หนึ่งเดือนผ่านไป
ข่าวที่นายแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาลดีกรีผู้บริหารหนุ่มหล่อแซ่บวัยสี่สิบผู้ไร้คู่ครองประกาศตัวแฟนสาวที่อายุห่างกันเกินสิบหกปี กลายเป็นที่เลื่องลือในวงการแพทย์โดยเฉพาะกลุ่มหมอพยาบาลในโรงพยาบาลภิวัฒน์บำรุง
ทุกคนต่างตกใจและดีใจในคราเดียวกันด้วยรู้ว่าเมธากรไม่ใช่ผู้ชายที่จะเปิดใจให้ใครได้ง่ายๆ หรือว่ากันตามตรงหลายคนไม่เคยเห็นเขามีคนรักมาก่อน แถมคนรักในครั้งนี้ยังเป็นนักเทคนิคการแพทย์ประจำโรงพยาบาลอีกด้วย โชคดีที่ขวัญเมษาไม่ใช่คนได้ดีแล้วลืมตัว ถึงเวลานี้เธอจะกลายมาเป็นแฟนสาวที่ผู้บริหารโรงพยาบาลคลั่งไคล้มากแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็วางตัวได้ดีจนน่าชื่นชม
หญิงสาวไม่เคยยกตนข่มใครและวางตัวนอบน้อมกับรุ่นพี่รวมถึงเพื่อนร่วมงาน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเมธากรเป็นที่ยอมรับของทุกคนรอบตัว
“สวัสดีค่ะคุณบุษ อาจารย์หมอยังตรวจเคสไม่เสร็จเหรอคะ” นักเทคนิคการแพทย์สาวเดินมายังหน้าห้องทำงานของหมอหนุ่มใหญ่ เธอเอ่ยถามกับเลขาส่วนตัวของเขา
‘บุษกร’ เลขาหน้าห้องหันมายิ้มให้กับแฟนเจ้านาย ที่มักจะมาหาหมอเมธากรในเวลาพักเที่ยงอยู่เสมอ
“ใช่ค่ะคุณเมษ์ แต่อีกเดี๋ยวก็น่าจะกลับมาแล้วนะคะ”
“วันนี้อาจารย์หมอไม่ได้ทานข้าวเช้าด้วยค่ะ เดี๋ยวเมษ์ก็ต้องกลับไปเคลียร์งานต่อแล้ว ยังไงเมษ์ฝากข้าวกล่องนี้ให้อาจารย์หมอทีนะคะ” หญิงสาวว่าพลางส่งกล่องข้าวที่เธอทำมาตั้งแต่เช้าให้กับเลขาสาว
“ได้เลยค่ะคุณเมษ์ น่ารักแบบนี้นี่เองอาจารย์หมอถึงได้ติดไม่ไปไหน” เลขาสาวเอ่ยแซวพร้อมรับข้าวกล่องมาไว้ในมือ
“ก็หวังว่าจะไม่ไปไหนจริงๆ นะคะ ใครจะรู้ล่ะคะอาจารย์หมอฮอตจะตายไป”
“แหม อาจารย์หมอฮอตคนเดียวที่ไหนล่ะคะ คุณเมษ์เองก็เหมือนกันนั่นแหละ นี่ถ้าไม่ประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับอาจารย์หมอเมธแล้ว เชื่อพี่เถอะค่ะมีแต่คนจะเข้ามาจีบคุณเมษ์”
“ใครจะมาจีบแฟนผมกันครับคุณบุษ” เสียงเข้มของแฟนหนุ่มผู้ขี้หึง ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าดุ ๆ ที่มองจ้องคนรัก ก่อนจะหันไปมองเลขาสาวอย่างคาดคั้น
“เอ่อ...บุษไม่น่าพูดเลย” คราวนี้บุษกรถึงกับไปไม่เป็นด้วยรู้ดีกรีความดุของอาจารย์หมอเมธากรดียิ่งกว่าใครและดูท่าเขาจะหึงโหด หึงดุเสียยิ่งกว่าตอนอยู่ในมาดอาจารย์หมอด้วยซ้ำ
“พูดมาแล้วก็เล่ามา ผมจะได้ไปเคลียร์ว่าอย่ามายุ่งกับแฟนผม”
“โอ้โหอาจารย์ เดี๋ยวนี้เป็นวัยรุ่นเลือดร้อนแล้วเหรอ” ‘หมอทศพล’ เดินตามหลังมาได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะแซวขึ้น
