วินัยพยักหน้ารับ พร้อมกับเดินนำหน้าไปยังรถหรูที่จอดรออยู่หน้าบ้าน แต่รถหรูราคาแพงคันนี้ไม่ใช่รถของเขาหรอกนะ เขาจ้างมารับส่งในงานนี้โดยเฉพาะเท่านั้น
“พลับพลึง เดี๋ยวแกขึ้นไปหยิบรองเท้าสีชมพูบนห้องฉันให้หน่อย”
“แต่ว่า...พี่พุดมีรองเท้าอยู่แล้วนี่คะ”
เมื่อน้องสาวค้าน ช่อพุดจึงชักสีหน้าใส่ทันที
“ฉันสั่งยังไงแกก็รีบไปทำเถอะ หรืออยากให้ฉันฟ้องพ่อว่าแกไม่ตามใจฉัน”
“เอ่อ ฉัน...ไปหยิบให้ก็ได้ รอแป๊บนึงแล้วกันนะ”
พลับพลึงมองหน้าพี่สาวด้วยแววตาไม่สบายใจ ก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นไปหยิบรองเท้าให้พี่สาวอย่างขัดใจไม่ได้ ช่อพุดยิ้มเยาะก่อนจะเดินไปรอที่รถ
สถานที่จัดงานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ช่างหรูหรายิ่งนัก ห้องบอลรูมใหญ่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่หญิงสาวที่พึ่งจะเคยมางานปาร์ตี้เป็นครั้งแรกอย่างพลับพลึงยิ่งนัก หล่อนสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนเรียบร้อย ในมือหิ้วของพะรุงพะรังหมุนไปรอบๆ ตัว มองแสงสีและผู้คนเดินผ่านไปมาอย่างตื่นเต้น รอบกายเต็มไปด้วยผู้ชายในชุดสูทหรูหรา ผู้หญิงก็แต่งตัวมาแข่งขันกันเต็มที่ สวยงามจนหล่อนที่เปรียบเสมือนลูกเป็ดขี้เหร่ตาหูลายไปหมด
“เลิกทำตัวเหมือนเด็กบ้านนอกได้แล้วยายพลับพลึง ฉันอายคนอื่นเขา” เสียงของช่อพุดทำให้คนที่กำลังมองไปรอบๆ ตัวหน้าเจื่อนและเอ่ยขอโทษ
“ขอโทษค่ะพี่พุด ฉัน...ไม่เคยมางานแบบนี้ ก็เลยตื่นเต้นไปหน่อย”
“เห็นไหมพ่อ พุดบอกแล้วว่าอย่าพามันมาก็ไม่เชื่อ ถ้ามันทำให้พุดอายเมื่อไหร่ พุดจะกลับทันทีนะพ่อ” ช่อพุดหันไปตัดพ้อบิดาด้วยสีหน้าไม่พอใจ วินัยที่ตั้งความหวังในงานค่ำคืนนี้เป็นที่สุดรีบหันไปส่งแววตาดุดันใส่บุตรสาวคนเล็กทันที
“ถ้าแกทำลูกพุดของฉันอับอายละก็ ฉันจะไล่แกออกจากบ้าน นังพลับพลึง”
“พ่อ!” พลับพลึงอุทานอย่างไม่อยากเชื่อหู ก่อนจะก้มหน้าซ่อนน้ำตาแห่งความน้อยใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บิดาพูดแบบนี้ แต่ฟังกี่ครั้งหล่อนก็ไม่เคยชินสักที
“จำเอาไว้ แกมันลูกเป็ดขี้เหร่ ไม่มีวันได้ดีไปกว่าฉัน นังพลับพลึง” ช่อพุดหัวเราะเยาะน้องสาว ก่อนจะเชิดหน้าเดินเข้าไปในงาน โดยมีบิดาเดินขนาบข้างไปติดๆ
พลับพลึงเงยหน้าขึ้นรีบปาดน้ำตาทิ้ง ก่อนจะรีบเดินตามพ่อกับพี่สาวเข้าไปภายในงานพร้อมๆ กับโลกที่แสนมืดมน
ทำไมพ่อถึงรักช่อพุดมากกว่าหล่อน...คำถามนี้เกิดขึ้นในหัวใจเสมอ แต่หล่อนไม่เคยล่วงรู้คำตอบสักที ไม่ว่าเวลาจะผ่านมาสักกี่ปีก็ตาม
“สวัสดีครับ ท่านอนาวิน คุณหญิงไม่มาด้วยหรือครับ”
พ่อพาช่อพุดไปแนะนำตัวกับผู้ใหญ่ในงานหลายต่อหลายคน ขณะที่หล่อนถูกมองข้ามและไม่ถูกพูดถึงแม้แต่น้อย พ่อกับพี่สาวมีรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า ไหว้คนนั้นพูดคุยกับคนนี้อย่างสนุกสนาน สายตาทุกคู่ในงานไม่ว่าจะเป็นสตรีหรือบุรุษต่างจับจ้องมาที่ช่อพุด ก็พี่สาวของหล่อนออกจะสวยขนาดนี้นี่ ราวกับนางฟ้าก้าวลงมาจากสวรรค์...
