หลังจากที่ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ชีวิตของหมอนอิงยิ่งทุกข์ไปกว่าเดิม ทุกคนในบ้านต่างรังเกียจเธอแต่เพราะเกรงใจเจ้าของบ้านจึงแกล้งทำดีกับเธอต่อหน้าเขา
ราชันที่เอ็นดูเธอมักซื้อข้าวของมาให้จนคนในบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอเป็นเมียลับของเขา
“เห็นไหมเด็กสมัยนี้รักความสบายจะตาย ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน”
“อายุก็ห่างกันตั้งเท่าไร เขาคงเอ็นดูจนกลายเป็นเอ็น...” เสียงหัวเราะเบาๆ ตามมาก่อนจะกลายเป็นความเงียบเมื่อเห็นเงาใครบางคนเดินผ่าน
แม้ไม่มีใครพูดตรงๆ ต่อหน้าหมอนอิง แต่คำพูดเหล่านั้นก็เดินมาถึงเธอจนได้ ไม่ว่าจะผ่านน้ำเสียงหัวเราะแผ่วๆ ในครัว หรือแววตาที่ยากจะตีความผิด
“หนูอิงจะเอาอะไรจ๊ะ”
“อิงจะมาเอาน้ำค่ะ”
“ป้าหยิบให้นะ” ป้านีรีบไปหยิบขวดน้ำให้ทันที และส่งยิ้มให้สาวรุ่นลูก
หมอนอิงรู้ว่ารอยยิ้มนั้นเป็นการสมเพชเวทนามากกว่าเธอจึงไม่เหลือทางเลือกนอกจากหลบซ่อนเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ราวกับโลกภายนอกเป็นสนามรบ ที่มีแต่คำพูดอาบยาพิษกับสายตาเย็นชาเป็นอาวุธ
เธอออกมาเพียงเมื่อคุณอธิปเรียกให้ไปทานข้าวเย็น
และนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด คุณราชันนั่งหัวโต๊ะด้วยรอยยิ้มใจดี ส่งกับข้าวให้เธออย่างเอาใจใส่
“ชอบทานแกงเขียวหวานใช่ไหม? ลุงให้คนครัวทำพิเศษให้เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มบางๆ รับจานมาอย่างเกรงใจ แต่ยังไม่ทันจะได้ตักคำแรกรู้สึกถึงสายตาหนักหน่วงจากอีกฝั่ง
พันไมล์นั่งไขว้แขนพิงเก้าอี้ ดวงตาคมจ้องเธอราวกับกำลังดูบางอย่างที่ไม่น่ามองเขาไม่พูดอะไร แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เธอเก็บช้อนแทบไม่ลง
“หิวมากสินะ” เขาพูดขึ้นกลางความเงียบ น้ำเสียงราบเรียบแต่กรีดลึก
“อยู่บ้านตัวเองคงไม่ค่อยได้กินอะไรดีๆ สินะ”
“ไอ้ไนท์พูดอะไรเกรงใจน้องบ้าง” ราชันส่ายหัวนิสัยแบบนี้ได้ใครมา
หมอนอิงเม้มปากแน่นคำพูดเขาไม่ได้หยาบ แต่ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความหมายเสียดแทง เหมือนตอกย้ำว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงเห็นแก่เงิน และไม่คู่ควรแม้แต่กับที่นั่งที่เธอนั่งอยู่
ราชันหันมามองลูกชายด้วยแววตาตำหนิเล็กน้อย แต่พันไมล์ก็เพียงแค่ก้มหน้ากลับไปตักอาหารของตัวเองไม่ขอโทษ และไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง
“ผมพูดผิดตรงไหนผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะมาอยู่กับคนแก่คราวพ่อถ้าไม่หวังอะไร”
“ไอ้ไนท์พ่อบอกให้หยุด!”
