นายหัวธนธรรศนั่งคุยอยู่ในรถกับพิมพ์พลอยไม่ถึงสิบนาทีลูกน้องของเขาก็ขับรถกระบะคันเก่าเข้ามาจอดเทียบ
ชายหนุ่มรีบลงไปบอกลูกน้องให้เติมน้ำมันที่รถคันเล็กของพิมพ์พลอยโดยมีเจ้าของรถลงมาดูอยู่ข้างๆ
“แกลลอนใหญ่มากเลย กี่ลิตรคะนายหัว” หญิงสาวมองแกลลอนในมือคนของนายหัวแล้วคิดไม่ออกว่ามันขนาดเท่าไหร่
“ยี่สิบลิตรครับ”
“นายหัวต้องคิดค่าน้ำมันด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ซื้อมาสักหน่อยมันอยู่ที่สวน” เขากอดอกพิงรถมองคนงานที่กำลังกรอกน้ำมันให้กับรถของหญิงสาว
“แต่นายหัวก็ซื้อมานี่คะ ให้พิมพ์พลอยจ่ายค่าน้ำมันเถอะนะคะ” เธอรู้ว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจแต่เธอก็ไม่ชอบเอาเปรียบใคร
“ถ้าอยากจ่ายจริงก็จ่ายเป็นเบียร์เย็นๆ สักขวดให้นายสินก็แล้วกันนะดีไหมสิน” นายหัวธนธรรศพูดกับพิมพ์พลอยแล้วกันมาถามความคิดเห็นของลูกน้องที่กรอกน้ำมันลงถังเสร็จพอดี
“เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับนายหัว” สินธพยิ้มอย่างดีใจกับค่าจ้าง
“ถ้างั้นพรุ่งนี้พี่ไปที่ร้านพลอยนะคะพลอยจะเตรียมไว้ให้ค่ะ” พิมพ์พลอยเคยเจอผู้ชายคนนี้มาหลายครั้งแล้วเพราะเขามักแวะไปอุดหนุนเธอที่ร้านเป็นประจำ
“ไม่เป็นไรครับคุณพลอยผมแค่ล้อเล่นครับ”
“แต่พลอยจริงจัง ถึงนายหัวจะไม่คิดเงินแค่คนที่ออกแรงและเสียเวลาเอาน้ำมันมาให้คือพี่นี่คะ” หญิงสาวอยากตอบแทนน้ำใจที่เขามีให้
“ก็ได้ครับผมไปก่อน”
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอกล่าวของคุณอย่างจริงใจ
เมื่อสินธพกลับไปแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่พิมพ์พลอยกับนายหัวธนธรรศแค่สองคนท่ามกลางบรรยากาศที่มืดและมีเพียงแต่แสงไฟจากรถยนต์ของเขาที่ส่องมาเท่านั้น
“ขอบคุณนายหัวมากนะคะ ถ้าไม่ได้นายหัวพลอยคงแย่ค่ะ” พิมพ์พลอยเอ่ยขอบคุณอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่สดใสมากกว่าทุกครั้งที่เขาเห็น
“ไม่เป็นไรครับพลอย ผมว่าเรารีบกลับกันเถอะ คุณขับนำไปนะผมจะขับตามไป”
“ค่ะนายหัว”
พิมพ์พลอยขับรถตามถนนที่มืดสนิทหากแต่ว่าเธอรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อมีรถของนายหัวธนธรรศขับตามมาหญิงสาวใช้ความเร็วไม่มากเท่าไหร่เพราะยังไม่คุ้นกับเส้นทางแม้ว่าจากจุดนั้นมายังร้านของเธอก็ใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีแต่ถ้าเป็นเวลากลางวันเธอคงใช้ความเร็วได้มากกว่านี้
หน้าร้านของพิมพ์พลอยมีแสงไฟจากหลอดไฟโซล่าเซลล์ที่เธอสั่งจากอินเตอร์เปิดไว้สว่างไปรอบบริเวณบ้าน
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะนายหัว”