“มาครับ แต่ปลีกตัวไปคุยกับเพื่อนๆ น่ะครับ ว่าแต่...ลูกสาวใช่ไหมครับ”
“ใช่ครับ” วินัยรีบตอบรับด้วยความภาคภูมิใจ “ช่อพุดไหว้ท่านอนาวินสิลูก ท่านเป็นนายกสมาคมการค้าระหว่างประเทศเชียวนะ”
ช่อพุดยิ้มหวาน ทิ้งสายตาให้อย่างมีจริต หล่อนไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะโสดหรือมีภรรยาแล้ว ขอแค่ได้หว่านเสน่ห์เป็นพอ
“สวัสดีค่ะท่าน พุดฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“ยินดีครับ คืนนี้หนูพุดสวยมากเลยนะครับ”
ช่อพุดแกล้งขวยเขินและหลบสายตา ขณะที่วินัยอมยิ้มกับเสน่ห์ของบุตรสาวคนโต
“ถ้าท่านมีตำแหน่งงานว่างๆ ก็อย่าลืมคิดถึงลูกพุดของผมนะครับ”
“รับรองว่าผมจะหาตำแหน่งที่ดีที่สุดให้แก่หนูพุด”
“ขอบคุณท่านมากค่ะ”
ช่อพุดพนมมือจดหน้าผากด้วยกิริยาแสนอ่อนหวาน ผู้คนรอบกายต่างลุ่มหลงในเสน่ห์และมองมาที่หญิงสาวตาเป็นมัน ซึ่งแน่นอนว่าสองพ่อลูกเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เพราะถ้าเป็นอย่างนี้สิ่งที่ต้องการคงไม่ไกลเกินเอื้อม
“งั้นผมขอตัวสักครู่นะครับ”
“ตามสบายครับท่าน ผมจะพาลูกพุดไปหาอะไรดื่มเหมือนกัน”
ช่อพุดมองชายวัยกลางคนผู้มีอำนาจอีกครั้งด้วยแววตายั่วยวน ก่อนจะค่อยๆ เดินนวยนาดตามบิดาไปยังเคาน์เตอร์บาร์ พลับพลึงที่เป็นเหมือนส่วนเกินรีบเดินหิ้วกระเป๋าตามไป แม้จะรู้ดีว่าทำไมบิดาต้องการให้พี่สาวมางานนี้ ถึงกระนั้นหล่อนก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการรวยทางลัดแบบนี้เลยสักนิด
พลับพลึงยืนอยู่ด้านหลังบิดากับพี่สาว เรื่องราวมากมายตั้งแต่มารดาเสียชีวิตค่อยๆ ย้อนกลับเข้ามาในสมอง บ้านหลังใหญ่ถูกธนาคารยึด ครอบครัวจึงต้องย้ายมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บ้านหลังเล็กๆ อย่างไม่มีทางเลือก ชีวิตหรูหราเปลี่ยนไป และนั่นก็ทำให้คู่หมั้นของช่อพุดแสดงความไม่พอใจ ความสัมพันธ์ห่างเหินกันไปทุกขณะ จนในที่สุดช่อพุดก็เป็นฝ่ายขอถอนหมั้นก่อนที่อีกฝ่ายจะทำ
หล่อนรู้ดีว่าพี่สาวไม่ได้เสียใจอะไรมากมายนัก แต่เสียหน้ามากกว่า คนเป็นพี่จึงตั้งใจจะจับผู้ชายรวยๆ มาเป็นเจ้าบ่าวให้ได้เพื่อฉีกหน้าอดีตคู่หมั้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องทำได้ เพราะพี่สาวของหล่อนสวยราวกับนางฟ้า ยิ่งแต่งก็ยิ่งสวย คงไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกปฏิเสธได้
“พลับพลึง...นังพลับพลึง เรียกไม่ได้ยินหรือไง”
