หลังจากที่ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ชีวิตของหมอนอิงยิ่งทุกข์ไปกว่าเดิม ทุกคนในบ้านต่างรังเกียจเธอแต่เพราะเกรงใจเจ้าของบ้านจึงแกล้งทำดีกับเธอต่อหน้าเขา
ราชันที่เอ็นดูเธอมักซื้อข้าวของมาให้จนคนในบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอเป็นเมียลับของเขา
“เห็นไหมเด็กสมัยนี้รักความสบายจะตาย ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน”
“อายุก็ห่างกันตั้งเท่าไร เขาคงเอ็นดูจนกลายเป็นเอ็น...” เสียงหัวเราะเบาๆ ตามมาก่อนจะกลายเป็นความเงียบเมื่อเห็นเงาใครบางคนเดินผ่าน
แม้ไม่มีใครพูดตรงๆ ต่อหน้าหมอนอิง แต่คำพูดเหล่านั้นก็เดินมาถึงเธอจนได้ ไม่ว่าจะผ่านน้ำเสียงหัวเราะแผ่วๆ ในครัว หรือแววตาที่ยากจะตีความผิด
“หนูอิงจะเอาอะไรจ๊ะ”
“อิงจะมาเอาน้ำค่ะ”
“ป้าหยิบให้นะ” ป้านีรีบไปหยิบขวดน้ำให้ทันที และส่งยิ้มให้สาวรุ่นลูก
หมอนอิงรู้ว่ารอยยิ้มนั้นเป็นการสมเพชเวทนามากกว่าเธอจึงไม่เหลือทางเลือกนอกจากหลบซ่อนเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ราวกับโลกภายนอกเป็นสนามรบ ที่มีแต่คำพูดอาบยาพิษกับสายตาเย็นชาเป็นอาวุธ
เธอออกมาเพียงเมื่อคุณอธิปเรียกให้ไปทานข้าวเย็น
และนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด คุณราชันนั่งหัวโต๊ะด้วยรอยยิ้มใจดี ส่งกับข้าวให้เธออย่างเอาใจใส่
“ชอบทานแกงเขียวหวานใช่ไหม? ลุงให้คนครัวทำพิเศษให้เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มบางๆ รับจานมาอย่างเกรงใจ แต่ยังไม่ทันจะได้ตักคำแรกรู้สึกถึงสายตาหนักหน่วงจากอีกฝั่ง
พันไมล์นั่งไขว้แขนพิงเก้าอี้ ดวงตาคมจ้องเธอราวกับกำลังดูบางอย่างที่ไม่น่ามองเขาไม่พูดอะไร แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เธอเก็บช้อนแทบไม่ลง
“หิวมากสินะ” เขาพูดขึ้นกลางความเงียบ น้ำเสียงราบเรียบแต่กรีดลึก
“อยู่บ้านตัวเองคงไม่ค่อยได้กินอะไรดีๆ สินะ”
“ไอ้ไนท์พูดอะไรเกรงใจน้องบ้าง” ราชันส่ายหัวนิสัยแบบนี้ได้ใครมา
หมอนอิงเม้มปากแน่นคำพูดเขาไม่ได้หยาบ แต่ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความหมายเสียดแทง เหมือนตอกย้ำว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงเห็นแก่เงิน และไม่คู่ควรแม้แต่กับที่นั่งที่เธอนั่งอยู่
ราชันหันมามองลูกชายด้วยแววตาตำหนิเล็กน้อย แต่พันไมล์ก็เพียงแค่ก้มหน้ากลับไปตักอาหารของตัวเองไม่ขอโทษ และไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง
“ผมพูดผิดตรงไหนผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะมาอยู่กับคนแก่คราวพ่อถ้าไม่หวังอะไร”
“ไอ้ไนท์พ่อบอกให้หยุด!”
