Share

หุ่นเชิด

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-04-23 03:01:54

เยี่ยนเฟยหยางแทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะพระองค์ยังดูแข็งแรง แทบไม่เคยเปรยเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนสักครั้ง ส่วนเรื่องให้ผู้ใดขึ้นเป็นรัชทายาทเขามิได้สนใจ

“ย่าให้องครักษ์เงาไปสืบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังมิทัน ที่จะรู้เรื่องราวดี ย่าก็ล้มป่วยจนมิอาจลุกจากเตียงได้ ว่าแต่เจ้าเอาอะไรให้ยาดื่ม” นางอดที่จะสงสัยไม่ได้

“หลานได้น้ำวิเศษมาจากเจินเจิน และในตอนนี้หลานก็เป็นผู้ฝึกตนแล้ว แต่ขอท่านย่าอย่าได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป จนกว่าหลานจะหาตัวคนร้ายได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ย่า เข้าใจแล้ว เจ้ารีบไปดูเสด็จพ่อของเจ้าเถิด พี่ชายเจ้าย่าก็มิได้เห็นมาสักพักแล้ว” ไทเฮาตบที่หลังมือของหลานชายเบาๆ

“เสด็จย่า พระองค์ทรงแสร้งป่วยต่อไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ หลานเห็นนางกำนัลของท่านดูมิน่าไว้ใจนัก”

“เรื่องนี้ย่าก็พอจะรู้ว่าบ้าง แต่ยังมิอาจทำอันใดได้ ด้วยกลัวว่าคนร้ายจะรู้ตัวเสียก่อน”

“หลานเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ เสด็จย่าพักผ่อนก่อนเถิด” เยี่ยนเฟยหยางประคองไทเฮาให้นอนลงเช่นเดิม

เขาคลายลมปราณที่ปิดกั้นเสียงเอาไว้ แล้วเดินออกจากห้องบรรทมไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หวังกงกงที่ยืนรออยู่หน้าตำหนักก็เดินเข้ามาหาทันที

“องค์ชายห้า กระหม่อมมิรู้ว่าสมควรพู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ศึกนอกศึกใน

    หวังกงกงรีบเดินเข้าไปจับตัวนางกำนัลไว้ แล้วค้นตัวจนได้ยาหุ่นเชิดมาทันที เขานำมาส่งให้เยี่ยนเฟยหยางเพื่อตรวจสอบ แล้วออกไปจัดการนางกำนัลที่ตำหนักของไทเฮาแต่เยี่ยนเฟยหยางกลับเดินเข้าไปหาทั้งสองคนแล้วนำยากรอกเข้าไปในปากแทน“เมื่อพวกท่านกล้าทำร้ายเสด็จพ่อและเสด็จย่าก็จงมีชีวิตอยู่เช่นพวกเขาเถิด” ดวงตาแข็งกร้าวของเยี่ยนเฟยหยาง ทำให้ทั้งสองอดที่จะหวาดกลัวออกมาไม่ได้ทั้งคู่ไม่คิดว่าเยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงรวดเร็วเพียงนี้ คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่วางแผนไว้จะแล้วเสร็จก่อนที่เยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงแต่คนคำนวณ มิสู้ฟ้าลิขิต เพราะเยี่ยนเฟยหยางเดินทางกลับมาถึงเร็วทำให้สิ่งที่พวกเขาคิดไว้ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจเมื่อจัดการทั้งสองคนเรียบร้อย เยี่ยนเฟยหยางรีบเดินทางไปที่ตำหนักของฮองเฮาและพี่ใหญ่ของตนทันทีพอไปถึงจึงพบว่าทั้งสองอาการไม่ต่างจากเสด็จย่าของตนนัก เมื่อช่วยทั้งสองให้พ้นอันตรายเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไปพูดคุยกับเสด็จพ่อ เรื่องภูเขาแร่ที่เว่ยอ๋องส่งคนไปทันที“เรื่องนี่เห็นทีเสนาบดีตู้ก็คงรวมมือด้วย หากเจ้ากลับมาไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องใดขึ้น” ฮ่องเต้ให้หวังกงกงนำยาที่ใช้

    Last Updated : 2025-04-24
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้าเยี่ยนมีผู้ฝึกตน