เสียงเอ็ดตะโรของพี่สาวทำให้พลับพลึงหลุดจากภวังค์ หล่อนรีบละล่ำละลักถามด้วยความตกใจ
“เอ่อ พี่พุดมีอะไรจะให้ฉันทำเหรอคะ”
“แกนี่มันตัวถ่วงจริงๆ ไม่เคยทำอะไรได้ดั่งใจฉันสักนิด” ช่อพุดชักสีหน้า
“นั่นสิ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำให้พ่อแม่ภูมิใจสักครั้ง แกมันไม่น่าเกิดมาเป็นลูกฉันเลย นังพลับพลึง” วินัยตำหนิอีกคน จนพลับพลึงน้ำตาร่วง
“พ่อ...”
“ไม่ต้องมาบีบน้ำตาเลย ไปตักอาหารมาให้ฉันเร็วเข้า หิว”
“ค่ะ เดี๋ยวฉันมานะพี่พุด”
พลับพลึงรีบผลุนผลันเดินไปยังโต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยอาหารมากมายหลายชนิด หล่อนพยายามมองหาอาหารที่พี่สาวและบิดาชอบ พอเจอก็ตักใส่จานและรีบเอาไปให้ทั้งสองคน แต่เมื่อเดินกลับมาที่เดิมก็ไม่เจอทั้งสองคนแล้ว หล่อนพยายามมองหา ในที่สุดก็เห็น
ช่อพุดกำลังยืนหัวเราะแย้มยิ้มอยู่กับผู้ชายตัวสูงใหญ่คนหนึ่ง แต่บิดาไม่ได้อยู่แถวนั้น หล่อนก้มลงมองอาหารในมือแล้วก็ตัดสินใจเดินเอาเข้าไปให้พี่สาว แต่มือของใครคนหนึ่งกระชากเอาไว้เสียก่อนจนจานแทบร่วงจากมือ
ตอนที่ 5.“พ่อ...”“แกจะไปไหนนังพลับพลึง”“เอ่อ...ฉันจะเอาอาหารไปให้พี่พุดน่ะค่ะ”“ไม่ต้องเลย” วินัยต่อว่าลูกสาวคนเล็กเสียงแผ่วเบาแต่แข็งกร้าวยิ่งนัก “แกไม่เห็นหรือไงว่าลูกพุดไม่ว่าง แกนี่มันโง่เง่าจริงๆ นะ”“พ่อ...ก็พี่พุดบอกว่าหิว”“ยังจะมาเถียงอีก มานี่...กลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้” วินัยลากพลับพลึงออกมานอกงาน“พ่อคะ เราจะทิ้งพี่พุดเอาไว้แบบนั้นเหรอคะ พี่พุดจะกลับยังไง”“แกไม่ต้องห่วงลูกพุดหรอก พี่สาวของแกน่ะฉลาด ห่วงตัวเองดีกว่าว่าจะทำอะไรตอบแทนบุญคุณของฉันได้บ้าง”พลับพลึงหน้าเศร้า น้ำตาซึม“พ่อจ๋า...ฉันสัญญาว่าจะรีบหางานทำให้เร็วที่สุด ฉันจะให้เงินเดือนพ่อทุกบาททุกสตางค์ ฉันรักพ่อนะ”“เงินเดือน? เงินเดือนพนักงานบัญชีจะได้สักกี่บาทเชียว”“ก็เกือบสองหมื่นนะพ่อ ฉันให้พ่อหมดเลย” หญิงสาวหวังว่าบิดาจะมองเห็นคุณค่าในตัวของหล่อนบ้าง แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่หวังแม้แต่น้อย“ฉันต้องการเงินล้าน ไม่ใช่เงินหมื่น”“เงินเยอะขนาดนั้น ฉันคง...”พลับพลึงมีสีหน้าหม่นหมอง ในขณะที่วินัยระบายยิ้มกว้าง“แต่ลูกพุดจะหามาให้ฉันได้ ซึ่งคนโง่ๆ แบบแกไม่มีปัญญาทำได้”หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ทะลักออกมา มือบ