“หึ”
มื้อนั้นอาหารทุกอย่างเหมือนเย็นชืด ไม่ใช่เพราะอุณหภูมิ แต่เพราะหัวใจของเธอที่ไม่อาจรับรสอะไรได้อีกแล้ว
หมอนอิงที่กำลังจะเดินกลับห้องหลังทานข้าวเสร็จ แต่เขาก็มาดักรอและจงใจยืนบังทางเธอ ไม่ให้เธอเดินต่อไปได้ หญิงสาวพยายามขอทางดีๆ เพราะไม่อยากมีปัญหาแต่พันไมล์ไม่วายจับเธอไปกระแทกกับพนังบ้าน
“โอ๊ยยย”
“สำออยวะ”
“ปล่อยค่ะ” เธอพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงพยายามสงบ แต่เขาไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว ดวงตาคู่นั้นจ้องเธอราวกับมองทะลุเข้ามาถึงส่วนที่อ่อนแอที่สุดในตัวเธอ
“อยู่กับพ่อฉัน ได้อะไรตอบแทนบ้างล่ะ?” เสียงเขาเย้ยหยันราวกับถามไถ่ถึงการต่อรองทางธุรกิจ
“ฉันไม่อยากมีเรื่องขอทางค่ะ” เธอกำมือแน่นพยายามไม่ตอบโต้
เขาขยับเข้ามาใกล้อีกนิดใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากเสื้อเชิ้ตของเขา แผ่นหลังเธอชนกับผนังเย็นเฉียบ
“เธอขายอะไรให้เขาเหรอความรักหรือร่างกาย?” คำพูดของเขาเหมือนตบหน้าเธอแรงๆ โดยไม่ต้องลงมือ
ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่มองเขาอย่างไม่หลบ
“เงียบทำไมว่ะ หรือกำลังนับจำนวนอยู่” เขายิ้มมุมปาก มองเธอราวกับเหยียบย่ำทุกเศษศักดิ์ศรี
เธอกัดริมฝีปากจนเลือดซึม ไม่แม้แต่จะปัดป้องหรือเถียง เพราะเธอรู้ถ้าเธอพูดอะไรออกไปตอนนี้ มันก็ไม่มีใครฟังอยู่ดี
“กรุณาปล่อยด้วย” เธอเริ่มหวานกลัวมองไปรอบๆ กลับไม่มีใครเดินผ่านมาให้ขอความช่วยเหลือ
“ถ้าฉันอยากช่วยจ่ายเพิ่มอีกคนเธอจะโอเคมั้ย” เขาพูดจบก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะถอยห่างราวกับทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น เขาเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นดูหมิ่นและรอยยิ้มเหยียด
ขาทั้งสองข้างของเธอแทบหมดแรง เธอทรุดตัวลงช้าๆ บนพื้นหินเย็นเฉียบ มือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น
.
หลายวันผ่านมาแล้วเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของนักศึกษาปีหนึ่งแบบเธอ โดยมีเพื่อนสนิทตามมาเรียนด้วยกัน เป็นวันแรกมีรุ่นพี่หลายคนเข้ามารับพวกเธอไปรวมตัวกันที่โดมของคณะ
พอใกล้พักเที่ยงก็ถูกปล่อยตัวออกมาให้ออกมาพัก ส้มโอลากหมอนอิงเดินผ่านป้ายคณะวิศวะพอดี
“ส้มโอทำอะไร”
“เขาบอกว่าลูปป้ายคณะนี้จะได้ผัวเรียนวิศวะ ดิบ เถื่อน ส้มโอชอบ” ส้มโอทำหน้าเพ้อฝัน แถมยังกดติดตามแฟนเพจคณะนี้ไว้มีคนหนึ่งเธอเล็งเป้าไว้
“ไปกินข้าวกันฉันหิวแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน! ฉันจะให้เธอดูนี่คนนี้ฉันจองน่ะ” ส้มโอเปิดรูปผู้ชายคนนั้นให้หมอนอิงดู
หมอนอิงจ้องมองรูปถ่ายในโทรศัพท์ของเพื่อน เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ด้วยโครงหน้าคมคาย สันกรามชัดเจน และจมูกโด่งได้รูป เส้นผมสีดำสนิทถูกจัดทรงอย่างมีสไตล์
ดวงตาของเขาคมเข้ม แฝงด้วยแววลึกบางอย่างที่อ่านไม่ขาด คล้ายมีเรื่องราวซ่อนอยู่ภายใน เฉดสีของดวงตาตัดกับผิวขาวนวลอย่างมีมิติ ริมฝีปากสีอ่อนเป็นเส้นสวย
“พี่ไนท์ พันไมล์ รูปหล่อบ้านรวยคนแบบเธอไม่มีวาสนาได้แอ้มหรอกได้แค่มอง” ส้มโอเหยียดหยามเพื่อนตัวเอง
“ฉันจนไม่กล้าคบใครหรอก” หมอนอิงไม่พอใจแต่ต้องเก็บไว้ในใจ ที่เพื่อนพูดออกมาก็เป็นความจริงทั้งหมด คนจนแบบเธอไม่มีใครอยากมาลำบากด้วย
.
