LOGINนายแผนรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้เฟอร์นันโดรู้ ทำให้ผู้เป็นนายร้อนใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้กับลูกสาว นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลจึงส่งอังตวนลูกน้องคนสนิทพร้อมบอดี้การ์ดอีกห้าคน ตามมาอารักขาลีเดียเพิ่ม ตัวเขาสั่งให้คนของตัวเองตามข่าวที่เกิดขึ้น ราวหนึ่งชั่วโมงสายข่าวก็ส่งข้อมูลผ่านอังตวนมารายงานผู้เป็นนาย
“มีการฆ่ากันตายใกล้กับสนามสู้วัว Plaza de Toros ในวันที่คุณราฟาเอลสู้วัว คนตายเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการสู้วัวกระทิงจากแคว้นคาทาโลเนีย เขาถูกคนร้ายแทงด้วยมีดที่หน้าอกจนตาย ทางตำรวจมุ่งประเด็นไปที่การชิงทรัพย์เพราะทรัพย์สินถูกคนร้ายชิงไป”
การสรุปของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เฟอร์นันโดสงสัย คนตายถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ แล้วทำไมฆาตกรถึงต้องตามล่าพยานด้วยเล่า เขารู้เรื่องของสิงหกัลยาที่ถูกคนร้ายตามฆ่าเพื่อปิดปาก ถึงได้ให้นายแผนกับราฟาเอลไปดูแลลีเดีย ไม่นึกว่าพวกนั้นจะไม่เกรงกลัวคนของตระกูลราโดรเปรเรส คนที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้น่าจะมีอิทธิพลไม่น้อย คดีที่เกิดขึ้นน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่
“ส่งคนของเราไปสืบดูว่า คนตายเกี่ยวข้องกับใคร หรือไปมีเรื่องกับใครบ้าง” เขาออกคำสั่ง
เฟอร์นันโดนั่งคิดเรื่องนั้น จนผ่านไปร่วมชั่วโมงก็มีโทรศัพท์จากประเทศไทยโทรมาหาเขา เมื่อรู้ว่าคนปลายสายเป็นใครหัวใจของชายวัยกลางคนก็เต้นรัวด้วยความดีใจ
“คุณรจนา ดีใจที่ได้คุยกับคุณอีก” เขาทักทายมารดาของนภวินท์ ด้วยน้ำเสียงดีใจ
“สวัสดีค่ะคุณเฟอร์นันโด “ เสียงหวานอบอุ่นนั้น ทำให้คนฟังยิ้มบางๆ “สองปีแล้วนะคะ ที่เราไม่ได้คุยกันอีกเลย นับตั้งแต่งานศพของคุณภัทรพ่อหนูกี้”
“ผมขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อคุณเลย คุณสบายดีนะครับ”
“ฉันสบายดีค่ะ ตามประสาคนที่ไม่ยึดติดกับอะไร คุณล่ะคะได้ข่าวว่ามีลูกสาวคนใหม่ เธอเป็นยังไงบ้างคะ” คนถาม รู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากลูกชาย ไม่จำเป็นต้องอ้อมโลก ให้เสียเวลา
เฟอร์นันโดถอนหายใจหนักๆ ความลับไม่มีในโลกจริงๆ สองปีที่เขาปกปิดเรื่องของกีรดารินทร์ ตอนนี้ความจริงได้เปิดเผยแล้ว หากเขามีคำแก้ตัวที่น่าจะทำให้คนถามรู้สึกโกรธเขาน้อยลง
“ลีเดีย เอ่อ... หนูกี้เธอสบายดีครับ ผมดูแลเธอไม่ต่างจากลูกสาวแท้ๆ” เขาแจงให้อีกฝ่ายทราบ