“ผมไม่ได้เลือดร้อนครับ ผมแค่ห่วงแฟน”
คำตอบของแฟนหนุ่มทำเอาขวัญเมษาแก้มแดงขึ้นมา เพราะเขาไม่พูดเปล่าแต่กลับโอบไหล่เธอต่อหน้าทุกคน
“โห หวานขนาดนี้ใครจะกล้าขายขนมจีบแฟนคุณหมอกันครับ ผมไม่กล้าแล้วล่ะคนนึง”
“จริงค่ะหมอทศ ใครๆ ก็รู้ว่าคุณเมษ์เป็นแฟนอาจารย์หมอเมธ ถ้ากล้าเข้ามาจีบนี่เรียกว่าอยู่ไม่เป็นนะคะ” บุษกรได้ทีหาเพื่อนร่วมชะตากรรม
“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากดูด้วยแล้วกันว่ามีใครมาแอบยุ่งกับแฟนผมลับหลังไหม”
“เวอร์เกินไปแล้วค่ะหมอ เมษ์ไม่ได้ฮอตไม่ได้สวยจนคนต้องมายุ่งขนาดนั้นนะคะ”
“เมษ์ของพี่สวยขนาดนั้นแหละ”
เป็นอีกครั้งที่ทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยความเขินอาย ไม่อยากจะเชื่อว่าหมอหนุ่มผู้แสนเย็นชาเงียบขรึม พออยู่ในโหมดคลั่งรักแฟนสาวแล้วเขาจะกลายเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ อย่างไร้ซึ่งความเขินอายและไม่สนว่าคนข้างกายจะเขินตัวบิดแค่ไหนก็ตามที
สำหรับเมธากร เขาแก่เกินกว่าที่จะมานั่งปกปิดความรู้สึก ในเมื่อเขารักขวัญเมษาขนาดนี้ แถมเมียเขาก็เด็กปานนั้น ถ้ายังทำตัวเป็นไอ้แก่ปากแข็งเย็นชา มีหวังเมียเด็กของเขาคงโดนไอ้หนุ่มวัยเดียวกันที่มันเร้าใจมาจีบกันพอดี
ผู้หญิงกูใครห้ามแตะ กูหวง!
“เมษ์ว่าเมษ์จะกลับไปทำงานแล้วค่ะ เมษ์เอาข้าวกล่องมาฝากหมอด้วย อย่าลืมทานให้หมดนะคะ” หญิงสาวรีบบอกคนรักพร้อมกับยื่นข้าวกล่องให้เขา
“คุณบุษครับ ฝากโทรแจ้งหัวหน้าแผนกทีนะว่าผมขอตัวขวัญเมษาสักครึ่งชั่วโมง”
“หืม ไม่เอานะคะเมษ์อยากกลับไปทำงานแล้ว”
“น่า...อยู่กินข้าวกับพี่ก่อน ไม่นานหรอก จัดการให้ผมทีนะคุณบุษ” หมอหนุ่มใหญ่ว่าพลางจูงมือคนรักเข้าไปยังห้องทำงาน เพิ่งจะเจอเคสผ่าตัดมา ทั้งเหนื่อยทั้งหิว แล้วก็คิดถึงเธอจะแย่
“อาจารย์หมอทำแบบนี้ไม่ดี อื้อ!” ไม่ทันที่เธอจะพูดจบประโยคคนนิสัยไม่ดีก็ประกบจูบลงมาอย่างเร่าร้อนดุดันจนเธอทำอะไรไม่ถูก และทำได้เพียงจูบตอบเขากลับไปเท่านั้น
“อื้มมม คิดถึง” เมธากรถอนริมฝีปากออกมาพร่ำบอกความในใจก่อนจะก้มลงไปฉกฉวยปากอิ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างคนไม่รู้จักเบื่อหน่าย
และเป็นเช่นนั้นจริง! ตั้งแต่วันแรกที่คบกันมาจนถึงวันนี้มันเหมือนกับว่าเขาเก็บโควตาการนอนกับผู้หญิงเพื่อมาใช้มันกับขวัญเมษา แทบไม่มีคืนไหนเลยที่เขาไม่ได้กลืนกินคนตรงหน้า จนบางครั้งเธอถึงกับอ้อนวอนขอร้องให้เขาปล่อยให้เธอได้พักบ้าง
ก็รู้ว่าคนมันอร่อย แต่ถ้าโดนจับกินบ่อยเกินไปก็โทรม!
