“พี่หมอกเล่นสมบทบาทเหมือนกันนะคะ” น้ำเสียงขวัญเมษาเบาราวกับเสียงกระซิบที่ฟังดูเซ็กซี่และยั่วยวนที่สุดเท่าที่เจ้าของเสียงเคยรู้สึก
เธอไม่ได้ตั้งใจอ่อย…และก็ไม่ได้มีนิสัยขี้อ่อย หากแต่อารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวชักนำให้เธอชื่นชอบสัมผัสเขาเสียจนไม่อาจปิดบังได้
“แล้วชอบไหม” อารมณ์ของแพทย์หนุ่มใหญ่พุ่งกระฉูดเพียงแค่ได้สบตากับคนตัวเล็กที่มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มราวกับเจ้าตัวกำลังส่งสัญญาณให้กัน ไม่พอแค่นั้น มือเล็กที่เคยลูบไล้แผ่นอกก็เริ่มซุกซนหนักข้อขึ้นด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายมาลูบที่หน้าขาแกร่งของเขาแทน
กลายเป็นว่าเวลานี้ทั้งเขาและเธอกำลังลูบไล้ล้วงกันอย่างไม่มีใครห้ามใคร
และไอ้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ก่อนหน้านี้เคยมีอยู่สูงทะลุเพดานก็ได้พังทลายกลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เมธากรไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้วนอกจากสาวสวยตรงหน้า
ไม่สนว่าเธอคือคนแปลกหน้า ไม่สนว่ากำลังเล่นละคร เขาสนแต่อารมณ์หื่นกระหายที่กำลังถูกปลุกเร้าด้วยสายตาและสัมผัสจากคนข้างๆ เท่านั้น
“ชอบค่ะ เมษ์ชอบ…มาก”
สิ้นคำตอบของเธอ มือหนาก็คืบคลานเข้าไปภายในกระโปรงสั้นจิ๋ว สัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาที่เป็นเกราะป้องกันจุดอ่อนไหวที่สุดของเธอเอาไว้ แม้ใจจะอยากเขี่ยขยี้ให้ร่างเล็กบิดเร่าไปมามากเท่าไหร่ ทว่าเมธากรก็ไม่ใช่คนใจร้อน…
เขาใช้นิ้วเกี่ยวที่สายกางเกงชั้นในของเธออย่างจงใจจะยั่วกัน
“ชอบใส่จีสตริงเหรอ” เสียงแห่บพร่าถามออกไปพลางจินตนาการถึงความขาวผ่องภายใต้กางเกงชั้นในแสนยั่วยวนชิ้นนี้
“แหม แค่นี้ก็รู้เลยเหรอคะ แปลว่าพี่หมอกประสบการณ์คงเยอะน่าดู” หญิงสาวพูดอย่างติดตลก แต่ในใจกลับคิดจริงว่าชายหนุ่มที่อายุเข้าเลขสี่อย่างคนตรงหน้าคงจะผ่านเรื่องอย่างว่ามาจนเด็กไร้ประสบการณ์อย่างเธอต้องขอยอมแพ้
หัวใจของนายแพทย์หนุ่มใหญ่เต้นแรงจนคล้ายกับคนที่กำลังหัวใจวาย! เด็กบ้านี่ปลุกกำหนัดเขาได้ดีไปเสียทุกอย่างจนเขาอยากจะจับเธอกดให้จมโซฟาไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ทว่า…เสียงยมบาลที่นรกส่งมาก็ดังขึ้น
“แฮ่ม ขอโทษที่ขัดจังหวะว่ะ” เจ้าของผับที่นั่งดูเพื่อนตัวร้ายกำลังคั่วอยู่กับนักร้องของร้านอยู่นานทนไม่ไหว ยอมขัดจังหวะสวรรค์เพื่อนชั่วขณะ เพื่อให้มันมีความสุขได้ต่อยาวๆ ในค่ำคืนนี้
คนอย่างเมธากรผู้ยึดมั่นในวาจาของตัวเองว่าจะไม่ยอม One Night Stand กับใคร มันคงไม่ได้พก ‘สิ่งจำเป็น’ ที่สุดในค่ำคืนนี้ติดตัวมา และภาคย์ก็ขอรับบทเป็นเพื่อนที่ดี ช่วยให้เพื่อนสนิทได้สัมผัสประสบการณ์เสียวข้ามคืนกับสาวสวยคนนี้เสียหน่อย
“อะ กูให้ทั้งกล่องเลย” ภาคย์ยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมยื่นกล่องถุงยางอนามัยให้กับเมธากร ก่อนจะรีบเดินจากไปด้วยไม่อยากให้ขวัญเมษาตกใจ
เพราะเวลานี้หญิงสาวมองมาด้วยใบหน้าแดงก่ำบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวคงเขินอายอยู่ไม่น้อย หากแต่ภาคย์ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขามันไม่ได้ทำให้เมธากรนึกคึกขึ้นมา ซ้ำยังเป็นการเรียกสติเขาต่างหาก!