พันไมล์ยืนจ้องผู้หญิงสองคนที่เพิ่งเดินผ่านป้ายคณะเขาไป อีกคนสวยดูมั่นใจในตัวเอง แต่อีกคนใบหน้าดูเศร้าหมองแต่น่าค้นหาตลอดเวลา
“ยัยเมียน้อยมาเรียนที่นี่เหรอว่ะ” คงจะออดอ้อนพ่อของเขาจนได้เข้ามาเรียนที่มหาลัยเอกชน ค่าเทอมหลักแสนลำพังตัวคนเดียว จะเอาเงินที่ไหนส่งเรียน
“ไนท์มึงมองอะไรวะ” ต้นกล้าถามเพื่อนเพราะเห็นนั่งจ้องมองป้ายคณะนานแล้ว
“กูมองสาวไม่ได้หรือไง”
“เพิ่งเปิดเทอมวันแรกเองจะล่อแล้วเหรอ น้องๆ น่ารักมากเลยว่ะ” แอมป์หนุ่มเจ้าชู้ล้อเพื่อนทันที พันไมล์มันเอาไม่เลือก
ระหว่างที่ทั้งสามกำลังพูดคุยกัน ก็มีชายหนุ่มจากสาขาอื่นเดินเข้ามาเรียกหาหนึ่งในสามคนนั้น
“ไอ้พันไมล์อยู่ไหน!” เสียงทุ้มต่ำดังลั่น แทรกกลางวันธรรมดาให้กลายเป็นฉากดราม่ากลางมหาลัย
“เฮ้ย! มีผู้ชายแต่งตัวหล่อๆ มาหาแกที่หน้าตึกวะ!” แอมป์พูดขึ้น
เขาขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นด้วยความสงสัยปนระแวง และเพียงก้าวเท้าพ้นประตูออกมาเท่านั้น หมัดแรกก็พุ่งเข้าใส่ใบหน้าเขาอย่างจัง
พลั่ก!
ร่างของพันไมล์เซไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมเลือดซึมมุมปาก เขาไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ
ผัวะ
หมัดนี้พันไมล์ต่อยกลับอีกฝ่ายล้มลงทัน เกิดความชุนลมุนเพื่อนต่างวิ่งมาห้าม
“อะไรของมึงไอ้ควาย” เขาตะโกนถาม
“ยังกล้าถามอีกเหรอไอ้สัด! มายุ่งกับเมียคนอื่นมึงคิดว่าเรื่องจะจบง่ายๆ มึงตอบกูมาไปเอากันกี่ครั้งแล้ววะ!”