“ไปไม่เป็นไรครับพลอยเข้าบ้านเถอะ อย่าลืมนะครับถ้ามีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือพลอยโทรหาผมได้ตลอดนะ” นายหัวธนธรรศพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ค่ะ” พิมพ์พลอยเงยหน้าขึ้นมายิ้มและสบตาคมกริบของเขาหัวใจเธอเต้นแรงขึ้น หญิงสาวเห็นประกายบางอย่างในดวงตาของเขาที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
นายหัวธนธรรศขับรถกลับบ้าน เขาดับเครื่องยนต์แล้วนั่งนิ่งอยู่หลังพวงมาลัยอยู่นานหลายนาที ภาพใบหน้าของพิมพ์พลอยที่ยิ้มอย่างสดใสแต่ก็สังเกตได้ว่ายังมีความเศร้าซ่อน ทุกครั้งที่สบตาคู่สวยนั้นหัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ใกล้เธอทำให้เขารู้สึกสับสนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดี
เขาเดินเข้าไปในบ้าน จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง แต่ยังไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ภาพของพิมพ์พลอยยังคงวนเวียนอยู่ห้วงความคิดทั้งรอยยิ้ม ดวงตาที่ดูเศร้าหมองแต่ก็แฝงไปด้วยความเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน
“ผมอยากรู้จักคุณมากขึ้นนะพลอย” นายหัวธนธรรศพึมพำชื่อของเธอเบาๆ เขารู้สึกเป็นห่วงเธออย่างประหลาด ไม่ใช่แค่เพราะเธอเป็นหลานสาวของน้าอัมพรแต่เป็นเพราะเธอมีบางอย่างในตัวเธอที่ดึงดูด
เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วก่อนจะกดโทรออกไปอย่างลังเลใจ
“พลอยนี่ผมเองนะ นายหัวธรรศ”
“สวัสดีค่ะดีนายหัว พลอยจำเสียงคุณได้ นายหัวถึงบ้านแล้วใช่ไหมคะ พลอยจะโทรมาถามแต่ก็ไม่กล้ากลัวจะรบกวนนายหัวค่ะ” หญิงสาวคิดวนเวียนอยู่หลายรอบว่าจะโทรหาเขาดีหรือเปล่าแต่พอเขาโทรมาหาเธอก็รู้สึกดีใจ
นานแล้วที่ได้คุยโทรศัพท์กับใครเวลาดึกนอกจากศิริขวัญที่โทรมาเมื่อวันก่อน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง
“ผมถึงนานแล้วครับ บ้านผมกับพลอยไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่ วันหลังมาเที่ยวบ้านผมบ้างนะ” นายหัวธนธรรศไม่เคยชวนผู้หญิงคนไปไหนที่บ้านมาก่อน ส่วนใหญ่เขาจะนัดเจอกันในเมือง มีเพียงคนเดียวที่เขามาอยู่ที่บ้านก็คือมัทนาแต่มันก็ผ่านมานานถึงสี่ปีแล้ว
“ฟังดูน่าสนใจนะคะเอาไว้วันที่พลอยปิดร้านพลอยจะแวะไปก็แล้วกันนะคะแล้วที่นายหัวโทรมามีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมจะถามว่าพลอยปิดร้านทุกวันพุธใช่ไหม”
“ใช่ค่ะมีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอจำได้ว่าเคยบอกเขาไปแล้วจึงค่อนข้างจะแปลกใจว่าทำไมเขาถึงถามย้ำอีก
“ผมเองก็ต้องเข้าเมืองบ่อยๆ เลยคิดว่าครั้งหน้าถ้าพลอยจะเข้าไปในเมืองเราน่าจะไปพร้อมกันได้นะครับ ผมอยากได้คนนั่งไปเป็นเพื่อนด้วย”