ใช่…เขาไม่ควรทำมาเรื่องบ้าๆ ที่นี่ โดยเฉพาะกับเด็กที่อายุห่างกับเขาเกือบยี่สิบปีเช่นนี้!
“เอ่อ พี่ว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะ” มือที่เคยเกี่ยวรั้งขอบจีสติงของสาวน้อย รีบชักกลับออกมาอย่างรวดเร็วจนขวัญเมษาหน้าเสีย และไม่นานเธอก็ยิ้มหวานให้ชายหนุ่มต่อจนใจที่เคยแข็งเริ่มกลับมาเหลวไม่เป็นท่าอีกครั้ง เมธากรไม่เข้าใจตัวเองเสียจริง เกิดมาจนจะค่อนชีวิตอยู่แล้วทำไมถึงได้กลายเป็นไก่อ่อนเพียงแค่นั่งสบตา และมองรอยยิ้มยัยเด็กหัวชมพูตรงหน้านี้ด้วย
“แต่ธนายังไม่เลิกมองมาที่เราเลยนะคะ”
เออจริง! เมธากรหันไปมองนักร้องหนุ่มบนเวทีที่เอาแต่จ้องมองมายังโต๊ะของเขาด้วยสายตาไม่พอใจและไม่เป็นมิตร
“พี่ช่วยเมษ์อีกนิดไม่ได้เหรอคะ นะ…” ขวัญเมษาชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธออยากขอให้เขาช่วยเป็นแฟนหลอกๆ เป็นเพราะอยากทำให้ธนาเลิกตามตอแยเธอเสียที หรือเป็นเพราะแท้จริงแล้วเธอกำลังติดใจหนุ่มใหญ่คนนี้กันแน่
แค่มือที่สัมผัสกับผิวกายเธออย่างแผ่วเบาก็สามารถสร้างความเสียวกระสันจนขนในกายลุกซู่ขึ้นมา แล้วถ้า ‘ส่วนอื่น’ ของเขาสัมผัสเธออย่างแนบชิด มันคงจะวิเศษจนขวัญเมษาจินตนาการไม่ออกแน่ๆ
“มันดึกแล้ว พี่ต้องกลับ พรุ่งนี้พี่มีงาน” ข่มใจไว้ไอ้หมอ! ชายหนุ่มขบกรามแน่นบอกตัวเองว่าเขาต้องไม่ยอมแพ้ต่ออุดมการณ์
“แต่คืนนี้เป็นวันเกิดเมษ์ พี่หมอกไม่อยู่ฉลองกับเมษ์หน่อยเหรอ”
“พี่ก็เลี้ยงเหล้าเราแล้วไง เราเองก็ดื่มไปเยอะขนาดนี้ เมาแล้วรู้ตัวไหม ฮึ” ว่าพลางจับไหล่บอบบางเขย่าเบาๆ เพื่อให้เธอได้สติ บางทีไอ้ที่เธอกำลังใช้น้ำเสียงยั่วยวนเขาเช่นนี้อาจมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็เป็นได้
ซึ่งเขาเองก็ไม่ต่างกัน! เขาอยากกลืนกินเธอมากแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน และแน่นอนว่าครั้งนี้เขาขอโยนความผิดทั้งหมดให้กับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
“รู้ค่ะ แต่เมษ์ก็มีสติดีอยู่”
“มีสติดี แต่ปล่อยให้พี่ล้วงขนาดนี้ แล้วถ้าพี่อดใจไม่ไหวจะทำยังไง” น้ำเสียงเมธากรเข้มขึ้นไม่ต่างจากกำลังดุเด็กดื้อคนหนึ่ง และเป็นอีกครั้งที่ยัยตัวแสบไม่กลัวแถมยังยิ้มกระล่อนกลับมา
“ก็ไม่ต้องอดใจสิคะ”
“เห้อ…ตัวแสบ เรานี่มันจริงๆ เลยนะ” ชายหนุ่มผลักศีรษะคนตัวเล็กเบาๆ อย่างมันเขี้ยว หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงมองว่าอีกฝ่ายกำลังอยากจะสนุกด้วยกันตามประสาคนรักสนุก แต่กับขวัญเมษาตั้งแต่ที่นั่งคุยกับเธอมาร่วมชั่วโมงเขารับรู้ได้ถึงความใสซื่อบางอย่างในตัวเธอ และแน่นอนว่าผู้ใหญ่อย่างเขาย่อมไม่ชอบเอาเปรียบใคร เพราะบางทีเธออาจจะทำไปเพราะความเมาก็เป็นได้
หรือว่าเป็นแค่การแสดงในวัน Aprill Fool Day ของยัยนักร้องนี่กันวะ?