    ในตอนแรกที่คิดว่านับเดือนกว่าจะถึง แต่เอาเข้าจริง นางเดินทางเพียงยี่สิบวันเท่านั้น จากหนานไห่จนถึงเขตชายแดนเหนือ ด้วยการนำทางของเสี่ยวมี่ ที่หาเส้นทางที่ใกล้ที่สุดให้นางนางแวะที่เมืองหน้าด่านของชายแดนเหนือ เพื่อนำเสบียงอาหารออกมาแจกจ่ายให้กับค่ายผู้อพยพเพราะจำนวนคนที่นางมองเห็นคร่าวๆ ก็นับเกือบแสนคนเห็นจะได้ เช่นนี้ไม่เท่ากับว่าสงครามกำลังเกิดขึ้นจริงรึซูเต๋อเข้าไปพบเจ้าเมือง ที่รู้จักกับเขาดี เพื่อแจ้งเรื่องที่ทางการให้นำเสบียงออกมาแจกจ่าย ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดคิดหาที่มาของเสบียงอีกแล้วเพราะจำนวนคนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เสบียงที่มีเพียงพอให้พวกเขากินวันหนึ่งมื้อเท่านั้น ยิ่งได้เสบียงมาเพิ่มก็สามารถต่อชีวิตชาวบ้านไปได้อีกวันครั้งนี้ซูเจินนำเสบียงออกมามากกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งยังต้องนำออกมาเกือบทุกวัน ถึงจะเพียงพอให้ทุกคนได้กินอิ่มท้องนางอยู่ที่เมืองด่านหน้าของชายแดนเหนือได้สามวัน จึงออกเดินทางไปหัวเมืองอื่นต่อ สามหัวเมืองหลักที่อยู่ด่านหน้าล้วนแต่มีคนอพยพนับแสนคน ซูเจินจึงต้องอยู่จัดการเรื่องเสบียงหลายวันเกือบหนึ่งเดือนที่นางต้องจัดการเรื่องเสบียง โดยที่ไม่รู้เลยว่าทางชายแดนเหนือที่

    Last Updated : 2025-04-24
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถึงเวลากลับเมืองหลวง

    “เรื่องนี้...” นางคิดว่าอย่างไร การแต่งงานในวัยเพียงสิบห้าหนาวก็ดูเหมือนจะเร็วไป“เจ้ากลัวอันใด”“ข้าคิดว่ามันเร็วเกินไป ที่จะแต่งงานในวัยสิบห้าหนาว”“เจินเจิน สตรีแคว้นต้าเยี่ยนวัยเท่านี้นับว่าไม่เร็วแล้ว” เขาเริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้ว ที่นางไม่ยอมตอบรับเสียที“เอาเถิดอย่างไรก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือน” นางบอกปัดไป ก่อนจะไล่เขาให้ไปที่ห้องพัก“ไม่ ข้าจะเข้าไปในมิติของเจ้า” เยี่ยนเฟยหยางคิดจะเข้าไปฝึกในมิติต่อ“เจ้าค่ะ” ซูเจินพาเข้าไปด้านใน สุดท้ายนางก็ต้องอยู่ฝึกด้วยกันกับเขา“นายหญิง ดอกไม้ที่ข้าปลูกไว้ รู้ว่าท่านทั้งสองกำลังจะเข้าสู่ขั้นเซียนจึงยอมสละสองดอกมาให้ท่านเจ้าค่ะ” ซูเจินมองดอกหลันฮวาที่นางเคยสัมผัสตอนที่มาที่นี่“ข้าจับมันได้ใช่หรือไม่” นางไม่รู้ว่าหากจับแล้วจะได้กลับไปที่โลกเดิมหรือไม่ นางก็ตอบไม่ได้ว่าอยากกลับไปหรือเปล่าแต่ก่อนที่หลันฮวาจะเอ่ยตอบ เยี่ยนเฟยหยางที่เห็นท่าทางของซูเจินดูไม่สบายใจ ที่นางต้องจับดอกไม้ที่หลันฮวานำมา ก็อดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้“เหตุใดเจ้าถึงไม่กล้าจับมัน”นางถอนหายใจออกมา ในเมื่อเขาอยากรู้นางก็ไม่คิดจะปิดบัง ก่อนจะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของนาง จนได้ม

    Last Updated : 2025-04-25
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   งานมงคล

    เป็นเช่นที่เยี่ยนเฟยหยางว่า เพราะซูเจินอยากให้หวังกงกงได้เดินทางไปทั่วแคว้นเพื่อท่องเที่ยวกับนาง ทั้งชีวิตเขาแทบจะอยู่เพียงในรั้ววัง หากฮ่องเต้ไม่เสด็จที่ใดเขาก็ไม่ได้ไปเช่นกันหวังกงกงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหน้าบาน ต่างจากฮ่องเต้ที่เบ้หน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ไหนว่าจะอยู่กับเขาอีกสองปี แต่ดูเหมือนว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะทิ้งเขาไปเสียแล้วเป็นอย่างที่ฮ่องเต้คิด หนึ่งเดือนต่อมาซูเจินนางก็ขอเข้าวัง ครั้งนี้นางแลกตัวหวังกงกงกับน้ำวิเศษของนาง“เหอะ เจ้าผิดคำพูด หวังกงกงขอเวลาเจิ้นอีกสองปี แต่นี่ยังไม่ถึงหนึ่งปีเจ้าก็จะมาขโมยตัวเขาไปแล้วรึ”“เช่นนั้น พระองค์ต้องการอันใดเพคะ” นางขมวดคิ้วคิด เพราะนางคิดมาแล้วว่าจะพาหวังกงกงออกเดินทางไปด้วยกัน“เจิ้นต้องการจะเป็นผู้ฝึกตน” ซูเจินและหวังกงกงหันไปมองที่ฮ่องเต้อย่างตกใจ“พระองค์รู้หรือไม่ หากเป็นผู้ฝึกตนต้องละทิ้งบัลลังก์ พระองค์จะยินยอมหรือเพคะ” หากมีฮ่องเต้ที่มีอายุยืนยาว จะไม่สร้างเรื่องปั่นป่วนขึ้นมาอย่างนั้นรึ“เจิ้นเข้าใจเรื่องนี้ดี และคิดหาทางออกไว้แล้ว” “เสด็จพ่อ พระองค์ตัดสินพระทัยแล้วรึพ่ะย่ะค่ะ” เยี่ยนเฟยหยางที่เพิ่งเรียกสติกลับมาได้เอ่ยถามออกม

