เข้าสู่ระบบคำพูดของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวลองทำตาม เธอหมุนกายมายืนตรงหน้าเขา จ้องหน้าเขาเต็มสายตา มองสำรวจใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างพินิจ มองดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น มองจมูกเป็นสันโด่งงาม มองคิ้วดกหนาได้รูปนั้น มองเลยไปยังริมฝีปากหยักหนาสีแดงสด ลีเดียกวาดสายตามองส่วนประกอบบนใบหน้าคมสันนั้น หัวใจของเธอทำไมเต้นแรงอีกแล้วนะ มือบางยกขึ้นแตะหน้าอกตัวเองอย่างลืมตัว
‘ไม่นะ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่เขาบอก’ ลีเดียพร่ำบอกตัวเอง
“บอกผมสิ ว่าคุณรู้สึกยังไง” เสียงทุ้มนุ่มหู ทำให้คนฟังใจเต้นแรงกว่าเดิม
นภวินท์ยิ้มอ่อนโยน ขณะแตะปลายนิ้วเชยคางของหญิงสาวให้มองจ้องเขา ปลายนิ้วโป้งไล้บนเรียวปากบางสีกุหลาบแผ่วๆ
“กี้... กีรดารินทร์ ลีเดีย จะชื่อไหน คุณคือคนที่ผมรัก” เขาค่อยๆก้มใบหน้าลงมาหาเธอช้าๆ
“ไม่ อย่านะ !” ลีเดียเบือนหน้าหนี ผลักอกเขาออกห่าง “อย่ามาแต่งเรื่องหลอกฉันเลยนะ ฉันไม่หลงกลคุณหรอก”
หญิงสาวขยับตัวออกห่าง สติสัมปชัญญะคืนกลับมาเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ห่างจากร่างหนานั้น
“โอเค ผมกับคุณเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราคงต้องทำความรู้จักกันใหม่ใช่ไหม” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แค่นยิ้มเจ็บปวด
กีรดารินทร์จำเขาไม่ได้ เธอไม่เหลือความทรงจำใดใดเกี่ยวกับเขาอีก เฟอร์นันโดป้อนข้อมูลใหม่ให้เธอจนหญิงสาวซึมซับสิ่งเหล่านั้นไปในสมอง แต่ท่าทางและนิสัยเดิมของเธอยังคงอยู่ครบถ้วน กีรดารินทร์แสบแค่ไหนลีเดียคงไม่แตกต่าง เอาเถอะเขาจะขอทำความรู้จักกันกับเธออีกครั้ง และให้เธอเรียนรู้ตัวตนของเขาด้วย จะได้พิสูจน์ว่าเขารักเธอเพราะอะไร และอยากให้เธอรักเขาด้วยความรู้สึกแท้จริงจากหัวใจ
“เฮียวินท์ เฮียมารับหนูแล้ว ! ” สิงหกัลยาวิ่งเข้ามาหารุ่นพี่หนุ่ม ด้วยสีหน้าดีอกดีใจ
ร่างสูงเพรียวกระโดดกอดคอเขาไว้แน่น จนคนโดนกอดต้องปลดแขนเล็กๆนั้นออกจากคอ ก่อนจะหายใจไม่ออกตาย
“เป็นยังไงบ้างยายลิง หัวแตกแบบนี้ ยังซ่าออกหรือเนี่ย” นภวินท์ขยี้ศีรษะของรุ่นน้องอย่างเอ็นดู
“หนูไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกเฮีย หัวแตกแค่นี้ไกลหัวใจแยะ” เจ้าตัวหัวเราะแหะๆ ไม่ทุกข์ร้อนกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง
ลีเดียขยับมาใกล้สิงหกัลยา เมื่อเห็นหญิงสาวปล่อยมือออกจากพี่ชายแล้ว เธอมองดูเพื่อนใหม่แล้วอดนึกเสียดายไม่ได้ สิงหกัลยาน่ารักน่าเอ็นดู แต่ทำไมพี่ชายของเจ้าหล่อนถึงได้ไม่น่ารักสักนิด
สิงหกัลยาเองก็รู้สึกไม่ต่างจากลีเดียเท่าไหร่ เธอไม่อยากให้ลีเดียเป็นน้องสาวไอ้มาทาดอร์ชีกอคนนั้นเลย คิดถึงเขาแล้วสิงหกัลยาอดขำไม่ได้ ป่านนี้ไอ้คนขี้หลีนั่นจะหายจุกช้างน้อยหรือยังก็ไม่รู้
“คุณอยู่คุยกับลีโอโนร่าไปก่อนนะ ฉันจะไปเก็บกระเป๋า” ลีเดียบอก ก่อนหมุนกายเดินไปยังปีกขวาของตัวบ้าน
“เก็บกระเป๋าทำไมคะ” สิงหกัลยา ทำตาแป๋วมองรุ่นพี่หนุ่ม
“ลีเดีย เขาจะไปทำงานกับเราด้วย” นภวินท์บอก เขาดึงแขนยายตัวยุ่งให้มานั่งที่เก้าอี้ไม้ “นั่งตรงนี้กับฉันก่อน ฉันมีเรื่องคุยกับแก”
“เฮียบอกหนูมาก่อน ว่าทำไมลีเดียถึงได้ไปทำงานกับเราได้ล่ะ”
“มันเป็นข้อตกลงของฉันกับพ่อของเธอน่ะสิ เมื่อก่อนฉันกับลีเดียเราเคยรักกัน...”
สิ่งที่ได้ยินทำให้สิงหกับยาตาโตกว่าเดิม “จริงเหรอ มิน่าหนูถึงรู้สึกคุ้นๆหน้าลีเดีย หนูจำได้แล้วว่าหนูเคยเห็นหน้าลีเดียที่ไหน ที่แท้ลีเดียก็เป็นผู้หญิงคนเดียวกัน กับคนในรูปที่เฮียเก็บไว้ในกระเป๋าตังนี่เอง” เจ้าตัวแสบพล่ามออกมายาวเป็นขบวนรถไฟ
“ฉันจะเล่าเรื่องของฉันกับลีเดียให้แกฟัง แกต้องช่วยฉันนะยายลิง”
“ช่วยอะไรเหรอเฮีย”
“ช่วยทำให้ฉันทวงหัวใจ และความรักของฉันกับลีเดียคืนมา” นภวินท์กุมมือนุ่มบางไว้มั่น แววตาขอร้อง “ฉันเชื่อว่าพ่อของลีเดีย คงไม่ปล่อยให้ฉันกับลีเดียรักกันง่ายๆหรอก”
“ได้สิเฮีย ต่อให้หนูต้องพลีชีพเพื่อเฮียหนูก็ยอมทำนะ” สิงหกัลยารับปาก โดยไม่รู้ว่าอนาคตเธออาจต้องยอมพลีมากกว่าชีพของตัวเองเพื่อช่วยรุ่นพี่ให้สมหวัง
“เอาล่ะ ฟังนะนี่เป็นเรื่องแรก ที่แกต้องช่วยฉัน”
นภวินท์ก้มลงป้องปากกระซิบบางอย่างข้างหูสิงหกัลยา หญิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับ ดวงตากลมโตคู่นั้นเต้นวิบไหวด้วยความรู้สึกสนุก เมื่อฟังแผนการจบ
งานนี้สิงห์จะช่วยเป็นกามเทพ ให้เฮียเอง !