คุณหมอหนุ่มใหญ่เริ่มไม่ค่อยชอบวันนี้เสียแล้ว เพราะมันทำให้ความคิดในหัวเขาตีกันไปหมด ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอกกันแน่!“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า” เมธากรทำท่าจะลุกขึ้นยืนก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปมากกว่านี้“เดี๋ยวค่ะ พี่เล่นเป็นแฟนเมษ์แล้วก็ต้องเล่นให้จบสิ” ขวัญเมษาจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น มองเขาอย่างตัดพ้อ เกิดมาเธอไม่เคยเว้าวอนผู้ชายคนไหนเท่าเขามาก่อนเลยจริงๆ และเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าถึงขนาดนี้…กล้าที่จะเป็นฝ่ายจูบผู้ชายก่อน!หมับ…ดวงตาทรงเสน่ห์เบิกกว้างขึ้นเมื่อจู่ๆ นักร้องสาวก็เกี่ยวรั้งต้นคอเขาเข้าไปหา และกระแทกริมฝีปากอิ่มเข้ามาบดขยี้ปากเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เวลานี้เสียงนักร้องบนเวทีที่เคยฟังเพราะเสนาะหูได้เพี้ยนผิดคีย์ไปจนเมธากรมั่นใจว่าคนทั้งร้านคงงุนงงแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธนาคงจะมีก็แต่เมธากรและสาวร้อนรักคนนี้ที่รู้ดีว่ามันกำลังช็อกจนร้องเพลงเพี้ยน! และไม่ใช่แค่มันที่ช็อกเพราะเมธากรเองก็ไม่ต่างกัน แถมเขายังต้องต่อสู้กับปณิธานในใจและความร้อนรุ่มตรงหน้านี้อีกยิ่งเธอพยายามขบเม้มและกัดริมฝีปากเขาเบาๆ เพื่ออ้อนวอนให้เขายอมเปิดปากรับการรุกรานจากเธอ มันยิ่งทำให
“พี่…แต่งงานแล้วเหรอคะ”“ยัง” หมอหนุ่มขมวดคิ้วกับคำถามเธอ หากเขาแต่งงานมีเมียแล้วคงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้หรอก สู้อยู่บ้านนอนกกเมียคงจะดีกว่ากันเยอะ“งั้นแปลว่ามีแฟน”“เปล่า…”เหตุผลข้อแรกไม่ใช่ หมายความว่าเหตุผลที่สองอาจมีความเป็นไปได้สินะ!ดวงตากลมโตเผลอมองต่ำลงไปที่กึ่งกลางกายของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายรูปหล่อ โพรไฟล์เลิศ ไม่มีพันธะใด แต่กลับมีปัญหาเรื่องน้องชายมันเป็นอะไรที่น่าสงสารจริงๆ นะ“มองอะไร” เมธากรมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอที่เอาแต่มองเป้ากางเกงเขาสลับกับมองหน้าไปมา“โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว จริงๆ ก็…ถ้าพี่หมอกมีปัญหาเรื่องอย่างว่าปรึกษาเมษ์ได้นะคะ เมษ์พอจะมีเพื่อนที่เรียนจบหมออยู่บ้าง เผื่อจะลองถามๆ ดูให้” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่อาวุธลับของเขาอย่างกระดากอาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด อีกอย่างหากปัญหามันเกิดแล้วก็ควรจะแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่เขินอายกันอยู่“ปัญหามีไว้แก้ค่ะพี่ ลองหาหมอดูไหมเพื่อชีวิตที่สดใสซู่ซ่า”“ว่าไงนะ? แล้วทำไมพี่ต้องหาหมอ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมธากรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้นักร้องสาวที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินขึ้นรถเขาเสียที จนหมอหนุ่มใหญ่ต้องสรรหาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเอง“ไหนๆ คืนนี้เราก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว แฟนคงไม่ทิ้งให้แฟนกลับคนเดียวหรอกนะ” เขายักไหล่พูดอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร พอเธอพยักหน้าและยอมขึ้นรถแต่โดยดี เมื่อนั้นเขาจึงลอบถอนหายใจออกมาหาเรื่องเข้าตัวจนได้ไอ้หมอเมธ!