คุณหมอหนุ่มใหญ่เริ่มไม่ค่อยชอบวันนี้เสียแล้ว เพราะมันทำให้ความคิดในหัวเขาตีกันไปหมด ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอกกันแน่!
“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า” เมธากรทำท่าจะลุกขึ้นยืนก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
“เดี๋ยวค่ะ พี่เล่นเป็นแฟนเมษ์แล้วก็ต้องเล่นให้จบสิ” ขวัญเมษาจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น มองเขาอย่างตัดพ้อ เกิดมาเธอไม่เคยเว้าวอนผู้ชายคนไหนเท่าเขามาก่อนเลยจริงๆ และเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าถึงขนาดนี้…
กล้าที่จะเป็นฝ่ายจูบผู้ชายก่อน!
หมับ…
ดวงตาทรงเสน่ห์เบิกกว้างขึ้นเมื่อจู่ๆ นักร้องสาวก็เกี่ยวรั้งต้นคอเขาเข้าไปหา และกระแทกริมฝีปากอิ่มเข้ามาบดขยี้ปากเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เวลานี้เสียงนักร้องบนเวทีที่เคยฟังเพราะเสนาะหูได้เพี้ยนผิดคีย์ไปจนเมธากรมั่นใจว่าคนทั้งร้านคงงุนงงแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธนา
คงจะมีก็แต่เมธากรและสาวร้อนรักคนนี้ที่รู้ดีว่ามันกำลังช็อกจนร้องเพลงเพี้ยน! และไม่ใช่แค่มันที่ช็อกเพราะเมธากรเองก็ไม่ต่างกัน แถมเขายังต้องต่อสู้กับปณิธานในใจและความร้อนรุ่มตรงหน้านี้อีก
ยิ่งเธอพยายามขบเม้มและกัดริมฝีปากเขาเบาๆ เพื่ออ้อนวอนให้เขายอมเปิดปากรับการรุกรานจากเธอ มันยิ่งทำให้คนอดอยากมานานอย่างเขาใกล้จะหมดความอดทนเต็มที
เอาวะ…ก็แค่จูบ!
“อื้อ!”
ขวัญเมษาครางเสียงหลงเมื่อคนมากประสบการณ์เป็นฝ่ายจับมั่นที่ใบหน้าเธอพร้อมกับมอบจูบล้ำลึกให้เธออย่างเร่าร้อน ไอ้จูบจากเธอเมื่อครู่กลายเป็นจูบอนุบาลไปเลยเมื่อเทียบกับการเกี่ยวตวัดลิ้นอย่างช่ำชองของเขา…เวลานี้ลิ้นร้อนไล่ต้อนเธออย่างไม่คิดถอย ก่อนจะดูดดุนลิ้นเธอสลับกับขบเม้มที่ริมฝีปากบนล่างไปมาจนร่างทั้งร่างของเธออ่อนยวบในทันที ความรู้สึกร้อนฉ่าแผ่ไปทั่วตัวก่อนจะไปกระจุกอยู่ที่กึ่งกลางกลาย มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ขวัญเมษาไม่เคยรู้จักมาก่อน
ผู้ชายคนนี้ใช้ลิ้นเก่งเป็นบ้า!