แล้วจะให้พักได้อย่างไรในเมื่อขวัญเมษาทั้งสวยหุ่นเย้ายวน แถมยังหอมหวานไปทั้งตัวจนเขาติดใจขนาดนี้!
เ
รอยสักแบบนี้เธอจำได้ดี มันไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน และเธอก็ชอบมันมาก ลวดลายมันยังคงติดตาเธอมาถึงตอนนี้“เอ่อ รอยสักของพี่ลายนี้ สวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวเริ่มตะกุกตะกักเมื่อพบว่าเธอเคยเห็นรอยสักลวดลายแบบนี้มาก่อน“อืม พี่ออกแบบคิดค้นขึ้นมาเอง มีที่เดียวในโลก หนูไม่มีทางไปเจอมันบนตัวของผู้ชายคนไหนอีกอย่างแน่นอน” ภาคย์อมยิ้ม เขาอ่านประกายสายตาของเธอออก ต้องมนตร์ดูตกใจ เหมือนกำลังนึกบางอย่างขึ้นมาได้“ใช่…ใช่คนเดียวกันแน่ๆ” ทั้งดวงตาและใบหน้าที่เธอเคยประทับใจ ทั้งน้ำเสียงนุ่มๆ ทั้งความรู้สึกคุ้นเคยตอนเจอกันต้องมนตร์อยากจะเขกหัวตัวเองหนัก ๆ อีกรอบก็แล้วใครมันจะไปคาดคิดกันละว่าจะเป็นเขาคนนั้น ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเป็นพระ ส่วนครั้งต่อมาเขาดันไปปรากฏตัวบนเวทีในบาร์โฮส“หลวงพี่ แล้วทำไมหลวงพี่ถึง…”“พี่ไม่ได้เป็นพระแล้ว เรียกพี่ภาคย์ก็พอ”เธอจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพระเหมือนกับตอนนั้น ความอบอุ่นวาบหวามแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างประหลาด“หลวงพี่เคยบอกหนูว่า…คนเราพอมีรักก็ย่อมมีทุกข์ แต่ว่าตอนนี้หนูมีความรักอีกแล้ว…. หนูควรจะทำตามหัวใจของตัวเองใช่ไหมคะ หลว
“ใจเย็นก่อนหนู” ภาคย์เอ่ยพลางอมยิ้ม เมื่อคนตัวเล็กเข้ามานั่งข้าง ๆ ในรถแล้วสวมกอดเขาในทันที….ใครจะไปใจเย็นไหว คิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย ต้องมนตร์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูด เธอยื่นสองมือไปโอบประคองสองข้างแก้มของเขาในท่วงท่ามันเขี้ยว ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “จูบหนูหน่อย จูบหนูหน่อยนะคะ…นะคะ”ต้องมนตร์นอนไม่หลับมาตั้งสามคืนเพราะเขา และเขาก็ต้องรับผิดชอบ“อื้อ” คนจูบเก่งรีบจัดให้โดยไม่อิดออด ทั้งขยับดูดเน้นย้ำ ๆ ทั้งสอดใส่ปลายลิ้นเข้าไปปั่นป่วนในโพรงปากเธออย่างซุกซน“หนูคิดถึงพี่มาก ๆ เลย” หญิงสาวรีบสารภาพ“แล้วพี่ล่ะ คิดถึงหนูบ้างไหมคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบอยู่ต้องมนตร์ก็ยิงคำถามต่อไปใส่ทันที“คืนนี้ให้พี่ดูแลหนูอีกนะ” สำหรับต้องมนตร์แล้วทั้งน้ำเสียงออดอ้อนและสายตาที่ดูโหยหาเธอนั้นใช้แทนคำตอบได้เป็นอย่างดี “ไปบ้านพี่ไหม….”“ไปค่ะ…ถ้า….” แววตาของเธอมีความลังเลปะปนอยู่ในนั้น “ถ้าอะไร”“ถ้าพี่ยังโสด…”ภาคย์คลี่ยิ้มลุ่มลึกก่อนจะออกรถ ในขณะที่หญิงสาวก็คิดว่าความลึกลับที่ซุกซ่อนอยู่ในความเปิดเผยจริงใจของเขานี่แหละคือเสน่ห์เฉพาะตัวของชายหนุ่ม “หนูชอบพี่ สองสามวั