“คุณใจร้ายกับพวกเรามากเลยรู้มั้ย คุณทำให้เราเข้าใจว่าหนูกี้ตายไปแล้ว ตาวินท์เหมือนตายทั้งเป็น ลูกชายของฉันเขารักหนูกี้มาก คุณพรากพวกเขาสองคนจากกัน” คุณรจนาตำหนิการกระทำของเฟอร์นันโด อย่างไม่ออมคำ
“สองปีที่ผ่านมา วินท์มีชีวิตอยู่เหมือนคนไร้หัวใจ ชีวิตของเขาเหลือเพียงแค่งานกับความทรงจำเจ็บปวดเท่านั้น”
“นั่นเป็นสิ่งที่ลูกชายคุณควรได้รับ คุณรจนาคุณคงไม่รู้ว่าหนูกี้ ต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนจากการกระทำของลูกชายคุณ เธอถูกคนที่เธอรักทำร้ายจิตใจอย่างสาหัส สภาพของเธอไม่ต่างจากรติมาน้องสาวผมเลย ผมทนเห็นเธอต้องเจ็บปวดแบบนั้นไม่ไหว ผมถึงได้พาตัวเธอมาที่นี่”
คำแก้ตัวของเฟอร์นันโด ทำให้คนฟังเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนยอมรับว่านภวินท์ก็มีส่วนผิดในครั้งนี้เหมือนกัน
“วินท์อาจจะผิดที่ไม่รู้ใจตัวเอง แต่คุณก็ไม่ควรพรากหนูกี้ไปจากเขา หนูกี้รักวินท์มากเธอคงไม่อยากจากคนที่เธอรักไป”
“นั่นเป็นอดีตครับ ตอนนี้หนูกี้ไม่เหลือความทรงจำใดใดเกี่ยวกับลูกชายของคุณอีก ไม่ว่าความรักหรือความหลังได้ตายไปพร้อมกับความเจ็บปวดของเธอเมื่อสองปีก่อนนั้นแล้วครับ” เฟอร์นันโดสรุป
“คุณเฟอร์นันโดคะ ฉันขอโอกาสให้วินท์ได้พิสูจน์ตัวเองกับหนูกี้ ให้พวกแกได้เรียนรู้หัวใจของตัวเองอีกครั้ง ความรักของเด็กสองคนนั้นจะยังอยู่หรือหายไป ก็ขอให้พวกเขาเป็นคนเรียนรู้มันเอง ได้ไหมคะ” คุณรจนาขอโอกาสให้ลูกชาย
เฟอร์นันโดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า “ลูกชายคุณ ขอเวลาหนึ่งเดือนในการทำให้หนูกี้กลับมารักเขา ผมได้ให้โอกาสเขาแล้ว หลังจากหนึ่งเดือนหากเขาทวงความรัก ตามหาหัวใจของเขาคืนไม่ได้ ผมก็คงต้องให้เขาทำตามสัญญาที่ว่า จะไม่มายุ่งกับหนูกี้อีก มันยุติธรรมที่สุดแล้ว”
“คุณพรากหนูกี้ไปจากวินท์ถึงสองปี แต่คุณให้โอกาสเขาแก้ตัวแค่เดือนเดียว มันช่างยุติธรรมมากค่ะ ฉันเชื่อว่าลูกชายของฉันจะตามหัวใจของเขาคืนมาได้ นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้คุยกัน เพราะฉันเองคงให้โอกาสตัวเองเป็นเพื่อนกับคุณได้แค่นี้ สวัสดีค่ะ” พูดจบคุณรจนาก็วางสายไป
เฟอร์นันโดวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ร่างสูงใหญ่เอนกายบนเก้าอี้นวม ก่อนจะหลับตาลงอย่างอ่อนแรง คำพูดประโยคสุดท้ายของคุณรจนา ทำให้คนฟังรู้สึกแปลบปลาบในหัวใจ เขาทำผิดหรือไรที่พาตัวกีรดารินทร์มาจากความเจ็บปวดเหล่านั้น ไม่หรอกเขาไม่ผิด คนที่ผิดคือนภวินท์ต่างหาก ชายหนุ่มสมควรได้รับบทเรียนจากการกระทำในอดีตอย่างสาสมกับความผิดของตัวเอง เขาทำให้กีรดารินทร์เจ็บปวดจนแทบขาดใจ หญิงสาวถึงได้ปิดกั้นความทรงจำนั้นจนสมองสั่งให้เธอลืมมันไป
“นภวินท์ นายต้องชดใช้ให้ลีเดีย ความเจ็บปวดของนายคือดอกเบี้ยที่ลีเดียควรได้รับ”
