เช้าวันพุธพิมพ์พลอยตื่นแต่เช้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเพราะวันนี้หญิงสาวจะเข้าไปทำธุระในเมืองกับนายหัวธนธรรศซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะไปกับเขา หญิงสาวบอกเรื่องนี้กับน้าอัมพรแล้วและน้าสาวของเธอก็เห็นด้วยที่เธอจะไปกับนายหัวเราะเพราะอย่างน้อยก็มีคนไปเป็นเพื่อนระหว่างเดินทาง
พอถึงเวลานัดรถกระบะคันคุ้นตาก็ขับมาจอดเทียบหน้าร้าน นายหัวธนธรรศก้าวลงจากรถด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบซึ่งวันนี้เขาดูต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเธอเห็นแต่เขาสวมเสื้อสีเข้มหรือไม่ก็เสื้อลายตารางหมากรุก
“สวัสดีครับพลอย พร้อมไหม” เขาทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“สวัสดีค่ะนายหัว พลอยพร้อมแล้วค่ะ” พิมพ์พลอยยิ้มตอบวันนี้หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตแขนกุดกับกางเกงผ้าขายาวสีเบจ ดูทะมัดทะแมงแต่ก็ยังคงความน่ารัก
“ไปกันเลยไหมครับ” นายหัวธนธรรศผายมือเชื้อเชิญให้พิมพ์พลอยขึ้นรถ เมื่อก้าวขึ้นไปนั่งข้างเขาแล้วก็ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูกทำให้เธอรู้สึกใจเต้นแรง
พวกเขาเริ่มต้นวันด้วยการแวะทานข้าวเช้าที่ร้านโรตีชื่อดังในตัวอำเภออ่าวลึก นายหัวธนธรรศสั่งโรตีแกงเนื้อให้พิมพ์พลอยลองชิม ซึ่งเป็นเมนูที่เธอไม่เคยกินมาก่อน
“อร่อยไหมครับ” เขาถามพิมพ์พลอยที่กำลังเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“อร่อยมากเลยค่ะนายหัว พลอยไม่เคยกินโรตีแกงเนื้อเลยค่ะ ปกติพลอยกินแต่โรตีธรรมดาค่ะ” พิมพ์พลอยตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง แววตาเป็นประกายด้วยความสุข
“ถ้าอย่างนั้น วันหลังผมจะพาพลอยไปลองอะไรอร่อยๆ อีกเยอะเลย” เขาเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหมาย ทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า
“ยินดีเลยค่ะ เรื่องกินพลอยก็สู้ไม่ถอยเหมือนกันค่ะ”
หลังจากทานอาหารเช้าจนอิ่มแล้วทั้งคู่ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ นายหัวธนธรรศพาพิมพ์พลอยไปที่ร้านขายปุ๋ยขนาดใหญ่ก่อนเป็นอันดับแรก เขาใช้เวลาไม่นานในการพูดคุยกับเจ้าของร้านและสั่งสินค้าล็อตใหญ่ หญิงสาวยืนมองเขาพูดคุยด้วยท่าทางจริงจังซึ่งเธอไม่เคยเห็นเวลาเขาทำงานมาก่อน เขาจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วนในเวลาไม่นาน
“เสร็จแล้วพลอย ต่อไปจะไปร้านค้าส่งที่คุณอยากไปใช่ไหมครับ” นายหัวธนธรรศหันมาถามระหว่างพากันเดินกลับไปที่รถ
“ใช่ค่ะ”
“พลอยจะไปร้านไหนบ้างครับ”
หญิงสาวบอกชื่อร้านที่เธอต้องไปติดต่อให้กับนายหัวธนธรรศจากนั้นเขาก็พาเธอไปตามร้านที่เธอบอก
นายหัวหนุ่มพาพิมพ์พลอยไปยังร้านค้าส่งขนาดใหญ่ที่เธอต้องการ หญิงสาวใช้เวลาเลือกสินค้าที่จะเอาไปวางขายอย่างละเอียดโดยมีนายหัวธนธรรศเดินตามเธอไปเงียบๆ
บางครั้งเขาก็คอยช่วยเธอหยิบของที่อยู่สูงเกินเอื้อมและช่วยเข็นรถเข็นให้ ท่าทางของเขาดูไม่เบื่อที่จะต้องเดินตามและยังเสนอความคิดเห็นกับสินค้าบางตัว มันเลยทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“วันนี้พลอยทำธุระเสร็จเร็วกว่าที่คิดต้องขอบคุณนายหัวนะคะที่ช่วยพลอยตัดสินใจในบางเรื่องเพราะบางทีพลอยมาคนเดียวก็ตัดสินใจยากค่ะ”