อบอุ่นชะมัด…พอได้มานั่งอยู่บนรถกับชายหนุ่มสองต่อสอง เขาไม่พูดอะไร ส่วนเธอก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ที่ไม่พูดเพราะเวลานี้เอาแต่เพ้อถึงการกระทำเมื่อครู่ของเขา บอกตามตรงว่าไอ้คำพูดที่สุดแสนจะกระด้างของเขามันสวนทางกับการกระทำสิ้นดี ผู้ชายคนนี้อบอุ่นแล้วก็ใจดีกว่าที่เธอคิด“แฮ่ม บ้านเมษ์อยู่ไหน” เมธากรตัดสินใจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เงียบ ส่วนเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะสับสนกับตัวเองเหลือเกิน การได้อยู่บนรถกับเธอสองต่อสองมันโคตรจะอันตราย ทว่าที่เขากลับไปรับเธอนั้นไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจอยากพาสาวน้อยขึ้นเตียง แต่ที่ทำมันเป็นเพราะเขาห่วงเธอต่างหากอีกไม่นานไอ้นักร้องที่ชื่อธนามันก็คงจะลงจากเวทีแล้ว หากมันเห็นเธอยืนเหงาหงอย
มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!หมับ…เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่าเรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นบอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุดทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เ
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
ขวัญเมษารับงานนักร้องงานแต่งมาหลายครั้งหลายหน และเพลงที่คู่บ่าวสาวรีเควสแทบทุกงานก็คือเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ซึ่งก็จัดว่าเป็นเพลงเก่าเพลงแก่ที่เธอหัดร้องมาตั้งแต่เด็ก คืนนี้เธอจึงเลือกขับร้องเพลงที่ตัวเองชำนาญเป็นเพลงแรก โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มหวานพร้อมกล่าวทักทายแขกผู้มีเกียรติในงาน“ก่อนที่เราจะไปฟังบทเพลงสนุกๆ เรามาฟังบทเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ กันก่อนนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเมษ์เป็นเพื่อนกับเจ้าสาว แล้วก็รู้จักเจ้าบ่าวมาสักระยะหนึ่งเหมือนกัน เมษ์ขออวยพรให้ทั้งสองคนมีความสุขกับชีวิตคู่ วันแรกรักกันยังไงวันต่อไปก็ขอให้ความรักที่มีคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ”นักร้องสาวพูดจบเสียงดนตรีบรรเลงเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ก็ดังขึ้น“ไม่ต้องรักฉันจนล้นฟ้า ไม่ต้องหาถ้อยคำหวานๆ อย่างที่เคยบอกกันก็ยังซึ้งอยู่ ขอแค่รักคำเดียวเท่านั้น หมายถึงฉันคนเดียวเท่านี้ อยากจะฟังอีกทีว่าเธอรักฉัน...”ขวัญเมษาเปล่งเสียงหวานออกไป เรียกเสียงปรบมือและเสียงชื่นชมจากแขกเหรื่อได้เป็นอย่างดี หลายคนเริ่มลุกขึ้นมายืนฟังเธอในระยะใกล้ติดขอบเวที ในมือถือแก้วแชมเปญ บ้างก็พูดคุยกัน บ้างก็ฮัมเพลงอย่างเพลิดเพลิน นี่คงเป็นความสุขของนักร้อง