คณะที่การเดินทางไปพัมโพลนาครั้งนี้ประกอบด้วย นภวินท์ สิงหกัลยา ลีเดีย นายแผน และราฟาเอล ซึ่งรายสุดท้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานครั้งนี้เลย แต่เขาขอไปด้วยโดยอ้างว่าต้องการไปดูแลน้องสาว ขณะบอกสายตาของเขาจับจ้องใบหน้าเรียวคมของสิงหกัลยานิ่ง จนเจ้าตัวรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ไม่มีใครรู้เรื่องคดีความระหว่างเธอกับมาทาดอร์หนุ่มแม้แต่น้อย หญิงสาวไม่กล้านำเรื่องนี้ไปบอกเฮียวินท์ของเธอแน่
เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมที่พักในพัมโพลนา ก็มีปัญหาเรื่องห้องพัก เมื่อสิงหกัลยาได้จองห้องพักไว้เพียงสองห้องเท่านั้น ช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานต่างจองโรงแรมที่พักไว้เต็มทุกที่ สิงหกัลยาได้จองห้องพักไว้ล่วงหน้าจึงมีที่ให้พัก แต่จำนวนคนเกินกว่าห้องที่มี
“หนูจองห้องไว้แค่สองห้อง ของหนูกับเฮียคนละห้อง ทำไงดีล่ะเฮียวินท์”
สิงหกัลยาหันมาปรึกษารุ่นพี่ มองสมาชิกที่เพิ่มมาอย่างหนักใจ
“แกก็พักกับลีเดีย ส่วนฉันจะเอาสองหนุ่มนี่ไปนอนด้วยแล้วกันนะ ห้องเขากว้างคงพออยู่กันได้”
นภวินท์หาทางออกให้ แม้เขาจะไม่ชอบนอนร่วมห้องกับใคร แต่ไม่มีทางเลือกอะไรมากกว่านี้อีก
“ซุบซิบอะไรกัน บอกให้พวกเรารู้บ้างสิ”
ราฟาเอลถามขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ เขาไม่ใช้ภาษาสเปนเพราะรู้ว่านภวินท์ฟังไม่รู้เรื่อง สองคนที่กำลังปรึกษากันเป็นภาษาไทย หันมามองคนพูด
“เราจองห้องพักไว้แค่สองห้อง คงต้องให้ผู้หญิงอยู่ด้วยกันห้องหนึ่ง ส่วนผู้ชายอยู่อีกห้อง” นภวินท์บอก
สิ่งที่ชายหนุ่มบอก ทำให้ลีเดีย นายแผนและราฟาเอลต้องมองหน้ากัน ลีเดียไม่มีปัญหาในการอยู่ร่วมห้องกับสิงหกัลยา แต่สองหนุ่มนี่สิต่างไม่อยากอยู่ร่วมห้องกับใคร นายแผนรู้สึกอึดอัดใจที่ต้องพักรวมกับผู้เป็นนาย ส่วนราฟาเอลไม่ชอบนอนร่วมห้องกับใคร เขาชอบนอนคนเดียวแม้บางคืนจะมีสาวๆมานอนเป็นเพื่อนบ้างก็ตาม แต่มาทาดอร์หนุ่มไม่เคยชินกับการมีคนอื่นมานอนในห้องเดียวกัน
“ฉันไม่ชอบนอนร่วมกับใคร ฉันต้องการห้องพักส่วนตัว” เขาทำหน้าไม่พอใจ
“ผมก็ไม่สะดวกที่จะอยู่ห้องเดียวกับเจ้านายครับ” นายแผนออกความเห็นบ้าง
สองหนุ่มสองมุม สร้างปัญหาให้ในวันแรกเสียแล้ว สิงหกัลยาตวัดสายตามองหน้าพี่ชายลีเดียด้วยความรำคาญ เธอเข้าใจลุงแผนว่าไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับเจ้านาย แต่ไม่พอใจมาทาดอร์หนุ่มที่เรื่องมากไม่อยากอยู่รวมกับคนอื่น
“พี่ราฟ มันจำเป็นนะคะ ห้องพักก็ถูกจองเต็มไปแล้ว ถ้าไม่พักเราก็ไม่มีที่พักอื่นอีก” ลีเดียพยายามไกล่เกลี่ย เมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจของทุกคน
“เอาไงดีเฮียวินท์ ท่าทางคุณชายจะนอนกับใครไม่ได้” สิงหกัลยาดึงแขนรุ่นพี่มากระซิบกระซาบ
“จะให้ฉันเสียสละไปนอนห้องแกงั้นเหรอ หรือว่าจะให้แกเอานายนี่ไปนอนห้องเดียวกับแกอีกคน”
