อัญชันที่นั่งดูการฝึกอาวุธอยู่ด้านหลังของอินทรีย์ วันนั้นทั้งวันตลอดบ่าย เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างพากันยิ้มกริ่ม อย่างมีกำลังใจ
เพราะไม่ได้เห็นแต่ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของอินทรีย์แต่กลับเห็นใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่ส่งยิ้มให้กับอินทรีย์ทำให้พวกเขาที่ฝึกอาวุธอยู่ก็ยิ้มตามไปด้วย "พวกมึงยิ้มห่าอะไรกัน..! ฝึกกันไปสิวะ..!!"อินทรีย์ยืนเอามือไพล่หลัง เดินวนไปวนมาจ้องเราลูกสมุนตาเขม็ง อินทรีย์รู้สึกทนไม่ไหวจึงบอกให้ไอ้สนมาคุมการฝึกแทนเขา เพื่อจะพาอัญชันกับเรือนเขารู้สึกรำคาญสายตาทุกคู่ที่จ้องมองอัญชันอย่างไม่วางตาก่อนที่เขาจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ "ไอ้สน มึงคุมการฝึกให้ดี ฝึกพวกมันให้หนักโทษฐานที่มองอัญชันของกู"อินทรีย์หันไปพูดกับไอ้สน "ฉิบหาย งานหยาบแล้วพวกมึง เหนื่อยเอวเคล็ดแน่!"ไอ้บุญมาลูกน้องลูกกระจ๊อกที่รองมือรองเท้าของไอ้สนและไอ้กล้าเอ่ยขึ้นเสียงดัง "แน่นอนพี่อินทรีย์ เดี๋ยวข้าจะคุมการฝึกให้พี่เอง พี่พาคุณหนูอัญชันกับเรือนไปเถอะไ"อ้สนที่รู้ใจผู้เป็นลูกพี่ยิ่งกว่าใคร อัญชันที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนมิรู้หนาว อยู่บนแคร่เห็นหน้าบึ้งตึงของพ่อคุ้มอินทรีย์ก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามประสา "ไปกลับเรือนอัญชัน ที่นี่อากาศมันร้อนอบอ้าวดูสิน่ะนั่งตากแดดตัวแดงหมดแล้ว" ทุกคนชินชากับคำพูดที่ดูเป็นห่วงเป็นใยอัญชันเป็นพิเศษ "กลับกันก็ได้จ้ะ พ่อคุ้มจ๋าก่อนเรากลับเรือนขออัญชันไปเดินซื้อของที่ตลาด ไปฝากยายปริกได้ไหมจ๊ะตลาดตอนเย็น ๆ ถึงจะมีของไม่มาก แต่ก็ยังมีข้าวของเปิดขายอยู่ในหมู่บ้านตลอดจ้ะ"อัญชันทำท่าทางออดอ้อนเพื่อให้อินทรีย์ใจอ่อนอนุญาตให้ตนเองเดินตลาดกับชมพู่ได้ "ตามใจเอ็งเถอะ"อินทรีย์เดินตามหลังประกบสองสาวพากันเดินทางเข้าไปในตลาดถึงแม้ตอนนี้เป็นเวลายามบ่ายก็ยังมีของตั้งขายอยู่บ้าง พ่อคุ้มอินทรีย์แทบจะไม่เคยละสายตาจากอัญชันเลยแม้แต่เสี้ยวนาที ทุกย่างก้าวที่อัญชันเดินไปก็มักจะมีเงาของพ่อคุ้มเหมือนยันต์คุ้มภัยตัวอัญชันเสมอ "อ้าวคุณหนูอัญชัน ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ได้ล่ะ วันนี้คุณหนูอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือ"ทุกคนในตลาดก็ยังให้ความเคารพอัญชัน เพราะเห็นร่างใหญ่ของอินทรีย์เดินประกบหลังมา "วันนี้พ่อคุ้มอินทรีย์ พาอัญชันมาซื้อของให้ยายปริกนะจ๊ะ อยากได้มะละกอ เอาไปทำส้มตำกินกับยายปริกเสียหน่อย"อัญชันส่งยิ้มหวาน "ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวข้าจัดของให้"อินทรีย์ที่เห็นก็ยืนทำหน้านิ่งเรียบยืนกอดอก รอสองสาวชอปปิ้งสำหรับอาหารมื้อเย็น "พ่อคุ้มอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมจ๊ะ ให้อัญชันทำอะไรให้กินไหม"อัญชันที่เงยหน้าขึ้นไปถามพ่อคุ้มที่สีหน้าดูนิ่งจนอ่านไม่ออก "ไม่ล่ะ เอ็งกินอะไร ข้าก็กินอันนั้นแหละ" อินทรีย์ตั้งแต่มีอัญชันเข้ามาในชีวิตตลอด 2-3 ปีเขาก็รู้สึกชีวิตมีสีสันขึ้นไปหมด ไม่ว่าอัญชันจะทำอะไรเขาก็รู้สึกดีและสนับสนุนอัญชันเสมอ "ก็ได้จ้ะ เดี๋ยวอัญชันเลือกกับข้าวเย็นให้พ่อคุ้มเอง"อัญชันเดินเลือกซื้อของหลายอย่างโดยมีชมพู่ช่วยถือของ อินทรีย์ที่เดินตามหลังสองสาวอย่าเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จาอยู่ดี ๆ ก็มีผู้หญิงเดินจู่โจมเข้ามาหาอินทรีย์ด้วยท่าทางออเซาะฉอเลาะ 'อุ้ย..! พ่อคุ้มอินทรีย์ ลมอะไรพาพ่อมาเดินตลาดได้" นางแพรผู้หญิงที่เลื่องชื่อใคร ๆ ก็อยากจะลิ้มลองแต่นางแพรนั้นหัวสูง อยากจะได้อินทรีย์เป็นผัวจนตัวสั่น อินทรีย์ไม่ตอบปรายตามองเล็กน้อย ก็หันกลับไปมองอัญชัน ที่กำลังยืนเลือกซื้อปิ่นปักผมของประดับอยู่ที่หน้าร้านถัดจากของนางแพร "แหม.! ข้าอุตส่าห์พูดด้วย ไม่เห็นจะต้องทำหน้าเย่อหยิ่งเย็นชาใส่ข้าขนาดนั้นเลยนี่ พ่อคุ้มอินทรีย์"นางแพรเดินออกไป ใช้มือเรียวลากลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งโดยไม่สนใจสายตาของคนในตลาด มือหน้าคว้ามือของนางแพรพร้อมกับสะบัดออกอย่างแรงจนนางแพรร่างเซถลาจนเกือบล้ม "ว๊าย....! ทำไมพ่อคุ้มทำรุนแรงกับข้าขนาดนี้เล่าทำไมไม่บอกกันดี ๆ ไม่เห็นจะต้องหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้เลย"นางแพรถึงกลับขึ้นเสียง "ถ้ามึงไม่อยากตาย ก็อย่ามายุ่งกับกู"อินทรีย์เป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับชีวิต และเรื่องส่วนตัวมีเพียงอัญชันคนเดียวเท่านั้น ที่อินทรีย์อนุญาตให้เป็นคนพิเศษ อัญชันที่ได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลังก็หันมองแต่ไม่ทันได้เห็นสถานการณ์ก่อนหน้านี้จึงรีบวิ่งกลับมาหาเพราะพ่อคุ้มอินทรีย์ "พ่อคุ้มอินทรีย์เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ มีอะไรหรือเปล่า" อัญชันเดินมาจับมือของอินทรีย์เอาไว้แน่นอินทรีย์ก็จับมือของอัญชันไม่ปล่อย ทั้งสองเดินจูงกันออกนอกตลาด ตรงกับไปที่เรือนส่วนชมพู่ก็เดินถือของตามหลัง "ไม่มีอันใดดอก กลับเรือนกันเถอะ ป่านนี้ยายปริกคงชะเง้อคอยาวรอเอ็งแล้วล่ะ"อัญชันถูกอินทรีย์พูดหยอกเย้าอัญชัน "ตายแล้ว..!