หมับ! เมธากรไม่ตอบหากแต่เขากลับคว้าเอาไมโครโฟนจากมือนักร้องสาวมาไว้ที่ตัวเอง ก่อนจะเป็นฝ่ายร้องเพลงแทนเธอจนคนทั้งงานมองมาเป็นสายตาเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ขวัญเมษาที่เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาร้องเพลงได้ แถมยังทำได้ดีไม่แพ้นักร้องอาชีพสายตาเธอมองเขาอย่างชื่นชม เช่นเดียวกับเขาที่มองเธออย่างชื่นชมไม่แพ้กันเลยคุณหมอหนุ่มใหญ่ร้องเพลงจนจบ ก่อนจะกล่าวอวยพรบ่าวสาวพอเป็นพิธี“ยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยนะครับ ดีใจที่วันนี้ทั้งคู่หาคนที่ใช่เจอ แล้วก็เอาใจช่วยให้ผมเจอเจ้าสาวของตัวเองด้วยนะครับ” พูดจบเมธากรก็หันไปคืนไมโครโฟนให้กับพิธีกรของงาน ประโยคเมื่อครู่นี้เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวน้อยใหญ่มากมายเพราะมันเป็นเหมือนการประกาศกร้าวออกมาครั้งแรกว่าเขายังโสดและไม่คิดปิดกั้นตัวเอง!ที่ผ่านมาคนบ้างานอย่างอาจารย์นายแพทย์เมธากรไม่เคยวางตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญหรือเข้าถึงง่ายขนาดนี้มาก่อน ทว่าคืนนี้ใครบางคนทำให้เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และไอ้ประโยคสุดแสนจะขี้อ่อยเมื่อครู่นี้ก็พูดเพื่อต้องการจะบอกเธอเช่นกันเมธากรกำลังสนใจขวัญเมษา! นั่นคือความจริงที่คนอายุเข้าหลักสี่อย่างเขาไม่อยากโกหกตัวเองอีกแล้ว“กรี
1 เมษายน วัน April Fool’s Day@ผับ Falling in Youกลิ่นอายอบายมุขนี่มันหอมคละคลุ้งเยียวยาหัวใจได้ดีจริงๆ!นั่นเป็นความคิดแรกของ ‘นายแพทย์เมธากร เขมาภิวัฒน์’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘อาจารย์หมอเมธ’ ทันทีที่ก้าวเข้ามายังผับสุดหรูของเพื่อนสนิทอย่าง ‘ภาคย์’ ใครจะคิดละว่านายแพทย์อย่างเขาที่ควรจะเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม รับประทานอาหารสุขภาพ และตื่นมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำที่บอกคนไข้ทุกราย แท้จริงแล้ว...วิธีผ่อนคลายที่ดีสุดๆ มันจะมีอะไรไปได้นอกเสียจาก ‘การร่ำสุรา’ร่างสูงโปร่งดูสง่าดุดันแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท กางเกงยีนส์รัดรูปตัวโปรด ทรงผมเซ็ตเสยอย่างเป็นธรรมชาติ เดินตรงเข้าไปยังโต๊ะวีไอพีที่มีไอ้เจ้าของผับหน้าเข้มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มิวายข้างกายมันยังมีสาวสวยอีกสองคนนั่งขนาบข้าง ดูผ่านๆ ไม่ต่างจากแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อชิ้นใหญ่แปะอยู่ตรงกลาง“หึ” นายแพทย์หนุ่มใหญ่ยกยิ้มมองเพื่อนด้วยสายตาเคยชิน“ไงไอ้หมอ! ลมอะไรหอบมึงมาหากูที่นี่คืนนี้วะ” ภาคย์ทักเพื่อนพลางหันไปหอมแก้มสาวๆ คนละฟอดอย่างเท่าเทียมกัน“กูหิวเหล้า” เขาตอบนิ่งๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาตัวข้างกันกับภาคย์ เหล่มองสาว
หมับ! เมธากรไม่ตอบหากแต่เขากลับคว้าเอาไมโครโฟนจากมือนักร้องสาวมาไว้ที่ตัวเอง ก่อนจะเป็นฝ่ายร้องเพลงแทนเธอจนคนทั้งงานมองมาเป็นสายตาเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ขวัญเมษาที่เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาร้องเพลงได้ แถมยังทำได้ดีไม่แพ้นักร้องอาชีพสายตาเธอมองเขาอย่างชื่นชม เช่นเดียวกับเขาที่มองเธออย่างชื่นชมไม่แพ้กันเลยคุณหมอหนุ่มใหญ่ร้องเพลงจนจบ ก่อนจะกล่าวอวยพรบ่าวสาวพอเป็นพิธี“ยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยนะครับ ดีใจที่วันนี้ทั้งคู่หาคนที่ใช่เจอ แล้วก็เอาใจช่วยให้ผมเจอเจ้าสาวของตัวเองด้วยนะครับ” พูดจบเมธากรก็หันไปคืนไมโครโฟนให้กับพิธีกรของงาน ประโยคเมื่อครู่นี้เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวน้อยใหญ่มากมายเพราะมันเป็นเหมือนการประกาศกร้าวออกมาครั้งแรกว่าเขายังโสดและไม่คิดปิดกั้นตัวเอง!