เข้าสู่ระบบ
หมู่บ้านซานซานเป็นหมู่บ้านขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ในหมู่บ้านจะมีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือมีผัวเดียวเมียเดียว หากผัวตายเมียตายและเป็นหม้ายก็ไม่ผิดที่จะมีผัวหรือเมียใหม่ได้ไม่ผิด ยังไม่เคยมีครอบครัวใดที่แต่งเมียเข้าบ้านพร้อมกันคนสองคนเพราะจะเป็นการประจานครอบครัวตนเองและเป็นขี้ปากชาวบ้าน
ไม่มีใครอยากตกเป็นของขี้ปากคนอื่นที่พูดคุยในวงสนทนายามพักเที่ยงนั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องชาวบ้านที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน แต่ไม่ใช่กับครอบครัวซุนที่ตกเป็นจำเลยในวงสนทนาอยู่
ตระกูลซุน
ซุนกวางหวาที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแต่บัดนี้ร่างกายของเขาเริ่มเสื่อมสภาพลงไปทุกทื่ เพราะความที่ทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก "จ่างลี่เจ้าจะมารับพี่ใช่หรือไม่"ซุนกวางหวานอนเพ้อถึงซุนจ่างลี่ที่เป็นภรรยาคนแรกที่เสียไปได้นานหลายปีแล้ว แต่ในใจไม่เคยลืมนางได้เลย
"คนมันตายไปแล้วพี่จะเพ้อถึงมันอีกทำไม"ซุนอีเหยียนนางแต่งเข้าตระกูลซุนมาเป็นภรรยารองต่อจากนางจ่างลี่ที่ตายไป นางเองไม่ได้มีทางเลือกมากนักเพราะนางเองเป็นสตรีผ่านการแต่งงานมาแล้วแต่ก็หย่าร้างกับสามีไป แถมนางยังมีลูกกับสามีเก่าติดมาอีก ที่บ้านไม่ได้ให้ความสำคัญกับนางเท่าไหร่การแต่งงานออกเรือนคือสิ่งที่นางต้องการมากที่สุด
เพราะจะได้ไม่ต้องอดทนอยู่บ้านที่ทำเหมือนนางเป็นขี้ข้าค่อยรับใช้คนในครอบครัว แต่ท่านแม่ก็จะคอยบอกว่ามันคือหน้าที่ของสตรีซึ่งเป็นสิ่งที่นางเกลียดที่สุด
"พี่กวางหวา พี่มันไม่ได้เรื่อง!!"ซุนอีเหยียนไม่ชอบซุนจ่างลี่ถึงจะไม่เคยเห็นน่าค่าตากันมาก่อน แต่ชื่อเสียงของซุนจ่างลี่ไม่เคยจางไปจากใบหูของนางเลย ซุนกวางหวามักจะเพ้อละเมอพูดเพ้อฝันถึงซุนจ่างลี่อยู่บ่อย ๆ เห็นจะมากอยู่ในตอนนี้ที่กำลังป่วยหนักอยู่ เป็นโรคที่หาสาเหตุไม่ได้และนางเองก็รักษาตามมีตามเกิดไม่ได้มีเงินมากมายขนาดที่จะไปหาหมอดี ๆ ในเมืองหลวงขนาดหมอในหมู่บ้านก็หลายอีแปะอยู่
ซุนกวางหวาเหมือนได้ยินเสียงซุนอีเหยียนอยู่ใกล้ ๆ แต่เขาไม่สามารถที่จะลืมตาตื่นได้จริง ๆ ร่างกายที่หนักอึ้งขยับตัวไม่ได้ปวดร้าวไปหมดทำได้แค่นอนนิ่ง ๆ เท่านั้น
"ท่านแม่เล็กข้าทำข้าวต้มกุ๊ยมาให้ท่านพ่อเจ้าคะ"ซุนจือหลินในวัย 18 ปี จะเข้า 19 แต่ยังไม่ได้ออกเรือน เหมือนหญิงสาวในหมู่บ้านอายุ 15 ก็พากันออกเรือนแล้ว แต่ซุนจือหลินนางต่างออกไปนางเป็นห่วงทุกคนในครอบครัวตอนนี้ท่านพ่อก็ล้มป่วยหนัก ท่านแม่เล็กเองก็ต้องดูแลท่านพ่อเงินในบ้านก็เริ่มจะหมดลงเรื่อย ๆ