ตอนที่ 1.รถสปอร์ตสีดำเงาแล่นผ่านประตูรั้วเหล็กโปร่งบานใหญ่เข้ามาจอดสนิทที่หน้าคฤหาสน์หลังงามซึ่งเป็นสถานที่พำนักพักพิงของมหาเศรษฐีน้ำมันผู้ร่ำรวยอย่างนายอบูฮะซัน มะอาลีย์ และภรรยานามว่าฟาติมาห์ รวมถึงบุตรชายวัยฉกรรจ์ของพวกเขาอีกสี่คน คฤหาสน์หลังนี้สวยงามโดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์อย่างประณีตบรรจง วัสดุล้ำค่ามากมายจากทั่วทุกมุมโลกถูกนำมาประดับประดาอวดโฉมแก่สายตาของผู้มาเยือน และด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลหลายร้อยเอเคอร์ของอาณาจักรมะอาลีย์ ภายในคฤหาสน์จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศมากมายชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ต่างจากวังขององค์สุลต่านเลยแม้แต่นิดเดียว จตุรเทพแห่งเอห์เดน คำกล่าวนี้ไม่เกินความเป็นจริงเลยสำหรับสี่หนุ่มแห่งตระกูลมะอาลีย์ เพราะพวกเขาทั้งสี่มีรูปโฉมราวกับเดินลงมาจากสรวงสวรรค์ เทพบุตรในฝันที่สาวน้อยสาวใหญ่ครึ่งค่อนโลก หรืออาจจะทั้งโลกต่างเฝ้ามองและอยากครอบครองเป็นเจ้าของ แต่ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านเลยไปสักกี่ปี หัวใจของจตุรเทพแห่งเอห์เดนก็ยังคงเป็นอิสระเช่นเดิม จนกระทั่ง อะซูล พี่ชายคนโตซึ่งมีความเป็นผู้นำสูงถูกพ่อแม่จับแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว เขาเป็นลูกชายคนแ
ตอนที่ 2. “เพราะแบบนี้ใช่ไหมครับ คุณชายรองถึงไม่ยอมไปดูตัวผู้หญิงที่นายหญิงเลือกเอาไว้ให้” ชาร์คีลสามารถคาดเดาความรู้สึกของเจ้านายได้เสมอ และมันก็ถูกต้องทุกครั้ง “ใช่ ฉันไม่ยอมให้คุณแม่บังคับเหมือนพี่ฮะซูลหรอก” ฮัสซานัลพึมพำเสียงห้าว พลางก้าวเข้าไปในลิฟต์แก้วหรู ชาร์คีลกำลังจะตามติดเข้าไป แต่ถูกห้ามเอาไว้ “นายไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ฉันอยากอยู่คนเดียว” “แต่วันนี้คุณชายรองมีนัดกับคุณวิกกี้นะครับ” คนที่กำลังยืนอยู่ในลิฟต์หรูยิ้มบางๆ“ยกเลิกนัดเธอซะ” “แต่เธอจะต้องไม่พอใจมากนะครับ และอีกอย่างพ่อเธอเป็นถึง...” ชาร์คีลพยายามจะเตือนว่าพ่อของวิกกี้เป็นถึงนายกเทศมนตรีของรัฐใกล้เคียง แต่ฮัสชานัลไม่เคยเกรงกลัวอำนาจของใคร ไม่ว่าใหญ่มาจากไหน ถ้าเขาไม่ต้องการก็คือไม่ต้องการ ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ “ทำตามที่ฉันบอก ยกเลิกนัดวิกกี้และผู้หญิงทุกคนในเดือนนี้” “เอ่อ ครับ คุณชายรอง” ไม่มีคำพูดใดออกมาจากริมฝีปากสวยจัดของฮัสซานัลอีก นอกจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของลำแขนกำยำ ไม่ช้าประตูลิฟต์แก้วแวววาวก็ปิดสนิท พร้อมกับความเงียบ