“บ้าสิเฮียวินท์ ให้หนูมานอนห้องเฮียยังดีกว่าอยู่ห้องเดียวกับไอ้บ้านั่น”
ท่าทางของสิงหกัลยาดูรังเกียจราฟาเอลจนนภวินท์รู้สึกได้ พี่ชายของลีเดียไปทำอะไรให้ยายลิงเกลียด หรือว่าจะเป็นอาการเขม่นกันเพราะไม่ถูกชะตา ชายหนุ่มเข้าใจแบบนั้น
“คุณ เอ่อ... ขอโทษด้วย ผมจำชื่อคุณไม่ได้” นภวินท์หัวเราะกลบเกลื่อน“ผมชื่อฟิลลิป เป็นเลขาของท่านนิโคไลน์ กอนซาเลสครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการนภวินท์พยักหน้ารับรู้ หากไม่ยอมเอ่ยถึงอาการหลงลืมของตัวเองออกมา “ที่นี่ไหนกันเนี่ย ผมคงเมาจนจำอะไรไม่ได้”“ที่นี่คือซาน เซบาสเตียนครับ เกสเฮ้าส์หลังนี้เป็นของเจ้านายของผม ท่านจัดให้คุณพักในระหว่างเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ครับ” เลขาของนิโคไลน์เอ่ยขึ้นนภวินท์ลุกขึ้นยืน ผายมือเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้ไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงวิธีสืบหาความทรงจำที่หายไปของเขา หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองของเขามึนงง จนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปชื่ออะไร จะได้ไม่ดื่มมันอีก“ที่นี่บรรยากาศดีนะครับ เหมาะสำหรับพักผ่อน แต่ผู้คนเยอะไปหน่อยดูพลุกพล่าน” นภวินท์ชวนคุยฟิลลิปยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นคู่สนทนาเอนหลังอย่างสบายอารมณ์ เขายื่นถุงกระดาษและกล่องที่ถือมาให้ชายหนุ่ม คนรับมองของที่ได้รับด้วยความสงสัย เมื่อเปิดกล่องออกดูก็พบกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ของที่อยู่ในถุงเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่“ เอามาให้ผมทำไมครับ”“ของที่คุณซื้อเมื่อวานยังไงค
“นิโคไลน์ แกอย่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นนะ ยายผู้หญิงนั่นมันเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรส มันต้องร่วมชดใช้” เขาตอกย้ำเป้าประสงค์หลักให้อีกฝ่ายรับรู้“ผมจะแต่งงานกับเธอ ให้เธอเป็นคนในตระกูลกอนซาเลสของเรา แค่นี้เธอก็ไม่เกี่ยวของกับเฟอร์นันโดแล้ว” คนเป็นหลานหาทางออกให้ทางออกของนิโคไลน์ทำให้คนเป็นลุงรู้สึกขัดใจ คาลอสไม่ต้องการให้สายเลือดของกอนซาเลสไปรวมกับราโดรเปรเรส ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม เขาไม่มีวันยอมให้นิโคไลน์เอาลูกสาวของเฟอร์นันโดมายกย่องเป็นเมียออกหน้าออกตา“ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันสั่ง แกก็ส่งเธอมาให้ฉัน แล้วแกก็ไสหัวไปไกลๆฉันเลย ! ” คาลอสเริ่มอารมณ์เสีย เขาตวาดใส่คนปลายสายอย่างหงุดหงิด“ผมไม่ยอมให้ลุงทำอะไรลีเดียหรอกครับ เธอเป็นของผมและผมไม่ยอมส่งเธอให้ลุงเด็ดขาด ถ้าลุงอยากได้ตัวประกัน ผมจะส่งนายนภวินท์ไปให้” นิโคไลน์ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นลุง ยามนี้เขาลุกขึ้นมาปกป้องลีเดียอย่างเต็มตัว แสดงให้คาลอสรับรู้ว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“แกจับตัวนภวินท์ไปด้วยเหรอ ไอ้หลานโง่ แกทำเกินคำสั่งอีกแล้วนะ” คาลอสตะโกนลั่นอย่างหัวเสียสิ่งที่สั่ง นิโคไลน์ไม่ยอมทำ แต่สิ่งที่ไม่ได้สั่งกลับทำเกินหน