"มีแต่ข้าวต้มกุ๊ยหรือเจ้าทำได้แค่นี้เองหรือซุนจือหลิน"ซุนอีเหยียนถึงจะไม่ได้ชอบซุนจ่างลี่ แต่นางไม่ได้โกรธเกลียดซุนจือหลินที่เป็นลูกของซุนจ่างลี่ ซุนจือหลินนางแตกต่างจากเด็กทั่วไปทำให้นางเองมองเด็กคนนี้ต่างออกไปในทางที่ดีขึ้น แต่จะมาดีกว่าลูกสาวของนางได้อย่างไร แต่นางเองก็ไม่ใช่แม่เลี้ยงใจร้ายทำร้ายตบตีลูกเลี้ยง เพียงแต่นางขี้เกียจทำงานบ้านก็เท่านั้นเองหน้าที่นี้จึงตกเป็นของซุนจือหลิน
"ช่างมันไปเตรียมยามาให้ท่านพ่อเจ้าด้วย"
"เจ้าค่ะแม่เล็ก"ซุนจือหลินมองท่านพ่อของตนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ทำนางอ่อนใจ ที่บ้านไม่ค่อยมีเงินท่านพ่อป่วยมาจะเข้า 2 เดือน แล้วเงินเก็บที่บ้านแม่เล็กก็เอาออกมาใช้ ๆ จ่ายในบ้านในทุก ๆ วันก็ต้องมีวันหมดเป็นธรรมดา แต่จะหมดมากหน่อยช่วงที่ซุนเพ่ยหนิงยามที่นางออกเรือนไปแล้ว เพราะต้องมีเงินให้นางได้ติดตัวไปบ้างจะได้ไม่น้อยหน้าฝ่ายสามีแม่เล็กบอกแบบนั้น
ตั้งแต่ที่ซุนเพ่ยหนิงแต่งออกไปก็เกือบจะ 1 ปี เต็มนางยังไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านอีกเลยและก็ไม่ได้ส่งข่าวคราวมาที่บ้านแม่เล็กบอกเพียงนางสบายดีเท่านั้น ถึงนางจะไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกันซุนเพ่ยหนิงเป็นลูกของท่านแม่เล็กท่านพ่อกับท่านแม่เล็กไม่ได้มีลูกด้วยกันอยู่กันฉันสามีภรรยา ถึงท่านแม่เล็กจะขี้เกียจทำงานแต่ก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรือเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายอะไรขนาดนั้น
แม่เล็กก็มีมุมที่ดีอยู่เยอะเพียงเป็นคนพูดเก่งและเสียงดังเลยอาจดูจะน่ากลัวไปหน่อย อีกอย่างตอนนาง 3 ขวบ แม่เล็กก็เป็นคนที่ช่วยท่านพ่อดูแลพร้อมกับเลี้ยงซุนเพ่ยหนิงไปด้วยนางกับซุนเพ่ยหนิงห่างกัน 3 ปี นิสัยซุนเพ่ยหนิงก็ออกคล้าย ๆ ท่านแม่เล็กเอาแต่ใจ ชอบเอาชนะต้องเป็นที่หนึ่ง และชอบความสบายย แต่เป็นคนเข้มแข็งความสัมพันธ์ของเราสองพี่น้องก็มีทั้งดีและไม่ดีตามประสาพี่น้องทั่วไป
"ยาได้แล้วเจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"
"เจ้าออกไปรอข้างนอกข้ามีเรื่องจะคุยด้วย"ซุนอีเหยียนเองก็ลำบากใจที่จะพูด เมื่อหลายวันก่อนบ้านมู่มาพูดคุยเรื่องสัญญาของซุนกวางหวากับบ้านมู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่นางนั้นไม่เคยรู้มาก่อนน่าจะเป็นช่วงที่ซุนจ่างลี่ยังมีชีวิตอยู่สัญญาของสองครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดยากในสถานการณ์ในตอนนี้