ตอนที่ 3.นี่คือประโยคสุดท้ายก่อนที่เขากับช่อพุดจะแยกจากกัน และนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็แปดปีกว่าแล้วสินะที่ไม่ได้เจอหล่อนอีก เขานึกถึงหล่อนอยู่เสมอ แม้กระทั่งในความฝัน“เราจะได้พบกันเร็วๆ นี้ ช่อพุด ศรีวิชัย”ฮัสซานัลอมยิ้มกับตัวเองพลางละสายตาจากทิวทัศน์ภายนอก เดินกลับเข้ามาทรุดนั่งบนเก้าอี้นวมนุ่มเนื้อดี พรุ่งนี้ตอนบ่ายเขาจะเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวไปยังเมืองไทยแล้ว แม้จะยังไม่ได้บอกเรื่องจะลาพักผ่อนและบินไปเมืองไทยให้บิดามารดาทราบเป็นกิจจะลักษณะ แต่ฮะซูล พี่ชายใหญ่รู้เรื่องแล้ว ดังนั้นคงไม่มีเหตุการณ์อะไรมาขัดขวางการเดินทางไปตามหาหัวใจของเขาอีกเขาหวังไว้เช่นนั้น...“พี่พุด พ่อให้มาตาม เสร็จหรือยังคะ”ทันทีที่สิ้นเสียงเรียกของ พลับพลึง ศรีวิชัย ร่างอรชรสมส่วนในชุดราตรีเรียบหรูของ ช่อพุด ศรีวิชัย ก็ก้าวข้ามธรณีประตูออกมา ดวงหน้านวลงามล้ำแย้มยิ้มด้วยความพึงพอใจยิ่งนักที่เห็นสีหน้าตื่นตะลึงของน้องสาว เพราะสีหน้าแบบนี้ของน้องสาวบอกให้รู้ว่าตกตะลึงกับความงามของหล่อนมากมายแค่ไหน“ถึงกับอ้าปากค้างเลยเหรอพลับพลึง นี่ถามจริงๆ เถอะ ยังไม่ชินอีกหรือไงที่มีพี่สาวสวยๆ อย่างฉันน่ะ”พลับพล
ตอนที่ 5.“พ่อ...”“แกจะไปไหนนังพลับพลึง”“เอ่อ...ฉันจะเอาอาหารไปให้พี่พุดน่ะค่ะ”“ไม่ต้องเลย” วินัยต่อว่าลูกสาวคนเล็กเสียงแผ่วเบาแต่แข็งกร้าวยิ่งนัก “แกไม่เห็นหรือไงว่าลูกพุดไม่ว่าง แกนี่มันโง่เง่าจริงๆ นะ”“พ่อ...ก็พี่พุดบอกว่าหิว”“ยังจะมาเถียงอีก มานี่...กลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้” วินัยลากพลับพลึงออกมานอกงาน“พ่อคะ เราจะทิ้งพี่พุดเอาไว้แบบนั้นเหรอคะ พี่พุดจะกลับยังไง”“แกไม่ต้องห่วงลูกพุดหรอก พี่สาวของแกน่ะฉลาด ห่วงตัวเองดีกว่าว่าจะทำอะไรตอบแทนบุญคุณของฉันได้บ้าง”พลับพลึงหน้าเศร้า น้ำตาซึม“พ่อจ๋า...ฉันสัญญาว่าจะรีบหางานทำให้เร็วที่สุด ฉันจะให้เงินเดือนพ่อทุกบาททุกสตางค์ ฉันรักพ่อนะ”“เงินเดือน? เงินเดือนพนักงานบัญชีจะได้สักกี่บาทเชียว”“ก็เกือบสองหมื่นนะพ่อ ฉันให้พ่อหมดเลย” หญิงสาวหวังว่าบิดาจะมองเห็นคุณค่าในตัวของหล่อนบ้าง แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่หวังแม้แต่น้อย“ฉันต้องการเงินล้าน ไม่ใช่เงินหมื่น”“เงินเยอะขนาดนั้น ฉันคง...”พลับพลึงมีสีหน้าหม่นหมอง ในขณะที่วินัยระบายยิ้มกว้าง“แต่ลูกพุดจะหามาให้ฉันได้ ซึ่งคนโง่ๆ แบบแกไม่มีปัญญาทำได้”หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ทะลักออกมา มือบ