แต่ไม่นาน เขาก็ถอนจูบออกพร้อมมองเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่เอ่อล้นอย่างไม่ปิดบัง
“ไปข้างนอกกันเถอะ” เขาดึงแขนเธอให้เดินตามออกไปโดยไม่รอคำตอบ
ด้านขวัญเมษาไม่รู้เลยว่าเขาจะพาเธอไปไหน มันทั้งตื่นเต้น อยากรู้ อยากลองไปหมด ยิ่งได้มองแผ่นหลังกว้างของคนที่กำลังจูงมือเธออยู่ตอนนี้ มันยิ่งทำให้เธอจินตนาการถึงตอนที่โอบกอดแนบชิดกับเขา
ให้ตายเถอะ! นี่เธอกลายเป็นผู้หญิงหื่นขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
และแล้วเมธากรก็พาหญิงสาวมาหยุดอยู่ที่หน้ารถยุโรปคันหรู เขาปล่อยมือจากเธอและหันมาสบตากันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
“เห้อ…” นายแพทย์รูปหล่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบกล่องถุงยางอนามัยที่ไอ้ภาคย์หวังดีเอามาให้ส่งยื่นมันให้กับคนตัวเล็กแทน
เธอมองเขาตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ จนเขาอยากจะถอนหายใจเป็นรอบที่สอง
“เอาติดตัวไว้นะเผื่อเราจำเป็นต้องใช้ เรายังเด็กจะทำอะไรก็ป้องกันไว้ก่อนเข้าใจไหม คืนนี้พี่ต้องไปแล้ว” เขารีบพูดจนลิ้นแทบจะพันกัน เพราะกลัวว่าความอดทนที่มีจะหมดไป มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จะไม่พาผู้หญิงคนนี้ขึ้นรถกลับไปกระแทกกายใส่ให้สมใจอยาก
แต่เมธากรทำไม่ได้! เขาไม่อยากกลืนน้ำลายตัวเอง และกลายเป็นผู้ชายเจ้าชู้นอนกับผู้หญิงไปเรื่อย แม้จะยังโสดทว่ามันไม่ใช่วิถีชีวิตในแบบที่เขาต้องการ ถึงความถูกใจที่มีต่อคนตรงหน้าจะมากจนแม้นเขาเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเอง แต่มันไม่ถูกต้องและเธอเองก็เด็กมาก…
ว่าก็ว่า…ระยะห่างระหว่างวัยนั้นแทบจะเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานเขาเหมือนที่ไอ้ภาคย์มันพูดเอาไว้จริงๆ
“คะ? นี่พี่หมายความว่า…” เขากำลังจะบอกว่าให้เธอไปนอนกับผู้ชายคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?! ขวัญเมษาไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกนี้จะยังมีผู้ชายแบบนี้หลงเหลืออยู่
ผู้ชายที่ปฏิเสธผู้หญิงที่ให้ ‘เอา’ ฟรี!
ขวัญเมษามั่นใจว่าเธอไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แถมเมื่อครู่นี้เขาเองก็ดูจะถูกใจเธอไม่น้อย ไม่เช่นนั้นจะมาจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มเพื่ออะไรถ้าสุดท้ายไม่ยอมไปต่อแบบนี้
คนที่เพิ่งเคยปล่อยตัวให้ผู้ชายเป็นครั้งแรก รู้สึกเสียเซลฟ์อย่างแรง!
“พี่ให้เราไปกับพี่ไม่ได้หรอก แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ คืนนี้พี่สนุกมาก”
ยิ่งเขาพูด นักร้องสาวก็ยิ่งอึ้ง…แล้วความคิดหนึ่งก็แล่นขึ้นมาในหัวของเธอ
คนที่มีอายุอานามเท่าเขา แถมดูจากรูปร่างหน้าตาบวกกับลักษณะนิสัยเท่าที่ได้คุยกันเมื่อครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
การที่คนตรงหน้าปฏิเสธเธอมันมีเพียงสองเหตุผลเท่านั้น เขาอาจจะมีภรรยาแล้ว หรือไม่ก็…จู๋ไม่แข็ง!
“พี่…แต่งงานแล้วเหรอคะ”“ยัง” หมอหนุ่มขมวดคิ้วกับคำถามเธอ หากเขาแต่งงานมีเมียแล้วคงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้หรอก สู้อยู่บ้านนอนกกเมียคงจะดีกว่ากันเยอะ“งั้นแปลว่ามีแฟน”“เปล่า…”เหตุผลข้อแรกไม่ใช่ หมายความว่าเหตุผลที่สองอาจมีความเป็นไปได้สินะ!