นักศึกษาเริ่มรุมมุงทั้งถ่ายคลิป ทั้งซุบซิบกันสนั่น เสียงลือเสียงเล่าอ้างเริ่มแพร่ไปในกลุ่มไลน์ของมหาลัยอย่างรวดเร็ว พันไมล์กำมือแน่น ข่มอารมณ์ก่อนพูดเสียงนิ่ง
หลายคนคุ้นชินกับเหตุการณ์แบบนี้เพราะพันไมล์มีเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง และจบด้วยการที่พ่อมาเคลียร์ทางให้ ยิ่งตอนมีน้องใหม่เข้ามาเรียน สาวสวยไม่หนีไม่พ้นน้ำมือของเสือร้ายแบบเขา
“กูไปยุ่งกับเมียคนไหนของมึงวะ ผู้หญิงมันมาอ้าขาให้กูเอาเอง” เขาจำไม่ได้ว่าคนไหนสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาล่อไปหลายคน
“แจ็คหยุดนะ!” สาวสวยดีกรีดาวคณะวิ่งเข้ามาห้ามเขาทันที
“มึงแย่งเมียกู มันยังไม่เลิกกับกูนอนให้กูเอาทุกคนคืน กูจะประจานว่ามึงแย่งเมียชาวบ้าน”
“ไนท์ใบเตยเลิกกับเขาแล้วจริงๆ นะ” ใบเตยรีบหันมาบอกพันไมล์เพื่อหวังเขาเชื่อ
“อีใบเตย! อีร่าน”
“ไอ้ไนท์มึงเอากับใบเตยจริงๆ เหรอวะ” ต้นกล้าถามขึ้น เพราะทุกคนรู้ดีว่าหญิงสาวนั้นไม่โสด
“มึงพูดตอนที่จะเอากับกูสิว่ามึงพูดว่าอะไรบ้าง” พันไมล์จ้องหน้าใบเตยนิ่งเป็นการข่มขู่ไปในตัว
“ใบเตยเลิกกับแจ็คแล้วแต่เขาไม่ยอมเลิก”
“ตอแหลมึงไม่เคยบอกเลิกกูด้วยซ้ำอีใบเตย กี่ครั้งแล้วที่มึงวิ่งแจ้นไปเอากับคนอื่น” แจ็คตะโกนด่าด้วยความโมโห วันนี้ประจานกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“ไนท์ต้องเชื่อเตยนะ เตยรักไนท์คนเดียว” ใบเตยเข้ามาจับต้นแขนเขาไว้ แต่ถูกพันไมล์สะบัดออกจนเซไปด้านหลัง
“อย่ามาจับกู” พันไมล์จ้องมองทุกคนที่กำลังถ่ายคลิป พร้อมกับข่มขู่
“กรี้ดดดดดด อีใบเตยอีเลวมึงเอากับผัวกูเหรอ” เสียงแหลมปรี๊ดของ มีญ่าดังขึ้นพร้อมกับเข้ามากระชากผมของใบเตย เธอนอนกับพันไมล์มาก่อนไม่เคยรู้เลยว่าใบเตยก็เคยได้กับเขา
“มีญ่าปล่อยฉัน”
เพียะ
“มึงก็รู้ว่ากูได้กับไนท์มาก่อน แต่มึงก็ยังจะเอาผัวเพื่อน” เกิดความวุ่นวายกันอีกครั้ง เมื่อสองสาวตบกันกลางตึกวิศวะ เพราะนอนกับผู้ชายคนเดียวกัน
พันไมล์ยืนมองแบบไม่สนอะไรทั้งนั้น เอากอดอกยืนพิงกับเสาจนเพื่อนต้องเข้ามาบอก
“มึงไม่ไปห้ามหน่อยเหรอผู้หญิงกับเขาตบกันแล้ว”
“ไอ้เหี้ย มึงเอาผู้หญิงที่เป็นเพื่อนเหรอวะ” แอมป์ถามด้วยความตกใจ ทั้งที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
“ใครมีรูกูเอาได้หมดผู้หญิงมันบอกเองว่าโสด แล้วอีกอย่างกูจะรู้ไหมว่าใครเป็นเพื่อนใคร” พันไมล์ตอบแบบไม่แคร์ เขาเป็นผู้ชายที่รักสนุก
“คืนนี้กูเตรียมน้องใสๆ ปีหนึ่งไว้รอ” ต้นกล้าหัวเราะหันไปมองสองสาวนิดหนึ่ง และหันกลับมามองเพื่อน
