“อื้อ อ๊า พี่ไนท์” เสียงครางกระเส่าของหญิงสาวดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม รวมถึงเสียงพูดคุยของหนุ่มๆ ในห้องวีวีไอพี
“อร้ายย พี่ไนท์อย่าทำแรง”
“อ่าส์ เธอนี่ครางเสียงดังทำอย่างกับสาวบริสุทธิ์ความจริงหลวมยิ่งกว่าอะไร” พันไมล์รีบกระแทกเอ็นร้อนเข้าออกในโพรงนุ่ม
ไม่สนว่าในห้องนี้ไม่ได้มีพวกเขาแค่สองคนแต่ยังมีเพื่อนๆ ของเขาอีก พร้อมกับลูกน้องของพวกเขาอีกสามคน ตอนนี้เขากำลังแสดงหนังสดให้พวกมันดูซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก
“เนยจุกจริงของพี่ใหญ่ อื้ออ” เนยหวานยังครางไม่หยุด ไม่สนใจว่าใครจะหันมามอง แค่ได้ขึ้นสวรรค์กับหนุ่มในฝันก็พอ
แอมป์กับต้นกล้าเหลือบไปมองเล็กน้อยและหันมาดื่มเหล้าต่อ พวกเขาทำเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เผลอๆ ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันก็มี
“อื้ออ พี่ไนท์เนยจะเสร็จ อ๊ะ อร้ายย”
พรืบ
จากเสียงหวานกลายเป็นเสียงร้องโอดโอย เมื่อพันไมล์ดึงเอ็นร้อนออกจากโพรงนุ่มและผลักเธอล้มลงไปที่พื้น ต่อหน้าเพื่อนๆ ของเขา
“อะไรกันคะพี่ไนท์” สาวสวยงุนงงว่าเธอทำอะไรไม่พอใจหรือเปล่า
เขารูดเครื่องป้องกันออกจากเอ็นร้อนและโยนลงถังขยะที่อยู่ข้างมุมห้อง และแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะหันมาพูดกับเพื่อน
“ใครอยากเอาต่อกูเต็มที่คืนนี้กูเลี้ยง” เขาเดินออกไปจากห้องนั้นไม่สนใจว่าสาวสวยที่ควงมา จะรู้สึกยังไงเขาไม่สนเพราะเขาไม่เคยมีความรู้สึกรักใคร
“อร้ายพี่ไนท์ พี่จะทำแบบนี้กับเนยไม่ได้นะ” เนยหวานจะวิ่งตามเขาออกไป แต่ถูกต้นกล้าคว้าตัวเหวี่ยงลงที่พื้นอีกรอบ
“น้องปีหนึ่งทำไมกร้านโลกแบบนี้ว่ะ”
“นั่นดิ ใจกล้าเสียด้วยมาเอากับไอ้ไนท์ต่อหน้าพวกเรา” แอมป์ลูบปลายคางตัวเองเบา
“เลือกมา!”