“หึ”
มื้อนั้นอาหารทุกอย่างเหมือนเย็นชืด ไม่ใช่เพราะอุณหภูมิ แต่เพราะหัวใจของเธอที่ไม่อาจรับรสอะไรได้อีกแล้ว
หมอนอิงที่กำลังจะเดินกลับห้องหลังทานข้าวเสร็จ แต่เขาก็มาดักรอและจงใจยืนบังทางเธอ ไม่ให้เธอเดินต่อไปได้ หญิงสาวพยายามขอทางดีๆ เพราะไม่อยากมีปัญหาแต่พันไมล์ไม่วายจับเธอไปกระแทกกับพนังบ้าน
“โอ๊ยยย”
“สำออยวะ”
“ปล่อยค่ะ” เธอพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงพยายามสงบ แต่เขาไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว ดวงตาคู่นั้นจ้องเธอราวกับมองทะลุเข้ามาถึงส่วนที่อ่อนแอที่สุดในตัวเธอ
“อยู่กับพ่อฉัน ได้อะไรตอบแทนบ้างล่ะ?” เสียงเขาเย้ยหยันราวกับถามไถ่ถึงการต่อรองทางธุรกิจ
“ฉันไม่อยากมีเรื่องขอทางค่ะ” เธอกำมือแน่นพยายามไม่ตอบโต้
เขาขยับเข้ามาใกล้อีกนิดใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากเสื้อเชิ้ตของเขา แผ่นหลังเธอชนกับผนังเย็นเฉียบ
“เธอขายอะไรให้เขาเหรอความรักหรือร่างกาย?” คำพูดของเขาเหมือนตบหน้าเธอแรงๆ โดยไม่ต้องลงมือ
ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่มองเขาอย่างไม่หลบ
“เงียบทำไมว่ะ หรือกำลังนับจำนวนอยู่” เขายิ้มมุมปาก มองเธอราวกับเหยียบย่ำทุกเศษศักดิ์ศรี
เธอกัดริมฝีปากจนเลือดซึม ไม่แม้แต่จะปัดป้องหรือเถียง เพราะเธอรู้ถ้าเธอพูดอะไรออกไปตอนนี้ มันก็ไม่มีใครฟังอยู่ดี
“กรุณาปล่อยด้วย” เธอเริ่มหวานกลัวมองไปรอบๆ กลับไม่มีใครเดินผ่านมาให้ขอความช่วยเหลือ
“ถ้าฉันอยากช่วยจ่ายเพิ่มอีกคนเธอจะโอเคมั้ย” เขาพูดจบก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะถอยห่างราวกับทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น เขาเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นดูหมิ่นและรอยยิ้มเหยียด
ขาทั้งสองข้างของเธอแทบหมดแรง เธอทรุดตัวลงช้าๆ บนพื้นหินเย็นเฉียบ มือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น
.
หลายวันผ่านมาแล้วเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของนักศึกษาปีหนึ่งแบบเธอ โดยมีเพื่อนสนิทตามมาเรียนด้วยกัน เป็นวันแรกมีรุ่นพี่หลายคนเข้ามารับพวกเธอไปรวมตัวกันที่โดมของคณะ
พอใกล้พักเที่ยงก็ถูกปล่อยตัวออกมาให้ออกมาพัก ส้มโอลากหมอนอิงเดินผ่านป้ายคณะวิศวะพอดี
“ส้มโอทำอะไร”
“เขาบอกว่าลูปป้ายคณะนี้จะได้ผัวเรียนวิศวะ ดิบ เถื่อน ส้มโอชอบ” ส้มโอทำหน้าเพ้อฝัน แถมยังกดติดตามแฟนเพจคณะนี้ไว้มีคนหนึ่งเธอเล็งเป้าไว้
“ไปกินข้าวกันฉันหิวแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน! ฉันจะให้เธอดูนี่คนนี้ฉันจองน่ะ” ส้มโอเปิดรูปผู้ชายคนนั้นให้หมอนอิงดู
หมอนอิงจ้องมองรูปถ่ายในโทรศัพท์ของเพื่อน เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ด้วยโครงหน้าคมคาย สันกรามชัดเจน และจมูกโด่งได้รูป เส้นผมสีดำสนิทถูกจัดทรงอย่างมีสไตล์
ดวงตาของเขาคมเข้ม แฝงด้วยแววลึกบางอย่างที่อ่านไม่ขาด คล้ายมีเรื่องราวซ่อนอยู่ภายใน เฉดสีของดวงตาตัดกับผิวขาวนวลอย่างมีมิติ ริมฝีปากสีอ่อนเป็นเส้นสวย
“พี่ไนท์ พันไมล์ รูปหล่อบ้านรวยคนแบบเธอไม่มีวาสนาได้แอ้มหรอกได้แค่มอง” ส้มโอเหยียดหยามเพื่อนตัวเอง
“ฉันจนไม่กล้าคบใครหรอก” หมอนอิงไม่พอใจแต่ต้องเก็บไว้ในใจ ที่เพื่อนพูดออกมาก็เป็นความจริงทั้งหมด คนจนแบบเธอไม่มีใครอยากมาลำบากด้วย
.