เขาปล่อยให้สองสาวตบกันอยู่แบบนั้น ส่วนตัวเขากลับเดินออกมาจากที่เกิดเหตุ คืนนี้เตรียมตัวปาร์ตี้ไม่พ้นเรื่องดื่มสุราเคล้านารีมีความสุข
ตอนพิเศษ 2พิมพ์ดาวในวัยสิบห้าเริ่มโตเป็นสาวเต็มตัวหน้าตาน่ารักเหมือนแม่ แต่แววตานิ่งๆ ซ่อนความลึกซึ้งแบบพ่อทั้งยังมีมุมติสต์ๆ ชอบอ่านชอบวาดรูปหมอนอิงรู้ทันทุกอย่างโดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในลูกสาวคนเดียว“วันนี้หนูรีบไปโรงเรียนเหรอคะ?” หมอนอิงถามพลางเหลือบตามองลูกสาวที่แต่งตัวเรียบร้อยกว่าทุกวัน กระโปรงยาวพอดีเข่าผมถักเปียหลวมๆ สองข้างแถมยังทาลิปบาล์มบางๆ กับพ่นน้ำหอมกลิ่นผลไม้จางๆ“มีพรีเซนต์ค่ะดาวต้องรีบไปซ้อมหน่อย” พิมพ์ดาวสะดุ้งเล็กน้อย แต่แกล้งทำเสียงนิ่ง“อื้ม แต่ไม่เห็นเอาอะไรไปเลย” หมอนอิงอมยิ้มมองลูกสาวที่เริ่มหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่ต้องถามอะไรต่อ“คือมีงานกลุ่มค่ะเพื่อนในห้องจะช่วยติวให้ก่อนเริ่มเรียน” พิมพ์ดาวอ้อมแอ้ม“เพื่อนผู้ชายหรือผู้หญิง?” หมอนอิงถามหน้าตาเฉยระหว่างที่กำลังป้อนข้าวเจ้าสองแสบ ลูกชายฝาแฝดวัยสองขวบ“ผู้ชายก็มี ผู้หญิงก็มีค่ะ” แล้วก็รีบวิ่งหนีออกจากห้องครัวหมอนอิงยิ้มมุมปากนิดๆ เด็กสาวคนนี้น่ะต่อให้ไม่พูดก็รู้ว่าเริ่มมีความรักแล้วแต่ตอนเย็นพอพันไมล์กลับบ้าน แล้วไม่เห็นพิมพ์ดาวตามเวลา เขาก็เอะใจ“ยังไม่กลับเหรอ?” เขาถามเมียทันที“ยังเลยค่ะเห็นบอกว่าทำรา
ตอนพิเศษ 1พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในสวนหลังบ้านหลังใหม่ของทั้งสองคน บ้านที่พวกเขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย และที่แห่งนี้เขาลงมือปลูกต้นไม้ตัดหญ้า และดูแลทุกกระเบียดนิ้วด้วยตัวเอง เพื่อวันนี้วันที่เธอจะเป็นเจ้าสาวของเขาไม่มีซุ้มดอกไม้อลังการมีเพียงเสียงนกร้องเบาๆ ลมเอื่อยที่พัดใบไม้ไหว และญาติสนิทเพียงไม่กี่คนที่มาร่วมเป็นพยานในความรักของพวกเขาเธอสวมเพียงชุดเดรสสีครีมเรียบๆ ที่ขับผิวให้ดูอ่อนหวาน ไม่มีเครื่องประดับราคาแพง ไม่มีสร้อยเพชรหรือแหวนเพชรเม็ดโต มีเพียงดอกไม้สดจากสวนที่เขาเพิ่งเด็ดมาตอนเช้า แนบกลีบอ่อนๆ ลงบนผมของเธออย่างแผ่วเบาและตั้งใจ“สวยแล้ว” เขาว่าพลางยิ้มเห็นแววตาของเธอวาววับขึ้นมาเล็กน้อยส่วนเขาเองก็แต่งตัวธรรมดาเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนพับกับกางเกงสแล็คเรียบๆ ดูไม่เหมือนเจ้าบ่าวในพิธีทั่วไป แต่ทุกอย่างกลับลงตัวและงดงามที่สุดสำหรับเธอ เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คือเขาผู้ชายที่เธอเลือกจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วย“เราจะไม่พาหนูพิมพ์ดาวไปด้วยจริงๆ เหรอคะ” หมอนอิงมองลูกสาววัยหนึ่งขวบห้าเดือน สามีจะพาไปฮันนีมูนที่ต่างประเทศ แต่เธอเป็นห่วงลูกสาว“คุณ