    Last Updated : 2025-04-25
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ออกเดินทางอีกครั้ง(ตอนจบ)

    เยี่ยนเฟยหยางประคองซูเจินไปที่เกี้ยวแปดคนหามหลังใหญ่ ชุดเจ้าสาวที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่เมื่อต้องแสงแดดกับเปล่งประกายระยิบระยับราวกับมีดวงดาวนับล้านดวงอยู่ที่ชุดของนาง ยิ่งทำให้คุณหนูต้องไปอ้อนวอนบิดามารดาให้ไปถามจวนตระกูลซูว่าไปตัดชุดที่ใดมา แต่ก็มิได้รับคำตอบซูเจินถูกเยี่ยนเฟยหยางประคองเข้าตำหนักของเขา ทั้งคู่ข้ามกระถางไฟก่อนที่จะไปหยุดที่แท่นกราบไหว้ฟ้าดินด้านหน้ามีเสด็จพ่อ เสด็จแม่และไทเฮาของเยี่ยนเฟยหยางนั่งอยู่ เสียงสวีกงกงขันทีของเยี่ยนเฟยหยางร้องบอกให้พวกเขากราบไหว้ฟ้าดิน ไหว้บิดามารดา ก่อนจะคำนับกันเองซูเจินที่กำลังลุกขึ้น เพราะคิดว่าเสร็จสิ้นพิธีแล้ว แต่กลับถูกเยี่ยนเฟยหยางดึงรั้งมือของนางไว้ให้นั่งลงตามเดิม“ข้าเยี่ยนเฟยหยาง ขอสาบานต่อหน้าฟ้าดิน เสด็จพ่อ เสด็จแม่ และเสด็จย่า ว่าทั้งชีวิตจะมีเพียงซูเจินเป็นภรรยาแต่เพียงผู้เดียว หากผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงโทษ” ซูเจินจะร้องห้ามก็ไม่ทันเสียแล้วขุนนางที่ได้เข้าร่วมพิธีงานมงคลต่างตกตะลึง เพราะยังไม่มีเชื้อพระวงศ์พระองค์ใดที่กล้าเอ่ยสาบานเช่นนี้ออกมาสิ้นเสียงของเยี่ยนเฟยหยางท้องฟ้าที่กระจ่างใส ก็คำรามขึ้นเป็นการตอบรับคำของเขา ยิ

    Last Updated : 2025-04-25
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เป็นเพียงเด็กทารก

    ซูเจินตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดของผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อเธอลืมตาขึ้น จึงคิดจะเอ่ยปลอบคนที่ร้องไห้อยู่ คงไม่มีใครนอกจากเสี่ยวชิงเพราะตัวเธอสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ไปตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หัวคิ้วของซูเจินก็ขมวดเข้าหากันแน่นไม่ ไม่ถูกต้อง ทำไมเธอจึงรู้สึกเหมือนถูกกอดรัดไว้อย่างแน่น ความรู้สึกที่เริ่มจะหายใจไม่ออกทำให้ ซูเจินร้องประท้วงออกมา“อุแว้” ซูเจินเงียบเสียงลง พร้อมทั้งเสียงของสตรีที่ร้องคร่ำครวญเมื่อครู่ก็หยุดลงเช่นกัน ซูเจินร้องใหม่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของเธอ“อุแว้” ดวงตาของซูเจินเบิกกว้าง เธอรู้แล้วว่าเสียงร้องของเด็กน้อยเมื่อครู่เป็นเสียงร้องของเธอเองมันเหมือนจะยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีก เมื่อสตรีตรงหน้าเปลี่ยนท่าทางที่กอดเธออยู่ เป็นอุ้มออกดูเพื่อจะดูว่าให้แน่ใจเช่นกันสิ่งที่ซูเจินเห็นทำให้นางกรีดร้องออกมาเสียงดัง แข่งกับสตรีที่อุ้มเธออยู่ในความรู้สึกของเธอ เหมือนเธอกำลังโวยวายอย่างบ้าคลั่ง แต่เสียงที่เปล่งออกมาเป็นเพียงเสียงของเด็กน้อยที่ร้องลั่นปานจะขาดใจ“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วลูก” เสียงของสตร

