Share

บทที่ 3 สิ่งที่ต้องแลก

Author: Cherry Brown
last update Last Updated: 2025-09-08 15:17:06

ซุนอีเหยียนพูดคุยและถามไถ่สิ่งที่มู่ซงหยวนจะได้จากบ้านมู่ถึงจะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะถามก็ตาม แต่เพราะหลังจากแต่งงานแล้วมู่ซงหยวนก็ต้องแยกออกมาอยู่ข้างนอกเอง เพราะฟังจากที่พี่มู่ต๋าและมู่ฉวนพูดแล้วความเป็นไปได้สูงมาก

"ก็อย่างที่ข้าถามออกไปถึงจะไม่สมควร แต่ก็เพื่อความสบายใจของบ้านซุนว่าซุนจือหลินจะไม่ต้องไปเริ่มชีวิตครอบครัวที่ลำบาก ไม่ใช่ว่าแต่งงานเสร็จต่อหาเลี้ยงสามี ต้องหาที่หลับที่นอน ที่อาศัย"

"เรื่องนั้นทางข้าเองไม่ได้จะใจดำกับลูกชายของตนเอง หลังจากแต่งกันแล้วก็คงต้องแยกบ้านข้ากับมู่น่าหลิงได้พูดคุยกันแล้วว่าจะให้เงินมู่ซงหยวน 100 อีแปะ กับที่ดินอีกสองหมู่"มู่ต๋าเองก็ละอายใจเพราะรู้ว่ามันเป็นจำนวนที่น้อยมากหากเทียบกับตอนที่มู่จื่อชิวกับมู่ฉวนได้แต่งงาน

"ฮ่า ๆ พี่มู่ต๋าข้าเองไม่ได้ติดใจอะไรกับสิ่งที่มู่ซงหยวนได้ติดตัวมาหลอกนะ เพราะฐานะทางบ้านข้านั้นยากจน แต่น่าแปลกที่มู่ซงหยวนไปเป็นทหารส่งเงินมาที่บ้านตั้งเท่าไหร่ แต่กับมีที่ดินสองหมู่ กับเงินเพียงหยิบมือติดตัวยามเขากำลังทุกข์ยากเช่นนี้

นังมู่น่าหลิงมันใจร้ายเกินคนแล้วลูกในไส้แท้ ๆ ทำเหมือนไม่ใช่ลูกตัวเองคิดจะทิ้งจะขว้างยังไงก็ได้แบบนี้หรือ

"เรื่องนั้นข้าเองต้องขอโทษทางบ้านซุนด้วยมู่ซงหยวนจะไม่ทำให้ซุนจือหลินเสียเกียรติอย่างแน่นอน และจะไม่เป็นภาระให้ซุนจือหลินอย่างแน่นอน เพียงแต่ที่ดินกับเงิน 100 อีแปะ นั้น ต้องตบตาท่านแม่ของข้าเพราะจะได้ไม่เกิดการทะเลาะขึ้นระหว่างสองครอบครัว

อย่างที่ท่านน้าอีเหยียนรู้ถึงนิสัยของท่านแม่ข้า ถ้ามากกว่านี้เห็นทีว่าบ้านมู่คงจะบ้านแตกกันไปใหญ่ เรื่องเงินมู่ซงหยวนน้องชายของข้าส่งจดหมายมาหาข้าท่านน้าไม่ต้องห่วง ส่วนที่ดินเห็นทีว่าจะได้เท่านั้นจริง ๆ ขอรับ"

"ใช่ ๆ อย่างที่มู่ฉวนพูดมู่ซงหยวนทราบถึงการแต่งงานดี เพราะมู่น่าหลิงส่งจดหมายไปบอกมู่ซงหยวน"มู่ต๋าเองถึงจะไม่ชอบใจบางอย่างที่มู่น่าหลิงทำ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ด้วยนิสัยและอารมณ์ของมู่น่าหลิงไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ในแต่ละวัน

"ข้าเข้าใจเพียงถามออกไปเท่านั้นเห็นพี่มู่ต๋ารักลูกเท่ากันข้าเองก็ดีใจ อย่างน้อยลูกของข้าจะได้เจอคนดี ๆ ในบ้านมู่บ้าง ไม่ใช่เจอแต่คนนิสัยชอบเอาเปรียบคนอื่น"

"ข้าดีใจนะที่เจ้าเข้าใจพวกเราสองพ่อลูก"