อาการบาดเจ็บของลีเดียทำให้หญิงสาวต้องนอนพัก ไม่สามารถตามนภวินท์กับสิงหกัลยาไปสัมภาษณ์ นิโคไลน์ กอนซาเลส หนึ่งในคณะกรรมการจัดงานเทศกาล ซาน เฟอร์มิน หรือเทศกาลวิ่งวัวในย่านประวัติศาสตร์ของเมืองพัมโพลนาทางภาคเหนือของสเปน เทศกาลที่มีชื่อเสียงเป็นรู้จักไปทั่วโลก ซึ่งจะจัดขึ้นทุกวันที่ 7ถึง 14 กรกฎาคมของทุกปี ในแต่ละปีมีผู้คนจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาเข้าร่วมจำนวนกว่าหนึ่งล้านคน โรงแรมที่พักถูกจองเต็ม หากไม่จองล่วงหน้าคงยากจะหาที่พักได้ ครั้งนี้สิงหกัลยาได้จัดการจองโรงแรมที่พักไว้ก่อน จึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
ขณะที่ช่างภาพหนุ่มกับผู้ช่วยของเขาเดินทางไปยังบ้านของผู้ให้สัมภาษณ์ ทั้งสองก็พบกับขบวนของนักประท้วงกลุ่มใหญ่ ที่พากันมาประท้วงการจัดเทศกาลนี้ที่บริเวณด้านนอกของศาลาว่าการเมืองพัมโพลนา
“เฮียวินท์ จอดรถก่อน เขาประท้วงอะไรกันนั่น เราเข้าไปดูเถอะ จะได้เก็บภาพไปลงหนังสือเราด้วย”
สิงหกัลยาเปิดกระจกรถ ชะโงกหน้าไปดูคนกลุ่มใหญ่ที่เปลือยกายท่อนบน มีป้ายห้อยคอปกปิดหน้าอกตัวเองไว้ทำให้ดูไม่อนาจารมากนัก ต่างชูมือส่งเสียงดังร้องต่อต้านการจัดเทศกาลซาน เฟอร์มินนี้ พวกเขามีจำนวนมากทำให้การจราจรติดขัด จนนภวินท์ตัดสินใจหาที่จอดรถเพื่อ เก็บภาพนี้ไปประกอบบทสัมภาษณ์ผู้จัดงาน
ช่างภาพหนุ่มแหวกฝูงชนเข้าไปยังลานกว้างหน้าศาลากลางของเมืองพัมโพลนา เมื่อเห็นหนุ่มเอเชียที่มีกล้องถ่ายรูปทำให้ผู้ประท้วง พากันหลีกทาง พวกเขาต้องการให้ข่าวการประท้วงแพร่หลายไปทั่วโลก จึงยินดีให้คนที่คิดว่าเป็นนักข่าวถ่ายรูปอย่างพอใจ
“เฮียวินท์ รอหนูด้วยสิ อะไรกันไม่ห่วงน้องบ้างเลย” สิงหกัลยาบ่นกระปอดกระแปด ขณะแหวกฝูงชนตามรุ่นพี่หนุ่มไปติดๆ
ภาพของนักประท้วงชายหญิงหลายคนพร้อมใจกันเปลื้องผ้าช่วงบนท่อนล่างเหลือเพียงชุดชั้นใน ใช้สีแดงและสีน้ำตาลระบายลงบนเรือนร่างของตน จากนั้นให้พวกเขาก็พากันนอนลงกับพื้นเรียงรายกันเป็นรูปวัวกระทิง เสียงรัวชัตเตอร์จากช่างภาพของสำนักข่าวต่างๆ ดังไม่ขาดระยะ นภวินท์ไม่พลาดการเก็บภาพสำคัญครั้งนี้ เขาเห็นด้วยกับการต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ ไม่ได้นึกชอบกีฬาสู้วัวหรือเทศกาลวิ่งวัวนี้สักนิด หากไม่เป็นเพราะเฮียเป๋งบรรณาธิการบริหารขอร้อง เขาคงไม่เดินทางมาทำงานนี้