เสียงร้องไห้กรีดร้องของนทีดังลั่นไปทั่วห้องโถง จนทำให้บ้านทั้งหลังแทบสั่นสะเทือน หมื่นลี้นั่งกอดอกเอนหลังอยู่บนโซฟา มองลูกชายแฝดสองคนที่กำลังแย่งของเล่นกันตาไม่กะพริบ“ปะป๊าบอกแล้วใช่มั้ย ว่าแค่ชั่วโมงเดียวจะไม่ห้ามจะให้ลูกเคลียร์กันเอง” เขาพึมพำกับตัวเองทั้งที่ในใจแทบอยากจะเข้าไปแยก แต่ก็ยังนั่งนิ่งเอาความใจแข็งเข้าข่มนาวินแฝดพี่กอดรถของเล่นแน่น แถมยังยักคิ้วยียวนใส่น้องชายที่ร้องไห้เสียงดัง นทีทำหน้าบูดมือเล็กๆ ทุบกับพื้นไปด้วย ความไม่พอใจปะปนกับน้ำตาไหลพรากไม่หยุด“อ๊ะ…เอาคืน!” นทีพยายามคว้ารถคืน แต่ก็โดนพี่ชายหันหลังหนีไปอีกทางหมื่นลี้ถอนหายใจหนักๆ พลางเหลือบตามองยี่หวาที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมจานผลไม้ เธอถึงกับส่ายหน้าเมื่อเห็นสามีกอดอกนั่งเฉย“เดย์นี่จริงๆ เลยนะ ปล่อยให้เด็กสองขวบทะเลาะกันเป็นชั่วโมง” “ลูกผู้ชายต้องหัดแก้ปัญหากันเองบ้างสิ” เขายักไหล่ทำหน้าราวกับไม่รู้ไม่ชี้ยี่หวาเดินไปวางจานผลไม้ แล้วก้มลงอุ้มนทีขึ้นมากอดปลอบ เด็กน้อยยังสะอึกสะอื้นซบไหล่แม่ ส่วนนาวินเมื่อเห็นน้องถูกอุ้มก็เหมือนจะรู้สึกผิดเล็กน้อย เดินเอารถไปวางใส่มือแม่แทน ก่อนจะยืนก้มหน้างอนๆ
ยี่หวากำลังควานหาของในกระเป๋า แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ เธอถอนหายใจแล้วตัดสินใจเทของทั้งหมดออกมากองบนโต๊ะ สิ่งที่เธอตามหาก็ยังไม่ปรากฏ จนกระทั่งได้ยินเสียงเล็กๆ ดังขึ้น“มะมี้ขาาา~”เสียงใสๆ ของน้องฟ้าใสวัยสองขวบเรียกขึ้นมา ยี่หวาหันไปมองตามเสียงก็ถึงกับตกใจ เมื่อเห็นใบหน้ากลมๆ ของลูกสาวเต็มไปด้วยรอยลิปสติกแดงสดที่เลอะจนทั่วแก้ม“ตายแล้วลูก! ทำอะไรของหนูเนี่ย” ยี่หวารีบอุ้มลูกสาวขึ้นมาอย่างเอ็นดูปนขำ “หนูอยากสวยเหมือนมะมี้ค่ะ” น้องฟ้าใสยิ้มแป้นตากลมแวววาว “โอ๊ยย ลูกแม่สวยอยู่แล้วค่ะไม่ต้องแอบเอาลิปสติกมะมี้มาทาก็ได้” เธอหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วใช้ทิชชูค่อยๆ เช็ดแก้มเลอะๆ ของลูก “สวยๆ ~” เด็กน้อยทำตาใสปิ๊งแล้วย้ำเสียงใสๆยี่หวากอดลูกแน่นรู้สึกทั้งขำทั้งอบอุ่นในหัวใจความซนเล็กๆ น้อยๆ ของลูกสาวยิ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ“ปะป๊าไปไหนมะมี้จะตีทั้งปะป๊าทั้งลูกเลย” เธอทำเสียงดุทั้งที่ในใจอยากหัวเราะกับสภาพลูกสาวที่เลอะลิปสติกเต็มหน้า ไม่นานหมื่นลี้ก็โผล่มาจากครัว เขาถือจานข้าวในมือวิ่งหอบมาพร้อมใส่ผ้ากันเปื้อนสีอ่อน ผมถูกรวบมัดจุกไว้กันไม่ให้ปรกหน้า ภาพล