“แต่พลอยอาจทำให้นายหัวเสียเวลานะคะพลอยใช้เวลาเลือกสินค้าที่จะเข้ามาลงที่ร้านค่อนข้างนานค่ะแล้วก็ต้องไปหลายที่ด้วยเอารถไปเองน่าจะสะดวกกว่า”
“ลองให้ผมไปกับพลอยสักครั้งสิ ถ้าไม่ไหวครั้งต่อไปพลอยก็ค่อยเอารถไปเอง”
“แล้วนายหัวจะเข้าไปทำอะไรคะ”
“ส่วนใหญ่ก็เข้าสั่งของที่ใช้ในสวน”
“นายหัวต้องไปเองด้วยตัวเองเหรอคะ”
“จริงๆ แล้วโทรสั่งเอาก็ได้ครับ แต่บางทีผมก็อยากจะออกไปผ่อนคลายนอกสวนด้วยให้อยู่แต่ที่นี่บางทีมันก็เบื่อ พลอยล่ะครับเบื่อบ้างไหม”
“ตอนที่มาแรกๆ ก็เบื่อค่ะแต่พอได้เปิดร้าน ได้เจอกับลูกค้าพลอยก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ พลอยไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะอยู่ที่นี่ได้นานขนาดนี้”
“พลอยหมายถึงไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ที่นี่นานเหรอ” เขารู้สึกใจหายถ้าหากว่าเธอจะไปจากที่นี่ เขายอมรับว่าตั้งแต่พิมพ์พลอยมาเปิดร้าน
“ตอนแรกก็แค่อยากมาพักใจค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มติดใจที่นี่แล้ว” น้ำเสียงที่พูดออกมายังมีร่องรอยของความผิดหวัง
“หนีอะไรมาเหรอครับ” เขาอยากรู้ว่าเพราะอะไรผู้หญิงที่ทำงานเก่ง ฉลาดทำงานอย่างคล่องแคล่วถึงได้มาเปิดร้านขายของชำเล็กๆ แบบนี้
“เรื่องมันยาวค่ะ”
“ผมว่าเรื่องมันจะยาวหรือสั้นมันไม่สำคัญหรอกนะครับ มันอยู่ที่ว่าพลอยอยากจะเล่าให้ผมฟังหรือเปล่า ผมรู้เรื่องมันผ่านไปแล้วและคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ถ้าได้พูดออกมาก็อาจจะดีขึ้นนะครับ”
“แล้วพลอยจะเล่าให้ฟังนะคะ แต่คงไม่ใช่คืนนี้หรอกค่ะ มันดึกแล้วพรุ่งนี้พลอยต้องเปิดร้านส่วนนายหัวก็ต้องทำงานใช่ไหมคะ”
“ครับ เอาไว้เราคุยกับตอนเข้าเมืองก็ได้”
“หมายถึงวันวันพุธหน้าใช่ไหมครับ” นายหัวธนธรรศทวนคำ
“ค่ะ ถ้านายหัวจะเข้าเมืองในวันนั้น”
“แน่นอนว่าผมต้องเข้าเมืองแล้วเราค่อยคุยกันนะครับ”
“ค่ะนายหัว”
พิมพ์พลอยวางโทรศัพท์ลงข้างตัว ใบหน้ามีรอยยิ้ม การที่นายหัวธนธรรศโทรมาหาและการที่เขาจะไปเป็นเพื่อนเธอในวันพุธหน้า ทำให้เธอรู้สึกว่าอยู่ที่นี่ก็ไม่เหงาจนเกินไป มันเป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสอีกเลยหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างพิมพ์พลอยกับนายหัวธนธรรศนับวันยิ่งพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ แม้จะยังคงอยู่ในสถานะคู่นอนที่พิมพ์พลอยเป็นฝ่ายกำหนด แต่การกระทำของนายหัวธนธรรศกลับบ่งบอกถึงความรู้สึกที่มากกว่านั้น เขาไม่ได้มาแค่ที่ร้านแต่ยังชวนเธอไปทานอาหารค่ำที่บ้านของเขาอยู่หลายครั้ง