"ไม่เป็นไรข้าก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไร มู่ซงหยวนเป็นหนักจริงหรือข้าได้ยินชาวบ้านพูดกัน"ซุนอีเหยียนนางยังมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่ ฟังจากปากคนในครอบครัวมู่ซงหยวนเห็นทีจะได้ข่าวจริง ๆ ไม่มีใส่สีตีไข่เหมือนข่าวข้างนอกที่คุยกัน

"ในจดหมายบอกว่าขาของมู่ซงหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัสรุนแรงอาจจะเดินไม่ได้ถ้าขาของเขาหายดี ส่วนด้านร่างกายบาดเจ็บสาหัสพอ ๆ กัน มู่ซงหยวนดีขึ้นมากแล้วจึงได้กลับบ้านเนื้อความในจดหมายก็มีเท่านี้ขอรับ"มู่ฉวนนั้นพอจะอ่านหนังสือได้อยู่บ้าง เพราะท่านพ่อส่งเขาไปเรียนแต่ไม่ใช่สำนักศึกษาในเมือง เป็นเพียงอาจารย์ที่มีความรู้ความเข้าใจ ท่านอาจารย์ไม่ได้ประจำพื้นที่ท่านจะท่องเที่ยวเดินทางไปเรื่อย ๆ ท่านบอกว่าต้องการประสบการณ์ในการใช้ชีวิตจึงต้องทำเช่นนี้

"คงจะเจ็บหนักจริง ๆ…ช่างเถอะอย่างไรอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพียงเจ้าบอกว่าน้องชายของเจ้าเป็นคนดีแค่นั้นก็พอแล้ว"อย่างน้อยมู่ซงหยวนคงจะไม่ทุบตีซุนจือหลิน ส่วนเรื่องมีเมียเล็กเมียน้อยลืมไปได้เลยมู่ต๋าสอบลูกชายมาดี แต่ดีแต่มู่ฉวนคนโตกับมู่ซงหยวนคนที่สามเท่านั้น ส่วนที่เหลือได้นิสัยมู่น่าหลิงมาเต็ม ๆ

"เช่นนั้นข้ากับมู่ฉวนต้องขอตัวกลับก่อน ฝากเจ้านำผลไม้ให้ซุนกวางหวาด้วย"

"ได้ข้าจะบอกว่าพี่มู่ต๋ากับมู่ฉวนนั้นมาเยี่ยม"ซุนอีเหยียนหลังจากส่งคนบ้านมู่กลับไปแล้วนางยังไม่ได้ไปเรียกซุนจือหลินในทันที นางตรงไปยังห้องของสามีเพื่อนำเรื่องราวที่คุยกันวันนี้ไปบอกให้สามีทราบ

"มู่ซงฉวนเป็นเด็กดีถึงจะดูเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร"ซุนกวางหวาเป็นเพื่อนสนิทกับมู่ต๋า แต่มาห่าง ๆ กันไปตอนที่เขาแต่งซุนอีเหยียนเข้าบ้านมา เพราะมู่น่าหลิงกับซุนอีเหยียนไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ มู่ต๋าจึงถูกสั่งห้ามไม่ให้มาบ้านซุนเท่าไหร่ แต่ก็เจอกันบ่อยข้างนอก แต่เพราะเขาล้มป่วยจึงไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนมาไหน ไม่ได้ออกไปเจอใครมานานหลายเดือนแล้ว

"น้องรู้เจ้าค่ะว่ามู่ซงหยวนน่ะเป็นคนดีนิสัยเขาได้พ่อมากเต็ม ๆ ด้านความสุภาพ แต่ด้านอื่น ๆ พวกเราไม่รู้เพราะไม่ได้เป็นคนในครอบครัว มู่ซงหยวนนั้นเชื่อฟังมู่น่าหลิงมากแค่ไหนกันถ้าเท่าพี่มู่ต๋าน้องว่าก็ไม่ไหว หากมู่ซงหยวนเป็นคนดี แต่เชื่อฟังคนอย่างมู่น่าหลิงเช่นนั้น"

"ฮ่า ๆ อีเหยียนเจ้าช่างปากร้ายไม่ต่างจากมู่น่าหลิงหลอก"ซุนกวางหวาเผลอหัวเราะภรรยาออกไป เพราะซุนอีเหยียนเป็นสตรีปากร้าย แต่ปากนางไม่ตรงกับใจ เพราะใจนางไม่ได้ร้ายตามปากของนาง