“พุธหน้าผมจะมาช่วยเลือกอีกดีไหมคะ”
“ถ้าเป็นพุธหน้าพลอยคงไม่ต้องเข้ามาแล้วค่ะ เพราะคิดว่าได้ของที่ต้องการครบแล้วที่เหลือก็แค่โทรสั่งให้เขาเอาไปส่งหรือไม่ก็ใช่บริการขนส่งค่ะ”
“ถ้าไม่ต้องซื้อของก็มีเวลาทำอย่างอื่น” นายหัวธนธรรศพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำอย่างอื่นเหรอคะ นายหัวหมายถึงอะไร” พิมพ์พลอยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เราจะได้เที่ยวด้วยกันไงครับ ตั้งแต่กลับมาได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือยังล่ะ”
“ก็มีบ้างคะ”
“เรื่องเที่ยวคงต้องคิดว่าจะไปไหนแต่วันนี้เรา ไปดูหนังกันไหมครับ” เขาเอ่ยชวนอย่างกะทันหัน ทำให้พิมพ์พลอยถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
“พลอยไม่ได้ดูหนังมานานแล้วเหมือนกันค่ะ นายหัวไม่รับกลับใช่ไหมคะ”
“ไม่ครับวันนี้ผมว่างทั้งวัน พลอยเองก็ทำงานมาตลอดผมว่าเป็นการพักผ่อนนะครับ” นายหัวธนธรรศยังคงคะยั้นคะยอ น้ำเสียงของเขาไม่ใช่การบังคับแต่เป็นการขอที่ฟังแล้วต้องยอมตามใจ
“ถ้างั้นก็ตกลงค่ะ” พิมพ์พลอยตอบตกลงในที่สุด รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
หลังจากดูหนังจบนายหัวธนธรรศก็ชวนพิมพ์พลอยไปนั่งดื่มที่ร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่งในตัวเมือง
บรรยากาศของร้านโรแมนติกมาก มีแสงไฟสลัวๆ และเสียงคลื่นซัดสาดเข้าฝั่งเบาๆ ทั้งคู่สั่งอาหารทะเลมาทาน พร้อมกับเครื่องดื่มเบาๆ
“พลอยดูเครียดๆ นะครับ” นายหัวธนธรรศเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นพิมพ์พลอยนั่งเหม่อมองออกไปนอกทะเล แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“พลอยเห็นทะเลแล้วทำให้คิดถึงเรื่องเก่าค่ะ”
“เรื่องที่บอกจะเล่าให้ผมฟังใช่ไหม วันนี้พร้อมจะเล่าไหม” นายหัวหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เขายื่นมือมาวางบนหลังมือของพิมพ์พลอยทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดึงมือออกไป
สัมผัสที่อ่อนโยนของเขาทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด เธอตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง ตั้งแต่เรื่องที่จับได้ว่าชลวิทย์นอกใจไปกับกัญญาวีร์เพื่อนสนิทของเธอ ความเจ็บปวดที่เธอต้องเผชิญ การตัดสินใจลาออกจากงาน และการกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อ่าวลึก
ขณะเล่าพิมพ์พลอยก็รู้สึกเหมือนมีก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่ลำคอตันนี้เธอไม่ได้ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว การเล่าออกมามันทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก ราวกับว่ากำแพงในใจที่เธอก่อขึ้นมาเริ่มพังทลายลงทีละน้อยเมื่อนายหัวธนธรรศรับฟังอย่างตั้งใจเขาไม่พูดแทรกและไม่ตัดสินเพียงแค่บีบมือของเธอเพื่อปลอบโยน
“ตอนนั้นพลอยเสียใจมากเสียใจที่สุดใน ไม่คิดเลยว่าคนที่พลอยรักและไว้ใจที่สุดจะทำกับพลอยได้ลงคอ”
นายหัวธนธรรศเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองพิมพ์พลอยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ ความรู้สึกบางอย่างที่มากกว่าความสงสารเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา
“แต่พลอยก็เข้มแข็งมากนะครับที่ผ่านเรื่องราวแบบนั้นมาได้คนอย่างพวกนั้นไม่คู่ควรกับความรักของคุณพิมพ์พลอยหรอกครับ”
คำพูดของเขาทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกเหมือนมีใครบางคนเข้าใจเธออย่างแท้จริง ความใกล้ชิดและการระบายความในใจทำให้หญิงสาวรู้สึกสบายใจมากรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยภาระหนักอึ้งที่แบกไว้ในใจมานานแสนนาน
ทั้งสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ แลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตให้กันฟังมากขึ้น พิมพ์พลอยเริ่มเห็นอีกมุมหนึ่งของนายหัวธนธรรศ เขาไม่ได้มีแค่การทำงานอย่างจริงจังและดูมีอำนาจแต่เขายังมีด้านที่อ่อนโยนอบอุ่นและเข้าใจผู้อื่น ส่วนนายหัวธนธรรศเองก็เห็นถึงความเข้มแข็งภายใต้ความบอบบางของพิมพ์พลอย
เมื่อเวลาผ่านไปจนดึก ทั้งคู่ก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกบางอย่างที่มองไม่เห็นเริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขา มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน แต่ก็รุนแรงพอที่จะทำให้หัวใจของทั้งคู่เต้นไม่เป็นจังหวะ ทุกครั้งที่สายตาของทั้งคู่สบกัน ก็เหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านร่างกาย บรรยากาศรอบตัวเริ่มอบอวลไปด้วยความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเพื่อนหรือคนรู้จัก"
พิมพ์พลอยรู้ดีว่าเธอกำลังก้าวข้ามเส้นบางๆ ที่เคยวางไว้ และนายหัวธนธรรศก็เช่นกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างพิมพ์พลอยกับนายหัวธนธรรศนับวันยิ่งพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ แม้จะยังคงอยู่ในสถานะคู่นอนที่พิมพ์พลอยเป็นฝ่ายกำหนด แต่การกระทำของนายหัวธนธรรศกลับบ่งบอกถึงความรู้สึกที่มากกว่านั้น เขาไม่ได้มาแค่ที่ร้านแต่ยังชวนเธอไปทานอาหารค่ำที่บ้านของเขาอยู่หลายครั้ง โดยอ้างว่าให้เธอไปช่วยงานเรื่องบัญชีของสวนปาล์ม ซึ่งพิมพ์พลอยเองก็เต็มใจที่จะช่วยเพราะเธอมีความรู้ด้านนี้อยู่แล้วทุกครั้งที่พิมพ์พลอยไปที่บ้านของนายหัวธนธรรศ น้าอัมพรก็จะคอยมองแล้วยิ้มแต่ไม่พูดอะไร น้าอัมพรเองก็สังเกตเห็นถึงความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างหลานสาวกับเจ้านายหนุ่มของเธอ แววตาที่นายหัวธนธรรศมองพิมพ์พลอย ความเอาใจใส่ที่เขามีให้ มันไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ในแบบคนรู้จักทั่วไปแต่ดูเหมือนจะมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นมากนัก แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่และรู้กาลเทศะ น้าอัมพรจึงไม่กล้าที่จะถามตรงๆเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย เธอจึงเลือกที่จะเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ และคิดว่าจะรออีกสักพักค่อยถามพิมพ์พลอยเมื่อเห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองชัดเจนขึ้นวันนี้เป็นวันพุธพิมพ์พลอยไม่ได้เข้าเมืองไปซื้อของเหมือนทุกครั้ง