เสียงกระดิ่งหน้าร้านไอติมดังขึ้นเบาๆ เมื่อหมื่นลี้จูงมือยี่หวาเข้ามา กลิ่นหวานหอมของวานิลลาและสตรอว์เบอร์รีลอยอบอวลไปทั่ว“อยากกินรสไหนบอกมาเลยเบบี๋อยากกินอะไรเดย์จัดให้หมด” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน พร้อมวางมือไว้บนเอวเธอเบาๆ อย่างห่วงใย“พูดเหมือนจะซื้อได้ทั้งร้านเลยนะ” เธอหัวเราะคิก“ก็ได้หมดแหละขออย่างเดียวกินแล้วลูกแข็งแรง คุณแม่อารมณ์ดีคุณพ่อก็แฮปปี้แล้ว”คำพูดของเขาทำเอาเธอหน้าแดงใจอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะเลือกไอติมรสช็อกโกแลตมิ้นท์แก้วใหญ่ พอหมื่นลี้ตักป้อนให้ สายตาสาวๆ โต๊ะข้างๆ ก็แอบมองตามด้วยแววตาชื่นชม “อร่อยจังเลยค่ะคุณพ่อ ลูกคงอิ่มอารมณ์ดีทั้งวัน” เธอรีบโน้มตัวเข้าไปซบไหล่เขา แล้วพูดเสียงดังพอให้ได้ยิน “หวงขนาดนี้เลยเหรอ” หมื่นลี้ถึงกับหัวเราะออกมา เสียงดังลั่นร้าน“ก็ใช่น่ะสิ!” เธอแกล้งทำหน้าบึ้งแต่ตากลับเป็นประกายระยิบระยับ “ไม่ต้องหวงหรอก หัวใจเดย์มีเจ้าของแล้วทั้งแม่ทั้งลูกเต็มไปหมดแล้วเนี่ย” เขาโน้มหน้าลงกระซิบที่ข้างหูหญิงสาวยิ่งหน้าแดงจัดรีบตักไอติมเข้าปากเพื่อกลบเกลื่อน แต่หัวใจกลับเต้นแรงจนแทบจะละลายเหมือนไอติมตรงหน้า ผลของการทำข้อสอบได้ใ
แสงแดดสาดลงบนลานกว้างของมหาวิทยาลัย บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันของชุดครุยและรอยยิ้ม ยี่หวาสวมชุดครุยสีดำตัดทองยืนยิ้มกว้างอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่เข้ามาแสดงความยินดีไม่ขาดสายด้านหลังมีหมื่นลี้ในชุดเรียบหรูยังคงยืนอยู่ไม่ไกล สองมือหอบช่อดอกไม้ ตุ๊กตา ของขวัญสารพัดจนแทบล้น แต่สายตากลับจับจ้องอยู่เพียงหญิงสาวตรงหน้า ไม่ว่าจะมีใครรายล้อม ยี่หวาในสายตาเขาก็ยังโดดเด่นที่สุดเขามองเธอหัวเราะกับเพื่อนๆ เสียงใสที่เคยทำให้หัวใจเขาอุ่นซาบซ่านกลับมาอีกครั้ง ยี่หวากำลังมีความสุขความสุขที่เขาเฝ้าปรารถนาอยากเป็นคนมอบให้ตลอดมาเพื่อนๆ ผลัดกันหยอกล้อ แซวกันเสียงดังยี่หวายกมือขึ้นปัดผมที่ปลิวตามลมก่อนจะยิ้มหวานจนดวงตาโค้งสวย หมื่นลี้มองภาพนั้นอย่างเงียบงัน รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน เหลือเพียงเธอที่ส่องสว่างอยู่ในใจเขาเขาอยากเดินไปกอดเธอต่อหน้าทุกคน อยากบอกว่า “เก่งที่สุดแล้วว่าที่ภรรยาของเดย์” แต่ก็ได้เพียงยืนมองอยู่ข้างหลัง รอคอยเวลาให้เธอหันกลับมาเห็นว่าไม่ว่าจะวันสำคัญแค่ไหน เขาก็ยังอยู่เคียงข้างเสมอ“สวัสดีค่ะคุณลุง” เธอหันมายกมือไหว้ให้ผู้มีพระคุณที่ช่วยส่งเสียเธอเรียนจนจบ โดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยนอะ