พิมพ์พลอยหอบหัวใจที่บอบช้ำหลับบ้านเกิดเพราะถูกคนรักและเพื่อสนิทหักหลัง เธอกลับไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายจนกกระทั่งได้เจอกับนายหัวธนธรรศ เขาเข้าทำให้หัวใจเธอกลับมาแข็งแรงอีกครั้งด้วยไฟรักและไฟพิศวาสที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน
view moreพิมพ์พลอยหญิงสาววัยสิบสี่ปีขับรถยนต์คันเล็กที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตนกลับเองกลับมาจากงานเลี้ยงสิ้นปีของบริษัทที่เธอแอบออกมาก่อนงานจะเลิกเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดยาวและชลวิทย์แฟนหนุ่มของเธอบอกว่าจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดพรุ่งนี้เช้า
หญิงสาวอยากเอาเครื่องนวดเท้าอัตโนมัติที่ซื้อมาเมื่อหลายวันก่อนเธออยากจะฝากให้เขาเอาไปให้มารดาของเขา
เธอกับชลวิทย์คบหากันมาได้หนึ่งปีแล้ว ช่วงครึ่งปีหลังทั้งสองไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไหร่เพราะเขาออกไปดูไซต์งานที่ต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังโทรศัพท์คุยกันอยู่เกือบทุกวัน
พิมพ์พลอยขับรถมาจอดหน้าคอนโดหรูที่ชลวิทย์เช่าอยู่หญิงสาวเอาคีย์การ์ดที่คนรักของเธอเคยให้ไว้เพื่อเข้าลิฟต์ไปยังห้องของชายหนุ่มที่อยู่ชั้น 19 เธอไม่ได้บอกเขาล่วงหน้าเพราะโทรศัพท์ของเธอแบตหมดตั้งแต่อยู่ในงานเลี้ยงเมื่อช่วงหัวค่ำ
พิมพ์พลอยเปิดประตูห้องเขามาก็ตกใจจนกรี๊ดออกมาจนสุดเสียง หญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงเพราะภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันเกินกว่าเธอจะรับไหว เมื่อชลวิทย์แฟนหนุ่มของเธอที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนเตียงกว้าง
หญิงสาวอยากจะกรี๊ดเป็นครั้งที่สองแต่เสียงก็ถูกกลืนหายไปในลำคอและจุกจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือกัญญาวีร์หรือการ์ตูนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เธอไว้ใจที่สุด เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมันตอกย้ำให้ทุกอย่างชัดเจนว่าทั้งสองคนกำลังทำเรื่องเลวร้ายที่สุดเท่าที่เธอจะจินตนาการถึง
“พี่วิทย์ พี่ทำอะไรลงไป แล้วแก...การ์ตูนแกทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” พิมพ์พลอยตะโกนถามด้วยความโมโห ดวงตาเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ ความเสียใจและผิดหวังเกินจะทนรับไหว น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เพราะไม่คิดว่าคนรักทั้งสองหักหลัง
ชลวิทย์สะดุ้งสุดตัวเขารีบผละออกจากร่างของกัญญาวีร์และดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายเอาไว้ ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“พลอยใจเย็นๆ ก่อนนะ มันไม่ใช่แบบที่พลอยคิดนะ เรื่องนี้พี่อธิบายได้” ชลวิทย์พยายามอธิบายเสียงตะกุกตะกัก สมองกำลังคิดหาวิธีพูดกับคนรัก
“เห็นตำตาแบบนี้พี่วิทย์จะอธิบายว่ายังไงคะ” พิมพ์พลอยหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาราวกับคนเสียสติ
“คือ....”