โดยอ้างว่าให้เธอไปช่วยงานเรื่องบัญชีของสวนปาล์ม ซึ่งพิมพ์พลอยเองก็เต็มใจที่จะช่วยเพราะเธอมีความรู้ด้านนี้อยู่แล้วทุกครั้งที่พิมพ์พลอยไปที่บ้านของนายหัวธนธรรศ น้าอัมพรก็จะคอยมองแล้วยิ้มแต่ไม่พูดอะไร น้าอัมพรเองก็สังเกตเห็นถึงความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างหลานสาวกับเจ้านายหนุ่มของเธอ แววตาที่นายหัวธนธรรศมองพิมพ์พลอย ความเอาใจใส่ที่เขามีให้ มันไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ในแบบคนรู้จักทั่วไปแต่ดูเหมือนจะมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นมากนัก แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่และรู้กาลเทศะ น้าอัมพรจึงไม่กล้าที่จะถามตรงๆเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย เธอจึงเลือกที่จะเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ และคิดว่าจะรออีกสักพักค่อยถามพิมพ์พลอยเมื่อเห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองชัดเจนขึ้นวันนี้เป็นวันพุธพิมพ์พลอยไม่ได้เข้าเมืองไปซื้อของเหมือนทุกครั้ง
หญิงสาวดิ้นทุรนทุรายร้องขอ นายหัวหนุ่มเองก็กัดฟันกรอดเขาพยายามดันตัวต้นเข้าไปทีละนิด พลางก้มลงจูบหญิงสาวอย่างปลุกเร้า สองมือคลึงขยี้เต้างามปรนเปรอทุกสัดส่วนให้หญิงสาวผ่อนคลาย ก่อนที่จะกระแทกเข้าทีเดียวจนสุดลำ“อ๊ะ!....”พิมพ์พลอยกรีดครางสะดุ้งทั้งเจ็บและจุกไปในคราเดียวกัน“อ่าพลอย มันแน่นมาก ผมขยับนะ”หญิงสาวบิดกายไปมาช่องทางรักของเธอก็บีบรัดจนนายหัวหนุ่มทนไม่ไหวเขาขยับสะโพกกดย้ำในจังหวะตื้นๆ เพื่อให้เธอได้ปรับตัวกับความใหญ่โตของตนเองเขาเริ่มขยับสะโพกเร็วขึ้นไปตามอารมณ์ปรารถนา ยิ่งขยับเท่าไหร่ความคับแน่นก็ตอดรัดมากขึ้น ช่องทางรักของพิมพ์พลอยทั้งตอดทั้งลึกและดูดเขาราวกับข้างในนั้นเป็นสุญญากาศ ธนธรรศขยับสะโพกกดนวดก่อนจะเน้นจังหวะรัวเร็ว“นายหัวแบบนั้นค่ะ แรงๆ เลยค่ะนายพลอยเสียว อื้อ...นายหัวขาพลอยเสียวมาก”พิมพ์พลอยครางเสียงกระเส่า ดวงตาฉ่ำปรือ ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยไฟพิศวาสเธอจิกปลายนิ้วลงบนแผ่นหลังของเขาอย่างแรง สองขาก็เกี่ยวรัดสะโพกแกร่งของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยหญิงสาวไม่หลงเหลือความอับอายอีกต่อไปแล้ว เธอร้องขอให้เขากระแทกแก่นกายเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ ทุกจังหวะท่อนเอ็นเข้ามาลึกเธอก็รู้ส