    Last Updated : 2025-03-20
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   รสชาติก็ไม่ได้แย่

    จิ่วเม่ยกับชุยเต๋อจึงได้มาใช้แซ่ของมารดาชุยเต๋อคือ แซ่ซู เรื่องนี้นับว่าสร้างแปลกใจให้ซูเจินที่นอนนิ่งฟังเรื่องราวต่างๆ อยู่ไม่น้อยเพราะตัวนางก็แซ่ซู นามเจิน มาภพใหม่ยังได้ใช้ชื่อแซ่เดิมอีก ซูเจินนางผนวกเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว นางข้ามมิติมาอยู่ในยุคโบราณในร่างของเด็กทารกที่มีความทรงจำเดิมอยู่ครบถ้วนหมู่บ้านที่นางอยู่ คือ หมู่บ้านตงหยาน เมืองเหอหนาน แคว้นต้าเยี่ยน เหมือนว่านางอยู่ที่ป่าของเหอหนาน เพียงย้อนกลับมาในพันปีที่แล้วจิ่วเม่ยมีชาวบ้านช่วยเก็บของของนางพากลับไปที่เรือนเดิมที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ข้าวของของนางมีไม่มาก เก็บไม่ถึงเค่อ (1เค่อ = 15 นาที) ก็เสร็จเรียบร้อยเรือนของท่านปู่ท่านย่าของนางที่ท้ายหมู่บ้านมิได้ทรุดโทรมทั้งยังมีห้องมากถึงห้าห้อง นางไห่ซื่อจึงอยากได้มาครอบครองมากนัก นางอยากยกให้ชุยฟงบุตรชายของนาง ที่ปีหน้าก็จะต้องลูกสะใภ้เข้าเรือนแล้ว แต่ก็ต้องคืนให้จิ่วเม่ยไปเสียก่อน“ขอบคุณทุกท่านมากเจ้าค่ะ บุญคุณที่ช่วยข้าในครั้งนี้ ข้าจะไม่ลืมเจ้าค่ะ” จิ่วเม่ยคุกเข่าลงต่อหน้าชาวบ้าน เมื่อพวกเขามาส่งนางที่เรือน“นับว่าสวรรค์เมตตาเจ้าแล้วอาเม่ยที่หลุดพ้นแม่สามีเช่นนั้นมาได้ เมื

    Last Updated : 2025-03-20
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เหล่าแมลงเต็มตัวนาง

    นางไม่มีเมล็ดข้าวที่จะใช้ปลูก ป้าหวงจึงได้แบ่งจากที่เรือนของนางมาให้ แต่จิ่วเม่ยก็ไม่กล้าเอาเปล่าๆ ป้าหวงจึงได้คิดเงินนางเพียงสองตำลึงเท่านั้นนับว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับที่นาของจิ่วเม่ยที่เพิ่มมาอีกเกือบสิบหมู่ ตอนนี้นางจึงมีที่ทำนาถึงสิบหกหมู่ หากจะให้นางทำผู้เดียวคงไม่ไหว ชาวบ้านจึงได้มาช่วยนางทำนาในครั้งนี้ด้วยแต่ต้องรอให้ชาวบ้านจัดการแปลงของตนเองเรียบร้อยเสียก่อน จิ่วเม่ยนางให้ค่าแรงพวกเขาคนละสามสิบอิแปะ เท่ากับราคาค่าจ้างในเมือง เพียงแต่ไม่มีอาหารให้เท่านั้น“ไม่ต้อง เจ้าเก็บเงินไว้ดูลูกเถิด” ป้าหวงและชาวบ้านต่างตำหนินาง“ไม่ได้เจ้าค่ะ พวกท่านช่วยเหลือข้าบ่อยครั้ง แต่ข้าไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนพวกท่านได้เลย” จิ่วเม่ยมองพวกเขาทุกคนอย่างซาบซึ้ง“เช่นนั้นก็ให้เพียงยี่สิบอิแปะพอ ข้าวกลางวัน พวกข้าจะจัดการกันเอง” เมื่อป้าหวงเอ่ยเช่นนี้ ชาวบ้านที่เหลือต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยในหมู่บ้านหากไม่ใช่พวกเห็นแก่ตัวที่อยู่ไม่กี่เรือน พวกเขาต่างช่วยเหลือกันอยู่แล้ว จึงไม่คิดอยากจะได้เงินจากสองแม่ลูกที่น่าสงสารเช่นนี้ ในเมื่อจิ่วเม่ยนางไม่ยอม ทุกคนจึงได้ทำอย่างที่ป้าหวงว่าซูเจินน้อยมองพวกเขาพ