“เลือกอะไรคะ” เนยหวานรีบหาเสื้อผ้ามาปิดบังร่างกาย
“จะเอากับใครก่อน ถ้าไม่อยากก็เดินออกไป” ต้นกล้ายื่นข้อเสนอให้ พวกเขาไม่ชอบขืนใจผู้หญิง
“ทั้งหมดนี่เลยเหรอคะ” เธอมองไปรอบๆ ทั้งหมดนี้ห้าคนที่กำลังยืนจ้องมองเธอด้วยสายตาที่หื่นกระหาย เธอเองก็ไม่ใช่คนไร้เดียงสา
“จะเอาใครรีบๆ เลือก”
“อื้อ กับพี่ก่อนก็ได้ค่ะ” เนยหวานถูกกระชากผมเงยหน้าขึ้นมารับจูบเขาอย่างกักขฬะ ส่วนล่างมีอีกคนกำลังลูบไล้ ยิ่งทำให้เธอถูกใจครางเสียงกระเส่า ขอร้องให้เขารีบทำ สุกี้หม้อรวมนี่บอกเลยว่าเด็ดมาก
เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นตามทางเดินก่อนร่างสูงของชายหนุ่มจะปรากฏขึ้นตรงประตูครัว ดวงตาเขาเย็นชาอย่างผิดวิสัยท่าทางแข็งกร้าว
หมอนอิงหันมาหาเขาสบตาแววกร้าวนั้นอย่างสับสนไหนคุณลุงบอกว่าเขาไม่ค่อยกลับมานอนที่บ้าน ทำไมช่วงนี้ถึงกลับมาบ่อย
“คุณพันไมล์หลีกทางด้วยค่ะ” เธอกลัวเขามาก ยิ่งได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ โชยออกมาจากตัวเขา
“รับบทผู้หญิงไร้เดียงสา”
“พูดอะไรของคุณ”
“ไปอ้อนพ่อฉันอีท่าไหนเขาถึงยอมส่งเธอเรียนที่มหาลัยแพงๆ ขนาดนั้น” เขาพูดแบบไม่ลังเล
“ไม่ใช่ธุระของคุณ” เธอสอบชิงทุนได้ด้วยตัวเอง ไม่ได้ใช้เงินของพ่อเขาเสียหน่อย
“ตอแหลวะ” เขาเริ่มเข้ามาใกล้
“ไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ”
“อย่าแสร้งทำเป็นใสซื่อดิวะ” เขาพูดเสียงเย็น ลมหายใจกรุ่นด้วยอารมณ์รุนแรง
ตอนนั้นเองที่เขาคิดแผนร้ายขึ้นมาได้ เขาไม่ฟังคำอธิบาย ไม่ให้โอกาสเธอพูดแม้แต่นิดเดียว เขาพูดคำดูถูกเธออย่างไม่ปรานี
“ไหนๆ ก็เป็นเมียน้อยอยู่แล้ว มาขายตัวเพิ่มให้ฉันอีกสักคนจะเป็นไรไป?”
แก้วในมือหลุดร่วงกระแทกพื้นเสียงแก้วแตกไม่เจ็บเท่าเสียงคำพูดของเขา ริมฝีปากเธอสั่นมือกำชายเสื้อแน่น น้ำตารื้นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“มะ ไม่ กรี๊ดดด”
“ร้องดังๆ สิฉันจะเล่นหนังสดให้ทุกคนดู”
หมอนอิงจะวิ่งหนีแต่เขาคว้าตัวเธอไว้ได้ก่อน และถูกเขาลากเข้าไปในอ้อมกอดของเขา เธอดิ้นจนเหนื่อยหอบร้องไห้อ้อนวอนแต่เขาไม่สนใจ
ก่อนจะอุ้มเธอพาดบ่าและเหวี่ยงร่างเล็กๆ ของเธอลงเตียงในห้องเขา มือหนึ่งยันข้างศีรษะเธอไว้ อีกมือกดลงที่ไหล่ ขังเธอไว้ใต้ร่างอย่างไม่ปรานี
ร่างของเธอก็ถูกโยนลงบนเตียงนุ่มแรงกระแทกทำให้เธอเผลอร้องออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความตกใจ
“นี่ใช่มั้ยสิ่งที่เธอต้องการผู้หญิงขายตัว” เขากระซิบ เสียงแหบพร่าราวกับกำลังกลืนอารมณ์บางอย่างไว้ในลำคอ
“ฮึก ฮือ ปล่อยอิง” เธอร้องไห้ส่ายหน้าจนผมสยายเต็มหมอน
“อยากได้เงิน อยากได้ตำแหน่งเมียลับใช่มั้ย”
“ไม่ใช่! คุณเข้าใจผิด!” เธอส่ายหน้าน้ำตาคลอเบ้า
แต่เขาไม่ฟังราวกับในหัวของเขามีเพียงภาพที่ถูกป้อนใส่ความเข้าใจผิดอันเจ็บแสบ