พันไมล์ยืนจ้องผู้หญิงสองคนที่เพิ่งเดินผ่านป้ายคณะเขาไป อีกคนสวยดูมั่นใจในตัวเอง แต่อีกคนใบหน้าดูเศร้าหมองแต่น่าค้นหาตลอดเวลา
“ยัยเมียน้อยมาเรียนที่นี่เหรอว่ะ” คงจะออดอ้อนพ่อของเขาจนได้เข้ามาเรียนที่มหาลัยเอกชน ค่าเทอมหลักแสนลำพังตัวคนเดียว จะเอาเงินที่ไหนส่งเรียน
“ไนท์มึงมองอะไรวะ” ต้นกล้าถามเพื่อนเพราะเห็นนั่งจ้องมองป้ายคณะนานแล้ว
“กูมองสาวไม่ได้หรือไง”
“เพิ่งเปิดเทอมวันแรกเองจะล่อแล้วเหรอ น้องๆ น่ารักมากเลยว่ะ” แอมป์หนุ่มเจ้าชู้ล้อเพื่อนทันที พันไมล์มันเอาไม่เลือก
ระหว่างที่ทั้งสามกำลังพูดคุยกัน ก็มีชายหนุ่มจากสาขาอื่นเดินเข้ามาเรียกหาหนึ่งในสามคนนั้น
“ไอ้พันไมล์อยู่ไหน!” เสียงทุ้มต่ำดังลั่น แทรกกลางวันธรรมดาให้กลายเป็นฉากดราม่ากลางมหาลัย
“เฮ้ย! มีผู้ชายแต่งตัวหล่อๆ มาหาแกที่หน้าตึกวะ!” แอมป์พูดขึ้น
เขาขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นด้วยความสงสัยปนระแวง และเพียงก้าวเท้าพ้นประตูออกมาเท่านั้น หมัดแรกก็พุ่งเข้าใส่ใบหน้าเขาอย่างจัง
พลั่ก!
ร่างของพันไมล์เซไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมเลือดซึมมุมปาก เขาไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ
ผัวะ
หมัดนี้พันไมล์ต่อยกลับอีกฝ่ายล้มลงทัน เกิดความชุนลมุนเพื่อนต่างวิ่งมาห้าม
“อะไรของมึงไอ้ควาย” เขาตะโกนถาม
“ยังกล้าถามอีกเหรอไอ้สัด! มายุ่งกับเมียคนอื่นมึงคิดว่าเรื่องจะจบง่ายๆ มึงตอบกูมาไปเอากันกี่ครั้งแล้ววะ!”
นักศึกษาเริ่มรุมมุงทั้งถ่ายคลิป ทั้งซุบซิบกันสนั่น เสียงลือเสียงเล่าอ้างเริ่มแพร่ไปในกลุ่มไลน์ของมหาลัยอย่างรวดเร็ว พันไมล์กำมือแน่น ข่มอารมณ์ก่อนพูดเสียงนิ่ง
หลายคนคุ้นชินกับเหตุการณ์แบบนี้เพราะพันไมล์มีเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง และจบด้วยการที่พ่อมาเคลียร์ทางให้ ยิ่งตอนมีน้องใหม่เข้ามาเรียน สาวสวยไม่หนีไม่พ้นน้ำมือของเสือร้ายแบบเขา
“กูไปยุ่งกับเมียคนไหนของมึงวะ ผู้หญิงมันมาอ้าขาให้กูเอาเอง” เขาจำไม่ได้ว่าคนไหนสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาล่อไปหลายคน
“แจ็คหยุดนะ!” สาวสวยดีกรีดาวคณะวิ่งเข้ามาห้ามเขาทันที
“มึงแย่งเมียกู มันยังไม่เลิกกับกูนอนให้กูเอาทุกคนคืน กูจะประจานว่ามึงแย่งเมียชาวบ้าน”
“ไนท์ใบเตยเลิกกับเขาแล้วจริงๆ นะ” ใบเตยรีบหันมาบอกพันไมล์เพื่อหวังเขาเชื่อ
“อีใบเตย! อีร่าน”
“ไอ้ไนท์มึงเอากับใบเตยจริงๆ เหรอวะ” ต้นกล้าถามขึ้น เพราะทุกคนรู้ดีว่าหญิงสาวนั้นไม่โสด
“มึงพูดตอนที่จะเอากับกูสิว่ามึงพูดว่าอะไรบ้าง” พันไมล์จ้องหน้าใบเตยนิ่งเป็นการข่มขู่ไปในตัว
“ใบเตยเลิกกับแจ็คแล้วแต่เขาไม่ยอมเลิก”