ดวงตากลมโตเผลอมองต่ำลงไปที่กึ่งกลางกายของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายรูปหล่อ โพรไฟล์เลิศ ไม่มีพันธะใด แต่กลับมีปัญหาเรื่องน้องชายมันเป็นอะไรที่น่าสงสารจริงๆ นะ“มองอะไร” เมธากรมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอที่เอาแต่มองเป้ากางเกงเขาสลับกับมองหน้าไปมา“โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว จริงๆ ก็…ถ้าพี่หมอกมีปัญหาเรื่องอย่างว่าปรึกษาเมษ์ได้นะคะ เมษ์พอจะมีเพื่อนที่เรียนจบหมออยู่บ้าง เผื่อจะลองถามๆ ดูให้” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่อาวุธลับของเขาอย่างกระดากอาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด อีกอย่างหากปัญหามันเกิดแล้วก็ควรจะแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่เขินอายกันอยู่“ปัญหามีไว้แก้ค่ะพี่ ลองหาหมอดูไหมเพื่อชีวิตที่สดใสซู่ซ่า”“ว่าไงนะ? แล้วทำไมพี่ต้องหาหมอ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมธากรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้นักร้องสาวที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินขึ้นรถเขาเสียที จนหมอหนุ่มใหญ่ต้องสรรหาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเอง“ไหนๆ คืนนี้เราก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว แฟนคงไม่ทิ้งให้แฟนกลับคนเดียวหรอกนะ” เขายักไหล่พูดอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร พอเธอพยักหน้าและยอมขึ้นรถแต่โดยดี เมื่อนั้นเขาจึงลอบถอนหายใจออกมาหาเรื่องเข้าตัวจนได้ไอ้หมอเมธ!อบอุ่นชะมัด…พอได้มานั่งอยู่บนรถกับชายหนุ่มสองต่อสอง เขาไม่พูดอะไร ส่วนเธอก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ที่ไม่พูดเพราะเวลานี้เอาแต่เพ้อถึงการกระทำเมื่อครู่ของเขา บอกตามตรงว่าไอ้คำพูดที่สุดแสนจะกระด้างของเขามันสวนทางกับการกระทำสิ้นดี ผู้ชายคนนี้อบอุ่นแล้วก็ใจดีกว่าที่เธอคิด“แฮ่ม บ้านเมษ์อยู่ไหน” เมธากรตัดสินใจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เงียบ ส่วนเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะสับสนกับตัวเองเหลือเกิน การได้อยู่บนรถกับเธอสองต่อสองมันโคตรจะอันตราย ทว่าที่เขากลับไปรับเธอนั้นไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจอยากพาสาวน้อยขึ้นเตียง แต่ที่ทำมันเป็นเพราะเขาห่วงเธอต่างหากอีกไม่นานไอ้นักร้องที่ชื่อธนามันก็คงจะลงจากเวทีแล้ว หากมันเห็นเธอยืนเหงาหงอย
มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!หมับ…เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่าเรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นบอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุดทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เ
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
ขวัญเมษารับงานนักร้องงานแต่งมาหลายครั้งหลายหน และเพลงที่คู่บ่าวสาวรีเควสแทบทุกงานก็คือเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ซึ่งก็จัดว่าเป็นเพลงเก่าเพลงแก่ที่เธอหัดร้องมาตั้งแต่เด็ก คืนนี้เธอจึงเลือกขับร้องเพลงที่ตัวเองชำนาญเป็นเพลงแรก โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มหวานพร้อมกล่าวทักทายแขกผู้มีเกียรติในงาน“ก่อนที่เราจะไปฟังบทเพลงสนุกๆ เรามาฟังบทเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ กันก่อนนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเมษ์เป็นเพื่อนกับเจ้าสาว แล้วก็รู้จักเจ้าบ่าวมาสักระยะหนึ่งเหมือนกัน เมษ์ขออวยพรให้ทั้งสองคนมีความสุขกับชีวิตคู่ วันแรกรักกันยังไงวันต่อไปก็ขอให้ความรักที่มีคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ”นักร้องสาวพูดจบเสียงดนตรีบรรเลงเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ก็ดังขึ้น“ไม่ต้องรักฉันจนล้นฟ้า ไม่ต้องหาถ้อยคำหวานๆ อย่างที่เคยบอกกันก็ยังซึ้งอยู่ ขอแค่รักคำเดียวเท่านั้น หมายถึงฉันคนเดียวเท่านี้ อยากจะฟังอีกทีว่าเธอรักฉัน...”