คฤหาสน์ตระกูลราโดรเปรเรส คนของตระกูลอรรถไกรสิบคน ที่ส่งมาตามคำขอของนภวินท์ผู้เป็นนายเล็ก ได้เดินทางมาถึงสเปนและมาพบกับเฟอร์นันโด ตามคำสั่งของฆนากรพี่ชายนภวินท์ ขจรเกียรติกับนายวงค์หัวหน้าบอดี้การ์ดร่วมประชุมกับเจ้าของบ้านและลูกชาย ที่เพิ่งกลับมาจากพัมโพลนา “ไอ้คาลอส มันจับตัวลีเดียลูกสาวผมกับคุณนภวินท์ไป ตอนนี้เรากำลังส่งคนตามสืบหาที่อยู่” เฟอร์นันโดเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรคุณหนูกับคุณวินท์ เพราะมิสเตอร์คาลอสกับคุณฆนากร เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก่อน” ขจรเกียรติให้ความเห็น ก่อนหน้านี้เขาได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฆนากรรับรู้ ผู้เป็นนายได้ติดต่อพูดคุยกับมาเฟียอิตาเลี่ยนผู้นั้นแล้ว คาลอสรับปากจะส่งตัว นภวินท์กลับมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่ยอมเอ่ยถึงการปล่อยตัวลูกสาวบุญธรรมของเฟอร์นันโด ขจรเกียรติเก็บงำเรื่องนี้ไว้ ไม่ยอมเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ ด้วยเกรงจะทำให้หมางใจกันเปล่าๆ เมื่อคาลอสกับเฟอร์นันโดเป็นศัตรูกัน จึงไม่ควรแสดงท่าทีสนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป“ตอนนี้ ลีเดียอยู่กับพวกมัน เราไม่
ทายาทตระกูลกอนซาเลส หันไปมองด้านหลังของรถ เขามองร่างของช่างภาพหนุ่มชาวไทยอย่างครุ่นคิด เขาจะจัดการเจ้าหมอนี่ยังไงดี นิโคไลน์ไม่ต้องการฆ่าใครโดยไม่จำเป็น ครู่หนึ่งริมฝีปากหยักหนายกขึ้นพร้อมประกายบางอย่างปรากฏขึ้นบนดวงตาเมื่อความคิดหนึ่งเกิดขึ้น“ฟิลลิป ทำให้ไอ้หมอนี่กลายเป็นคนความจำเสื่อมได้ไหม ฉันจำเป็นต้องเก็บมันไว้” ผู้เป็นนายสั่งลูกน้องคู่ใจ“ท่านจะให้ผมใช้ยานั่นกับมันหรือครับ” ฟิลลิปเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ เขามียากล่อมประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้คนได้รับยา กลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วคราวจากการถูกฤทธิ์ยากดประสาท จนไม่สามารถจำอะไรได้ ง่ายต่อการล้างสมองให้ทำอะไรตามคำสั่ง ตัวยานี้ คาลอส มันชินี่ นำมาให้ใช้เพื่อจัดการกับคนที่ขัดขวางการก้าวสู่อำนาจของ นิโคไลน์ ซึ่งเขาได้ใช้มันกับคณะกรรมการของเมืองหลายคน ที่คัดค้านการขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงของผู้เป็นนาย “จัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่มันจะตื่นมาอาละวาด ฉันต้องการให้มันลืมเรื่องของลีเดีย มันจะเป็นเพียงแค่ช่างภาพที่ฉันจ้างมาทำงานให้เท่านั้น” นิโคไลน์ก้มลงมอง ใบหน้างามที่นอนอยู่บนตักตัวเอง “ฉันกับลีเดีย อาจจะอยู่ที่นี่อีกหลายวั