นายหัวธรธรรศเข้าใจความต้องการของพิมพ์พลอยเป็นอย่างดีเขายิ้มและเพิ่มแรงบีบที่เต้าอีกข้าง ขณะที่ปากอีกข้างก็ดูดดึงอย่างเร่าร้อนจนควบคุมตัวเองไม่อยู่“อ๊ะ!....อื้อ....”หญิงสาวร้องครางหวาน ร่างกายแอ่นโค้งเข้าหานายหัวหนุ่ม เมื่อเขาดูดดึงแรงขึ้น ความเสียวซ่านก็แล่นพล่านไปทั่วร่างจนหญิงสาวควบคุมตัวเองไม่อยู่ มือเล็กๆ ของเธอกรีดไปบนผิวแน่นของนายหัวธนธรรศจนขึ้นรอยแดง แต่ชายหนุ่มไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ความรู้สึกร้อนรุ่มในกายของเขากำลังถูกจุดให้ลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนา“ชอบให้ผมกินตรงนี้ไหม”เขาถามเสียงแหบพร่า สอดลิ้นเลียยอดถันอย่างช่ำชอง“พลอยชอบ นายหัวกินนมพลอยนะคะ นายหัวขาพลอยชอบที่สุด”หญิงสาวร้องขอเหมือนคนสติหลุดออกจากร่าง ทุกสิ่งที่แสดงออกมันมาจากจิตใต้สำนึกที่เธอควบคุมมันไม่ได้อีกต่อไป“อื้อ....นายหัว”นายหัวธนธรรศดูดกินเต้าคู่งามของพิมพ์พลอยจนพอใจ ก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนลงมายังหน้าท้องน้อยของเธอ เขาดูดดึงขบเม้มผิวขาวเนียนอย่างเมามัน ทุกครั้งที่เขาขบเม้ม พิมพ์พลอยก็ครางสะท้าน เสียงของหญิงสาวช่างไพเราะราวกับเสียงดนตรีที่เขาชอบฟังปากร้อนยังคงขบเม้ม ขณะที่มืออีกข้างที่ว่างก็จับเรียวขาของเธอให้แ
“นายหัวคะขับเร็วอีกนิดได้ไหมคะ” พิมพ์รู้สึกว่าตัวเองมีอาการแปลกๆ จึงอยากไปให้ถึงที่พัก“พลอยเป็นอะไรหรือเปล่า เมาใช่ไหม” เขาถามอย่างห่วงใย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พลอยดื่มไปไม่กี่แล้วเองนะคะไม่น่าจะเมาหรอกค่ะ แต่พลอยรู้สึกร้อนมาก พลอยอยากอาบน้ำค่ะ” หญิงสาวปรับแอร์ในรถให้เย็นลงแต่มันไม่ช่วยอะไรเลยนายหัวธนธรรศรีบเหยียบคันเร่งตามที่เธอบอก ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคอนโดของเขาเมื่อประตูห้องเปิดพิมพ์พลอยก็รีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองและเปิดฝักบัวอาบน้ำแต่ยิ่งอาบก็กลับยิ่งร่างกายกับร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะเป็นแบบนี้มาก่อน ยิ่งปลายนิ้วสัมผัสลงบนผิวของตัวเอง ความร้อนก็ยิ่งแผดเผาจนรู้สึกเหมือนจะหลอมละลายพิมพ์พลอยคิดว่าสายน้ำคงไม่ช่วยอะไรมากหญิงสาวจึงรีบแต่งตัวและใส่ชุดนอนออกมาหาน้ำเย็นเพื่อดับร้อน“พลอยอาบน้ำแล้วดีขึ้นไหม”“ไม่เลยค่ะตอนนี้พลอยอยากได้น้ำเย็นๆ มากกว่า” พิมพ์พลอยตอบด้วยเสียงที่สั่นพร่า ดวงตาฉ่ำปรือบ่งบอกถึงความทรมาน เธอเดินตรงไปยังตู้เย็น เปิดออกแล้วคว้าน้ำดื่มเย็นเฉียบออกมา แต่เพียงแค่จิบเข้าไปความเย็นนั้นกลับไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย ความร้อนยังคงคุกรุ่นอยู่ข้างในจนเธอแ