ตอนที่ 4.วินัยพยักหน้ารับ พร้อมกับเดินนำหน้าไปยังรถหรูที่จอดรออยู่หน้าบ้าน แต่รถหรูราคาแพงคันนี้ไม่ใช่รถของเขาหรอกนะ เขาจ้างมารับส่งในงานนี้โดยเฉพาะเท่านั้น“พลับพลึง เดี๋ยวแกขึ้นไปหยิบรองเท้าสีชมพูบนห้องฉันให้หน่อย”“แต่ว่า...พี่พุดมีรองเท้าอยู่แล้วนี่คะ”เมื่อน้องสาวค้าน ช่อพุดจึงชักสีหน้าใส่ทันที“ฉันสั่งยังไงแกก็รีบไปทำเถอะ หรืออยากให้ฉันฟ้องพ่อว่าแกไม่ตามใจฉัน”“เอ่อ ฉัน...ไปหยิบให้ก็ได้ รอแป๊บนึงแล้วกันนะ”พลับพลึงมองหน้าพี่สาวด้วยแววตาไม่สบายใจ ก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นไปหยิบรองเท้าให้พี่สาวอย่างขัดใจไม่ได้ ช่อพุดยิ้มเยาะก่อนจะเดินไปรอที่รถ สถานที่จัดงานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ช่างหรูหรายิ่งนัก ห้องบอลรูมใหญ่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่หญิงสาวที่พึ่งจะเคยมางานปาร์ตี้เป็นครั้งแรกอย่างพลับพลึงยิ่งนัก หล่อนสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนเรียบร้อย ในมือหิ้วของพะรุงพะรังหมุนไปรอบๆ ตัว มองแสงสีและผู้คนเดินผ่านไปมาอย่างตื่นเต้น รอบกายเต็มไปด้วยผู้ชายในชุดสูทหรูหรา ผู้หญิงก็แต่งตัวมาแข่งขันกันเต็มที่ สวยงามจนหล่อนที่เปรียบเสมือนลูกเป็ดขี้เหร่ตาหูลายไปหมด “เลิกทำตัวเหมือนเด็กบ้านนอกได้แล
ตอนที่ 3.นี่คือประโยคสุดท้ายก่อนที่เขากับช่อพุดจะแยกจากกัน และนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็แปดปีกว่าแล้วสินะที่ไม่ได้เจอหล่อนอีก เขานึกถึงหล่อนอยู่เสมอ แม้กระทั่งในความฝัน“เราจะได้พบกันเร็วๆ นี้ ช่อพุด ศรีวิชัย”ฮัสซานัลอมยิ้มกับตัวเองพลางละสายตาจากทิวทัศน์ภายนอก เดินกลับเข้ามาทรุดนั่งบนเก้าอี้นวมนุ่มเนื้อดี พรุ่งนี้ตอนบ่ายเขาจะเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวไปยังเมืองไทยแล้ว แม้จะยังไม่ได้บอกเรื่องจะลาพักผ่อนและบินไปเมืองไทยให้บิดามารดาทราบเป็นกิจจะลักษณะ แต่ฮะซูล พี่ชายใหญ่รู้เรื่องแล้ว ดังนั้นคงไม่มีเหตุการณ์อะไรมาขัดขวางการเดินทางไปตามหาหัวใจของเขาอีกเขาหวังไว้เช่นนั้น...