ขวัญเมษาเปล่งเสียงหวานออกไป เรียกเสียงปรบมือและเสียงชื่นชมจากแขกเหรื่อได้เป็นอย่างดี หลายคนเริ่มลุกขึ้นมายืนฟังเธอในระยะใกล้ติดขอบเวที ในมือถือแก้วแชมเปญ บ้างก็พูดคุยกัน บ้างก็ฮัมเพลงอย่างเพลิดเพลิน นี่คงเป็นความสุขของนักร้อง
หมับ! เมธากรไม่ตอบหากแต่เขากลับคว้าเอาไมโครโฟนจากมือนักร้องสาวมาไว้ที่ตัวเอง ก่อนจะเป็นฝ่ายร้องเพลงแทนเธอจนคนทั้งงานมองมาเป็นสายตาเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ขวัญเมษาที่เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาร้องเพลงได้ แถมยังทำได้ดีไม่แพ้นักร้องอาชีพสายตาเธอมองเขาอย่างชื่นชม เช่นเดียวกับเขาที่มองเธออย่างชื่นชมไม่แพ้กันเลยคุณหมอหนุ่มใหญ่ร้องเพลงจนจบ ก่อนจะกล่าวอวยพรบ่าวสาวพอเป็นพิธี“ยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยนะครับ ดีใจที่วันนี้ทั้งคู่หาคนที่ใช่เจอ แล้วก็เอาใจช่วยให้ผมเจอเจ้าสาวของตัวเองด้วยนะครับ” พูดจบเมธากรก็หันไปคืนไมโครโฟนให้กับพิธีกรของงาน ประโยคเมื่อครู่นี้เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวน้อยใหญ่มากมายเพราะมันเป็นเหมือนการประกาศกร้าวออกมาครั้งแรกว่าเขายังโสดและไม่คิดปิดกั้นตัวเอง!ที่ผ่านมาคนบ้างานอย่างอาจารย์นายแพทย์เมธากรไม่เคยวางตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญหรือเข้าถึงง่ายขนาดนี้มาก่อน ทว่าคืนนี้ใครบางคนทำให้เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และไอ้ประโยคสุดแสนจะขี้อ่อยเมื่อครู่นี้ก็พูดเพื่อต้องการจะบอกเธอเช่นกันเมธากรกำลังสนใจขวัญเมษา! นั่นคือความจริงที่คนอายุเข้าหลักสี่อย่างเขาไม่อยากโกหกตัวเองอีกแล้ว“กรี
1 เมษายน วัน April Fool’s Day@ผับ Falling in Youกลิ่นอายอบายมุขนี่มันหอมคละคลุ้งเยียวยาหัวใจได้ดีจริงๆ!นั่นเป็นความคิดแรกของ ‘นายแพทย์เมธากร เขมาภิวัฒน์’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘อาจารย์หมอเมธ’ ทันทีที่ก้าวเข้ามายังผับสุดหรูของเพื่อนสนิทอย่าง ‘ภาคย์’ ใครจะคิดละว่านายแพทย์อย่างเขาที่ควรจะเข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม รับประทานอาหารสุขภาพ และตื่นมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำที่บอกคนไข้ทุกราย แท้จริงแล้ว...วิธีผ่อนคลายที่ดีสุดๆ มันจะมีอะไรไปได้นอกเสียจาก ‘การร่ำสุรา’ร่างสูงโปร่งดูสง่าดุดันแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท กางเกงยีนส์รัดรูปตัวโปรด ทรงผมเซ็ตเสยอย่างเป็นธรรมชาติ เดินตรงเข้าไปยังโต๊ะวีไอพีที่มีไอ้เจ้าของผับหน้าเข้มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว มิวายข้างกายมันยังมีสาวสวยอีกสองคนนั่งขนาบข้าง ดูผ่านๆ ไม่ต่างจากแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อชิ้นใหญ่แปะอยู่ตรงกลาง“หึ” นายแพทย์หนุ่มใหญ่ยกยิ้มมองเพื่อนด้วยสายตาเคยชิน“ไงไอ้หมอ! ลมอะไรหอบมึงมาหากูที่นี่คืนนี้วะ” ภาคย์ทักเพื่อนพลางหันไปหอมแก้มสาวๆ คนละฟอดอย่างเท่าเทียมกัน“กูหิวเหล้า” เขาตอบนิ่งๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาตัวข้างกันกับภาคย์ เหล่มองสาว