“ตอแหลมึงไม่เคยบอกเลิกกูด้วยซ้ำอีใบเตย กี่ครั้งแล้วที่มึงวิ่งแจ้นไปเอากับคนอื่น” แจ็คตะโกนด่าด้วยความโมโห วันนี้ประจานกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“ไนท์ต้องเชื่อเตยนะ เตยรักไนท์คนเดียว” ใบเตยเข้ามาจับต้นแขนเขาไว้ แต่ถูกพันไมล์สะบัดออกจนเซไปด้านหลัง
“อย่ามาจับกู” พันไมล์จ้องมองทุกคนที่กำลังถ่ายคลิป พร้อมกับข่มขู่
“กรี้ดดดดดด อีใบเตยอีเลวมึงเอากับผัวกูเหรอ” เสียงแหลมปรี๊ดของ มีญ่าดังขึ้นพร้อมกับเข้ามากระชากผมของใบเตย เธอนอนกับพันไมล์มาก่อนไม่เคยรู้เลยว่าใบเตยก็เคยได้กับเขา
“มีญ่าปล่อยฉัน”
เพียะ
“มึงก็รู้ว่ากูได้กับไนท์มาก่อน แต่มึงก็ยังจะเอาผัวเพื่อน” เกิดความวุ่นวายกันอีกครั้ง เมื่อสองสาวตบกันกลางตึกวิศวะ เพราะนอนกับผู้ชายคนเดียวกัน
พันไมล์ยืนมองแบบไม่สนอะไรทั้งนั้น เอากอดอกยืนพิงกับเสาจนเพื่อนต้องเข้ามาบอก
“มึงไม่ไปห้ามหน่อยเหรอผู้หญิงกับเขาตบกันแล้ว”
“ไอ้เหี้ย มึงเอาผู้หญิงที่เป็นเพื่อนเหรอวะ” แอมป์ถามด้วยความตกใจ ทั้งที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
“ใครมีรูกูเอาได้หมดผู้หญิงมันบอกเองว่าโสด แล้วอีกอย่างกูจะรู้ไหมว่าใครเป็นเพื่อนใคร” พันไมล์ตอบแบบไม่แคร์ เขาเป็นผู้ชายที่รักสนุก
“คืนนี้กูเตรียมน้องใสๆ ปีหนึ่งไว้รอ” ต้นกล้าหัวเราะหันไปมองสองสาวนิดหนึ่ง และหันกลับมามองเพื่อน
เขาปล่อยให้สองสาวตบกันอยู่แบบนั้น ส่วนตัวเขากลับเดินออกมาจากที่เกิดเหตุ คืนนี้เตรียมตัวปาร์ตี้ไม่พ้นเรื่องดื่มสุราเคล้านารีมีความสุข
ลิฟต์หรูเปิดออกสู่เพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุดของตึกสูงใจกลางเมือง หมอนอิงเดินตามหลังเขาเข้ามาเงียบๆ ด้วยกล่องกระดาษใบเดียวในมือกล่องที่บรรจุของส่วนตัวทั้งหมดที่เธอมีมันไม่ได้มีค่าในสายตาใคร แต่สำหรับเธอมันคือเศษเสี้ยวของชีวิตที่ยังเหลืออยู่พันไมล์เดินนำหน้า ไม่หันกลับมามองแม้แต่นิด และก่อนที่เธอจะก้าวพ้นประตูกระจกเข้ามาเต็มตัว เสียงเย็นชาของเขาก็กระแทกเข้าหู“เพราะเธอคนเดียว! ทำให้ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้”เธอสะดุ้งก้มหน้ารับความผิดเงียบๆ ก่อนจะเดินต่อไปอย่างไม่กล้าสบตา “กะอีแค่เสียตัวแม่งทำเป็นร้องไห้จะเป็นจะตาย”ทันใดนั้นกล่องในมือเธอก็ถูกปัดกระเด็นด้วยแรงที่ไม่ออมมือพรึ่บ!ข้าวของในกระจายเกลื่อนพื้นหินอ่อน ตกกระแทกพื้นจนกระจัดกระจาย“ฮึก” เธอตกใจจนเผลอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร้องไห้จนตัวสั่น ทำให้เขายิ่งขัดหูขัดตา“โว้ยยย ร้องหาแม่เธออะไรนักหนา!” เสียงคำรามดังลั่นภายในเพนท์เฮ้าส์หรูสะท้อนก้องไปทั่วผนังกระจกเขายกเท้าเหยียบกรอบรูปของเธอซ้ำราวกับเป็นของไร้ค่า เสียงแตกเป๊าะของกระจกเล็กๆ ดังขึ้นพร้อมกับเสียงสะอื้นในลำคอของหญิงสาว“อย่าทำนะ” เธอมองรูปถ่ายของพ่อที่ถูกเขาเหยียบ ห้ามเขาก็แล้ว