อังตวนสีหน้าขึ้งเครียดกว่าเมื่อครู่ เมื่อยื่นบางสิ่งให้ผู้เป็นนายน้อย “เราพบแต่ไอ้นี่ครับ ผมขอโทษที่ดูแลคุณลีเดียไม่ดีพอ” หัวหน้าบอดี้การ์ดก้มหน้ารับผิดราฟาเอลชาไปทั้งตัวใจหายวาบ เขาหันหลังให้บอดี้การ์ดคนสนิทของบิดา สีหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งหากแววตากลับวาววับราวกับมีเปลวไฟอยู่ในนั้น มือหนากำแหวนสัญญาณในมือแน่น เขารู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามโหดร้ายทารุณแค่ไหน แม้แต่เด็กตัวเล็กๆมันยังกล้าทำร้ายจนเกือบพิการ ภาพในอดีตวาบผ่านเข้ามาในมโนนึก“ไอ้หนู แกโชคร้ายเอง ที่เกิดมาเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรสนั่น”เสียงห้าวทุ้มของผู้ชายร่างใหญ่ดังขึ้น ขณะมองลูกสมุนของตนกำลังทรมานเด็กชายวัยแปดขวบด้วยการใช้เข็มหมุด ปักลงที่ปลายนิ้วน้อยๆนั้น เสียงร้องไห้ดังลั่น ไม่ทำให้คนมองใจอ่อนสักนิด ดวงตาสีอำพันยังคงมองความเจ็บปวดของเด็กน้อยด้วยสีหน้าพอใจ ร่างของเด็กชายพยายามดิ้นหนีแต่ถูกผู้ใหญ่ตัวโตจับไว้แน่น“ถ่ายรูปส่งไปให้พ่อมันดู ฉันอยากให้ไอ้เฟอร์นันโดมันเห็นลูกชายของมันตอนนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คาลอสหัวเราะสะใจราฟาเอลในวัยเยาว์จดจำใบหน้าของชายใจร้ายฝังใจ ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เพราะความซุกซนทำให้เขาได้รับบทเรีย
สิงหกัลยาถูกกักไว้ในวงแขนกำยำของมาทาดอร์หนุ่มจนดิ้นไม่หลุด ราฟาเอลยังคงกอดรัดร่างน้อยไม่ยอมปล่อย แม่สิงห์สาวร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเมื่อจมูกโด่งงามซุกไซ้ไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่เป็นมุมอับสายตาคนแถมไฟยังสลัว เสียงเพลงเปิดคลอผสานกับเสียงของผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ทำให้ไม่มีใครสนใจว่าใครกำลังทำอะไร บอดี้การ์ดของเขายืนหันหลังให้เปิดโอกาสให้นายน้อยของตน ได้วาดลวดลายสีหญิงเต็มที่ ยิปซีสาวหลงถิ่นมองหาทางรอดแทบไม่เจอ เมื่อถูกเขารังแกแบบไร้ทางสู้ราฟาเอลเพลินกับเนื้อตัวนุ่มนิ่มของสาวน้อยในอ้อมกอด ทำให้หัวใจของเขาโรจน์แรง จากที่คิดจะแกล้งเธอให้ตกใจเล่น แต่เมื่อได้สัมผัสเนื้อนวล มาทาดอร์หนุ่มกลับห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ ลืมเรื่องที่น้องสาวออกไปกับช่างภาพหนุ่มไป เขากดริมฝีปากจุมพิตแก้มนวลแรงๆอีกครั้ง อย่างอดใจไม่ไหว กระซิบเสียงพร่าว่า“ลีโอโนร่า... ฉันชอบเธอ”“แต่ฉันเกลียดนาย ไอ้มาทาดอร์หื่น”สิงหกัลยาดันหน้าที่ก้มลงมาแนบชิดออกห่าง ไม่ได้เคลิ้มไปกับคำพูดของเขาเลย เขาเคยบอกว่าจะทำให้เธอรัก แต่สิ่งที่เขากำลังทำเธอกลับเพิ่มความเกลียดมากกว่าจะรู้สึกรักเขาลง ผู้ชายอย่างเขามองผู้หญิงเป