“สวัสดีค่าาา วันนี้วันที่ 1 เมษายน เป็นวัน April Fool’s Day และในวันแบบนี้จะพบกับวงดนตรีไหนไม่ได้นอกจากพวกเรา วง April Fool’s Dayพวกเราจะมามอบความสุขสนุกสนานให้กับทุกคนในค่ำคืนนี้ ใครเป็นคอเพลงร็อคในตำนานลุกขึ้นเต้นแล้วก็ช่วยกันร้องได้นะค้าาา”เสียงหวานปลายแหบอย่างมีเสน่ห์ของนักร้องนำเรียกให้คุณหมอหนุ่มใหญ่หันไปมองหน้าเธอ เพราะฟังแค่เสียงพูดเขาก็รับรู้ได้แล้วว่าเธอคนนี้ต้องร้องเพลงออกมาได้อย่างไม่ธรรมดาเป็นแน่ และเมื่อได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างถูกใจนักร้องสาวแต่งกายด้วยเสื้อสายเดี่ยว กระโปรงยีนส์สั้นทับด้วยแจ็คเก็ตหนัง ผมยาวสวยถูกย้อมเป็นสีชมพูมัดรวบเป็นหางม้า เผยให้เห็นใบหูที่ถูกเจาะประดับด้วยต่างหูสีเงินเป็นแนวยาว ในมือของเธอถือไมโครโฟนสีชมพูช็อกกิ้งพิงค์สะท้อนแสงมาแต่ไกลแต่ที่สะดุดตาแพทย์หนุ่มที่สุดเห็นทีจะเป็นสไตล์การแต่งหน้าของเธอ สาวน้อยบนเวทีกรีดตาสีดำเข้ม และทาปากสีม่วงจี๊ดจ๊าด เรียกได้ว่ามีเสน่ห์และอินดี้สมกับงานที่เธอทำอยู่ และทันทีที่เจ้าตัวร้องเพลง เมธากรก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะเสียงเธอดีถึงขั้นเป็นนักร้องออกอัลบั้มได้เลย!ร่างบางโยก
หมับ! เมธากรไม่ตอบหากแต่เขากลับคว้าเอาไมโครโฟนจากมือนักร้องสาวมาไว้ที่ตัวเอง ก่อนจะเป็นฝ่ายร้องเพลงแทนเธอจนคนทั้งงานมองมาเป็นสายตาเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ขวัญเมษาที่เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาร้องเพลงได้ แถมยังทำได้ดีไม่แพ้นักร้องอาชีพสายตาเธอมองเขาอย่างชื่นชม เช่นเดียวกับเขาที่มองเธออย่างชื่นชมไม่แพ้กันเลยคุณหมอหนุ่มใหญ่ร้องเพลงจนจบ ก่อนจะกล่าวอวยพรบ่าวสาวพอเป็นพิธี“ยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยนะครับ ดีใจที่วันนี้ทั้งคู่หาคนที่ใช่เจอ แล้วก็เอาใจช่วยให้ผมเจอเจ้าสาวของตัวเองด้วยนะครับ” พูดจบเมธากรก็หันไปคืนไมโครโฟนให้กับพิธีกรของงาน ประโยคเมื่อครู่นี้เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวน้อยใหญ่มากมายเพราะมันเป็นเหมือนการประกาศกร้าวออกมาครั้งแรกว่าเขายังโสดและไม่คิดปิดกั้นตัวเอง!ที่ผ่านมาคนบ้างานอย่างอาจารย์นายแพทย์เมธากรไม่เคยวางตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญหรือเข้าถึงง่ายขนาดนี้มาก่อน ทว่าคืนนี้ใครบางคนทำให้เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และไอ้ประโยคสุดแสนจะขี้อ่อยเมื่อครู่นี้ก็พูดเพื่อต้องการจะบอกเธอเช่นกันเมธากรกำลังสนใจขวัญเมษา! นั่นคือความจริงที่คนอายุเข้าหลักสี่อย่างเขาไม่อยากโกหกตัวเองอีกแล้ว“กรี
ขวัญเมษารับงานนักร้องงานแต่งมาหลายครั้งหลายหน และเพลงที่คู่บ่าวสาวรีเควสแทบทุกงานก็คือเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ซึ่งก็จัดว่าเป็นเพลงเก่าเพลงแก่ที่เธอหัดร้องมาตั้งแต่เด็ก คืนนี้เธอจึงเลือกขับร้องเพลงที่ตัวเองชำนาญเป็นเพลงแรก โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มหวานพร้อมกล่าวทักทายแขกผู้มีเกียรติในงาน“ก่อนที่เราจะไปฟังบทเพลงสนุกๆ เรามาฟังบทเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ กันก่อนนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเมษ์เป็นเพื่อนกับเจ้าสาว แล้วก็รู้จักเจ้าบ่าวมาสักระยะหนึ่งเหมือนกัน เมษ์ขออวยพรให้ทั้งสองคนมีความสุขกับชีวิตคู่ วันแรกรักกันยังไงวันต่อไปก็ขอให้ความรักที่มีคงอยู่เหมือนเดิมค่ะ”นักร้องสาวพูดจบเสียงดนตรีบรรเลงเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ ก็ดังขึ้น“ไม่ต้องรักฉันจนล้นฟ้า ไม่ต้องหาถ้อยคำหวานๆ อย่างที่เคยบอกกันก็ยังซึ้งอยู่ ขอแค่รักคำเดียวเท่านั้น หมายถึงฉันคนเดียวเท่านี้ อยากจะฟังอีกทีว่าเธอรักฉัน...”ขวัญเมษาเปล่งเสียงหวานออกไป เรียกเสียงปรบมือและเสียงชื่นชมจากแขกเหรื่อได้เป็นอย่างดี หลายคนเริ่มลุกขึ้นมายืนฟังเธอในระยะใกล้ติดขอบเวที ในมือถือแก้วแชมเปญ บ้างก็พูดคุยกัน บ้างก็ฮัมเพลงอย่างเพลิดเพลิน นี่คงเป็นความสุขของนักร้อง
