ดีและไม่ดีมาบ้าง แต่ก็สามารถที่จะพากันข้ามผ่านกันมาได้"ซุนเพ่ยหนิงมีคนฝากของมาให้เจ้าด้วยนะ"ซุนจือหลินนำกล่องไม้ที่อาหานฝากมาให้ซุนเพ่ยหนิง เพราะตอนนี้ตัวอาหานเองอยู่ในเมือง เพราะจะต้องเฝ้าร้านจึงจะต้องมีคนอยู่ ซึ่งก็มีเสี่ยวหมิงและเจี้ยนโปเฝ้าอยู่ด้วย "ขอบคุณเจ้าค่ะ แต่ว่าของใครกันเจ้าคะ""ของอาหานน
"ท่านอาเล็กพวกเราจะไปที่ไหนกันหรือขอรับ""เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวขนมหมดบอกอาเล็กนะจะพาไปซื้อเพิ่ม""ขอรับท่านอาเล็ก"มู่จื่อเหมยหลังจากพามู่เยี่ยนเฟยไปซื้อขนมหวานกิน นางก็ไม่รู้ตัวเองเป็นอะไรถึงได้เดินมาอยู่ที่หน้าเรือนของคนใจร้ายผู้นั้นได้กัน"ท่านหมอเร็วหน่อยขอรับ"เป็นหนึ่งในคนของเรือนตระกูลหลี่ที่เอ่ยบอกท่านหมอใหญ่ให้รีบเข้าไปรักษาท่านเฉินลี่ที่มีอาการเเย่ลงและหมอที่ทำการดูแลอยู่นั้นก็ช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่ ต้องรอหมอที่เฉพาะทางเท่านั้นมู่จื่อเหมยที่เห็นว่ามีท่านหมอรีบร้อนเข้าไปในจวนในใจนางนั้นก็ร้อนรุ่มแปลก ๆ "คงจะไม่เป็นไรมากหรอกมั้ง"คนผู้นั้นตายยากจะตายคงจะไม่เป็นอันใดมากหรอก"จะกลับเลยหรือมาถึงขนาดนี้แล้ว"เป็นจางฉวนที่เข้ามาเอ่ยก่อน เพราะเห็นว่านายหญิงกำลังจะหันตัวกลับไปทั้งที่มาถึงเรือนแล้วแท้ ๆ"…"มู่จื่อเหมยไม่ได้ตกใจที่เจอคนผู้นี้ แต่ที่นางตกใจคืออีกฝ่ายรู้ได้อย่างไรว่านางมาที่นี่"นายท่านอยากเจอนายหญิงมากนะขอรับ แต่เพราะร่างกายสาหัสเกินไปไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะ…""ข้าไม่ใช่นายหญิงของเจ้าอย่าเรียกข้าเช่นนี้อีก"มู่จื่อเหมยตกใจที่จางฉวนเอ่ยเรียกนางเช่นนั้น เพราะว่าตำแหน่งนี้นางเคยอย