ดูก็รู้ว่าบ้านมู่พยายามจะสลัดลูกชายคนที่สามทิ้งเพราะไม่มีประโยชน์ เห็นว่าไปเป็นทหารในช่วงสงครามนานหลายปี แต่ได้ข่าวมาว่าบาดเจ็บสาหัสเลยต้องกลับบ้านเห็นชาวบ้านพูดคุยกันว่าคงจะพิการทางหน่วยที่มู่ซงหยวนสังกัดอยู่ส่งจดหมายมาหาบ้านมู่
เคยได้ยินแต่ขายลูกกิน ซึ่งเป็นแม่ของฝ่ายหญิงเสียมากกว่า ไม่คิดไม่ฝันว่านางจะเจอกับตัวนังมู่น่าหลิงกำลังขายลูกชายตัวเองที่กำลังจะพิการนังสารเลวนี่มันร้ายจริง ๆ
"อีเหยียน…"
"น้องรู้เจ้าค่ะเดี๋ยวจะออกไปคุยกับจือหลินอายุนางก็สมควรที่จะออกเรือนได้ตั้งนานแล้ว"
"พี่ไม่คิดว่าบ้านมู่จะมาทวงสัญญา"ซุนกวางหวาคิดว่าบ้านมู่คงจะลืมไปแล้ว เพราะบ้านมู่ มีลูกชายสามคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตกับคนรองก็แต่งงานแล้ว เหลือคนที่สามมู่ซงหยวนที่ไปเป็นทหารหลายปีแล้ว
"น้องว่านังมู่น่าหลิงนั่นจะขายลูกชายกินต่างหากท่านพี่ไม่ทันคนบ้านนั้น"
"พูดจาเหลวไหลอีเหยียนบ้านมู่มาทวงสัญญาก็ถูกแล้ว"
"พี่กวางหวาจะว่าถูกก็ถูก แต่สถานการณ์ในตอนนี้ควรหรือพี่ มู่ซงหยวนบาดแผลอาจจะพิการบ้านมู่เลยให้รีบแต่งจะได้ผลักภาระการดูแลมาให้บ้านเรามากกว่า"
ซุนกวางหวาคิดตามที่ซุนอีเหยียนพูดก็ถูก แต่จะให้ปฏิเสธไปก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะสัญญาที่ให้กันสองครอบครัวถือว่าเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน แสดงความซื่อสัตย์
"น้องรู้พี่เองก็ลำบากใจ จะปฏิเสธไปก็ทำไม่ได้อีก"ซุนอีเหยียนเองก็ไม่อยากให้ซุนจือหลินแต่งกับคนบ้านมู่ โดยรู้ทั่วกันว่าบ้านมู่นั้นมีเงินเพราะลูกเป็นทหาร แต่ก็มู่น่าหลิงเป็นคนขี้งก และปากจัด นิสัยเสีย รักลูกไม่เท่ากันเป็นที่สุดเห็นได้จากงานแต่งงานของลูกชายคนโตกับคนรองที่ต่างกันจนน่าเห็นใจคนโตอย่างซุนฉวนที่เกิดมาเจอแม่เช่นนี้
เหมือนมู่น่าหลิงจะให้ความสำคัญกับมู่จื่อชิวที่เป็นบุตรคนรองและมู่จื่อเหมยที่เป็นน้องเล็กสุดของบ้าน วัน ๆ ไม่เห็นนางจะทำอะไรเลยแต่งตัวสวยคอยจับผู้ชายบ้านรวยไปวัน ๆ สงสารก็แต่คนโตกับคนที่สามอย่างมู่ซงหยวนได้เงินมาส่งให้ที่บ้านหมดไม่รู้ตนเองจะได้ใช้หรือไม่
จ้าวเฟยหลงโดนรุมทึ้ง รุมด่า จากการวางแผนและการแสดงของเขาที่มันดีเลิศเกินไปจนทำให้มีการหลั่งน้ำตาเกิดขึ้น"ปล่อยข้านะไอ้พวกเด็กบ้าพลัง"ตอนนี้จ้าวเฟยหลงนั้นอยู่ด้านล่างสุดโดยมีอาหาน เสี่ยวหมิง เจี้ยนโปและคนสุดท้ายคือมู่ซงหยวนที่เป็นคนนอนทับอยู่ด้านบน"โทษฐานที่โกหกพวกข้า"อาหหานกัดเข้าที่ใบหูของพี่จ้าวเฟยหลงอย่างไม่แรงนะ เพราะเพียงแกล้งเล่นเหมือนตอนที่อยู่ด้วยกันเท่านั้น"โอ๊ย !!!!"จ้าวม่านฉีกับเหลียงจงซินมององค์รัชทายาทที่กำลังเล่นสนุกกับเหล่าพระสหายอย่างลืมพระชันษาหมดสิ้นเสียแล้วด้านล่างที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้าแล้ว เพราะของที่ร้านขายหมดแล้วที่เตรียมมาปลานิลขนาดเล็ก 50 ตัว ขนาดกลาง 50 ตัว และขนาดใหญ่สุด 50 ตัว ได้ขายหมดแล้ว"ลูกด้านบนเสียงดังอันใดกันหรือ"ซุนกลางหวาเอ่ยถามบุตรสาว เพราะได้บินด้านบนมีเสียงดังมาได้สักพักแล้วเหมือนเสียงเด็กน้อยเล่นกันด้านบน"สหายของพี่ซงหยวนมาหาเจ้าค่ะคงจะพูดคุยเล่นกันเสียงดังตามประสาคนไม่ได้เจอกันนานน่ะเจ้าคะ""แต่พี่เห็นหลังจากหมดลูกค้าจ้าวม่านฉีกับเหลียงจงซินก็ขึ้นไปด้านบนนะ""น่าจะคอยดูแลสหายพี่ซงหยวนน่ะเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินเองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่
ร้านเมี่ยงปลาห้าสหายหลังจากผ่านงานสีขาวดำมาทุกคนก็เดินหน้าต่อใช้ชีวิตต่อ ในส่วนของเรื่องที่ผ่านมาทุกคนไม่ได้ลืมว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง แต่เพียงเก็บไว้เป็นความทรงจำเท่านั้น"เจ้าสามพ่อดีใจด้วยนะที่เจ้าเป็นเถ้าแก่ใหญ่เสียแล้ว""ท่านพ่อหากข้าไม่มีท่านข้าเองก็คงจะไม่มีวันนี้ขอรับขอบคุณที่เลี้ยงข้ามาขอรับ"มู่ซงหยวนเลือกที่จะไม่พูดถึงมู่จื่อเหมยและมันจะตายไปพร้อมกับเขา อินซงผู้นั้นมีลูกกับท่านแม่มู่สองคนคือมู่จื่อชิวและมู่จื่อเหมย แต่ทุกคนรับรู้เพียงมู่จื่อชิวคนเดียวเท่านั้น"เจ้าก็คือลูกของพ่อเป็นน้องสามของเจ้าใหญ่และเป็นพี่สามของจื่อเหมย""ขอบคุณขอรับท่านพ่อ""ท่านพ่อ พี่ซงหยวน เชิญชั้นบนเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินตั้งใจจะแจ้งข่าวดีกับทุกคนในวันนี้ วันนี้ร้านเปิดเป็นวันแรกมีส่วนลด 10 อีแปะในเมี่ยงปลาเผาทุกชุด เมี่ยงปลาชุดเล็กจะขายที่ 50 อีแปะ ชุดกลาง 80 อีแปะ ชุดใหญ่ 120 อีแปะ ส่วนแบบนึ่งชุดเล็ก 30 อีแปะ ชุดกลาง 60 อีแปะ ชุดใหญ่ 100 อีแปะมีลูกค้ามาอุดหนุนที่ที่ร้านจนโต๊ะเต็มทุกโต๊ะเลย และก็มีซื้อกลับไปกินที่บ้านก็จะเร็วและสะดวกสำหรับคนที่ไม่ต้องการที่จะรอคิวให้เสียเวลาที่ร้านจะมีเมี่ยงปลาสองแบบคื