“ยังคิดหาคำพูดไม่ถูกเหรอคะ หรือพี่กำลังจะบอกว่าพลอยตาฝาด” เธอพูดแล้วมองไปยังผู้หญิงอีกคนที่นอนเงียบอยู่บนเตียง
“ไม่เอาน่าพลอยมันก็แค่สัมพันธ์ทางกาย” ชลวิทย์พูดด้วยความเห็นแก่ตัวเพราะถ้าต้องเลือกระหว่างผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงกับพิมพ์พลอยเขาก็ตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก
คนหนึ่งเขาได้เธอมาเป็นของเขาแล้วส่วนอีกคนเขายังคงรอคอยให้ถึงวันนั้นและคนอย่างเขาจะไม่ยอมเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เพียงแค่อาจจะใช้เวลารอคอยนานไปหน่อยเท่านั้น
“พี่วิทย์พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรได้ไหมการ์ตูน” ชลวิทย์หันไปทำเสียงดุใส่
“ทำไมถึงห้ามล่ะคะ นั่นเพื่อนสนิทที่สุดของพลอยเลยนะ จะไม่ให้เราทักทายกันหน่อยเหรอ การ์ตูนแกมีอะไรจะพูดกับฉันไหม”
“พลอยแกฟังฉันก่อนนะ ฉันขอโทษ” กัญญาวีร์ไม่คิดมาก่อนว่าพิมพ์พลอยจะรู้เรื่องของเธอกับชลวิทย์นานกว่าที่คิดไว้
“แกจะไม่ต้องพูดคำว่าขอโทษถ้าแกคิดให้ดีก่อนจะหักหลังฉัน มันนานแค่ไหนแล้วที่แกกับพี่วิทย์ทำเรื่องแบบนี้” พิมพ์พลอยพูดออกมาด้วยความเสียใจ กัญญาวีร์เคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพิมพ์พลอยแต่ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุดในสายตาเธอ
กัญญาวีร์ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเพราะสิ่งที่เธอทำลับหลังเพื่อนนั้นมันผิดเกินจะให้อภัยได้
“ฉัน....”
“แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันไม่อยากจะฟังคำแก้ตัว ฉันกับแกจบกันตรงนี้ จากนี้ฉันหวังว่าแกจะคิดได้ว่าไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนนอนกับเพื่อนสนิทของแฟนหรอกนะ”
พูดจบพิมพ์พลอยก็เดินออกจากห้องนอนไปทันที
“เดี๋ยวสิพลอยคุยกับพี่ก่อน” ชลวิทย์ตะโกนไล่หลังเขาลงจากเตียงแล้วคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวก่อนจะรีบวิ่งตามพิมพ์พลอยออกไป
ชายหนุ่มคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้แน่น เขาจะไม่ยอมให้เธอออกไปจาที่นี่ถ้าหากยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
“ปล่อยพลอยนะ อย่าเอามือสกปรกมาจับ” เธอหันมาบอกด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“เราต้องคุยกันก่อนนะครับพลอย พี่ขอโทษพี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะยกโทษให้พี่นะครับที่รัก” เขาทำเสียงอ้อนที่มักทำกับเธอเป็นประจำ
“จะต้องคุยอะไรอีกเหรอคะ ก็เห็นกันอยู่แล้วนี่”
“โธ่พลอย ก็อย่างที่บอกไงว่ามันก็แค่สัมพันธ์ทางกายพี่ไม่คิดอะไรกับการ์ตูนเลยนะ เราสองคนก็แค่สนุกกัน ยังไงพลอยก็คือคนที่พี่รักคนเดียวนะครับ”
ชลวิทย์พ่นคำหวานเพราะคิดว่ายังไงพิมพ์พลอยก็ต้องใจอ่อนเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอจับได้ว่าเขามีคนอื่น
“ถ้าคนที่นอนอยู่ในห้องนั้นไม่ใช่การ์ตูนเพื่อนที่สนิทที่สุดของพลอย พลอยอาจจะแกล้งทำเป็นตาบอดหูหนวกก็ได้นะคะ แต่บังเอิญว่ามันไม่เป็นแบบนั้น”
“พี่จะเลิกยุ่งกับการ์ตูนอย่างเด็ดขาด” ชลวิทย์รีบให้สัญญา