“ไอ้ไนท์ไอ้ลูกเลว!” เสียงนั้นแผดลั่นจนสะเทือนผนัง ราวกับพายุกำลังถาโถมเข้ามากลางห้องนอนพันไมล์สะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือสมองยังพร่ามัวจากฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น“อะ พ่อ” เขาขมวดคิ้ว เสียงแหบพร่าพูดออกมาเบาๆ แต่คำต่อไปของเขากลับถูก ฝ่ามือของผู้เป็นพ่อฟาดลงบนแก้มซ้ายเต็มแรง!เพียะ!!เสียงตบดังสนั่น ร่างของพันไมล์เซหัวไปตามแรงกระแทก“สติกลับมายัง! หรือจะให้ฉันตบซ้ำอีก!” เสียงของผู้เป็นพ่อดุดัน เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธและผิดหวังพันไมล์ยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเอง รอยแดงฉาดเริ่มขึ้นทันตา ความเจ็บแปลบทะลุเข้าถึงเบื้องลึกของสติที่เคยขุ่นมัวเขาส่างเมาทันที ราวกับทุกอย่างถูกราดด้วยน้ำเย็นจัดในพริบตาเดียว“คุณพ่อมาตบผมทำไม” เขาพูดเสียงเบา ดวงตายังสับสน“ยังจะมีหน้ามาถามอีกเมื่อคืนแกทำอะไรหนูอิง ห๊ะ!?” ราชันจ้องหน้าเขาเขม็ง ดวงตาเต็มไปด้วยความคุกรุ่นที่ไม่ใช่แค่โกรธ แต่ปนผิดหวังอย่างรุนแรงเขารีบหันไปมองข้างกายแต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่า ไม่รู้ว่าหมอนอิงออกไปจากห้องเขาตั้งแต่ตอนไหน พอหันกลับมาจะตอบพ่อกลับถูกตบซ้ำอีกรอบเพียะ“ฉันไม่เคยสั่งสอนแกให้เป็นคนแบบนี้ไอ
“อื้อ อ๊า พี่ไนท์” เสียงครางกระเส่าของหญิงสาวดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม รวมถึงเสียงพูดคุยของหนุ่มๆ ในห้องวีวีไอพี “อร้ายย พี่ไนท์อย่าทำแรง” “อ่าส์ เธอนี่ครางเสียงดังทำอย่างกับสาวบริสุทธิ์ความจริงหลวมยิ่งกว่าอะไร” พันไมล์รีบกระแทกเอ็นร้อนเข้าออกในโพรงนุ่ม ไม่สนว่าในห้องนี้ไม่ได้มีพวกเขาแค่สองคนแต่ยังมีเพื่อนๆ ของเขาอีก พร้อมกับลูกน้องของพวกเขาอีกสามคน ตอนนี้เขากำลังแสดงหนังสดให้พวกมันดูซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก “เนยจุกจริงของพี่ใหญ่ อื้ออ” เนยหวานยังครางไม่หยุด ไม่สนใจว่าใครจะหันมามอง แค่ได้ขึ้นสวรรค์กับหนุ่มในฝันก็พอ แอมป์กับต้นกล้าเหลือบไปมองเล็กน้อยและหันมาดื่มเหล้าต่อ พวกเขาทำเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เผลอๆ ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันก็มี “อื้ออ พี่ไนท์เนยจะเสร็จ อ๊ะ อร้ายย” พรืบ จากเสียงหวานกลายเป็นเสียงร้องโอดโอย เมื่อพันไมล์ดึงเอ็นร้อนออกจากโพรงนุ่มและผลักเธอล้มลงไปที่พื้น ต่อหน้าเพื่อนๆ ของเขา “อะไรกันคะพี่ไนท์” สาวสวยงุนงงว่าเธอทำอะไรไม่พอใจหรือเปล่า เขารูดเครื่องป้องกันออกจากเอ็นร้อนและโยนลง