ที่ผ่านมาคนบ้างานอย่างอาจารย์นายแพทย์เมธากรไม่เคยวางตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญหรือเข้าถึงง่ายขนาดนี้มาก่อน ทว่าคืนนี้ใครบางคนทำให้เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และไอ้ประโยคสุดแสนจะขี้อ่อยเมื่อครู่นี้ก็พูดเพื่อต้องการจะบอกเธอเช่นกันเมธากรกำลังสนใจขวัญเมษา! นั่นคือความจริงที่คนอายุเข้าหลักสี่อย่างเขาไม่อยากโกหกตัวเองอีกแล้ว“กรี
ขวัญเมษารับงานนักร้องงานแต่งมาหลายครั้งหลายหน และเพลงที่คู่บ่าวสาวรีเควสแทบทุกงานก็คือเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ซึ่งก็จัดว่าเป็นเพลงเก่าเพลงแก่ที่เธอหัดร้องมาตั้งแต่เด็ก คืนนี้เธอจึงเลือกขับร้องเพลงที่ตัวเองชำนาญเป็นเพลงแรก โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มหวานพร้อมกล่าวทักทายแขกผู้มีเกียรติในงาน“ก่อนที่เราจะไปฟังบทเพลงสนุกๆ เรามาฟังบทเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ กันก่อนนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเมษ์เป็นเพื่อนกับเจ้าสาว แล้วก็รู้จักเจ้าบ่าวมาสักระยะหนึ่งเหมือนกัน เมษ์ขออวยพรให้ทั้งสองคนมีความสุขกับชีวิตคู่ วันแรกรักกันยังไงวันต่อไปก็ขอให้ความรักที่มีคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ”นักร้องสาวพูดจบเสียงดนตรีบรรเลงเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ก็ดังขึ้น“ไม่ต้องรักฉันจนล้นฟ้า ไม่ต้องหาถ้อยคำหวานๆ อย่างที่เคยบอกกันก็ยังซึ้งอยู่ ขอแค่รักคำเดียวเท่านั้น หมายถึงฉันคนเดียวเท่านี้ อยากจะฟังอีกทีว่าเธอรักฉัน...”ขวัญเมษาเปล่งเสียงหวานออกไป เรียกเสียงปรบมือและเสียงชื่นชมจากแขกเหรื่อได้เป็นอย่างดี หลายคนเริ่มลุกขึ้นมายืนฟังเธอในระยะใกล้ติดขอบเวที ในมือถือแก้วแชมเปญ บ้างก็พูดคุยกัน บ้างก็ฮัมเพลงอย่างเพลิดเพลิน นี่คงเป็นความสุขของนักร้อง
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!หมับ…เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่าเรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นบอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุดทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมธากรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้นักร้องสาวที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินขึ้นรถเขาเสียที จนหมอหนุ่มใหญ่ต้องสรรหาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเอง“ไหนๆ คืนนี้เราก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว แฟนคงไม่ทิ้งให้แฟนกลับคนเดียวหรอกนะ” เขายักไหล่พูดอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร พอเธอพยักหน้าและยอมขึ้นรถแต่โดยดี เมื่อนั้นเขาจึงลอบถอนหายใจออกมาหาเรื่องเข้าตัวจนได้ไอ้หมอเมธ!