“ถ้าพี่คิดจะเลิกกับการ์ตูนแล้วพลอยจะให้อภัย พี่วิทย์คิดผิดค่ะ พลอยคิดว่าระหว่างเรามันคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้วค่ะ โชคดีนะคะ” หญิงสาวยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา เธอถอยออกมาสายตามองชลวิทย์ด้วยความว่างเปล่าหากแต่มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหมือนถูกมีดกรีดลงบนหัวใจ
พิมพ์พลอยไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุดจะสามารถหักหลังเธอได้อย่างเลือดเย็นถึงขนาดนี้ ความทรงจำเก่าๆ ที่เคยมีความสุขผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ทั้งเสียงหัวเราะ คำสัญญาหวานซึ้งทุกอย่างกลายเป็นภาพหลอนที่ตอกย้ำความโง่ของตัวเอง เธอไม่รู้เลยว่าโดนเขาหลอกมานานแค่ไหนแล้ว
หญิงสาวเสียงปิดประตูห้องอย่างแรงและเดินออกมาด้วยความรู้สึกผิดหวังและเสียใจมากกว่าครั้งไหน เธอจะไม่สนใจอะไรอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นเสียงเรียกของชลวิทย์ที่ตามหลังมาหรือสายตาของคนที่เดินผ่านและมองมาด้วยความสงสัย
พิมพ์พลอยกลับมาที่ห้องของตนเองและนอนจมอยู่กับกองน้ำตา เธอไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ความเจ็บปวดนี้มันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่เธอจะรับไหว พิมพ์พลอยได้แต่หวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมานี่จะเป็นเพียงฝันร้าย แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบนั้น
เช้าวันพุธพิมพ์พลอยตื่นแต่เช้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเพราะวันนี้หญิงสาวจะเข้าไปทำธุระในเมืองกับนายหัวธนธรรศซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะไปกับเขา หญิงสาวบอกเรื่องนี้กับน้าอัมพรแล้วและน้าสาวของเธอก็เห็นด้วยที่เธอจะไปกับนายหัวเราะเพราะอย่างน้อยก็มีคนไปเป็นเพื่อนระหว่างเดินทางพอถึงเวลานัดรถกระบะคันคุ้นตาก็ขับมาจอดเทียบหน้าร้าน นายหัวธนธรรศก้าวลงจากรถด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบซึ่งวันนี้เขาดูต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเธอเห็นแต่เขาสวมเสื้อสีเข้มหรือไม่ก็เสื้อลายตารางหมากรุก“สวัสดีครับพลอย พร้อมไหม” เขาทักทายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น“สวัสดีค่ะนายหัว พลอยพร้อมแล้วค่ะ” พิมพ์พลอยยิ้มตอบวันนี้หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตแขนกุดกับกางเกงผ้าขายาวสีเบจ ดูทะมัดทะแมงแต่ก็ยังคงความน่ารัก“ไปกันเลยไหมครับ” นายหัวธนธรรศผายมือเชื้อเชิญให้พิมพ์พลอยขึ้นรถ เมื่อก้าวขึ้นไปนั่งข้างเขาแล้วก็ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูกทำให้เธอรู้สึกใจเต้นแรงพวกเขาเริ่มต้นวันด้วยการแวะทานข้าวเช้าที่ร้านโรตีชื่อดังในตัวอำเภออ่าวลึก นายหัวธนธรรศสั่งโรตีแกงเนื้อให้พิมพ์พลอยลองชิม ซึ่งเป็นเมนูที่เธอไม่เคยกินมาก่อน“อร่อยไหมคร