ยายปริกตีอัญชันตูดลายแน่เลยจ้ะ อัญชันสัญญากับยายปริกเอาไว้ ว่าจะรีบกลับด้วย"อัญชันนึกขึ้นได้ก็รีบลากอินทรีย์กลับไปเป็นเกราะกำบังกายทันที "ฮ่า ฮ่า ๆ คนอย่างเองกลัวเป็นด้วยหรือ ปกติแม้แต่กับข้า เอ็งก็ไม่เห็นจะเกรง"อินทรีย์หัวเราะร่วนจากที่อารมณ์ไม่ดีก็กลายเป็นยิ้มติดตลก "ไม่กลัวได้ยังไงล่ะจ๊ะ ยายปริกดุจะตาย ถ้าอัญชันทำผิดนิดเดียว ยายปริกตีตูดลายแน่"อัญชันถึงกับเอามือลูบไปที่ก้นน้อย ๆ ของตัวเอง เวลายายปริกตีด้วยก้านมะยมทีไร อัญชันถึงกับวิ่งหนีไปหลบหลังของอินทรีย์ทุกรอบเลย "ถ้าเอ็งไม่อยากโดนยายปริกตี เอ็งก็เลิกทำตัวดื้อเสียที โตเป็นสาวแล้วหนา"อินทรีย์หันไปพูดกับอัญชันที่เดินอยู่ข้างๆ "ข้าดื้อเสียที่ไหนเล่า ยายปริกนั่นแหละ ที่ไม่เข้าใจข้าบางทีข้าก็กลับบ้านช้าบ้าง ก็มีเหตุทั้งนั้น'อัญชันทำหน้ามู่ทู่ "เอาเถอะ กลับบ้านกับเรือนกันเสียที ก่อนที่มันจะพลบค่ำยิ่งกว่านี้เดี๋ยวจะเดินกันลำบาก" ทั้งสามคนพากันเดินทางกลับบ้านจนถึงเรือน ยายปริกถือก้านมะยมไว้รออัญชันจริง ๆ ด้วยยายปริกที่อายุเกือบ 60 กว่า แต่ก็ยังแข็งแรงดี สติสตางค์ไม่มีฟั่นเฟือนเลยแม้แต่น้อย "คุณหนูอัญชันไปเถลไถลที่ไหนมาเจ้าคะ ยายบอกว่าให้รีบกลับเรือนมิใช่หรือ แค่เอาข้าวไปส่งพ่อคุ้มไม่ใช่หรือจ๊ะ"ยายปริกที่ถือไม้ก้านมะยมอยู่ในมือทำท่าสั่นๆเรียกให้อัญชันเข้าไปใกล้เพื่อจะได้ตีถนัดๆ "จะไปไหนได้ล่ะจ๊ะ ตรงลานฝึกก็มีแต่ผู้ชายทั้งนั้นก็คงไม่พ้นไปเดินเฉิดฉายโชว์ตัวแหละจ้ะ"อีจวงที่เดินมาเห็นเหตุการณ์จึงได้สาระแนพูดให้อัญชันเสียหาย "เอ็งพูดให้มันดีๆ เสียบ้าง อย่ามีแต่ปากก็สักว่าพูดอีจวง" อินทรีย์ที่หันไปทำตาดุใส่อีจวง นับวันอีจวงยิ่งทำกิริยาท่าทางไร้ซึ่งความเคารพต่ออัญชันมากขึ้นทุกวัน "พ่อคุ้มอินทรีย์จ๊ะช่วย..!อัญชันด้วยเถอะยายปริกจะตีอัญชันอีกแล้ว"อัญชันไม่อยากโดนยายปริกตี อัญชันกอดแขนใหญ่ ๆ พร้อมเอาหัวคุยถูกไปถูกมาที่แขนของอินทรีย์อย่างน่าเอ็นดู พ่อคุ้มอินทรีย์ที่เห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข จึงเอ่ยปากห้ามยายปริกและออกรับแทนว่าเป็นตัวเขาเองที่ไม่ให้อัญชันกลับมากับชมพู่สองคนเพราะว่าเป็นห่วง..... ยายปริกรู้ดีว่าอินทรีย์ออกรับแทนอัญชันอย่างแน่นอน