“อื้ออ” เขาบดจูบเธออย่างไม่ปรานี ริมฝีปากของเขากดแนบแน่นกับริมฝีปากเธอ ราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว
หมอนอิงพยายามผลักเขาออกแต่แรงของเธอไม่ทำให้เขาสะทกสะท้าน มือหนารวบมือทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศีรษะ
แคว่ก
“ฮึก อย่าทำปล่อยอิง” เธอรีบปิดทรวงอกไว้ตอนนี้ชุดนอนกลายเป็นเศษผ้าไปแล้ว เธอต้องตกใจอีกรอบตอนที่กระชากแพนตี้จนขาดติดมือเขาไป
“เธอนี่มันหน้าเอาจริงๆ ไม่แปลกที่พ่อฉันติดใจ” เขามองเธอด้วยแววตาแกมดูถูก ยอมรับว่าคนตรงหน้าสวยจนเขาละสายตาไม่ได้
“ฮึก อย่าอิงขอร้อง”
“สายไปแล้วอย่าไม่อยากให้ฉันเอาก็ไสหัวออกไปจากบ้านฉัน แต่คืนนี้ขอชิมหน่อยแล้วกัน”
เขาลุกขึ้นไปจัดการเสื้อผ้าของตัวเอง และรีบจับข้อเท้าของหมอนอิงเมื่อเธอจะหนีลงจากเตียงอีกฝั่ง เขาลากเธอลงมาอยู่ใต้ร่างของเขาอีกครั้ง
“อย่าทำแบบนี้ ฮือ อิงกลัวแล้ว”
“ร้องหาแม่เธอเหรอวะ” เขาหันไปหยิบถุงยางในลิ้นชัก ฉีกสวมมันอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะนำมาจ่อที่โพรงนุ่มและถูไถที่กลีบดอกไม้แสนสวย
หมอนอิงร้องไห้จนดวงตาพร่ามัวทั้งกลัวและรังเกียจเขา แต่ทำอะไรไม่ได้เมื่อร้องไห้จนหมดแรงขอร้องเขาก็แล้ว แต่คนเลวก็ไม่ยอมฟัง
สวบ
“กรี๊ดดดด เจ็บบ” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเอ็นร้อนเข้ามาในโพรงนุ่ม เธอร้องไห้จิกเล็บลงที่แผ่นหลังของเขาอย่างแรง พยายามดิ้นเพื่อให้เขาหยุดทุกอย่างแต่สิ่งที่หวงแหน ตอนนี้ถูกซาตานร้ายพรากมันไปจากเธอแล้ว
พันไมล์ก้มลงไปมองจุดเชื่อมของเธอและเขาที่ตอนนี้มีน้ำสีแดงไหลออกมา ทำให้เขาหยุดชะงักไม่คิดว่าหมอนอิงจะยังไม่เคยผ่านมือชายไหนมาก่อน
“อ่าส์ หมอนอิงอย่าดิ้นโว้ยยย” เขาทรมานยามที่โพรงนุ่มบีบรัดตัวตนของเขา เขาก้มลงไปจูบซับน้ำตาให้เธอ ก่อนจะบดจูบริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง ดันลิ้นเข้าไปกวาดต้อนน้ำหวาน มือหนาบีบเคล้นทรวงอกอวบที่เขาชอบ เพื่อให้เธอผ่อนคลาย
เขาเริ่มขยับสะโพกอีกครั้งคราวนี้เขาเบามือกว่าครั้งแรก ที่คิดว่าเธอเคยผ่านมือผู้ชายมาแล้ว
เสียงครางแหบโหยหลุดออกมาจากลำคอของเธอทุกครั้งที่เขาสัมผัส ราวกับเธอพยายามกลั้นไม่ให้ดัง
พันไมล์กระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างรุนแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องในห้อง ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปตามแรงของเขา ความรู้สึกเร่าร้อนทำให้เธอเผลอครางออกมา
มือบางโอบเขาไว้แม้จะตื่นกลัวแต่สัมผัสของเขาทำให้เธอรู้สึกดี เผลอตอบสนองความต้องการของเขา
“อ่าส์ เธอแม่งเอาโคตรมันส์” เขาครางเสียงกระเส่า มองใบหน้าสวยที่หลับตา ตอนนี้เขาไม่ไหวแล้วมือหนาจับเอวเธอไว้แน่น เร่งจังหวะเข้าออกตามแรงอารมณ์ไม่นานเขาก็ถึงฝั่งฝันไวกว่าปกติ
“ฮึก ปล่อย!”
“ไม่ปล่อยเธอมันนางมารร้าย คืนนี้จะเอาจนเธอคลานลงจากเตียง”
เขารูดถุงยางโยนทิ้งถังขยะและดันเอ็นร้อนเข้าไปแบบไม่มีสิ่งกรีดขวาง เนื้อแนบเนื้ออุ่นนุ่มจนเขาครางออกมาอย่างพอใจ ครั้งแรกที่ทำสดกับผู้หญิงที่เป็นแค่คู่นอน
คืนนั้นเขาไม่ยอมให้หมอนอิงลงไปจากเตียงของเขา จับเธอกินอย่างตะกละตะกลาม จนหญิงสาวหลับคาอกของเขา เมื่อพอใจจึงยอมปล่อยให้เธอพักผ่อน
ราชันมองเวลาตอนนี้สายมากแล้วหมอนอิงยังลงไม่ทานข้าว เมื่อคืนลูกชายของเขากลับมานอนบ้านรายนั้นไม่ต้องถามถึง กว่าจะตื่นมาก็บ่ายโมงแล้ว
“ชะเอมมานี่หน่อย”
“ขาคุณผู้ชาย”
“ไปตามหนูอิงลงมาทานข้าวเช้ามีเรียนหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เอ่อ คือว่า...คือว่า” ชะเอมไม่กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อคืน ตอนเช้าเข้าไปดูในห้องของหมอนอิงกลับไม่เจอหญิงสาว
“มีอะไร!” เขาเริ่มใจคอไม่ดี
“ไม่เจอคุณหมอนอิงในห้องนอนเลยค่ะ”
ราชันเข้าใจในสิ่งที่ชะเอมบอกเขาจึงขึ้นไปเคาะประตูห้องลูกชาย พยายามเคาะเรียกแค่ไหนพันไมล์ไม่มีท่าทีว่าจะเปิดประตู เขาจึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป
ห้องนอนของพันไมล์เหมือนเพิ่งผ่านสมรภูมิมาหยกๆ เขาเห็นเสื้อผ้ากระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เมื่อแน่ใจว่าลูกชายหลับอยู่บนเตียงคนเดียวจึงเข้าไปกระชากให้ตื่น
ลิฟต์หรูเปิดออกสู่เพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุดของตึกสูงใจกลางเมือง หมอนอิงเดินตามหลังเขาเข้ามาเงียบๆ ด้วยกล่องกระดาษใบเดียวในมือกล่องที่บรรจุของส่วนตัวทั้งหมดที่เธอมีมันไม่ได้มีค่าในสายตาใคร แต่สำหรับเธอมันคือเศษเสี้ยวของชีวิตที่ยังเหลืออยู่พันไมล์เดินนำหน้า ไม่หันกลับมามองแม้แต่นิด และก่อนที่เธอจะก้าวพ้นประตูกระจกเข้ามาเต็มตัว เสียงเย็นชาของเขาก็กระแทกเข้าหู“เพราะเธอคนเดียว! ทำให้ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้”เธอสะดุ้งก้มหน้ารับความผิดเงียบๆ ก่อนจะเดินต่อไปอย่างไม่กล้าสบตา “กะอีแค่เสียตัวแม่งทำเป็นร้องไห้จะเป็นจะตาย”ทันใดนั้นกล่องในมือเธอก็ถูกปัดกระเด็นด้วยแรงที่ไม่ออมมือพรึ่บ!ข้าวของในกระจายเกลื่อนพื้นหินอ่อน ตกกระแทกพื้นจนกระจัดกระจาย“ฮึก” เธอตกใจจนเผลอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร้องไห้จนตัวสั่น ทำให้เขายิ่งขัดหูขัดตา“โว้ยยย ร้องหาแม่เธออะไรนักหนา!” เสียงคำรามดังลั่นภายในเพนท์เฮ้าส์หรูสะท้อนก้องไปทั่วผนังกระจกเขายกเท้าเหยียบกรอบรูปของเธอซ้ำราวกับเป็นของไร้ค่า เสียงแตกเป๊าะของกระจกเล็กๆ ดังขึ้นพร้อมกับเสียงสะอื้นในลำคอของหญิงสาว“อย่าทำนะ” เธอมองรูปถ่ายของพ่อที่ถูกเขาเหยียบ ห้ามเขาก็แล้ว