"พี่คงจะเริ่มดีขึ้นแล้วถึงได้มาหัวเราะน้องเช่นนี้"ซุนอีเหยียนเอ่ยอย่างหน้างอนเพราะรู้ว่าสามีหัวเราะที่นางปากร้ายเหมือนมู่น่าหลิง นางไม่ได้อยากเหมือนมู่น่าหลิงนังคนใจแคบเช่นนั้น

"พี่ขอโทษเจ้า ๆ ไม่เหมือนนางไม่มีใครรู้ดีเท่าพี่หรอก"ซุนกวางหวามองซุนอีเหยียนอย่างขอบคุณ เพราะนางต่างจากสิ่งในหัวที่เขาคิดว่านางปากร้ายและจะต้องร้ายกาจมากแน่ ๆ แต่เปล่าเลยนางเพียงปากร้ายและขี้เกียจทำงานบ้านเท่านั้น

แต่เรื่องลูกนางดูแลสั่งสอนลูกเป็นอย่างดีทั้งซุนจือหลินและซุนเพ่ยหนิงถึงจะต่างพ่อต่างแม่กัน แต่เด็กทั้งสองก็โตมารักใคร่กันไม่ได้อิจฉาหรือเกลียดกันแต่อย่างใด เพราะซุนอีเหยียนนางสอนเด็กทั้งสองมาอย่างดี

"พี่ก็รู้ว่าน้องไม่ชอบนาง ทำไมต้องเป็นบ้านมู่ด้วยน้องน่ะไม่อยากที่จะเจอหน้าของนางด้วยซ้ำ"ซุนอีเหยียนนึกอยากทุบตีสามีขึ้นมาทันที เพราะเอาแต่หัวเราะนางอยู่ได้ถ้าไม่ติดว่าป่วยอยู่นะนางจะทุบจริง ๆ ด้วย

"ตามจริงตามสัญญาที่ให้กันซุนจือหลินจะต้องแต่งกับมู่ฉวน แต่เพราะสัญญาไม่ได้ระบุว่าเป็นใครเพราะแต่ในตอนนั้นที่สัญญากันมู่ฉวนนั้นเกิดแล้ว และไม่คิดว่ามู่น่าหลิงจะมีลูกชายถึงสามคน"

"พี่กวางหวานังมู่น่าหลิงอะไรนี่ เป็นคนนิสัยเสียแบบนี้มาตั้งแต่เกิดเลยหรือ"ซุนอีเหยียนนึกสงสัยเพราะหากนางเป็นคนนิสัยเช่นนี้จริง พี่มู่ต๋าจะตบแต่งสตรีเช่นนางหรือ

"ไม่ใช่หรอกเมื่อก่อนนางเป็นคนนิสัยดีกว่านี้ แต่เหมือนจะมาเปลี่ยนตอนที่นางทั้งท้องลูกคนที่สองและหนักขึ้นเมื่อนางตั้งท้องมู่ซงหยวน เพราะนางบอกว่าทรมานจะเกิดมากทำไม"มีมากกว่านี้ที่มู่น่าหลิงพูดไม่ดีใส่มู่ซงหยวนทั้งที่มู่ซงหยวนก็เป็นลูกของนางเช่นกัน

"แล้วพี่มู่ต๋าไม่มีปากมีเสียงในบ้านเลยหรือถึงปล่อยให้นางทำถึงขนาดนี้"

"บ้านมู่คนที่เป็นใหญ่ถึงจะเป็นมู่ต๋า แต่คนที่จัดการทุกอย่างในบ้านคือมู่น่าหลิงรวมถึงเรื่องเงินด้วยไม่ใช่มู่ต๋าไม่ชอบการกระทำของมู่น่าหลิง แต่เพราะคำว่าครอบครัวถึงยังอยู่ด้วยกัน"

"พี่คงไม่อยู่กับน้องเพียงเพราะว่าเราเป็นครอบครัวกันหรอกนะ"แต่งงานมาตั้งหลายปีจนลูกโตกันหมดแล้วนางกับซุนกวางหวายังไม่มีลูกด้วยกันเลย

"อะไรทำให้คิดเช่นนั้น"

"ช่างมันเถอะน้องคิดอะไรเรื่อยเปื่อย"

"พูดออกมาโต ๆ กันแล้วลูกก็โตกันหมดแล้ว"ซุนกวางหวาถามย้ำด้วยน้ำเสียงเข้ม เพราะซุนอีเหยียนเป็นคนที่เก็บความลับไม่อยู่สายตาของนางช่างมีพิรุธเสียเหลือเกินเด็กน้อยยังมองออกว่านางกำลังโกหกอยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 6 คนใหม่ชีสิตใหม่