จริงๆยายปริกก็ไม่อยากจะตีอัญชันแต่ต้องรู้จักปรามให้หลาบจำตั้งแต่ยังเด็ก ยายปริกเห็นดังนั้นจึงยอมลามือง่ายๆ ส่วนอีจวงก็ยืนทำหน้าสลดเมื่อโดนอินทรีย์ตอบกลับไปแทนอัญชันดอกใหญ่ๆ อีจวงนับวันเริ่มจะเป็นหนักขึ้นจนคนในเรือนเริ่มจะเอือมระอาและไม่อยากจะให้อีจงอยู่ในเรือนอีกแล้วอัญชันที่นั่งดูการฝึกอาวุธอยู่ด้านหลังของอินทรีย์ วันนั้นทั้งวันตลอดบ่าย เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างพากันยิ้มกริ่ม อย่างมีกำลังใจเพราะไม่ได้เห็นแต่ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของอินทรีย์แต่กลับเห็นใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่ส่งยิ้มให้กับอินทรีย์ทำให้พวกเขาที่ฝึกอาวุธอยู่ก็ยิ้มตามไปด้วย"พวกมึงยิ้มห่าอะไรกัน..! ฝึกกันไปสิวะ..!!"อินทรีย์ยืนเอามือไพล่หลัง เดินวนไปวนมาจ้องเราลูกสมุนตาเขม็งอินทรีย์รู้สึกทนไม่ไหวจึงบอกให้ไอ้สนมาคุมการฝึกแทนเขา เพื่อจะพาอัญชันกับเรือนเขารู้สึกรำคาญสายตาทุกคู่ที่จ้องมองอัญชันอย่างไม่วางตาก่อนที่เขาจะควบคุมอารมณ์เอาไว้"ไอ้สน มึงคุมการฝึกให้ดี ฝึกพวกมันให้หนักโทษฐานที่มองอัญชันของกู"อินทรีย์หันไปพูดกับไอ้สน"ฉิบหาย งานหยาบแล้วพวกมึง เหนื่อยเอวเคล็ดแน่!"ไอ้บุญมาลูกน้องลูกกระจ๊อกที่รองมือรองเท้าของไอ้สนและไอ้กล้าเอ่ยขึ้นเสียงดัง"แน่นอนพี่อินทรีย์ เดี๋ยวข้าจะคุมการฝึกให้พี่เอง พี่พาคุณหนูอัญชันกับเรือนไปเถอะไ"อ้สนที่รู้ใจผู้เป็นลูกพี่ยิ่งกว่าใครอัญชันที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนมิรู้หนาว อยู่บนแคร่เห็นหน้าบึ้งตึงของพ่อคุ้มอินทรีย์ก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามประสา"ไป
ไอ้ทองอินเดินโซซัดโซเซ ตั้งใจจะเอาชีวิตไปตายเอาดาบหน้า ไอ้ทองอินเหลือแต่ชีวิตของมัน และไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือเมียและญาติคนสุดท้ายมันรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก จึงเดินตุ้มปัดตุ้มเป๋ไปในป่าโดยไร้จุดหมาย"อย่าให้กูฟื้นตัวมาได้นะ..!