“คุณ เอ่อ... ขอโทษด้วย ผมจำชื่อคุณไม่ได้” นภวินท์หัวเราะกลบเกลื่อน“ผมชื่อฟิลลิป เป็นเลขาของท่านนิโคไลน์ กอนซาเลสครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการนภวินท์พยักหน้ารับรู้ หากไม่ยอมเอ่ยถึงอาการหลงลืมของตัวเองออกมา “ที่นี่ไหนกันเนี่ย ผมคงเมาจนจำอะไรไม่ได้”“ที่นี่คือซาน เซบาสเตียนครับ เกสเฮ้าส์หลังนี้เป็นของเจ้านายของผม ท่านจัดให้คุณพักในระหว่างเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ครับ” เลขาของนิโคไลน์เอ่ยขึ้นนภวินท์ลุกขึ้นยืน ผายมือเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้ไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงวิธีสืบหาความทรงจำที่หายไปของเขา หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองของเขามึนงง จนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปชื่ออะไร จะได้ไม่ดื่มมันอีก“ที่นี่บรรยากาศดีนะครับ เหมาะสำหรับพักผ่อน แต่ผู้คนเยอะไปหน่อยดูพลุกพล่าน” นภวินท์ชวนคุยฟิลลิปยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นคู่สนทนาเอนหลังอย่างสบายอารมณ์ เขายื่นถุงกระดาษและกล่องที่ถือมาให้ชายหนุ่ม คนรับมองของที่ได้รับด้วยความสงสัย เมื่อเปิดกล่องออกดูก็พบกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ของที่อยู่ในถุงเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่“ เอามาให้ผมทำไมครับ”“ของที่คุณซื้อเมื่อวานยังไงค
“นิโคไลน์ แกอย่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นนะ ยายผู้หญิงนั่นมันเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรส มันต้องร่วมชดใช้” เขาตอกย้ำเป้าประสงค์หลักให้อีกฝ่ายรับรู้“ผมจะแต่งงานกับเธอ ให้เธอเป็นคนในตระกูลกอนซาเลสของเรา แค่นี้เธอก็ไม่เกี่ยวของกับเฟอร์นันโดแล้ว” คนเป็นหลานหาทางออกให้ทางออกของนิโคไลน์ทำให้คนเป็นลุงรู้สึกขัดใจ คาลอสไม่ต้องการให้สายเลือดของกอนซาเลสไปรวมกับราโดรเปรเรส ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม เขาไม่มีวันยอมให้นิโคไลน์เอาลูกสาวของเฟอร์นันโดมายกย่องเป็นเมียออกหน้าออกตา“ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันสั่ง แกก็ส่งเธอมาให้ฉัน แล้วแกก็ไสหัวไปไกลๆฉันเลย ! ” คาลอสเริ่มอารมณ์เสีย เขาตวาดใส่คนปลายสายอย่างหงุดหงิด“ผมไม่ยอมให้ลุงทำอะไรลีเดียหรอกครับ เธอเป็นของผมและผมไม่ยอมส่งเธอให้ลุงเด็ดขาด ถ้าลุงอยากได้ตัวประกัน ผมจะส่งนายนภวินท์ไปให้” นิโคไลน์ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นลุง ยามนี้เขาลุกขึ้นมาปกป้องลีเดียอย่างเต็มตัว แสดงให้คาลอสรับรู้ว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“แกจับตัวนภวินท์ไปด้วยเหรอ ไอ้หลานโง่ แกทำเกินคำสั่งอีกแล้วนะ” คาลอสตะโกนลั่นอย่างหัวเสียสิ่งที่สั่ง นิโคไลน์ไม่ยอมทำ แต่สิ่งที่ไม่ได้สั่งกลับทำเกินหน