    น้ำขิงมองดูสภาพความเป็นอยู่โดยรอบทุกอย่างเป็นสิ่งแปลกตาไปหมด ทั้งสภาพบ้านและชุดที่สตรีตรงหน้าสวมใส่ทุกอย่างมันดูโบราณไปหมด"ภพนี้เป็นอดีตของโลกคู่ขนานแตกต่างจากภพที่เจ้าเกิดดวงวิญญาณของเจ้าไปเกิดผิดภพจึงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และเจ้าของร่างนี้ได้สิ้นบุญวาสนาแล้ว ก็อย่างที่ข้าเคยบอกเจ้าว่าเจ้าคือนางและนางก็คือเจ้าทุกอย่างตามที่สวรรค์ลิขิต""ทะลุมิติแบบในนิยายที่หนูเคยอ่านก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น…อย่างนี้ถ้าหากหนูอยู่ในร่างของเธอเลือกทางที่มีชีวิตรอดอยู่ต่อ หนูจะมีมิติวิเศษหรือเปล่าคะ"ในนิยายที่เคยอ่านทุกคนต่างมีมิติต่างร่ำรวยกันทั้งนั้น เจอเห็ด เจอโสมกัน"ไม่มีมิติอะไรของเจ้ากันของแบบนั้นให้ไม่ได้ มนุษย์ช่างโลภมากเสียจริง""อ่าว ลุงแล้วแบบนี้หนูจะใช้ชีวิตยังไงต่างโลกแบบสุดขั้วแบบนี้""ไม่มีมิติ แต่มีภารกิจให้เจ้าทำแลกกับการอยู่รอด ซึ่งเจ้าปฏิเสธไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่เจ้าจะต้องชดใช้ที่หนีไปเกิดที่ภพอื่น จนทำให้ข้านั้นปวดหัวต้องทำงานหนักที่จะไปนำดวงวิญญาณของเจ้ามายังภพนี้ได้"ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาและไม่สามารถที่จะทำตามใจตัวเองได้เลย เพราะมนุษย์ล้วนมีบุญและกรรมที่ติดตัวมากต่างกัน เวลาที่เหมาะ

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 5 ใครเห็นก็ว่าตาย

    ซุนอีเหยียนวิ่งสุดชีวิตให้มาถึงบ้านท่านหมอชาวบ้านให้เร็วที่สุด เพราะไม่รู้ซุนจือหลินจะเป็นเช่นไรบ้างนางโดนงูกัดตัวใหญ่ขนาดนั้นพิษน่าจะแรงด้วย ในใจภาวนาขอให้นางนั้นรอดด้วยเถิดบ้านท่านหมอฉี้(หมอชาวบ้าน)"ท่านหมอฉี้อยู่หรือไม่ข้าซุนอีเหยียนเจ้าค่ะ""อยู่ ๆ มีเรื่องอันใดล่ะวิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างนี้""ท่านหมอจือหลินโดนงูกัดเจ้าค่ะช่วยไปดูนางหน่อยเถอะเจ้าค่ะอาการนางไม่ค่อยดีเท่าไหร่""ไป ๆ รีบไปช้าไม่ได้"หมอฉี้รับปากไปทั้งที่ไม่รู้ว่าจะรักษาได้หรือไม่เพราะงูนั้นหากมีพิษทางรอดนั้นก็จะมีน้อยลงหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้เมื่อมาถึงบ้านซุนมีชาวบ้านมากมายมายืนอยู่ที่หน้าบ้านซุนและพูดคุยเรื่องที่ซุนกวางหวานั้นเสีย ซึ่งยังไม่ได้เป็นข่าวที่จริงหรือออกมาจากปากของซุนอีเหยียน แต่เป็นการตีความกันไปเอง"ท่านหมอฉี้มาแล้ว"ชาวบ้านต่างแหวกทางให้ท่านหมอได้เข้าไปด้านในบ้านชาวบ้านต่างถามไถ่ซุนอีเหยียนแต่นางนั้นไม่ได้ตอบคำถามใครเลยสักคนแถมปิดประตูบ้านเงียบหมอฉี้ที่เห็นบาดแผลของซุนจือหลินก็มองหาทางรอดของนางนั้นยากมาก เพราะงูที่กัดนางนั้นที่พิษ "งูมีพิษเช่นนี้ข้าขอไม่รับปากว่านางจะรอดเพราะโอกาสของนางช่างน้อยนัก""ท่า