ไอ้อินทรีย์ ตาเขียว กูจะมาเอาคืนให้หมดทุกคนเลย ที่ทิ้งกู"ไอ้ทองอินกับเคียดแค้นให้กับลุงแท้ ๆ อย่างตาเขียวที่ไล่ตะเพิดมันออกจากบ้านและคนที่ซื้อลูกสาวมันไปอย่างพ่อคุ้มอินทรีย์ก็ยังจะมาซ้ำมันให้ออกจากหมู่บ้านอีกนับจากวันนั้นเป็นต้นมา วันแล้ววันเล่าชีวิตของอัญชันดูราบรื่นและสวยงาม อัญชันบัดนี้อายุเข้า 17 ปีดูสวยงามสง่า ความเป็นกุลสตรีที่อ่อนโยนยิ่งผูกมัดใจของอินทรีย์เข้าไปทุกวัน"ยายปริกจ๋า วันนี้อัญชันขอไปลานฝึกอาวุธได้ไหมจ๊ะอยากจะเอาปลาสามรสไปฝากพ่อคุ้ม"อัญชันที่ยิ้ม หวานขอยายปริกให้ใจอ่อน"ก็ได้คุณหนูอัญชัน ยายให้ไปแต่คุณหนูอัญชันจะต้องไม่ไปก่อความวุ่นวายให้กับพ่อคุ้ม ต้องลำบากใจรู้หรือไม่"ยายปริกรู้ว่าอัญชันเองก็เป็นเด็กดีน่ารักแต่ก็มีความแสบอยู่ไม่น้อย"อัญชันสัญญากับยายปริกว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายเด็ดขาด อัญชันจะรีบไปรีบกลับ ขอเอาข้าวไปส่งให้กับ
อีจวงที่วิ่งหน้าตั้งไปตามไอ้สนและไอ้กล้าที่อยู่ร้าน น้ำชาข้างตลาด ไม่ไกลจากบ้านของพ่อคุ้มอินทรีย์มากนัก เมื่อมาถึงอีจวงจึงรีบตะโกนเรียกคนทั้งสอง"พี่สน พี่กล้า พ่อคุ้มหัวอินทรีย์เรียกหาที่เรือนมีเรื่องรีบกลับไปที่เรือนทันที"อีจวงที่ยืนหอบแฮ่กๆแต่ก็ยังบอกทุกความของพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่มีตกหล่น"เกิดเรื่องอะไรวะ"ไอ้สนและไอ้ต้นกล้าหันไปพูดกับ อีจวงพร้อมกัน"ก็พ่ออีนางเด็กอัญชันน่ะ มันมาอาละวาดที่เรือนจะเอาอีอัญชันกลับ"อีจวงที่ไม่ชอบอัญชันก็เรียกจิกหัว ทันทีสองคนที่ได้ยินดังนั้น"นังจวงพูดจาอะไรให้มันดี ๆ หน่อยเถอะ แม่อัญชันก็เป็นคนสำคัญของที่เรือนของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้สนหันไปเอ็ดอีจวง"ช่างมันเถอะพวกพี่รีบไปเที่ยวเรือนก่อน"อีจวงที่ไม่สนใจเสียงบ่นกรนด่าของไอ้สนไอ้ทองอินที่อยู่ใต้ถุนเรือน ก็ยังคงโวยวายลั่นทำ ท่าทางจะขึ้นมาบนเรือนของอินทรีย์ให้ได้ แต่อินทรีย์ยืนขวางแม้แต่บันไดขั้นเดียวก็ไม่ให้ขึ้นเหยียบ"เอ็งมาทำแบบนี้ได้ยังไงวะ ข้าอยากจะเอาลูกสาวข้าคืน เอ็งก็คืนมาสิ ข้าเป็นพ่อของมันนะ"ไอ้ทองอินทำเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งที่รับเ
สภาพของไอ้ทองอิน ที่โดนซ้อมจนใบหน้าปูดบวมบิดเบี้ยว กว่ามันจะลุกขึ้นมาได้ก็เล่นเอาช้ำใน เจ็บตัวไป 3-4 วัน เงินที่เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาทบาทสุดท้ายในสมัยนั้นเป็นเงินที่มากอยู่พอจะให้ตั้งตัวได้เลยแต่สุดท้ายไอ้ทองอินก็ยังหอบสภาพสังขารด้วยใบหน้าที่ปูดบวมไปเล่นการพนันในบ่อนท้ายหมู่บ้านจนสิ้นเนื้อประดาตัวไอ้อินที่โดนเอามาทิ้งใกล้ ๆ กับโรงหมอ ก็ได้หมอใจดีช่วยรักษาจนหาย แต่คนอย่างไอ้ทองอินก็เปรียบเสมือนงูพิษมันพร้อมจะชกกัดกับทุกคน"หมอข้าขอยาแก้ปวดหน่อยสิ ข้าปวดเนื้อปวดตัวไปหมด"ใบหน้าที่ปูดบวมเขียวช้ำ ของไอ้ทองอินก็ยังไม่ดีขึ้น มันก็เริ่มจะแผลงฤทธิ์ได้อีกแล้ว"ข้าก็เพิ่งจะให้เอ็งกินไปไม่ถึงชั่วยาม เอ็งก็ต้องรอหน่อยสิวะ มันก็ต้องปวดเป็นธรรมดาสมุนไพรยังไม่ออกฤทธิ์"คนเป็นหมอถึงกับส่ายหัว กับคนไข้อย่าง ไอ้ทองอิน แม้แต่เงินสตางค์แดงเดียวไอ้ทองอินก็ไม่จ่าย"โธ่เว้ย..! ทำไมข้าต้องมาทนเจ็บปวดด้วยวะ หมอยังเองนี่มันไม่ได้เรื่อง"ไอ้ทองอินลุกขึ้น โซซัดโซเซ สีหน้าชี้หนาด่าทอหมอที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้"ถ้าเอ็งพูดอย่างนี้ เอ็งก็ออกไปจากโรงหมอของข้าเสีย แล้วอย่าย้อนกลับมาอีก"คนเป็นหมอถึงกับโมโหเลือดขึ้นหน
ไอ้กล้ากับไอ้สนถือวิสาสะพาตาเขียวเดินขึ้นไปบนเรือนของอินทรีย์ เพื่อไปพบกับอินทรีย์ที่นั่งอยู่กลางเรือน นั่งดูอัญชันฝึกร้อยมาลัยอยู่กับยายปริกที่พื้นด้านล่างตรงหน้าของเขา"พ่อคุ้มอินทรีย์ ดูสิจ๊ะ มาลัยของอัญชันบูดเบี้ยวไม่สวยเหมือนของยายปริกเลย"อัญชันทำหน้างอเป็นม้าหมากรุกรู้สึกน้อยใจในฝีมือของตัวเองยายปริกจึงพูดปลอบใจอัญชันว่า "ตอนที่ยายฝึกทำครั้งแรกโย้เย้กว่าของเอ็งเยอะเลย อัญชันเนี่ยถือว่าเก่งแล้ว เอ็งต้องฝึกฝีมือมาก ๆ นะ'ยายปริกเอ่ยบอกให้อัญชันได้รู้สึกดีขึ้น"จริงหรอจ๊ะ"อัญชันหันไปถามยายปริกพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ"จริงสิ ยายจะหลอกเอ็งทำไมล่ะ กว่ายายร้อยมาลัยเก่ง สวยขนาดนี้ ยายก็ฝึกจนเข็มแทงนิ้วไม่รู้กี่พันรอบ"ยายปริกรู้สึกเหมือนมีหลานสาวตัวเล็ก ๆ ทำให้เรือนนี้ดูมีชีวิตชีวาตาเขียวที่ยืนมองดูหลานสาว อยู่ตรงหัวกระได รู้สึกมีความสุขที่ เห็นหลานสาวมีรอยยิ้มและดูหน้าตาสดใสเพียงแค่เวลาวันสองวันเท่านั้นเอง แต่ตาเขียวก็อยากจะไปคุยกับพ่อคุ้มอินทรีย์ให้รู้เรื่องเพื่อความปลอดภัยของหลานอินทรีย์หันไปตามเสียงก๊อกแก๊กที่ตรงหัวบันไดบ้านก็รู้สึกแปลกใจที่ไอ้สนกับไอ้กล้า จูงใครคนนึงมาบนบ้านของเขาโ
ไอ้ทองอินที่ได้เงินสามร้อยห้าสิบบาทเป็นเงินที่ขายลูกสาวกิน มันเอาไปถลุงในบ่อนพนันเพียงคืนเดียวก็เหลือติดตัวเพียงยี่สิบบาท มันจึงรีบล่าถอยกลับไปหาลุงของมันที่เรือน"ลุงเขียวจ๊ะ ข้าขอโทษจ้ะ"ไอ้ทองอินก้มลงไปกราบ ลุงเขียว เพื่อขอขมาลาโทษ ที่ทำให้ลุงได้รับบาดเจ็บตาเขียวที่เห็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนมาทำท่าทางขอขมาลาโทษก็รู้สึกใจอ่อน แต่ก็ไม่ได้รับคำขอโทษแต่อย่างใด"แล้วหลานสาวกูอยู่ที่ไหน มึงเอาแม่อัญชันไปขัดดอกจริงๆ ใช่ไหม"ตาเขียวเค้นถามหลานชายหัวแก้ว หัวแหวน ตาเขียวถามหาหลานสาวสุดที่รักอย่างอัญชันเมื่อวานแกพยายามจะวิ่งตามแต่ด้วยความบาดเจ็บของคนแก่จึงทำอะไรไม่ได้"ฉันขายนางอัญชันให้กับผู้ชายคนนึงไปแล้วฉันได้เงินมานิดหน่อย แต่ตอนนี้ เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาท" ตาเขียวโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ที่ไอ้ทองอินขายลูกกินอย่างไม่รู้สึกผิด แกจึงใช้ไม้ตะพดฟาดไปที่หัวของ ไอ้ทองอินจนแตก พร้อมกับตวาดลั่นบ้าน แกเอ่ยไล่ไอ้ทองอินทร์ให้ออกจากบ้านไป"มึงนี่มันไม่ใช่คนจริง ๆ ขนาดลูกหมาลูกแมว มันยังรักลูกของตัวเอง แต่นั่นลูกสาวมึงแท้ ๆ มึงยังกล้าขายให้กับคนที่มึงไม่รู้จัก มึงใช้สมองหรือหัวแม่โป้งตีนคิดไว่ะ..?"
วันนี้เป็นวันแรก ที่อัญชันได้ใช้ชีวิตในแบบที่ควรเป็นเย็นวันนี้อัญชันที่ฝึกทำปลาสามรสกับยายปริกและน้ำพริกกะปิผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์เป็นครั้งแรกอัญชันรีบช่วยยายปริกยกข้าวเย็นขึ้นมาบนเรือน"เอ็งทำอันใดให้ข้ากินหรืออัญชัน"พ่อคุ้มอินทรีย์ที่พึ่งอาบน้ำผัดเสื้อผ้าก็เดินออกมา"อัญชันทำเมนูปลาสามรส น้ำพริกกะปิแล้วก็ผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์ ลองกินดูจ๊ะ"อัญชันยิ้มหวานเนื้อตัวยังมีแต่กลิ่นกับข้าวพ่อคุ้มอินทรีย์เดินเข้าไปหาอัญชัน โอบกอดร่างเล็ก ๆ พร้อมกับหอมแก้มเบาๆ ดังฟอด..!"พ่อคุ้ม...!!!"อัญชันเรียกอินทรีย์เสียงดังเพราะแอบตกใจที่อยู่ดีๆก็โดนขโมยหอมแก้ม"ทำไม มึงเป็นคนของกูแล้ว กูบอกมึงแล้วไง ไม่ต้องตกใจหรอก ต่อไปนี้ทุกอย่างบนตัวมึงเป็นของกูแต่เพียงผู้เดียว"อินทรีย์พูดไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งนั้น"อัญชันแม้จะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแบบที่พ่อคุ้มทำ ก็ยิ่งรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยเพราะพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของตน"ขอบใจเอ็งมาก เอ็งก็มากินข้าวพร้อมข้าเลยแล้วกัน"อินทรีย์ที่จุงมือเล็ก ๆ ให้เดินตามมาด้วยอีจวงที่เดินขึ้นมาพร้อมกับโถข้าว แทบจะทำโถข้าวหลุดมือ เมื่อเห็นภาพพ่อคุ้มอินทรีย์