คฤหาสน์ตระกูลราโดรเปรเรส คนของตระกูลอรรถไกรสิบคน ที่ส่งมาตามคำขอของนภวินท์ผู้เป็นนายเล็ก ได้เดินทางมาถึงสเปนและมาพบกับเฟอร์นันโด ตามคำสั่งของฆนากรพี่ชายนภวินท์ ขจรเกียรติกับนายวงค์หัวหน้าบอดี้การ์ดร่วมประชุมกับเจ้าของบ้านและลูกชาย ที่เพิ่งกลับมาจากพัมโพลนา “ไอ้คาลอส มันจับตัวลีเดียลูกสาวผมกับคุณนภวินท์ไป ตอนนี้เรากำลังส่งคนตามสืบหาที่อยู่” เฟอร์นันโดเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรคุณหนูกับคุณวินท์ เพราะมิสเตอร์คาลอสกับคุณฆนากร เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก่อน” ขจรเกียรติให้ความเห็น ก่อนหน้านี้เขาได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฆนากรรับรู้ ผู้เป็นนายได้ติดต่อพูดคุยกับมาเฟียอิตาเลี่ยนผู้นั้นแล้ว คาลอสรับปากจะส่งตัว นภวินท์กลับมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่ยอมเอ่ยถึงการปล่อยตัวลูกสาวบุญธรรมของเฟอร์นันโด ขจรเกียรติเก็บงำเรื่องนี้ไว้ ไม่ยอมเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ ด้วยเกรงจะทำให้หมางใจกันเปล่าๆ เมื่อคาลอสกับเฟอร์นันโดเป็นศัตรูกัน จึงไม่ควรแสดงท่าทีสนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป“ตอนนี้ ลีเดียอยู่กับพวกมัน เราไม่
ทายาทตระกูลกอนซาเลส หันไปมองด้านหลังของรถ เขามองร่างของช่างภาพหนุ่มชาวไทยอย่างครุ่นคิด เขาจะจัดการเจ้าหมอนี่ยังไงดี นิโคไลน์ไม่ต้องการฆ่าใครโดยไม่จำเป็น ครู่หนึ่งริมฝีปากหยักหนายกขึ้นพร้อมประกายบางอย่างปรากฏขึ้นบนดวงตาเมื่อความคิดหนึ่งเกิดขึ้น“ฟิลลิป ทำให้ไอ้หมอนี่กลายเป็นคนความจำเสื่อมได้ไหม ฉันจำเป็นต้องเก็บมันไว้” ผู้เป็นนายสั่งลูกน้องคู่ใจ“ท่านจะให้ผมใช้ยานั่นกับมันหรือครับ” ฟิลลิปเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ เขามียากล่อมประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้คนได้รับยา กลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วคราวจากการถูกฤทธิ์ยากดประสาท จนไม่สามารถจำอะไรได้ ง่ายต่อการล้างสมองให้ทำอะไรตามคำสั่ง ตัวยานี้ คาลอส มันชินี่ นำมาให้ใช้เพื่อจัดการกับคนที่ขัดขวางการก้าวสู่อำนาจของ นิโคไลน์ ซึ่งเขาได้ใช้มันกับคณะกรรมการของเมืองหลายคน ที่คัดค้านการขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงของผู้เป็นนาย “จัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่มันจะตื่นมาอาละวาด ฉันต้องการให้มันลืมเรื่องของลีเดีย มันจะเป็นเพียงแค่ช่างภาพที่ฉันจ้างมาทำงานให้เท่านั้น” นิโคไลน์ก้มลงมอง ใบหน้างามที่นอนอยู่บนตักตัวเอง “ฉันกับลีเดีย อาจจะอยู่ที่นี่อีกหลายวั