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้เศร้าแค่ไหนแต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ…ขวัญเมษากลับห้องมาเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนความยาวเหนือเข่าเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีเข้ากันกับชุด บอกตามตรงว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ขวัญเมษาตื่นเต้นมากที่สุด แม้เธอจะเคยรับงานร้องเพลงในงานแต่งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม แต่อย่างที่บอกว่างานนี้คืองานของเพื่อนในคณะเธอมันจะไม่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอดันอยู่ในช่วงเวลาที่บ่าวสาวได้จีบกันไปจนถึงขั้นขอกันแต่งงานเจ้าบ่าวเป็นหมอส่วนเจ้าสาวเพื่อนของเธอเป็นพยาบาล ใครต่อใครคงคิดว่าทั้งคู่คงเจอกันที่โรงพยาบาลแน่ๆ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนเจอกันที่เกาะเสม็ด แล้วก็พบรักกันในรีสอร์ตที่จัดงาน มากกว่านั้นทั้งคู่ดันเจอกันในวันที่ต่างคนต่างเมาหัวทิ่มและมีวันไนท์สแตนด์กัน!จากวันไนท์สแตนด์ในวันนั้น…สู่ความสัมพันธ์ที่พร้อมจะจับมือก้าวไปด้วยกันในวันนี้กรี๊ดดดดด! โรแมนติกเป็นบ้า แค่นั่งคิดก็ยิ้มตามแล้ว แต่พอย้อนกลับมาว่าทำไมตัวเองไม่โชคดีแบบเพื่อนสาวบ้างนะ แค่นั้นรอยยิ้มของเธอก็พลันหุบลงทันทีอยากมีรักแท้ในคืน
มีอะไรให้ขอเยอะแยะ ทำไมเด็กนี่ถึงชอบขออะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เรื่อยเลยวะ?ถามว่าให้ไหม…จะเหลือเหรอ!หมับ…เมธากรจัดให้ตามคำขอของสาวน้อยร้อนรัก มือหนาจับมั่นที่ต้นคอเธอก่อนรั้งเข้าไปฉกฉวยริมฝีปากอิ่มในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนคนที่เป็นฝ่ายอยากได้อยากโดนตั้งตัวไม่ทัน“อื้อ” ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาจูบเธออย่างเร่าร้อน และรุนแรงมากกว่าตอนนั่งจูบนั่งล้วงกันในผับหลายเท่าเรียวลิ้นเขาเสาะแสวงหาดื่มกินความหวานจากปากสาวน้อยอย่างต้องการจะเก็บเกี่ยวความเย้ายวนใจนี้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับเธอ เมื่อได้สติก็จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งกลิ่นกายและลมหายใจอุ่นที่เป่ารดใบหน้าของขวัญเมษามันทำให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างเธอเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ยิ่งเมื่อคนตรงหน้าดูดเม้มริมฝีปากล่างเธออย่างแรง ก่อนจะวกไปดูดดึงที่ริมฝีปากบน และหวนกลับมาตวัดเรียวลิ้นเล็กของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นบอกตามตรงว่าขวัญเมษาเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘น้ำเดิน’ ก็คราวนี้เดี๋ยว! ยังฟินอยู่ อย่าพึ่งหยุดทว่าจู่ๆ คนจูบเก่งก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาเขายังเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ขวัญเมษาเองก็ดูออกว่าอารมณ์เ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมธากรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้นักร้องสาวที่ยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินขึ้นรถเขาเสียที