“ไอ้ไนท์ไอ้ลูกเลว!” เสียงนั้นแผดลั่นจนสะเทือนผนัง ราวกับพายุกำลังถาโถมเข้ามากลางห้องนอนพันไมล์สะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือสมองยังพร่ามัวจากฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น“อะ พ่อ” เขาขมวดคิ้ว เสียงแหบพร่าพูดออกมาเบาๆ แต่คำต่อไปของเขากลับถูก ฝ่ามือของผู้เป็นพ่อฟาดลงบนแก้มซ้ายเต็มแรง!เพียะ!!เสียงตบดังสนั่น ร่างของพันไมล์เซหัวไปตามแรงกระแทก“สติกลับมายัง! หรือจะให้ฉันตบซ้ำอีก!” เสียงของผู้เป็นพ่อดุดัน เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธและผิดหวังพันไมล์ยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเอง รอยแดงฉาดเริ่มขึ้นทันตา ความเจ็บแปลบทะลุเข้าถึงเบื้องลึกของสติที่เคยขุ่นมัวเขาส่างเมาทันที ราวกับทุกอย่างถูกราดด้วยน้ำเย็นจัดในพริบตาเดียว“คุณพ่อมาตบผมทำไม” เขาพูดเสียงเบา ดวงตายังสับสน“ยังจะมีหน้ามาถามอีกเมื่อคืนแกทำอะไรหนูอิง ห๊ะ!?” ราชันจ้องหน้าเขาเขม็ง ดวงตาเต็มไปด้วยความคุกรุ่นที่ไม่ใช่แค่โกรธ แต่ปนผิดหวังอย่างรุนแรงเขารีบหันไปมองข้างกายแต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่า ไม่รู้ว่าหมอนอิงออกไปจากห้องเขาตั้งแต่ตอนไหน พอหันกลับมาจะตอบพ่อกลับถูกตบซ้ำอีกรอบเพียะ“ฉันไม่เคยสั่งสอนแกให้เป็นคนแบบนี้ไอ
“อื้อ อ๊า พี่ไนท์” เสียงครางกระเส่าของหญิงสาวดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม รวมถึงเสียงพูดคุยของหนุ่มๆ ในห้องวีวีไอพี “อร้ายย พี่ไนท์อย่าทำแรง” “อ่าส์ เธอนี่ครางเสียงดังทำอย่างกับสาวบริสุทธิ์ความจริงหลวมยิ่งกว่าอะไร” พันไมล์รีบกระแทกเอ็นร้อนเข้าออกในโพรงนุ่ม ไม่สนว่าในห้องนี้ไม่ได้มีพวกเขาแค่สองคนแต่ยังมีเพื่อนๆ ของเขาอีก พร้อมกับลูกน้องของพวกเขาอีกสามคน ตอนนี้เขากำลังแสดงหนังสดให้พวกมันดูซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก “เนยจุกจริงของพี่ใหญ่ อื้ออ” เนยหวานยังครางไม่หยุด ไม่สนใจว่าใครจะหันมามอง แค่ได้ขึ้นสวรรค์กับหนุ่มในฝันก็พอ แอมป์กับต้นกล้าเหลือบไปมองเล็กน้อยและหันมาดื่มเหล้าต่อ พวกเขาทำเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เผลอๆ ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันก็มี “อื้ออ พี่ไนท์เนยจะเสร็จ อ๊ะ อร้ายย” พรืบ จากเสียงหวานกลายเป็นเสียงร้องโอดโอย เมื่อพันไมล์ดึงเอ็นร้อนออกจากโพรงนุ่มและผลักเธอล้มลงไปที่พื้น ต่อหน้าเพื่อนๆ ของเขา “อะไรกันคะพี่ไนท์” สาวสวยงุนงงว่าเธอทำอะไรไม่พอใจหรือเปล่า เขารูดเครื่องป้องกันออกจากเอ็นร้อนและโยนลง