หญิงสาวดิ้นทุรนทุรายร้องขอ นายหัวหนุ่มเองก็กัดฟันกรอดเขาพยายามดันตัวต้นเข้าไปทีละนิด พลางก้มลงจูบหญิงสาวอย่างปลุกเร้า สองมือคลึงขยี้เต้างามปรนเปรอทุกสัดส่วนให้หญิงสาวผ่อนคลาย ก่อนที่จะกระแทกเข้าทีเดียวจนสุดลำ“อ๊ะ!....”พิมพ์พลอยกรีดครางสะดุ้งทั้งเจ็บและจุกไปในคราเดียวกัน“อ่าพลอย มันแน่นมาก ผมขยับนะ”หญิงสาวบิดกายไปมาช่องทางรักของเธอก็บีบรัดจนนายหัวหนุ่มทนไม่ไหวเขาขยับสะโพกกดย้ำในจังหวะตื้นๆ เพื่อให้เธอได้ปรับตัวกับความใหญ่โตของตนเองเขาเริ่มขยับสะโพกเร็วขึ้นไปตามอารมณ์ปรารถนา ยิ่งขยับเท่าไหร่ความคับแน่นก็ตอดรัดมากขึ้น ช่องทางรักของพิมพ์พลอยทั้งตอดทั้งลึกและดูดเขาราวกับข้างในนั้นเป็นสุญญากาศ ธนธรรศขยับสะโพกกดนวดก่อนจะเน้นจังหวะรัวเร็ว“นายหัวแบบนั้นค่ะ แรงๆ เลยค่ะนายพลอยเสียว อื้อ...นายหัวขาพลอยเสียวมาก”พิมพ์พลอยครางเสียงกระเส่า ดวงตาฉ่ำปรือ ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยไฟพิศวาสเธอจิกปลายนิ้วลงบนแผ่นหลังของเขาอย่างแรง สองขาก็เกี่ยวรัดสะโพกแกร่งของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยหญิงสาวไม่หลงเหลือความอับอายอีกต่อไปแล้ว เธอร้องขอให้เขากระแทกแก่นกายเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ ทุกจังหวะท่อนเอ็นเข้ามาลึกเธอก็รู้ส
นายหัวธรธรรศเข้าใจความต้องการของพิมพ์พลอยเป็นอย่างดีเขายิ้มและเพิ่มแรงบีบที่เต้าอีกข้าง ขณะที่ปากอีกข้างก็ดูดดึงอย่างเร่าร้อนจนควบคุมตัวเองไม่อยู่“อ๊ะ!....อื้อ....”หญิงสาวร้องครางหวาน ร่างกายแอ่นโค้งเข้าหานายหัวหนุ่ม เมื่อเขาดูดดึงแรงขึ้น ความเสียวซ่านก็แล่นพล่านไปทั่วร่างจนหญิงสาวควบคุมตัวเองไม่อยู่ มือเล็กๆ ของเธอกรีดไปบนผิวแน่นของนายหัวธนธรรศจนขึ้นรอยแดง แต่ชายหนุ่มไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ความรู้สึกร้อนรุ่มในกายของเขากำลังถูกจุดให้ลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนา“ชอบให้ผมกินตรงนี้ไหม”เขาถามเสียงแหบพร่า สอดลิ้นเลียยอดถันอย่างช่ำชอง“พลอยชอบ นายหัวกินนมพลอยนะคะ นายหัวขาพลอยชอบที่สุด”หญิงสาวร้องขอเหมือนคนสติหลุดออกจากร่าง ทุกสิ่งที่แสดงออกมันมาจากจิตใต้สำนึกที่เธอควบคุมมันไม่ได้อีกต่อไป“อื้อ....นายหัว”นายหัวธนธรรศดูดกินเต้าคู่งามของพิมพ์พลอยจนพอใจ ก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนลงมายังหน้าท้องน้อยของเธอ เขาดูดดึงขบเม้มผิวขาวเนียนอย่างเมามัน ทุกครั้งที่เขาขบเม้ม พิมพ์พลอยก็ครางสะท้าน เสียงของหญิงสาวช่างไพเราะราวกับเสียงดนตรีที่เขาชอบฟังปากร้อนยังคงขบเม้ม ขณะที่มืออีกข้างที่ว่างก็จับเรียวขาของเธอให้แ
“นายหัวคะขับเร็วอีกนิดได้ไหมคะ” พิมพ์รู้สึกว่าตัวเองมีอาการแปลกๆ จึงอยากไปให้ถึงที่พัก“พลอยเป็นอะไรหรือเปล่า เมาใช่ไหม” เขาถามอย่างห่วงใย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พลอยดื่มไปไม่กี่แล้วเองนะคะไม่น่าจะเมาหรอกค่ะ แต่พลอยรู้สึกร้อนมาก พลอยอยากอาบน้ำค่ะ” หญิงสาวปรับแอร์ในรถให้เย็นลงแต่มันไม่ช่วยอะไรเลยนายหัวธนธรรศรีบเหยียบคันเร่งตามที่เธอบอก ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคอนโดของเขาเมื่อประตูห้องเปิดพิมพ์พลอยก็รีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองและเปิดฝักบัวอาบน้ำแต่ยิ่งอาบก็กลับยิ่งร่างกายกับร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะเป็นแบบนี้มาก่อน ยิ่งปลายนิ้วสัมผัสลงบนผิวของตัวเอง ความร้อนก็ยิ่งแผดเผาจนรู้สึกเหมือนจะหลอมละลายพิมพ์พลอยคิดว่าสายน้ำคงไม่ช่วยอะไรมากหญิงสาวจึงรีบแต่งตัวและใส่ชุดนอนออกมาหาน้ำเย็นเพื่อดับร้อน“พลอยอาบน้ำแล้วดีขึ้นไหม”“ไม่เลยค่ะตอนนี้พลอยอยากได้น้ำเย็นๆ มากกว่า” พิมพ์พลอยตอบด้วยเสียงที่สั่นพร่า ดวงตาฉ่ำปรือบ่งบอกถึงความทรมาน เธอเดินตรงไปยังตู้เย็น เปิดออกแล้วคว้าน้ำดื่มเย็นเฉียบออกมา แต่เพียงแค่จิบเข้าไปความเย็นนั้นกลับไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย ความร้อนยังคงคุกรุ่นอยู่ข้างในจนเธอแ
นายหัวธนธรรศขับรถพาพิมพ์พลอยมานั่งดื่มที่ผับของธนัท เพื่อนสนิทของเขาในตัวเมืองกระบี่ บรรยากาศในผับคึกคักไปด้วยเสียงเพลงและผู้คนมากมาย ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพพิมพ์พลอยก็ไม่ได้มาเที่ยวผับแบบนี้เลยหญิงสาวจึงรู้สึกสนุกและผ่อนคลายบ่อย“พลอยครับ นี่ธนัท เจ้าของผับนี้และเป็นเพื่อนสนิทของผมครับ” นายหัวธนธรรศแนะนำพิมพ์พลอยให้รู้จักกับธนัทชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมเข้มที่มีรอยยิ้มเป็นมิตร“สวัสดีค่ะคุณธนัท”“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพลอย ได้ยินไอ้ธรรศพูดถึงคุณบ่อยๆ เลยครับ” ธนัทเอ่ยทักทายพร้อมกับยิ้มกว้าง“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณธนัท” พิมพ์พลอยยิ้มรับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร เธอรู้สึกดีใจที่เขาพามาแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนของเขา“แล้วนี่นายดิวครับ เพื่อนสนิทอีกคนของผม” นายหัวธนธรรศแนะนำพิมพ์พลอยให้รู้จักกับฐิติธัชช์ครูหนุ่มที่ดูเรียบร้อยกว่าเพื่อนทั้งสองคน“สวัสดีครับคุณพลอย ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ฐิติธัชช์ยิ้มทักทายอย่างสุภาพ“สวัสดีค่ะคุณดิว ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” พิมพ์พลอยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ของนายหัวธนธรรศ พวกเขาดูเป็นกันเองและเป็นมิตร ทำให้เธอรู้สึกสบายใ
หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นพิมพ์พลอยก็ยังไม่ได้เจอกับนายหัวธนธรรศเลยแต่เขาและเธอก็ยังคงโทรศัพท์คุยกันอยู่เป็นประจำจนกระทั่งวันอังคารนายหัวก็มาหาเธอที่ร้านในเวลาบ่ายซึ่งเป็นเวลาที่เขารู้ดีว่าไม่มีลูกค้ามากเท่าไหร่ทำให้ได้คุยกับพิมพ์พลอยนานกว่าเวลาปกติซึ่งจะมีลูกค้าเข้ามาแทบจะตลอดเวลา“ทำอะไรอยู่พลอยกินข้าวหรือยัง” คำทักทายธรรมดาแต่ทำให้คนฟังดีใจที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง“สวัสดีค่ะนายหัวพลอยกินข้าวแล้วค่ะ” หญิงสาวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่ได้เจอกับเขาอีกครั้งแต่ก็พยายามรักษาสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติคำพูดที่บอกเขาว่าเธอกับเขาจะเป็นคู่นอน มันทำให้สถานการณ์ค่อนข้างอึดอัดแต่หญิงสาวก็ตัดสินใจแล้วว่าจะคบกับเขาแบบนี้ไปก่อนเพราะยังกลัวความสัมพันธ์แบบผูกมัด“แล้วนายหัวล่ะคะวันนี้มาซื้ออะไร”“จริงๆ อยากจะมาซื้อแม่ค้านะแต่คงสู้ราคาไม่ไหวหรอก” เขาพูดพลางหัวเราะ“ถึงนายหัวสู้ราคาไหวก็ไม่มีใครขายให้นายหัวหรอกค่ะ”“นั่นสินะ โกรธไหมที่ผมพูดแบบนี้”“ไม่หรอกค่ะพลอยรู้ว่านายหัวพูดเล่น แล้วตกลงที่มาวันนี้มาทำอะไรคะ”“จะชวนเข้าเมืองครับ”“แต่พุธนี้พลอยไม่มีอะไรที่จะต้องซื้อเลยค่ะ” เธอ“ก็ไม่ได้ชวนไปซื้อของสักหน่