ตัดภาพไปที่ต้องมนตร์ เธอโมโหตัวเองจริงๆ เธอบอกหมายเลขห้องให้เขาไปอย่างละเอียด แต่ดันไม่ขอเบอร์ติดต่อของเขาหรือแลกไลน์กันเนี่ยนะ! จะบ้าตาย!เอาน่า…. ถึงยังไงก็ต้องทำใจ มันก็แค่การอ๊อฟหนุ่มโฮสมาเดทแค่ชั่วคราว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดค่าตัวแล้วก็ออกเงินเลี้ยงเธอทุกอย่างก็ตามเถอะ!พรุ่งนี้พอตื่นเช้ามาทุกอย่างก็กลับสู่โลกของความเป็นจริงแล้ว หากวันหลังเกิดเหงาขึ้นมาก็ค่อยไปเที่ยวที่บาร์โฮสแห่งนั้นอีกครั้งก็ได้คิดแล้วเธอก็อาบน้ำนอน กอดหมอนข้างฝันหวานถึงรสจูบอันหวานซึ้งของเขาอย่างพร่ำเพ้อ…งือ….ถ้ามีเขาคอยนอนกอดทั้งคืนก็คงจะดีหลังจากสองคืนที่เธอคิดถึงเขาแทบบ้าผ่านพ้นไป ต้องมนตร์ก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าบาร์โฮสแห่งนี้อีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็มาคนเดียวหัวใจดวงน้อยเรียกร้องให้หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปข้างใน และถึงแม้ว่าจะมีหนุ่มหล่อเดินผ่านตาไปมา ทว่าหญิงสาวก็ไม่ว่อกแว่ก เพราะคนที่เธอต้องการมาพบในคืนนี้นั้นคือเขาแค่คนเดียว“วันนี้จะรับกี่ดื่มดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มของพีอาร์หนุ่มลอยมาเข้าหูหญิงสาวทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟา ทว่าแววตาของเธอกลับล่องลอยเหม่อมองไปบนเวทีพี่เขาไม่อยู่ที่นั่น ไม่มีแม้แ
บนที่นั่งที่ดีที่สุดในโรงภาพยนตร์วีไอพี หนังรอบดึกเริ่มฉาย และหลายคู่รักก็เริ่มพลอดรักกันอย่างสวีทหวานชื่น บางคู่ก็เริ่มลูบหัวกันอย่างรักใคร่เอ็นดู บางคู่ก็เริ่มล้วงควักกอดจูบกันนัวเนียต้องมนตร์เองก็เริ่มเอนกายซบหนุ่มโฮสต์รุ่นใหญ่ที่ตัวเองอ๊อฟมา หญิงสาวเลือกดูหนังรักโรแมนติกที่มีฉากเลิฟซีนค่อนข้างเยอะ และวินาทีนี้….สำหรับต้องมนตร์แล้ว พระเอกฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลกที่กำลังยิ้มกว้างอยู่บนจอก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเจ้าของบ่าอุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ชอบรุ่นใหญ่เหรอเราน่ะ” ภาคย์เหลือบมองคนตัวเล็กที่ยิ้มพริ้มซบบ่าเขาอยู่ เธอดื่มไวน์จนพวงแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ แถมยังหาวยาว ๆ เพราะง่วงนอน พอมองไปมองมาภาพที่เธอเคยนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ในศาลาวัดก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวจนเขาต้องกลั้นขำ“จะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ อายุก็เป็นเพียงตัวเลขทั้งนั้นแหละค่ะ” ต้องมนตร์เอ่ยพร้อมกับช้อนสายตาหวานเยิ้มขึ้นมองเขา“ไหนบอกจะดูหนัง แล้วทำไมถึงเอาแต่จ้องหน้าพี่” ภาคย์ดูหนังไม่รู้เรื่อง เพราะหน้าหล่อ ๆ โดนสาวสวยที่ควงมาจ้องเอา ๆ“เอ่อ….” ต้องมนตร์ที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก พยายามดึงตัวเองให้หลุดออกมาจา