    Last Updated : 2025-03-21

Latest chapter

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ออกเดินทางอีกครั้ง(ตอนจบ)

    เยี่ยนเฟยหยางประคองซูเจินไปที่เกี้ยวแปดคนหามหลังใหญ่ ชุดเจ้าสาวที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่เมื่อต้องแสงแดดกับเปล่งประกายระยิบระยับราวกับมีดวงดาวนับล้านดวงอยู่ที่ชุดของนาง ยิ่งทำให้คุณหนูต้องไปอ้อนวอนบิดามารดาให้ไปถามจวนตระกูลซูว่าไปตัดชุดที่ใดมา แต่ก็มิได้รับคำตอบซูเจินถูกเยี่ยนเฟยหยางประคองเข้าตำหนักของเขา ทั้งคู่ข้ามกระถางไฟก่อนที่จะไปหยุดที่แท่นกราบไหว้ฟ้าดินด้านหน้ามีเสด็จพ่อ เสด็จแม่และไทเฮาของเยี่ยนเฟยหยางนั่งอยู่ เสียงสวีกงกงขันทีของเยี่ยนเฟยหยางร้องบอกให้พวกเขากราบไหว้ฟ้าดิน ไหว้บิดามารดา ก่อนจะคำนับกันเองซูเจินที่กำลังลุกขึ้น เพราะคิดว่าเสร็จสิ้นพิธีแล้ว แต่กลับถูกเยี่ยนเฟยหยางดึงรั้งมือของนางไว้ให้นั่งลงตามเดิม“ข้าเยี่ยนเฟยหยาง ขอสาบานต่อหน้าฟ้าดิน เสด็จพ่อ เสด็จแม่ และเสด็จย่า ว่าทั้งชีวิตจะมีเพียงซูเจินเป็นภรรยาแต่เพียงผู้เดียว หากผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงโทษ” ซูเจินจะร้องห้ามก็ไม่ทันเสียแล้วขุนนางที่ได้เข้าร่วมพิธีงานมงคลต่างตกตะลึง เพราะยังไม่มีเชื้อพระวงศ์พระองค์ใดที่กล้าเอ่ยสาบานเช่นนี้ออกมาสิ้นเสียงของเยี่ยนเฟยหยางท้องฟ้าที่กระจ่างใส ก็คำรามขึ้นเป็นการตอบรับคำของเขา ยิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   งานมงคล

    เป็นเช่นที่เยี่ยนเฟยหยางว่า เพราะซูเจินอยากให้หวังกงกงได้เดินทางไปทั่วแคว้นเพื่อท่องเที่ยวกับนาง ทั้งชีวิตเขาแทบจะอยู่เพียงในรั้ววัง หากฮ่องเต้ไม่เสด็จที่ใดเขาก็ไม่ได้ไปเช่นกันหวังกงกงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหน้าบาน ต่างจากฮ่องเต้ที่เบ้หน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ไหนว่าจะอยู่กับเขาอีกสองปี แต่ดูเหมือนว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะทิ้งเขาไปเสียแล้วเป็นอย่างที่ฮ่องเต้คิด หนึ่งเดือนต่อมาซูเจินนางก็ขอเข้าวัง ครั้งนี้นางแลกตัวหวังกงกงกับน้ำวิเศษของนาง“เหอะ เจ้าผิดคำพูด หวังกงกงขอเวลาเจิ้นอีกสองปี แต่นี่ยังไม่ถึงหนึ่งปีเจ้าก็จะมาขโมยตัวเขาไปแล้วรึ”“เช่นนั้น พระองค์ต้องการอันใดเพคะ” นางขมวดคิ้วคิด เพราะนางคิดมาแล้วว่าจะพาหวังกงกงออกเดินทางไปด้วยกัน“เจิ้นต้องการจะเป็นผู้ฝึกตน” ซูเจินและหวังกงกงหันไปมองที่ฮ่องเต้อย่างตกใจ“พระองค์รู้หรือไม่ หากเป็นผู้ฝึกตนต้องละทิ้งบัลลังก์ พระองค์จะยินยอมหรือเพคะ” หากมีฮ่องเต้ที่มีอายุยืนยาว จะไม่สร้างเรื่องปั่นป่วนขึ้นมาอย่างนั้นรึ“เจิ้นเข้าใจเรื่องนี้ดี และคิดหาทางออกไว้แล้ว” “เสด็จพ่อ พระองค์ตัดสินพระทัยแล้วรึพ่ะย่ะค่ะ” เยี่ยนเฟยหยางที่เพิ่งเรียกสติกลับมาได้เอ่ยถามออกม