จนหมอหนุ่มใหญ่ต้องสรรหาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเอง“ไหนๆ คืนนี้เราก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว แฟนคงไม่ทิ้งให้แฟนกลับคนเดียวหรอกนะ” เขายักไหล่พูดอย่างกับมันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร พอเธอพยักหน้าและยอมขึ้นรถแต่โดยดี เมื่อนั้นเขาจึงลอบถอนหายใจออกมาหาเรื่องเข้าตัวจนได้ไอ้หมอเมธ!อบอุ่นชะมัด…พอได้มานั่งอยู่บนรถกับชายหนุ่มสองต่อสอง เขาไม่พูดอะไร ส่วนเธอก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ที่ไม่พูดเพราะเวลานี้เอาแต่เพ้อถึงการกระทำเมื่อครู่ของเขา บอกตามตรงว่าไอ้คำพูดที่สุดแสนจะกระด้างของเขามันสวนทางกับการกระทำสิ้นดี ผู้ชายคนนี้อบอุ่นแล้วก็ใจดีกว่าที่เธอคิด“แฮ่ม บ้านเมษ์อยู่ไหน” เมธากรตัดสินใจเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เงียบ ส่วนเขาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะสับสนกับตัวเองเหลือเกิน การได้อยู่บนรถกับเธอสองต่อสองมันโคตรจะอันตราย ทว่าที่เขากลับไปรับเธอนั้นไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจอยากพาสาวน้อยขึ้นเตียง แต่ที่ทำมันเป็นเพราะเขาห่วงเธอต่างหากอีกไม่นานไอ้นักร้องที่ชื่อธนามันก็คงจะลงจากเวทีแล้ว หากมันเห็นเธอยืนเหงาหงอย
“พี่…แต่งงานแล้วเหรอคะ”“ยัง” หมอหนุ่มขมวดคิ้วกับคำถามเธอ หากเขาแต่งงานมีเมียแล้วคงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้หรอก สู้อยู่บ้านนอนกกเมียคงจะดีกว่ากันเยอะ“งั้นแปลว่ามีแฟน”“เปล่า…”เหตุผลข้อแรกไม่ใช่ หมายความว่าเหตุผลที่สองอาจมีความเป็นไปได้สินะ!ดวงตากลมโตเผลอมองต่ำลงไปที่กึ่งกลางกายของชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ ก่อนจะสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายรูปหล่อ โพรไฟล์เลิศ ไม่มีพันธะใด แต่กลับมีปัญหาเรื่องน้องชายมันเป็นอะไรที่น่าสงสารจริงๆ นะ“มองอะไร” เมธากรมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอที่เอาแต่มองเป้ากางเกงเขาสลับกับมองหน้าไปมา“โอเคค่ะ หนูเข้าใจแล้ว จริงๆ ก็…ถ้าพี่หมอกมีปัญหาเรื่องอย่างว่าปรึกษาเมษ์ได้นะคะ เมษ์พอจะมีเพื่อนที่เรียนจบหมออยู่บ้าง เผื่อจะลองถามๆ ดูให้” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่อาวุธลับของเขาอย่างกระดากอาย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิด อีกอย่างหากปัญหามันเกิดแล้วก็ควรจะแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่เขินอายกันอยู่“ปัญหามีไว้แก้ค่ะพี่ ลองหาหมอดูไหมเพื่อชีวิตที่สดใสซู่ซ่า”“ว่าไงนะ? แล้วทำไมพี่ต้องหาหมอ
คุณหมอหนุ่มใหญ่เริ่มไม่ค่อยชอบวันนี้เสียแล้ว เพราะมันทำให้ความคิดในหัวเขาตีกันไปหมด ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอกกันแน่!“พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า” เมธากรทำท่าจะลุกขึ้นยืนก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปมากกว่านี้“เดี๋ยวค่ะ พี่เล่นเป็นแฟนเมษ์แล้วก็ต้องเล่นให้จบสิ” ขวัญเมษาจับแขนชายหนุ่มไว้แน่น มองเขาอย่างตัดพ้อ เกิดมาเธอไม่เคยเว้าวอนผู้ชายคนไหนเท่าเขามาก่อนเลยจริงๆ และเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าถึงขนาดนี้…กล้าที่จะเป็นฝ่ายจูบผู้ชายก่อน!