ทุกคนทำเต็มที่กันแล้วพยายามที่จะช่วยยื้อชีวิตของมู่น่าหลิงให้นานที่สุด เพื่อรอท่านหมอที่มู่ซงหยวนไปตามทุกคนไม่มีใครคาดคิดว่ามู่น่าหลิงจะทำเช่นนี้"นางเลือกแล้วว่าจะจบชีวิตตนเองเช่นนี้"มู่น่าหลิงนางคงคิดมาแล้วว่าจะเลือกทางนี้ถึงได้มียาพิษติดตัวเช่นนี้ นางรักมู่จื่อชิวมากเกินไปจนไม่รักชีวิตตนเองยอมหลับหูหลับตาและเชื่อในสิ่งที่นางจินตนาการไว้เท่านั้น"ท่านพ่อ…อึก""นางเลือกแล้ว…รอท่านหมอมาก่อนก็แล้วกัน"ซุนจือหลินมองบรรยากาศโดยรอบก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะนำพางานขาวดำมาให้บ้านมู่ แต่อย่างน้อยก่อนที่ท่านแม่มู่จะไปก็ได้ละลายความติดค้างในใจให้มู่ซงหยวนและทุกคนได้รับรู้ถึงจะเป็นเรื่องที่เกินจะคาดเดาไว้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ไปอย่างไม่มีอะไรที่ติดค้างกันชดใช้กันในชาตินี้ก็พอ "ท่านพ่อ…""ขอโทษเจ้าด้วยนะที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้วันนี้แทนที่จะได้กินข้าวด้วยกัน""ท่านพ่อข้าขอถามเรื่องพี่ซงหยวนได้หรือไม่""ได้ทุกอย่างตอนนี้ถึงเวลาแล้ว""หากพี่ซงหยวนไม่ใช่ลูกของพวกท่านแล้วเหตุใดไม่มีใครรู้ แม้แต่ท่านพ่อของข้าก็คงจะไม่รู้""ในตอนนั้นมู่น่าหลิงนางก็ตั้งท้องอยู่อีกไม่กี่เดือนนางใกล้จะคลอด แต่นางแท้งไปเสียก่อ
ทันทีที่มู่น่าหลิงเอ่ยประโยคที่ทุกคนในบ้านไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ยินและไม่ได้เตรียมใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกินขึ้น เพราะเรื่องแบบนี้นั้นมันยากเกินไปที่จะเกิดขึ้นได้"เงียบทำไมหรือเจ้าสามข้าไม่ใช่ท่านแม่ของเจ้า ข้าไม่ใช่แม่เจ้า!"มู่น่าหลิงในตอนนี้เหมือนคนที่เสียสติไปแล้ว เอ่ยย้ำ ๆ คำพูดเดิม ๆ ว่าไม่ใช่แม่ของมู่ซงหยวน"หึหึ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่ใช่ท่านแม่ของข้า แต่ก็ขอบคุณที่อุตส่าห์ดูแลข้ามาอย่างอนาถเช่นนี้"หากเขานั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงเช่นนี้คงจะไม่มีวันรู้เรื่องที่ติดค้างในใจมาตลอด หากไม่ให้คนตามสืบคงจะไม่มีวันรู้ได้เลยและที่สำคัญนั้นรู้อีกหลายเรื่องเลยทีเดียว"…""เจ้าสาม""ท่านพ่อข้าทำใจได้แล้วขอรับ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมขอรับท่านพ่อ""…"มู่ต๋านั้นมืดแปดด้านเมื่อเรื่องที่ปกปิดนั้นถูกเปิดเผยโดยมู่น่าหลิงและที่สำคัญมู่ซงหยวนก็รับรู้อยู่แล้ว เรื่องนี้เขาไม่เคยพูดเลยและไม่มีใครรู้ด้วย แม้แต่สหายอย่างซุนกวางหวาหรือชาวบ้านก็ไม่มีใครรู้หรือสงสัยกัน มีแค่เขากับมู่น่าหลิงและหมอตำแยที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ท่านจากไปเพราะโรคชรา"ดีน่ะสิ รู้อยู่แล้วข้าจะได้ไม่ต้องถนอมน้ำใจใครอีก"