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถึงเวลากลับเมืองหลวง

    “เรื่องนี้...” นางคิดว่าอย่างไร การแต่งงานในวัยเพียงสิบห้าหนาวก็ดูเหมือนจะเร็วไป“เจ้ากลัวอันใด”“ข้าคิดว่ามันเร็วเกินไป ที่จะแต่งงานในวัยสิบห้าหนาว”“เจินเจิน สตรีแคว้นต้าเยี่ยนวัยเท่านี้นับว่าไม่เร็วแล้ว” เขาเริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้ว ที่นางไม่ยอมตอบรับเสียที“เอาเถิดอย่างไรก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือน” นางบอกปัดไป ก่อนจะไล่เขาให้ไปที่ห้องพัก“ไม่ ข้าจะเข้าไปในมิติของเจ้า” เยี่ยนเฟยหยางคิดจะเข้าไปฝึกในมิติต่อ“เจ้าค่ะ” ซูเจินพาเข้าไปด้านใน สุดท้ายนางก็ต้องอยู่ฝึกด้วยกันกับเขา“นายหญิง ดอกไม้ที่ข้าปลูกไว้ รู้ว่าท่านทั้งสองกำลังจะเข้าสู่ขั้นเซียนจึงยอมสละสองดอกมาให้ท่านเจ้าค่ะ” ซูเจินมองดอกหลันฮวาที่นางเคยสัมผัสตอนที่มาที่นี่“ข้าจับมันได้ใช่หรือไม่” นางไม่รู้ว่าหากจับแล้วจะได้กลับไปที่โลกเดิมหรือไม่ นางก็ตอบไม่ได้ว่าอยากกลับไปหรือเปล่าแต่ก่อนที่หลันฮวาจะเอ่ยตอบ เยี่ยนเฟยหยางที่เห็นท่าทางของซูเจินดูไม่สบายใจ ที่นางต้องจับดอกไม้ที่หลันฮวานำมา ก็อดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้“เหตุใดเจ้าถึงไม่กล้าจับมัน”นางถอนหายใจออกมา ในเมื่อเขาอยากรู้นางก็ไม่คิดจะปิดบัง ก่อนจะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของนาง จนได้ม

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้าเยี่ยนมีผู้ฝึกตน

    ในตอนแรกที่คิดว่านับเดือนกว่าจะถึง แต่เอาเข้าจริง นางเดินทางเพียงยี่สิบวันเท่านั้น จากหนานไห่จนถึงเขตชายแดนเหนือ ด้วยการนำทางของเสี่ยวมี่ ที่หาเส้นทางที่ใกล้ที่สุดให้นางนางแวะที่เมืองหน้าด่านของชายแดนเหนือ เพื่อนำเสบียงอาหารออกมาแจกจ่ายให้กับค่ายผู้อพยพเพราะจำนวนคนที่นางมองเห็นคร่าวๆ ก็นับเกือบแสนคนเห็นจะได้ เช่นนี้ไม่เท่ากับว่าสงครามกำลังเกิดขึ้นจริงรึซูเต๋อเข้าไปพบเจ้าเมือง ที่รู้จักกับเขาดี เพื่อแจ้งเรื่องที่ทางการให้นำเสบียงออกมาแจกจ่าย ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดคิดหาที่มาของเสบียงอีกแล้วเพราะจำนวนคนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เสบียงที่มีเพียงพอให้พวกเขากินวันหนึ่งมื้อเท่านั้น ยิ่งได้เสบียงมาเพิ่มก็สามารถต่อชีวิตชาวบ้านไปได้อีกวันครั้งนี้ซูเจินนำเสบียงออกมามากกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งยังต้องนำออกมาเกือบทุกวัน ถึงจะเพียงพอให้ทุกคนได้กินอิ่มท้องนางอยู่ที่เมืองด่านหน้าของชายแดนเหนือได้สามวัน จึงออกเดินทางไปหัวเมืองอื่นต่อ สามหัวเมืองหลักที่อยู่ด่านหน้าล้วนแต่มีคนอพยพนับแสนคน ซูเจินจึงต้องอยู่จัดการเรื่องเสบียงหลายวันเกือบหนึ่งเดือนที่นางต้องจัดการเรื่องเสบียง โดยที่ไม่รู้เลยว่าทางชายแดนเหนือที่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ศึกนอกศึกใน