หลังจากที่ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ชีวิตของหมอนอิงยิ่งทุกข์ไปกว่าเดิม ทุกคนในบ้านต่างรังเกียจเธอแต่เพราะเกรงใจเจ้าของบ้านจึงแกล้งทำดีกับเธอต่อหน้าเขา ราชันที่เอ็นดูเธอมักซื้อข้าวของมาให้จนคนในบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอเป็นเมียลับของเขา “เห็นไหมเด็กสมัยนี้รักความสบายจะตาย ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน”“อายุก็ห่างกันตั้งเท่าไร เขาคงเอ็นดูจนกลายเป็นเอ็น...” เสียงหัวเราะเบาๆ ตามมาก่อนจะกลายเป็นความเงียบเมื่อเห็นเงาใครบางคนเดินผ่านแม้ไม่มีใครพูดตรงๆ ต่อหน้าหมอนอิง แต่คำพูดเหล่านั้นก็เดินมาถึงเธอจนได้ ไม่ว่าจะผ่านน้ำเสียงหัวเราะแผ่วๆ ในครัว หรือแววตาที่ยากจะตีความผิด “หนูอิงจะเอาอะไรจ๊ะ” “อิงจะมาเอาน้ำค่ะ” “ป้าหยิบให้นะ” ป้านีรีบไปหยิบขวดน้ำให้ทันที และส่งยิ้มให้สาวรุ่นลูก หมอนอิงรู้ว่ารอยยิ้มนั้นเป็นการสมเพชเวทนามากกว่าเธอจึงไม่เหลือทางเลือกนอกจากหลบซ่อนเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ราวกับโลกภายนอกเป็นสนามรบ ที่มีแต่คำพูดอาบยาพิษกับสายตาเย็นชาเป็นอาวุธเธอออกมาเพียงเมื่อคุณอธิปเรียกให้ไปทานข้าวเย็นและนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกโดดเดี่ย
เสียงสะอื้นแผ่วเบาเจือปนกับลมหายใจสั่นเทา ก้องอยู่ภายในห้องนอนเก่าโทรมของบ้านเช่าเล็กๆ กลางชุมชนแออัด“ทำไมต้องเป็นอิงทำไมแม่ถึงทำกับอิงแบบนี้...” เสียงของหมอนอิงรำพึงเบาๆ ดวงตาบวมแดงจากหยาดน้ำตาที่ไม่มีท่าทีจะหยุดไหลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เธอถูกเจ้าหนี้บุกมาถึงหน้าบ้าน ทวงเงินก้อนโตพร้อมเสียงตะโกนประจานให้คนทั้งซอย“แม่คุณติดหนี้นายผมเป็นแสนจะใช้คืนเมื่อไหร่!”ขณะที่เพื่อนบ้านยืนมุงมองบางคนก็ส่ายหน้า บางคนก็ซุบซิบเพราะเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก หมอนอิงทำได้เพียงยืนตัวแข็ง สะอึกสะอื้นกลางแสงแดดจ้า หัวใจเหมือนถูกบีบจนแทบขาดหลังเหตุการณ์อัปยศ แม่ของเธอกลับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องใหญ่ เหมือนจะขายลูกกินเสียมากกว่า“ถ้ามึงยังรักครอบครัวอยากให้อิงฟ้ามันได้เรียนสูงๆ มึงก็ไปเป็นเมียเก็บพวกมาเฟีย” พรทิพย์ไม่สงสารลูกสาวคนโตเพราะเกลียดที่ลูกคนนี้เพราะไม่ได้รู้สึกรักในตัวของพ่อหมอนอิงเลยราชันนักธุรกิจหนุ่มผู้มีอิทธิพล เขาคือเจ้าหนี้คนใหม่ ของครอบครัว และเขาไม่ได้ต้องการเงินคืนสิ่งที่เขาต้องการคือเธอ“ไปอยู่เป็นเด็กในบำเรอเขาแค่ไม่กี่ปีหนี้หมด น้องก็ได้เรี