นายหัวธนธรรศนั่งคุยอยู่ในรถกับพิมพ์พลอยไม่ถึงสิบนาทีลูกน้องของเขาก็ขับรถกระบะคันเก่าเข้ามาจอดเทียบชายหนุ่มรีบลงไปบอกลูกน้องให้เติมน้ำมันที่รถคันเล็กของพิมพ์พลอยโดยมีเจ้าของรถลงมาดูอยู่ข้างๆ“แกลลอนใหญ่มากเลย กี่ลิตรคะนายหัว” หญิงสาวมองแกลลอนในมือคนของนายหัวแล้วคิดไม่ออกว่ามันขนาดเท่าไหร่“ยี่สิบลิตรครับ”“นายหัวต้องคิดค่าน้ำมันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ซื้อมาสักหน่อยมันอยู่ที่สวน” เขากอดอกพิงรถมองคนงานที่กำลังกรอกน้ำมันให้กับรถของหญิงสาว“แต่นายหัวก็ซื้อมานี่คะ ให้พิมพ์พลอยจ่ายค่าน้ำมันเถอะนะคะ” เธอรู้ว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจแต่เธอก็ไม่ชอบเอาเปรียบใคร“ถ้าอยากจ่ายจริงก็จ่ายเป็นเบียร์เย็นๆ สักขวดให้นายสินก็แล้วกันนะดีไหมสิน” นายหัวธนธรรศพูดกับพิมพ์พลอยแล้วกันมาถามความคิดเห็นของลูกน้องที่กรอกน้ำมันลงถังเสร็จพอดี“เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับนายหัว” สินธพยิ้มอย่างดีใจกับค่าจ้าง“ถ้างั้นพรุ่งนี้พี่ไปที่ร้านพลอยนะคะพลอยจะเตรียมไว้ให้ค่ะ” พิมพ์พลอยเคยเจอผู้ชายคนนี้มาหลายครั้งแล้วเพราะเขามักแวะไปอุดหนุนเธอที่ร้านเป็นประจำ“ไม่เป็นไรครับคุณพลอยผมแค่ล้อเล่นครับ”“แต่พลอยจริงจัง ถึงนายหัวจะไม่
เช้าวันพุธพิมพ์พลอยติดป้ายหน้าร้านว่าหยุดหนึ่งวันเพราะวันนี้หญิงสาวขับรถเข้ามาในตัวเมืองกระบี่ เพื่อไปซื้อสินค้าเข้าร้าน ปกติเธอจะสั่งของจากร้านขายส่งที่มีบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงร้าน แต่ครั้งนี้เธออยากจะไปเลือกของด้วยตัวเอง เพราะมีสินค้าหลายอย่างที่อยากได้เป็นพิเศษ หญิงสาวใช้เวลาเดินเลือกซื้อของอยู่หลายชั่วโมงจนได้ของเต็มรถคันเล็กและบางส่วนเธอก็ให้ร้านค้าเอาไปส่งที่ร้านของเธอเมื่อจัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้วพิมพ์พลอยก็ไปซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้กับน้าอัมพร จากนั้นก็ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังทานเสร็จก็ขับรถมุ่งหน้ากลับอ่าวลึกในเวลาบ่าย ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มอากาศเริ่มเย็นสบายเพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยสวนยางพาราและสวนปาล์มพิมพ์พลอยเปิดกระจกรถลงเล็กน้อยแล้วปล่อยให้สายลมพัดปะทะใบหน้าหญิงสาวรู้สึกดีกับธรรมชาติสองข้างทางขณะกำลังรับลมเย็นรถของพิมพ์พลอยก็กระตุกติดหลายครั้งก่อนจะกระชากและดับสนิทลงกลางถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว สองข้างทางไร้ผู้คนหรือบ้านเรือนมีเพียงต้นยางพาราและต้นปาล์มที่สูงท่วมหัว พิมพ์พลอยรู้สึกกลัวจับใจ“อะไรกันเนี่ย” พิมพ์พลอยบ่นออกมาอย่างหัวเสีย เธอพยายามบ
ในคืนหนึ่งหลังจากลูกค้าคนสุดท้ายของร้านพลอยหลานน้าอัมพรเดินจากไปและน้าอัมพรก็กลับบ้านไปแล้ว พิมพ์พลอยจัดการปิดประตูร้านก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์ตัวเล็กๆ ความเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอดทั้งวันทำให้พิงไปบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณอีกครั้ง มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรที่ดังมาจากพงหญ้านอกร้านพิมพ์พลอยหยิบมือถือเครื่องเก่าขึ้นมาเปิดเธอเลื่อนดูรูปภาพในแกลเลอรีไปเรื่อยๆ ภาพแล้วภาพเล่าฉายวนเวียนอยู่ในหน้าจอ ก่อนที่นิ้วเรียวจะหยุดชะงักลงที่รูปภาพใบหนึ่งมันเป็นรูปที่เธอกับชลวิทย์ยืนกอดกันแน่นบนชายหาดแห่งหนึ่งในวันหยุดพักร้อน ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แววตาของพิมพ์พลอยในรูปนั้นเต็มไปด้วยความรักและความสดใสที่เธอแทบจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยมีมัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันก็คืออดีตไปแล้วน้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาจนภาพในหน้าจอพร่าเบลอไปหมด พิมพ์พลอยใช้นิ้วลูบไปบนหน้าจอที่มีรูปถ่ายของชลวิทย์เบาๆ ความทรงจำเก่าๆ ปรากฏขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง“พลอยพี่รักพลอยที่สุดเลยนะ” เสียงของชลวิทย์ดังแว่วอยู่ในห้วงความคิด พร้อมกับภาพในวันที่เขาคุกเข่าขอเธอแต่งงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งอ
“สวัสดีค่ะนายหัวจะมาซื้อของเหรอคะ” พิมพ์พลอยทักทายด้วยความดีใจ“อยากได้กาวดักหนูสักหน่อยน่ะ หนูที่สวนมันเยอะกำจัดยังไงก็ไม่หมดที่ร้านมีขายไหม” เขาพูดแล้วหันไปมองชายที่เอามือออกจากประตูและกำลังเดินคอตกกลับไปที่ร้านยาดองเสียงแซวเงียบสนิททำให้พิมพ์พลอยพอจะรู้ว่าคนพวกนั้นก็คงกลัวนายหัวธนธรรศอยู่บ้าง“มีค่ะ นายหัวเอากี่กล่องดีคะ”“เอามาสักสามกล่องนะ”หญิงสาวเดินไปหยิบกล่องกาวดักหนูและใส่ถุงส่งให้นายหัว“165 ค่ะ แต่พลอยลดให้นายหัวเหลือ 160 นะคะ”“ของซื้อของขายไม่ต้องลดก็ได้” นายหัวหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโอนเงินให้กับเธอเต็มตามจำนวนก่อนลดราคา“ขอบคุณนะคะนายหัว”“ขอบคุณที่ซื้อของเหรอ” เขามองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ นายหัวพอจะรู้ว่าเมื่อครู่หญิงสาวคงกลัวที่มีผู้ชายมายืนขวางขณะกำลังจะปิดร้าน“ขอบคุณที่มาเป็นลูกค้าในเวลาที่พลอยกำลังอยากให้ใครสักคนมาช่วย”“พวกนั้นทำอะไรคุณบ้าง”“ไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ พวกเขาเมาแล้วก็แซวไปตามประสา แต่วันนี้หนักหน่อยที่เขาเดินมาที่ร้านคงเพราะเห็นว่าพลอยอยู่คนเดียว”“แล้วน้าอัมพรไม่มาช่วยเหรอ”“พลอยบอกน้าอัมพรว่าไม่ต้องมาก็ได้เพราะตอนนี้พลอยขายคนเดียวคล่องแล้วพลอยเกรงใจน่
“นี่หลานสาวน้าเองค่ะ ชื่อพลอยค่ะเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ แล้วก็มาเปิดร้านนี้แหละค่ะ” น้าอัมพรแนะนำเพิ่มด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพลอย” นายหัวธนธรรศเอ่ยทักทายเสียงอีกครั้ง“นายหัวเรียกพลอยเฉยๆ ก็ได้ค่ะ วันนี้จะมาซื้ออะไรดีคะ”“ยังไม่รู้เลยขอเดินดูก่อนนะ”นายหัวหนุ่มเดินสำรวจสินค้าไปทั่วราวกับมาซื้อของจริงจัง แต่เดินวนอยู่นานก็ยังไม่รู้จะซื้ออะไรเพาะปกติแล้วไม่ค่อยซื้อของใช้เข้าบ้างเองและคนที่ซื้อก็คือน้าอัมพร แต่ถ้าหากไม่ซื้อก็คงไม่ดีแน่สุดท้ายเลยซื้อเบียร์แบบกระป๋องและกาแฟอย่างละถาดเพราะเป็นสองสิ่งที่น้าอัมพรไม่เคยซื้อให้“นายหัวจะจ่ายเป็นเงินสดหรือสแกนคะ” พิมพ์พลอยวางแผ่นอะคริลิคขนาดครึ่งเอสี่ที่ด้านในเธอปริ้นคิวอาร์โค้ตสำหรับชำระเงินไว้“สะดวกดีเหมือนกันนะที่มีบริการสแกนสำหรับจ่ายเงินแต่คงไม่มีคนใช้บ่อยไหม”“ค่ะ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะจ่ายเป็นเงินสด”“ที่นี่ก็แบบนี้แหละครับ เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาหมดไปกับงานตลอดทั้งวันเลยไม่มีใครสนใจใช้โทรศัพท์มือถือเท่าไหร่”“นายหัวก็จ่ายเงินค่าจ้างเป็นเงินสดเหรอคะ”“ก็ส่วนใหญ่นะ แต่ก็มีบ้างที่โอนเข้าบัญชี”นายหัวหนุ่มจ่ายเงินค่าเบียร์และ
Mga Comments