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 4 พูดสิ่งที่อัดอั้น

    ซุนอีเหยียนชั่งใจอยู่เล็กน้อยยามซุนกวางหวานั้นจริงจังเขามักจะใช้น้ำเสียงเข้มและหนักในเนื้อเสียงเช่นในตอนนี้ จะให้บอกความจริงในใจไปได้อย่างไรนางเองก็กลัวสามีอยู่ไม่น้อยถึงจะปากร้ายก็ตาม"จะบอกพี่ได้หรือไม่"ซุนกวางหวานั้นหงุดหงิดตัวเองในตอนนี้ที่ทำอะไรไม่ได้มากขยับตัวมากก็ไม่ได้มันจะปวดร้าวไปทั่วร่างกาย แต่พอได้กินยาต้มก็รู้สึกว่าดีขึ้น แต่เพียงไม่นานเท่าไหร่ก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิม"พี่น้องเองก็…กลัว""น้องกลัวสิ่งใดกัน…พี่หรือ"หรือเพราะเมื่อกี้นี้เขาเผลอใช้น้ำเสียงเข้มใส่ซุนอีเหยียนนางเลยกลัวและไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดสิ่งที่นางอัดอั้นอยู่ในใจ"…""ขอโทษที่ใช้น้ำเสียงเช่นนั้นกับน้อง แต่พี่อยากให้น้องพูดหากน้องรู้สึกไม่ดีอะไรเพราะน้องไม่ใช่คนอื่นคนไกลน้องเป็นภรรยาของพี่เป็นท่านแม่ของซุนจือหลินกับซุนเพ่ยหนิง""ท่านพี่เราแต่งงานกันมาหลายปีแล้วลูกโตกันหมดแล้วเพ่ยหนิงก็แต่งงานออกไปแล้ว จือหลินก็กำลังจะแต่งงานออกไปใช้ชีวิตครอบครัว แต่ที่ผ่านมาน้องไม่รู้ว่าท่านพี่คิดกับน้องเช่นไร เราสองคนไม่มีลูกด้วยกันด้วยซ้ำท่านพี่เองก็ยังไม่ได้ลืมนาง…ท่านแม่ของซุนจือหลินน่ะเจ้าคะ""เรื่องนี้เองหรือที่ทำให้น้องคิ

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 3 สิ่งที่ต้องแลก

    ซุนอีเหยียนพูดคุยและถามไถ่สิ่งที่มู่ซงหยวนจะได้จากบ้านมู่ถึงจะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะถามก็ตาม แต่เพราะหลังจากแต่งงานแล้วมู่ซงหยวนก็ต้องแยกออกมาอยู่ข้างนอกเอง เพราะฟังจากที่พี่มู่ต๋าและมู่ฉวนพูดแล้วความเป็นไปได้สูงมาก"ก็อย่างที่ข้าถามออกไปถึงจะไม่สมควร แต่ก็เพื่อความสบายใจของบ้านซุนว่าซุนจือหลินจะไม่ต้องไปเริ่มชีวิตครอบครัวที่ลำบาก ไม่ใช่ว่าแต่งงานเสร็จต่อหาเลี้ยงสามี ต้องหาที่หลับที่นอน ที่อาศัย""เรื่องนั้นทางข้าเองไม่ได้จะใจดำกับลูกชายของตนเอง หลังจากแต่งกันแล้วก็คงต้องแยกบ้านข้ากับมู่น่าหลิงได้พูดคุยกันแล้วว่าจะให้เงินมู่ซงหยวน 100 อีแปะ กับที่ดินอีกสองหมู่"มู่ต๋าเองก็ละอายใจเพราะรู้ว่ามันเป็นจำนวนที่น้อยมากหากเทียบกับตอนที่มู่จื่อชิวกับมู่ฉวนได้แต่งงาน "ฮ่า ๆ พี่มู่ต๋าข้าเองไม่ได้ติดใจอะไรกับสิ่งที่มู่ซงหยวนได้ติดตัวมาหลอกนะ เพราะฐานะทางบ้านข้านั้นยากจน แต่น่าแปลกที่มู่ซงหยวนไปเป็นทหารส่งเงินมาที่บ้านตั้งเท่าไหร่ แต่กับมีที่ดินสองหมู่ กับเงินเพียงหยิบมือติดตัวยามเขากำลังทุกข์ยากเช่นนี้ นังมู่น่าหลิงมันใจร้ายเกินคนแล้วลูกในไส้แท้ ๆ ทำเหมือนไม่ใช่ลูกตัวเองคิดจะทิ้งจะขว้างยังไงก็