อบอุ่นชะมัด…พอได้มานั่งอยู่บนรถกับชายหนุ่มสองต่อสอง เขาไม่พูดอะไร ส่วนเธอก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ที่ไม่พูดเพราะเวลานี้เอาแต่เพ้อถึงการกระทำเมื่อครู่ของเขา บอกตามตรงว่าไอ้คำพูดที่สุดแสนจะกระด้างของเขามันสวนทางกับการกระทำสิ้นดี ผู้ชายคนนี้อบอุ่นแล้วก็ใจดีกว่าที่เธอคิด“แฮ่ม บ้านเมษ์อยู่ไหน” เมธากรตัดสินใจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เงียบ ส่วนเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะสับสนกับตัวเองเหลือเกิน การได้อยู่บนรถกับเธอสองต่อสองมันโคตรจะอันตราย ทว่าที่เขากลับไปรับเธอนั้นไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจอยากพาสาวน้อยขึ้นเตียง แต่ที่ทำมันเป็นเพราะเขาห่วงเธอต่างหากอีกไม่นานไอ้นักร้องที่ชื่อธนามันก็คงจะลงจากเวทีแล้ว หากมันเห็นเธอยืนเหงาหงอย
“พี่…แต่งงานแล้วเหรอคะ”“ยัง” หมอหนุ่มขมวดคิ้วกับคำถามเธอ หากเขาแต่งงานมีเมียแล้วคงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้หรอก สู้อยู่บ้านนอนกกเมียคงจะดีกว่ากันเยอะ“งั้นแปลว่ามีแฟน”“เปล่า…”เหตุผลข้อแรกไม่ใช่ หมายความว่าเหตุผลที่สองอาจมีความเป็นไปได้สินะ!ดวงตากลมโตเผลอมองต่ำลงไปที่กึ่งกลางกายของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายรูปหล่อ โพรไฟล์เลิศ ไม่มีพันธะใด แต่กลับมีปัญหาเรื่องน้องชายมันเป็นอะไรที่น่าสงสารจริงๆ นะ“มองอะไร” เมธากรมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอที่เอาแต่มองเป้ากางเกงเขาสลับกับมองหน้าไปมา“โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว จริงๆ ก็…ถ้าพี่หมอกมีปัญหาเรื่องอย่างว่าปรึกษาเมษ์ได้นะคะ เมษ์พอจะมีเพื่อนที่เรียนจบหมออยู่บ้าง เผื่อจะลองถามๆ ดูให้” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่อาวุธลับของเขาอย่างกระดากอาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด อีกอย่างหากปัญหามันเกิดแล้วก็ควรจะแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่เขินอายกันอยู่“ปัญหามีไว้แก้ค่ะพี่ ลองหาหมอดูไหมเพื่อชีวิตที่สดใสซู่ซ่า”“ว่าไงนะ? แล้วทำไมพี่ต้องหาหมอ
คุณหมอหนุ่มใหญ่เริ่มไม่ค่อยชอบวันนี้เสียแล้ว เพราะมันทำให้ความคิดในหัวเขาตีกันไปหมด ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอกกันแน่!“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า” เมธากรทำท่าจะลุกขึ้นยืนก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปมากกว่านี้“เดี๋ยวค่ะ พี่เล่นเป็นแฟนเมษ์แล้วก็ต้องเล่นให้จบสิ” ขวัญเมษาจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น มองเขาอย่างตัดพ้อ เกิดมาเธอไม่เคยเว้าวอนผู้ชายคนไหนเท่าเขามาก่อนเลยจริงๆ และเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าถึงขนาดนี้…กล้าที่จะเป็นฝ่ายจูบผู้ชายก่อน!หมับ…ดวงตาทรงเสน่ห์เบิกกว้างขึ้นเมื่อจู่ๆ นักร้องสาวก็เกี่ยวรั้งต้นคอเขาเข้าไปหา และกระแทกริมฝีปากอิ่มเข้ามาบดขยี้ปากเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เวลานี้เสียงนักร้องบนเวทีที่เคยฟังเพราะเสนาะหูได้เพี้ยนผิดคีย์ไปจนเมธากรมั่นใจว่าคนทั้งร้านคงงุนงงแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธนาคงจะมีก็แต่เมธากรและสาวร้อนรักคนนี้ที่รู้ดีว่ามันกำลังช็อกจนร้องเพลงเพี้ยน! และไม่ใช่แค่มันที่ช็อกเพราะเมธากรเองก็ไม่ต่างกัน แถมเขายังต้องต่อสู้กับปณิธานในใจและความร้อนรุ่มตรงหน้านี้อีกยิ่งเธอพยายามขบเม้มและกัดริมฝีปากเขาเบาๆ เพื่ออ้อนวอนให้เขายอมเปิดปากรับการรุกรานจากเธอ มันยิ่งทำให