“พอ ๆ พอได้แล้ว รีบไปกันเถอะ” ภาคย์ตัดสินใจดับบุหรี่ ส่วนต้องมนตร์ก็ควงแขนเขาเดินไปยังรถยนต์คันเล็กๆ ของเธอ และพอไปถึงภาคย์ก็ดึงกุญแจรถจากมือเธอมาไว้ในมือตัวเองทันที“เดี๋ยวพี่ขับให้เอง หนูกินเหล้าไปตั้งขนาดนั้น นั่งฟังเพลงในรถเฉย ๆ ก็พอ จะเริ่มจากชอปปิง กินข้าวแล้วก็ดูหนังรอบดึกใช่ไหม”“ค่ะ” ต้องมนตร์อมยิ้มพร้อมพยักหน้าหงึกหงัก พอภาคย์เปิดประตูรถให้เธอก็รีบเข้าไปนั่งพร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว หลังจากขยับเลื่อนเบาะตรงที่นั่งคนขับให้พอดีตัวแล้ว ภาคย์ก็ออกรถอย่างช้าๆ ไม่ลืมดึงมือเธอมากุมไว้ในแบบที่หนุ่มโฮสเขาชอบทำกันต้องมนตร์รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนหน้าแดง พอนึกแล้วก็อยากจะรวยมากๆ เพราะหากซื้อตัวเขามาเป็นเพื่อนเที่ยวได้ทุกคืนแบบนี้ก็คงจะดภาคย์ขับรถไปยังห้างหรูที่มีทำเลตั้งอยู่ใกล้บาร์โฮสของเขามากที่สุด เพราะจะได้ชอปปิง กินข้าวและดูหนังเสร็จสรรพจบครบในที่เดียวต้องมนตร์ควงแขนภาคย์เดินเล่นในห้าง และอาการเมาไม่สร่างก็ทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีและกล้าหาญชาญชัยในการเต๊าะผู้ชาย พอเห็นเงาสะท้อนจากบานกระจกหญิงสาวก็นึกขำ ผู้ชายที่เธอออฟมาดูไม่เหมือนหนุ่มโฮสเลยสักนิด เขาดูรวย ดูเหมือนกับป๋า ที่ควงเ
“เอา!!! คืนนี้ฉันจะออฟด้วย แกก็ไปหาผู้ชายของแก ส่วนฉันก็ไปหาผู้ชายของฉัน พอได้ผู้ชายแล้วก็แยกย้ายเลยละกัน” ต้องมนตร์หันไปกระซิบเพื่อน ในขณะที่สายตายังคงวนเวียนอยู่ที่หนุ่มใหญ่บนเวทีนี่เธอก็เข้าใจผิดมาตลอดว่างานนี้เขาจำกัดอายุ ไม่นึกเลยว่าเขาจะรับทุกรุ่น แล้วเธอก็ดันชอบรุ่นใหญ่เนี่ยนะ…“ถูกใจคนไหนก็รีบเลยนะแก ก่อนที่จะโดนแย่ง” เพื่อนรีบเอียงคอมากระซิบบอก“เอา…เอาคนนี้แหละ” ต้องมนตร์ยิ้มเขิน ชูมือขึ้นทำเป็นปืนแล้วเล็งไปทางเขา จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นซดอย่างครึกครื้น“ไหน…ไหนแกเล็งคนไหนเอาไว้”“ก็คนนั้นไง คนแก่ ๆ นั่นน่ะ” ดูเหมือนว่าคนที่อยู่บนเวทีนั้นจะยังไม่รู้ตัว ว่ามีสาวน้อยน่ารักหมายตาอยากได้เขามาเอาอกเอาใจตัวเองในคืนนี้ภาคย์ที่ตอนแรกกะจะมาตรวจงาน ตอนนี้กลับแฝงตัวเป็นหนุ่มโฮสรุ่นใหญ่ที่เต้นอย่างสนุกสนานอยู่บนเวที พอมาเห็นบรรยากาศแล้วก็พอใจ เดี๋ยวพอลงจากเวทีแล้วกะว่าจะไปนั่งจิบไวน์ชิลล์ ๆ ที่ผับอีกแห่งต่อ….แต่ทว่า พอลงจากเวทีก็มีสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักมายืนดักทางเอาไว้ในทันที“คืนนี้หนูออฟพี่นะคะ”ภาคย์ตกใจ ใบหน้าคมคายชะงักงันไปชั่วครู่ วินาทีแรกก็ตกใจด้วยไม่นึกว่าจะมีสาวน้อยมาสน