อินทรีย์จ้องมองลูกน้องทั้งสองตาเขม็งด้วยความไม่พอใจที่สอดรู้สอดเห็น เรื่องของเขาไปเสียทุกเรื่อง ถึงแม้พวกมันจะดูทะเล้นตึงตังไปบ้าง แต่ยามที่สู้รบปรบมือ พวกมันก็ไม่เคยถอยและไม่เคยทิ้งอินทรีย์เลยแม้แต่ครั้งเดียวเป็นตายแทนเขาได้เสมอ"ช่างสอดรู้สอดเห็นเสียจริงพวกมึง อัญชันเป็นคนของกู นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผู้ใดก็ห้ามแตะต้อง"อินทรีย์ใช้น้ำเสียงที่ดูอ่อยโยนทำให้อัญชันไม่รู้สึกกลัว"แม่อัญชันจ๊ะฉันชื่อไอ้กล้า ส่วนเนี่ยไอ้สน แม่อัญชันอย่าได้กลัวฉันสองคนเลยนะ ฉันเป็นลูกน้องของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้กล้าที่มันก็กล้าสมชื่อได้พูดขึ้นไอ้สนใช้มือตบไปที่เพื่อนเบา ๆ ให้หยุดพูดเสียทีเดี๋ยวจะปากพาซวยกันทั้งคู่แต่ไอ้กล้าก็ไม่ได้ฟังอัญชันหันมองคนทั้งสองพร้อมกับผงกหัวรับอย่างว่าง่าย คนตัวเล็กอย่างอัญชันทำอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมดในสายตาของอินทรีย์ อินทรีย์ค่อย ๆ อุ้มอัญชันออกจากตัก ให้นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับใช้วงแขนแกร่งโอบกอดเอาไว้"ไหน ไหน ก็ไหน ไหนแล้ว ทำความรู้จักไว้เสียสิอัญชัน อันนั้นไอ้สนหน้าตามันจะดูรูปทั่วตัวดำแต่มันเป็นคนจิตใจดี""ส่วนคนนั้นไอ้กล้าปากหมาพาซวยถึงแม้มันจะดีดดิ้งไปบ้างไม่ค่อยเชื่อฟังคำ
อินทรีย์ที่อุ้มอัญชันขึ้นมากอดกระชับไว้แน่นพร้อมหอมใบบนหน้าผากมนด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของอัญชัน ทำให้อินทรีย์อดใจไม่ไหวจึงแกล้งหยอกล้ออัญชันจนมันหัวเราะร่วน"ฮ่า ฮ่า พ่อคุ้ม อัญชันจั๊กจี้จ้ะ ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นแล้ว"อัญชันที่โดนพ่อคุ้มกลั่นแกล้งนั่งหัวเราะร่วนอยู่บนตักแกร่ง"กูไม่แกล้งมึงแล้วก็ได้อัญชัน แต่ต่อไปนี้เอ็งจะต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังทุกเรื่องที่ข้าพูดเข้าใจไหมพ่อคุ้มอินทรีย์บอกกับอัญชันอย่างจริงจัง"อัญชันสัญญาจ้ะ อัญชันจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังที่ พ่อคุ้มบอกทุกเรื่องเลยจ้ะ อัญชันอยากจะเรียนทำอาหารเพิ่มได้ไหมจ๊ะ""เมื่อก่อนแม่ของอัญชัน มักจะสอนอัญชันทำขนมแล้วก็อาหารมากมาย อัญชันอยากรู้ว่าพ่อคุ้มชอบกินอะไรอัญ ชันจะได้ทำให้พ่อคุ้มกินทุกวันเลย"อัญชันที่พูดเอาอกเอาใจพ่อคุ้มอินทรีย์ด้วยความไร้เดียงสาอัญชันรู้สึกรักและผูกพันกับพ่อคุ้มอย่างบอกไม่ถูก"มึงเป็นเด็กที่น่ารัก และรู้จักเอาอกเอาใจเสียจริงนะไม่เสียแรงที่กูช่วยมึงมา"พ่อคุ้มพูดคุยกับอัญชันอยู่นานสองนานอย่างไม่รู้สึกเบื่อทางด้านไอ้ต้นกล้าและไอ้สนที่เดินดั้นด้นจากลานฝึกมาจนถึงเรือนของพ่อคุ้ม มันแอบดูอยู่ตรงชายบันไดเรือน ก็ถึงก