อังตวนสีหน้าขึ้งเครียดกว่าเมื่อครู่ เมื่อยื่นบางสิ่งให้ผู้เป็นนายน้อย “เราพบแต่ไอ้นี่ครับ ผมขอโทษที่ดูแลคุณลีเดียไม่ดีพอ” หัวหน้าบอดี้การ์ดก้มหน้ารับผิดราฟาเอลชาไปทั้งตัวใจหายวาบ เขาหันหลังให้บอดี้การ์ดคนสนิทของบิดา สีหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งหากแววตากลับวาววับราวกับมีเปลวไฟอยู่ในนั้น มือหนากำแหวนสัญญาณในมือแน่น เขารู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามโหดร้ายทารุณแค่ไหน แม้แต่เด็กตัวเล็กๆมันยังกล้าทำร้ายจนเกือบพิการ ภาพในอดีตวาบผ่านเข้ามาในมโนนึก“ไอ้หนู แกโชคร้ายเอง ที่เกิดมาเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรสนั่น”เสียงห้าวทุ้มของผู้ชายร่างใหญ่ดังขึ้น ขณะมองลูกสมุนของตนกำลังทรมานเด็กชายวัยแปดขวบด้วยการใช้เข็มหมุด ปักลงที่ปลายนิ้วน้อยๆนั้น เสียงร้องไห้ดังลั่น ไม่ทำให้คนมองใจอ่อนสักนิด ดวงตาสีอำพันยังคงมองความเจ็บปวดของเด็กน้อยด้วยสีหน้าพอใจ ร่างของเด็กชายพยายามดิ้นหนีแต่ถูกผู้ใหญ่ตัวโตจับไว้แน่น“ถ่ายรูปส่งไปให้พ่อมันดู ฉันอยากให้ไอ้เฟอร์นันโดมันเห็นลูกชายของมันตอนนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คาลอสหัวเราะสะใจราฟาเอลในวัยเยาว์จดจำใบหน้าของชายใจร้ายฝังใจ ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เพราะความซุกซนทำให้เขาได้รับบทเรีย
สิงหกัลยาถูกกักไว้ในวงแขนกำยำของมาทาดอร์หนุ่มจนดิ้นไม่หลุด ราฟาเอลยังคงกอดรัดร่างน้อยไม่ยอมปล่อย แม่สิงห์สาวร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเมื่อจมูกโด่งงามซุกไซ้ไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่เป็นมุมอับสายตาคนแถมไฟยังสลัว เสียงเพลงเปิดคลอผสานกับเสียงของผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ทำให้ไม่มีใครสนใจว่าใครกำลังทำอะไร บอดี้การ์ดของเขายืนหันหลังให้เปิดโอกาสให้นายน้อยของตน ได้วาดลวดลายสีหญิงเต็มที่ ยิปซีสาวหลงถิ่นมองหาทางรอดแทบไม่เจอ เมื่อถูกเขารังแกแบบไร้ทางสู้ราฟาเอลเพลินกับเนื้อตัวนุ่มนิ่มของสาวน้อยในอ้อมกอด ทำให้หัวใจของเขาโรจน์แรง จากที่คิดจะแกล้งเธอให้ตกใจเล่น แต่เมื่อได้สัมผัสเนื้อนวล มาทาดอร์หนุ่มกลับห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ ลืมเรื่องที่น้องสาวออกไปกับช่างภาพหนุ่มไป เขากดริมฝีปากจุมพิตแก้มนวลแรงๆอีกครั้ง อย่างอดใจไม่ไหว กระซิบเสียงพร่าว่า“ลีโอโนร่า... ฉันชอบเธอ”“แต่ฉันเกลียดนาย ไอ้มาทาดอร์หื่น”สิงหกัลยาดันหน้าที่ก้มลงมาแนบชิดออกห่าง ไม่ได้เคลิ้มไปกับคำพูดของเขาเลย เขาเคยบอกว่าจะทำให้เธอรัก แต่สิ่งที่เขากำลังทำเธอกลับเพิ่มความเกลียดมากกว่าจะรู้สึกรักเขาลง ผู้ชายอย่างเขามองผู้หญิงเป