    หวังกงกงรีบเดินเข้าไปจับตัวนางกำนัลไว้ แล้วค้นตัวจนได้ยาหุ่นเชิดมาทันที เขานำมาส่งให้เยี่ยนเฟยหยางเพื่อตรวจสอบ แล้วออกไปจัดการนางกำนัลที่ตำหนักของไทเฮาแต่เยี่ยนเฟยหยางกลับเดินเข้าไปหาทั้งสองคนแล้วนำยากรอกเข้าไปในปากแทน“เมื่อพวกท่านกล้าทำร้ายเสด็จพ่อและเสด็จย่าก็จงมีชีวิตอยู่เช่นพวกเขาเถิด” ดวงตาแข็งกร้าวของเยี่ยนเฟยหยาง ทำให้ทั้งสองอดที่จะหวาดกลัวออกมาไม่ได้ทั้งคู่ไม่คิดว่าเยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงรวดเร็วเพียงนี้ คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่วางแผนไว้จะแล้วเสร็จก่อนที่เยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงแต่คนคำนวณ มิสู้ฟ้าลิขิต เพราะเยี่ยนเฟยหยางเดินทางกลับมาถึงเร็วทำให้สิ่งที่พวกเขาคิดไว้ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจเมื่อจัดการทั้งสองคนเรียบร้อย เยี่ยนเฟยหยางรีบเดินทางไปที่ตำหนักของฮองเฮาและพี่ใหญ่ของตนทันทีพอไปถึงจึงพบว่าทั้งสองอาการไม่ต่างจากเสด็จย่าของตนนัก เมื่อช่วยทั้งสองให้พ้นอันตรายเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไปพูดคุยกับเสด็จพ่อ เรื่องภูเขาแร่ที่เว่ยอ๋องส่งคนไปทันที“เรื่องนี่เห็นทีเสนาบดีตู้ก็คงรวมมือด้วย หากเจ้ากลับมาไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องใดขึ้น” ฮ่องเต้ให้หวังกงกงนำยาที่ใช้

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หุ่นเชิด

    เยี่ยนเฟยหยางแทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะพระองค์ยังดูแข็งแรง แทบไม่เคยเปรยเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนสักครั้ง ส่วนเรื่องให้ผู้ใดขึ้นเป็นรัชทายาทเขามิได้สนใจ“ย่าให้องครักษ์เงาไปสืบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังมิทัน ที่จะรู้เรื่องราวดี ย่าก็ล้มป่วยจนมิอาจลุกจากเตียงได้ ว่าแต่เจ้าเอาอะไรให้ยาดื่ม” นางอดที่จะสงสัยไม่ได้“หลานได้น้ำวิเศษมาจากเจินเจิน และในตอนนี้หลานก็เป็นผู้ฝึกตนแล้ว แต่ขอท่านย่าอย่าได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป จนกว่าหลานจะหาตัวคนร้ายได้พ่ะย่ะค่ะ”“ย่า เข้าใจแล้ว เจ้ารีบไปดูเสด็จพ่อของเจ้าเถิด พี่ชายเจ้าย่าก็มิได้เห็นมาสักพักแล้ว” ไทเฮาตบที่หลังมือของหลานชายเบาๆ“เสด็จย่า พระองค์ทรงแสร้งป่วยต่อไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ หลานเห็นนางกำนัลของท่านดูมิน่าไว้ใจนัก”“เรื่องนี้ย่าก็พอจะรู้ว่าบ้าง แต่ยังมิอาจทำอันใดได้ ด้วยกลัวว่าคนร้ายจะรู้ตัวเสียก่อน”“หลานเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ เสด็จย่าพักผ่อนก่อนเถิด” เยี่ยนเฟยหยางประคองไทเฮาให้นอนลงเช่นเดิมเขาคลายลมปราณที่ปิดกั้นเสียงเอาไว้ แล้วเดินออกจากห้องบรรทมไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หวังกงกงที่ยืนรออยู่หน้าตำหนักก็เดินเข้ามาหาทันที“องค์ชายห้า กระหม่อมมิรู้ว่าสมควรพู

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   วังหลวงเกิดเรื่อง

    แต่เยี่ยนเฟยหยางก็อาลัยอาวรณ์นางอยู่ไม่น้อย เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องแยกจาก กลายเป็นว่าแทนที่เขาจะทุ่มเทเอาเวลาไปฝึก กลับไล่จ้าวลู่เทียนออกไปด้านนอกมิติ แล้วอยู่ด้านในมิติกับซูเจินแทน“ท่านไล่พี่เทียนไปแล้ว หากท่านพ่อมิเห็นท่านอยู่ด้านนอกจะคิดเช่นไรเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ“ไม่เห็นจะเป็นอันใด ดีเสียอีกที่เปิ่นหวางจะได้แต่งเจ้าเข้าตำหนักเสียเลย ทั้งยังพาเจ้าไปที่ชายแดนเหนือพร้อมกันได้อีกด้วย” เขากุมมือของนางไว้แน่น พร้อมทั้งจ้องมองนางอย่างหลงใหล“เพ้ย ภายในหัวของท่านมีแต่เรื่องใดกันแน่ข้าอยากจะรู้นัก”“อยากรู้จริงหรือไม่” เสียงกระซิบของเยี่ยนเฟยหยางที่ดังข้างหูของนาง ทำให้ขนหัวของซูเจินลุกขึ้นทันทีนางรีบชักเท้าถอยหลัง แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเยี่ยนเฟยหยางรั้งคอของนางไว้ พร้อมทั้งก้มลงมาประกบริมฝีปากของเขากับของนางทันที“อย่าดื้อ เปิ่นหวางจะออกเดินทางแล้ว” เยี่ยนเฟยหยางขบที่ริมฝีปากของซูเจินเบาๆ เพื่อให้นางเปิดช่องทางให้เรียวลิ้นของเขาแทรกเข้าไปได้ซูเจินนางก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะอย่างไรอีกไม่กี่วันเขาก็จะออกเดินทางแล้วฝ่ามือของเยี่ยนเฟยหยางลูบคลำไปตามแผ่นหลังของซูเจิน “อื้ออ” นา