บ้านซุนซุนจือหลินและมู่ซงหยวนได้เดินทางกลับบ้านในวันเดียวกับที่มู่จื่อเหมยนั้นมาหาที่ร้าน เพราะอีกไม่กี่วันร้านก็จะเปิดแล้วจะต้องกลับมาบ้านและแจ้งท่านพ่อท่านแม่ซุน"นี่เจ้าค่ะชุดข้าซื้อมาให้ท่านพ่อท่านแม่ในวันเปิดร้านของพวกเราเจ้าค่ะ""ให้พวกแม่ไปด้วยหรือ"ซุนอีเหยียนไม่คิดว่าซุนจือหลินจะให้นางไปร่วมยินดีด้วย เพราะแค่ที่ซุนจือหลินทำให้ครอบครัวมันก็มากเกินพอแล้วมีความเป็นอยู่ชีวิตที่ดีขึ้นนางนั้นก็ดีใจมากแล้ว"ท่านแม่ ท่านก็เป็นคนสำคัญของข้า ท่านพ่อ ซุนเพ่ยหนิง ด้วยทุกคนคือครอบครัวของข้านะเจ้าคะ""เจ้าจะเก่งเกินไปแล้วตัวแค่นี้เอง""ลูกพ่อเก่งมากจริง ๆ"ซุนกวางหวาไม่คิดว่าชีวิตจะมีวันนี้ วันที่ชีวิตดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดและครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุขถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจะเจอเรื่องที่ดีและไม่ดีมาบ้าง แต่ก็สามารถที่จะพากันข้ามผ่านกันมาได้"ซุนเพ่ยหนิงมีคนฝากของมาให้เจ้าด้วยนะ"ซุนจือหลินนำกล่องไม้ที่อาหานฝากมาให้ซุนเพ่ยหนิง เพราะตอนนี้ตัวอาหานเองอยู่ในเมือง เพราะจะต้องเฝ้าร้านจึงจะต้องมีคนอยู่ ซึ่งก็มีเสี่ยวหมิงและเจี้ยนโปเฝ้าอยู่ด้วย "ขอบคุณเจ้าค่ะ แต่ว่าของใครกันเจ้าคะ""ของอาหานน
"ท่านอาเล็กพวกเราจะไปที่ไหนกันหรือขอรับ""เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวขนมหมดบอกอาเล็กนะจะพาไปซื้อเพิ่ม""ขอรับท่านอาเล็ก"มู่จื่อเหมยหลังจากพามู่เยี่ยนเฟยไปซื้อขนมหวานกิน นางก็ไม่รู้ตัวเองเป็นอะไรถึงได้เดินมาอยู่ที่หน้าเรือนของคนใจร้ายผู้นั้นได้กัน"ท่านหมอเร็วหน่อยขอรับ"เป็นหนึ่งในคนของเรือนตระกูลหลี่ที่เอ่ยบอกท่านหมอใหญ่ให้รีบเข้าไปรักษาท่านเฉินลี่ที่มีอาการเเย่ลงและหมอที่ทำการดูแลอยู่นั้นก็ช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่ ต้องรอหมอที่เฉพาะทางเท่านั้นมู่จื่อเหมยที่เห็นว่ามีท่านหมอรีบร้อนเข้าไปในจวนในใจนางนั้นก็ร้อนรุ่มแปลก ๆ "คงจะไม่เป็นไรมากหรอกมั้ง"คนผู้นั้นตายยากจะตายคงจะไม่เป็นอันใดมากหรอก"จะกลับเลยหรือมาถึงขนาดนี้แล้ว"เป็นจางฉวนที่เข้ามาเอ่ยก่อน เพราะเห็นว่านายหญิงกำลังจะหันตัวกลับไปทั้งที่มาถึงเรือนแล้วแท้ ๆ"…"มู่จื่อเหมยไม่ได้ตกใจที่เจอคนผู้นี้ แต่ที่นางตกใจคืออีกฝ่ายรู้ได้อย่างไรว่านางมาที่นี่"นายท่านอยากเจอนายหญิงมากนะขอรับ แต่เพราะร่างกายสาหัสเกินไปไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะ…""ข้าไม่ใช่นายหญิงของเจ้าอย่าเรียกข้าเช่นนี้อีก"มู่จื่อเหมยตกใจที่จางฉวนเอ่ยเรียกนางเช่นนั้น เพราะว่าตำแหน่งนี้นางเคยอย





![พันธะสวาทจอมเวทย์ [18+, พีเรียดอีโรติก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