นายหัวธนธรรศขับรถพาพิมพ์พลอยมานั่งดื่มที่ผับของธนัท เพื่อนสนิทของเขาในตัวเมืองกระบี่ บรรยากาศในผับคึกคักไปด้วยเสียงเพลงและผู้คนมากมาย ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพพิมพ์พลอยก็ไม่ได้มาเที่ยวผับแบบนี้เลยหญิงสาวจึงรู้สึกสนุกและผ่อนคลายบ่อย“พลอยครับ นี่ธนัท เจ้าของผับนี้และเป็นเพื่อนสนิทของผมครับ” นายหัวธนธรรศแนะนำพิมพ์พลอยให้รู้จักกับธนัทชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมเข้มที่มีรอยยิ้มเป็นมิตร“สวัสดีค่ะคุณธนัท”“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพลอย ได้ยินไอ้ธรรศพูดถึงคุณบ่อยๆ เลยครับ” ธนัทเอ่ยทักทายพร้อมกับยิ้มกว้าง“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณธนัท” พิมพ์พลอยยิ้มรับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร เธอรู้สึกดีใจที่เขาพามาแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนของเขา“แล้วนี่นายดิวครับ เพื่อนสนิทอีกคนของผม” นายหัวธนธรรศแนะนำพิมพ์พลอยให้รู้จักกับฐิติธัชช์ครูหนุ่มที่ดูเรียบร้อยกว่าเพื่อนทั้งสองคน“สวัสดีครับคุณพลอย ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ฐิติธัชช์ยิ้มทักทายอย่างสุภาพ“สวัสดีค่ะคุณดิว ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” พิมพ์พลอยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ของนายหัวธนธรรศ พวกเขาดูเป็นกันเองและเป็นมิตร ทำให้เธอรู้สึกสบายใ
หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นพิมพ์พลอยก็ยังไม่ได้เจอกับนายหัวธนธรรศเลยแต่เขาและเธอก็ยังคงโทรศัพท์คุยกันอยู่เป็นประจำจนกระทั่งวันอังคารนายหัวก็มาหาเธอที่ร้านในเวลาบ่ายซึ่งเป็นเวลาที่เขารู้ดีว่าไม่มีลูกค้ามากเท่าไหร่ทำให้ได้คุยกับพิมพ์พลอยนานกว่าเวลาปกติซึ่งจะมีลูกค้าเข้ามาแทบจะตลอดเวลา“ทำอะไรอยู่พลอยกินข้าวหรือยัง” คำทักทายธรรมดาแต่ทำให้คนฟังดีใจที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง“สวัสดีค่ะนายหัวพลอยกินข้าวแล้วค่ะ” หญิงสาวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่ได้เจอกับเขาอีกครั้งแต่ก็พยายามรักษาสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติคำพูดที่บอกเขาว่าเธอกับเขาจะเป็นคู่นอน มันทำให้สถานการณ์ค่อนข้างอึดอัดแต่หญิงสาวก็ตัดสินใจแล้วว่าจะคบกับเขาแบบนี้ไปก่อนเพราะยังกลัวความสัมพันธ์แบบผูกมัด“แล้วนายหัวล่ะคะวันนี้มาซื้ออะไร”“จริงๆ อยากจะมาซื้อแม่ค้านะแต่คงสู้ราคาไม่ไหวหรอก” เขาพูดพลางหัวเราะ“ถึงนายหัวสู้ราคาไหวก็ไม่มีใครขายให้นายหัวหรอกค่ะ”“นั่นสินะ โกรธไหมที่ผมพูดแบบนี้”“ไม่หรอกค่ะพลอยรู้ว่านายหัวพูดเล่น แล้วตกลงที่มาวันนี้มาทำอะไรคะ”“จะชวนเข้าเมืองครับ”“แต่พุธนี้พลอยไม่มีอะไรที่จะต้องซื้อเลยค่ะ” เธอ“ก็ไม่ได้ชวนไปซื้อของสักหน่