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หมู่บ้านซูหนาน

    พอรุ่งเช้ามาเยือน เมื่อไม่เห็นทั้งสามคนออกมาจากห้องพัก ใต้เท้าหานและซูเต๋อก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาคงจะยังอยู่ในมิติ จึงได้ออกไปจัดการเรื่องสร้างเขื่อนแทนซูเจินนางออกมาจากมิติ เมื่อด้านนอกผ่านไปได้หนึ่งวันแล้ว นางรีบให้สวีกงกงจัดหาจวนหลังใหญ่ให้ทันที เพราะต้องนำเสบียงอาหารออกมาให้ชาวบ้านได้ประทังชีวิตสวีกงกงก็จัดการเรื่องนี้ได้อย่างเรียบร้อย ทั้งยังจัดหาคน เพื่อจัดการเรื่องนำเสบียงออกไปแจกจ่าย โดยมีเขาคอยควบคุมเรื่องนี้ด้วยตนเองอยู่ทุกขั้นตอนเจ้าเมืองจั่วที่ไม่เห็นหน้าเยี่ยนเฟยหยางเลยสักวัน จะเอ่ยถามก็ไม่กล้า จึงได้แต่ลอบถอนหายใจคิดว่าเขาเดินทางกลับไปแล้ว จึงคิดที่พาให้คนไปรับตัวบุตรสาวกลับมาอยู่ที่จวนเช่นเดิมซูเจินนางออกไปตรวจสอบความเสียหายรอบๆ เมืองกับสหายทั้งสามของนางที่กลับมามีรูปลักษณ์เช่นเดิมเมื่ออยู่ด้านนอก และในอ้อมแขนของนางยังมีเหล่าหู่ที่ดูเหมือนลูกแมวน้อยด้วยอีกตัวรอบเมืองที่โดนน้ำท่วมมีความเสียหายมากนัก นางจึงคิดที่จะให้ชาวบ้านปลูกพืชที่สามารถเติบโตในน้ำได้ดี นางจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวใต้เท้าหานให้ช่วยจัดการหากให้นางบอกกล่าวขุนนางกรมเกษตรที่อยู่ในเมืองหนานไห่พวกเขาคงมิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   บ่อชำระไขกระดูก

    หลันฮวาที่เห็นเสี่ยวอี่เปลี่ยนไปก็กำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับถูกเขาร้องห้ามไว้เสียก่อน“ไปดูนายหญิงก่อนเร็วเข้า”“นายหญิงเป็นอันใด”“นางลงไปแช่น้ำในถ้ำของเหล่าหู่ ตอนนี้กำลังร้องอย่างเจ็บปวด” หลันฮวาไม่ทันได้แจ้งคนอื่นนางรีบบินตามเสี่ยวมี่ไปที่ถ้ำของเหล่าหู่ทันทีใต้เท้าหานกับซูเต๋อก็รีบตามไปอย่างร้อนใจ เยี่ยนเฟยหยางที่กำลังช่วยจ้าวลู่เทียนฝึกเดินลมปราณก็พบความผิดปกติ จึงได้พากันติดตามไปด้วยเมื่อเข้าใกล้ถ้ำของเหล่าหู่ เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เกือบจะทำให้ทั้งสี่เสียสติ ซูเต๋อที่ใกล้ชิดบุตรสาวมากที่สุด เขายังไม่เคยเห็นนางร้องเช่นนี้มาก่อนเยี่ยนเฟยหยางมิอาจทนได้ เขาอยากจะไปดูให้เห็นกับตาว่าเกิดเรื่องอันใดกับนางกันแน่ แต่เมื่อถึงปากถ้ำทั้งสี่ก็ถูกเหล่าหู่และเสี่ยวอี่ขวางเอาไว้“ตอนนี้นายหญิงอยู่ในน้ำ พวกท่านมิอาจเข้าไปได้ขอรับ” เสี่ยวอี่เอ่ยขึ้นมา เขาจะปล่อยให้บุรุษทั้งสี่เห็นสภาพที่เปลือยเปล่าของนายหญิงได้อย่างไร“เหตุใดนางถึงได้ดูเจ็บปวดเช่นนี้” เยี่ยนเฟยหยางเอ่ยถามอย่างร้อนใจ“เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ”พวกเขาไม่อาจทำสิ่งใดได้ ได้แต่รอให้หลันฮวาออกมาหรือไม่ก็รอให้ซูเจินนางออก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status