หมับ…ดวงตาทรงเสน่ห์เบิกกว้างขึ้นเมื่อจู่ๆ นักร้องสาวก็เกี่ยวรั้งต้นคอเขาเข้าไปหา และกระแทกริมฝีปากอิ่มเข้ามาบดขยี้ปากเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เวลานี้เสียงนักร้องบนเวทีที่เคยฟังเพราะเสนาะหูได้เพี้ยนผิดคีย์ไปจนเมธากรมั่นใจว่าคนทั้งร้านคงงุนงงแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธนาคงจะมีก็แต่เมธากรและสาวร้อนรักคนนี้ที่รู้ดีว่ามันกำลังช็อกจนร้องเพลงเพี้ยน! และไม่ใช่แค่มันที่ช็อกเพราะเมธากรเองก็ไม่ต่างกัน แถมเขายังต้องต่อสู้กับปณิธานในใจและความร้อนรุ่มตรงหน้านี้อีกยิ่งเธอพยายามขบเม้มและกัดริมฝีปากเขาเบาๆ เพื่ออ้อนวอนให้เขายอมเปิดปากรับการรุกรานจากเธอ มันยิ่งทำให
“พี่หมอกเล่นสมบทบาทเหมือนกันนะคะ” น้ำเสียงขวัญเมษาเบาราวกับเสียงกระซิบที่ฟังดูเซ็กซี่และยั่วยวนที่สุดเท่าที่เจ้าของเสียงเคยรู้สึกเธอไม่ได้ตั้งใจอ่อย…และก็ไม่ได้มีนิสัยขี้อ่อย หากแต่อารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวชักนำให้เธอชื่นชอบสัมผัสเขาเสียจนไม่อาจปิดบังได้“แล้วชอบไหม” อารมณ์ของแพทย์หนุ่มใหญ่พุ่งกระฉูดเพียงแค่ได้สบตากับคนตัวเล็กที่มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มราวกับเจ้าตัวกำลังส่งสัญญาณให้กัน ไม่พอแค่นั้น มือเล็กที่เคยลูบไล้แผ่นอกก็เริ่มซุกซนหนักข้อขึ้นด้วยการเปลี่ยนเป้าหมายมาลูบที่หน้าขาแกร่งของเขาแทนกลายเป็นว่าเวลานี้ทั้งเขาและเธอกำลังลูบไล้ล้วงกันอย่างไม่มีใครห้ามใครและไอ้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ก่อนหน้านี้เคยมีอยู่สูงทะลุเพดานก็ได้พังทลายกลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เมธากรไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้วนอกจากสาวสวยตรงหน้าไม่สนว่าเธอคือคนแปลกหน้า ไม่สนว่ากำลังเล่นละคร เขาสนแต่อารมณ์หื่นกระหายที่กำลังถูกปลุกเร้าด้วยสายตาและสัมผัสจากคนข้างๆ เท่านั้น“ชอบค่ะ เมษ์ชอบ…มาก”สิ้นคำตอบของเธอ มือหนาก็คืบคลานเข้าไปภายในกระโปรงสั้นจิ๋ว สัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาที่เป็นเกราะป้องกันจุดอ่อนไหวที่
“สวยขนาดนั้น?” เออ เธอสวยขนาดนั้นเลยแหละ…แม้จะรู้อยู่เต็มอก แต่ทว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาก็อดแซวขวัญเมษาไม่ได้“เห้อ ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย ไม่ง้อแล้ว…อ๊ะ!”ไม่ทันที่เธอจะได้เขยิบตัวออกห่างจากคนใจร้าย ลำแขนแกร่งข้างหนึ่งของเขาก็เข้ามาโอบกอดเธอไปแนบชิดกับกายแกร่งโดยที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัว“พี่หมอก” เรียวแขนข้างหนึ่งของเธอปะทะเข้ากับหน้าอกแน่นหนั่น เลยพลอยทำให้หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดชายใดอย่างขวัญเมษาเต้นรัวแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินมันความตื่นเต้น วาบหวิวตามอารมณ์ทางเพศมันเป็นแบบนี้เองสินะ!“ใครบอกว่าพี่ไม่ช่วย...ถ้าจะเป็นเด็กพี่ก็ต้องนั่งใกล้พี่แบบนี้ เราโอเคไหม?” ทำไมคนอย่างเขาจะดูไม่ออกละว่าแม่สาวน้อยคนนี้ตื่นเต้นแค่ไหน เพราะไม่ใช่แค่เธอที่ตื่นเต้นแต่นายแพทย์ที่ผ่านประสบการณ์มากมายอย่างเขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็ไอ้ร่างกายนุ่มนิ่มของเธอมันมีกลิ่นหอมเย้ายวนดีเหลือเกิน ปกติเมธากรไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะมาเล่นสนุกกับเรื่องพรรค์นี้ ทว่า...คืนนี้เขาขอแหกกฎตัวเองหน่อยแล้วกัน เพราะแม่กระต่ายน้อยในอ้อมกอดนั้นยั่วเก่งดีเหลือเกิน“โอเคค่ะ ขอแค่พี่หมอกช่วยเล่นให้สมบทบาทก็พอ” เอาวะ...มาถึงขนาดน