หลังจากที่ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ชีวิตของหมอนอิงยิ่งทุกข์ไปกว่าเดิม ทุกคนในบ้านต่างรังเกียจเธอแต่เพราะเกรงใจเจ้าของบ้านจึงแกล้งทำดีกับเธอต่อหน้าเขา ราชันที่เอ็นดูเธอมักซื้อข้าวของมาให้จนคนในบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอเป็นเมียลับของเขา “เห็นไหมเด็กสมัยนี้รักความสบายจะตาย ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน”“อายุก็ห่างกันตั้งเท่าไร เขาคงเอ็นดูจนกลายเป็นเอ็น...” เสียงหัวเราะเบาๆ ตามมาก่อนจะกลายเป็นความเงียบเมื่อเห็นเงาใครบางคนเดินผ่านแม้ไม่มีใครพูดตรงๆ ต่อหน้าหมอนอิง แต่คำพูดเหล่านั้นก็เดินมาถึงเธอจนได้ ไม่ว่าจะผ่านน้ำเสียงหัวเราะแผ่วๆ ในครัว หรือแววตาที่ยากจะตีความผิด “หนูอิงจะเอาอะไรจ๊ะ” “อิงจะมาเอาน้ำค่ะ” “ป้าหยิบให้นะ” ป้านีรีบไปหยิบขวดน้ำให้ทันที และส่งยิ้มให้สาวรุ่นลูก หมอนอิงรู้ว่ารอยยิ้มนั้นเป็นการสมเพชเวทนามากกว่าเธอจึงไม่เหลือทางเลือกนอกจากหลบซ่อนเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ราวกับโลกภายนอกเป็นสนามรบ ที่มีแต่คำพูดอาบยาพิษกับสายตาเย็นชาเป็นอาวุธเธอออกมาเพียงเมื่อคุณอธิปเรียกให้ไปทานข้าวเย็นและนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกโดดเดี่ย
เสียงสะอื้นแผ่วเบาเจือปนกับลมหายใจสั่นเทา ก้องอยู่ภายในห้องนอนเก่าโทรมของบ้านเช่าเล็กๆ กลางชุมชนแออัด“ทำไมต้องเป็นอิงทำไมแม่ถึงทำกับอิงแบบนี้...” เสียงของหมอนอิงรำพึงเบาๆ ดวงตาบวมแดงจากหยาดน้ำตาที่ไม่มีท่าทีจะหยุดไหลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เธอถูกเจ้าหนี้บุกมาถึงหน้าบ้าน ทวงเงินก้อนโตพร้อมเสียงตะโกนประจานให้คนทั้งซอย“แม่คุณติดหนี้นายผมเป็นแสนจะใช้คืนเมื่อไหร่!”ขณะที่เพื่อนบ้านยืนมุงมองบางคนก็ส่ายหน้า บางคนก็ซุบซิบเพราะเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก หมอนอิงทำได้เพียงยืนตัวแข็ง สะอึกสะอื้นกลางแสงแดดจ้า หัวใจเหมือนถูกบีบจนแทบขาดหลังเหตุการณ์อัปยศ แม่ของเธอกลับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องใหญ่ เหมือนจะขายลูกกินเสียมากกว่า“ถ้ามึงยังรักครอบครัวอยากให้อิงฟ้ามันได้เรียนสูงๆ มึงก็ไปเป็นเมียเก็บพวกมาเฟีย” พรทิพย์ไม่สงสารลูกสาวคนโตเพราะเกลียดที่ลูกคนนี้เพราะไม่ได้รู้สึกรักในตัวของพ่อหมอนอิงเลยราชันนักธุรกิจหนุ่มผู้มีอิทธิพล เขาคือเจ้าหนี้คนใหม่ ของครอบครัว และเขาไม่ได้ต้องการเงินคืนสิ่งที่เขาต้องการคือเธอ“ไปอยู่เป็นเด็กในบำเรอเขาแค่ไม่กี่ปีหนี้หมด น้องก็ได้เรี