“พี่หมอกเล่นสมบทบาทเหมือนกันนะคะ” น้ำเสียงขวัญเมษาเบาราวกับเสียงกระซิบที่ฟังดูเซ็กซี่และยั่วยวนที่สุดเท่าที่เจ้าของเสียงเคยรู้สึกเธอไม่ได้ตั้งใจอ่อย…และก็ไม่ได้มีนิสัยขี้อ่อย หากแต่อารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวชักนำให้เธอชื่นชอบสัมผัสเขาเสียจนไม่อาจปิดบังได้“แล้วชอบไหม” อารมณ์ของแพทย์หนุ่มใหญ่พุ่งกระฉูดเพียงแค่ได้สบตากับคนตัวเล็กที่มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มราวกับเจ้าตัวกำลังส่งสัญญาณให้กัน ไม่พอแค่นั้น มือเล็กที่เคยลูบไล้แผ่นอกก็เริ่มซุกซนหนักข้อขึ้นด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายมาลูบที่หน้าขาแกร่งของเขาแทนกลายเป็นว่าเวลานี้ทั้งเขาและเธอกำลังลูบไล้ล้วงกันอย่างไม่มีใครห้ามใครและไอ้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ก่อนหน้านี้เคยมีอยู่สูงทะลุเพดานก็ได้พังทลายกลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เมธากรไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้วนอกจากสาวสวยตรงหน้าไม่สนว่าเธอคือคนแปลกหน้า ไม่สนว่ากำลังเล่นละคร เขาสนแต่อารมณ์หื่นกระหายที่กำลังถูกปลุกเร้าด้วยสายตาและสัมผัสจากคนข้างๆ เท่านั้น“ชอบค่ะ เมษ์ชอบ…มาก”สิ้นคำตอบของเธอ มือหนาก็คืบคลานเข้าไปภายในกระโปรงสั้นจิ๋ว สัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาที่เป็นเกราะป้องกันจุดอ่อนไหวที่
“สวยขนาดนั้น?” เออ เธอสวยขนาดนั้นเลยแหละ…แม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่ทว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาก็อดแซวขวัญเมษาไม่ได้“เห้อ ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย ไม่ง้อแล้ว…อ๊ะ!”ไม่ทันที่เธอจะได้เขยิบตัวออกห่างจากคนใจร้าย ลำแขนแกร่งข้างหนึ่งของเขาก็เข้ามาโอบกอดเธอไปแนบชิดกับกายแกร่งโดยที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัว“พี่หมอก” เรียวแขนข้างหนึ่งของเธอปะทะเข้ากับหน้าอกแน่นหนั่น เลยพลอยทำให้หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดชายใดอย่างขวัญเมษาเต้นรัวแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินมันความตื่นเต้น วาบหวิวตามอารมณ์ทางเพศมันเป็นแบบนี้เองสินะ!“ใครบอกว่าพี่ไม่ช่วย...ถ้าจะเป็นเด็กพี่ก็ต้องนั่งใกล้พี่แบบนี้ เราโอเคไหม?” ทำไมคนอย่างเขาจะดูไม่ออกละว่าแม่สาวน้อยคนนี้ตื่นเต้นแค่ไหน เพราะไม่ใช่แค่เธอที่ตื่นเต้นแต่นายแพทย์ที่ผ่านประสบการณ์มากมายอย่างเขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็ไอ้ร่างกายนุ่มนิ่มของเธอมันมีกลิ่นหอมเย้ายวนดีเหลือเกิน ปกติเมธากรไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะมาเล่นสนุกกับเรื่องพรรค์นี้ ทว่า...คืนนี้เขาขอแหกกฎตัวเองหน่อยแล้วกัน เพราะแม่กระต่ายน้อยในอ้อมกอดนั้นยั่วเก่งดีเหลือเกิน“โอเคค่ะ ขอแค่พี่หมอกช่วยเล่นให้สมบทบาทก็พอ” เอาวะ...มาถึงขนาดน