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 2 สัญญาการหมั้นหมาย

    ซุนอีเหยียนที่ป้อนยาและพูดคุยเรื่องสัญญาของทั้งสองครอบครัวก็เป็นอย่างที่นางว่า สัญญาน่าจะเป็นโมฆะไปหากมู่ซงหยวนแต่งงานกับสตรีใดสักคนที่ไม่ใช่ซุนจือหลิน แต่เพราะร่างกายของมู่ซงหยวเห็นทีว่าจะหาสตรีที่มาแต่งด้วยได้ยาก บ้านมู่เลยใช้สัญญาที่ทั้งสองครอบครัวให้กันไว้มาบีบบังคับซุนกวางหวาในสัญญาไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นใครที่แต่ง แต่เพราะว่าซุนกวางหวามีซุนจือหลินเป็นบุตรสาวคนเดียวที่ยังไม่ได้ออกเรือน และบ้านมู่ก็เหลือมู่ซงหยวนคนเดียวที่เป็นลูกชายที่ยังไม่ออกเรือนเช่นกัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นสองคนนี้เพราะว่าก็ไม่มีใครแล้วที่จะให้มาแต่งกัน"ท่านแม่เล็ก…ข้า"ซุนจือหลินรู้ว่าท่านแม่เล็กจะพูดเรื่องอะไร นางแอบได้ยินที่ท่านพ่อกับท่านแม่เล็กพูดคุยกันเรื่องการแต่งงานของนางกับคนบ้านมู่ที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อน"รู้แล้วหรือว่าข้าจะพูดสิ่งใด""เจ้าค่ะ""ซุนจือหลินฟังข้าให้ดีนะ มันเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธออกไปสัญญาของผู้ใหญ่แต่ลำบากเด็ก ข้าเองก็ลำบากใจที่จะพูดมู่ซงหยวนคนที่จะมาเป็นสามีของเจ้า เขาไปเป็นทหารช่วงสงครามนานหลายปี แต่มีข่าวว่าเขาบาดเจ็บสาหัสจึงถูกส่งตัวกลับบ้านและคงจะพิการซุนจือหลินที่ยังไม่

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 1 หมู่บ้านซานซาน

    หมู่บ้านซานซานเป็นหมู่บ้านขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ในหมู่บ้านจะมีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือมีผัวเดียวเมียเดียว หากผัวตายเมียตายและเป็นหม้ายก็ไม่ผิดที่จะมีผัวหรือเมียใหม่ได้ไม่ผิด ยังไม่เคยมีครอบครัวใดที่แต่งเมียเข้าบ้านพร้อมกันคนสองคนเพราะจะเป็นการประจานครอบครัวตนเองและเป็นขี้ปากชาวบ้านไม่มีใครอยากตกเป็นของขี้ปากคนอื่นที่พูดคุยในวงสนทนายามพักเที่ยงนั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องชาวบ้านที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน แต่ไม่ใช่กับครอบครัวซุนที่ตกเป็นจำเลยในวงสนทนาอยู่ตระกูลซุนซุนกวางหวาที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแต่บัดนี้ร่างกายของเขาเริ่มเสื่อมสภาพลงไปทุกทื่ เพราะความที่ทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก "จ่างลี่เจ้าจะมารับพี่ใช่หรือไม่"ซุนกวางหวานอนเพ้อถึงซุนจ่างลี่ที่เป็นภรรยาคนแรกที่เสียไปได้นานหลายปีแล้ว แต่ในใจไม่เคยลืมนางได้เลย"คนมันตายไปแล้วพี่จะเพ้อถึงมันอีกทำไม"ซุนอีเหยียนนางแต่งเข้าตระกูลซุนมาเป็นภรรยารองต่อจากนางจ่างลี่ที่ตายไป นางเองไม่ได้มีทางเลือกมากนักเพราะนางเองเป็นสตรีผ่านการแต่งงานมาแล้วแต่ก็หย่าร้างกับสามีไป แถมนางยังมีลูกกับสามีเก่าติดมาอีก ที่บ้านไม่ได้ให้ความสำคัญกับนางเท่าไหร่การแต่งงานออกเรือนคือสิ่ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status