“พี่พุด พ่อให้มาตาม เสร็จหรือยังคะ”ทันทีที่สิ้นเสียงเรียกของ พลับพลึง ศรีวิชัย ร่างอรชรสมส่วนในชุดราตรีเรียบหรูของ ช่อพุด ศรีวิชัย ก็ก้าวข้ามธรณีประตูออกมา ดวงหน้านวลงามล้ำแย้มยิ้มด้วยความพึงพอใจยิ่งนักที่เห็นสีหน้าตื่นตะลึงของน้องสาว เพราะสีหน้าแบบนี้ของน้องสาวบอกให้รู้ว่าตกตะลึงกับความงามของหล่อนมากมายแค่ไหน“ถึงกับอ้าปากค้างเลยเหรอพลับพลึง นี่ถามจริงๆ เถอะ ยังไม่ชินอีกหรือไงที่มีพี่สาวสวยๆ อย่างฉันน่ะ”พลับพล
ตอนที่ 2. “เพราะแบบนี้ใช่ไหมครับ คุณชายรองถึงไม่ยอมไปดูตัวผู้หญิงที่นายหญิงเลือกเอาไว้ให้” ชาร์คีลสามารถคาดเดาความรู้สึกของเจ้านายได้เสมอ และมันก็ถูกต้องทุกครั้ง “ใช่ ฉันไม่ยอมให้คุณแม่บังคับเหมือนพี่ฮะซูลหรอก” ฮัสซานัลพึมพำเสียงห้าว พลางก้าวเข้าไปในลิฟต์แก้วหรู ชาร์คีลกำลังจะตามติดเข้าไป แต่ถูกห้ามเอาไว้ “นายไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ฉันอยากอยู่คนเดียว” “แต่วันนี้คุณชายรองมีนัดกับคุณวิกกี้นะครับ” คนที่กำลังยืนอยู่ในลิฟต์หรูยิ้มบางๆ“ยกเลิกนัดเธอซะ” “แต่เธอจะต้องไม่พอใจมากนะครับ และอีกอย่างพ่อเธอเป็นถึง...” ชาร์คีลพยายามจะเตือนว่าพ่อของวิกกี้เป็นถึงนายกเทศมนตรีของรัฐใกล้เคียง แต่ฮัสชานัลไม่เคยเกรงกลัวอำนาจของใคร ไม่ว่าใหญ่มาจากไหน ถ้าเขาไม่ต้องการก็คือไม่ต้องการ ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ “ทำตามที่ฉันบอก ยกเลิกนัดวิกกี้และผู้หญิงทุกคนในเดือนนี้” “เอ่อ ครับ คุณชายรอง” ไม่มีคำพูดใดออกมาจากริมฝีปากสวยจัดของฮัสซานัลอีก นอกจากการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของลำแขนกำยำ ไม่ช้าประตูลิฟต์แก้วแวววาวก็ปิดสนิท พร้อมกับความเงียบ
ตอนที่ 1.รถสปอร์ตสีดำเงาแล่นผ่านประตูรั้วเหล็กโปร่งบานใหญ่เข้ามาจอดสนิทที่หน้าคฤหาสน์หลังงามซึ่งเป็นสถานที่พำนักพักพิงของมหาเศรษฐีน้ำมันผู้ร่ำรวยอย่างนายอบูฮะซัน มะอาลีย์ และภรรยานามว่าฟาติมาห์ รวมถึงบุตรชายวัยฉกรรจ์ของพวกเขาอีกสี่คน คฤหาสน์หลังนี้สวยงามโดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์อย่างประณีตบรรจง วัสดุล้ำค่ามากมายจากทั่วทุกมุมโลกถูกนำมาประดับประดาอวดโฉมแก่สายตาของผู้มาเยือน และด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลหลายร้อยเอเคอร์ของอาณาจักรมะอาลีย์ ภายในคฤหาสน์จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศมากมายชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ต่างจากวังขององค์สุลต่านเลยแม้แต่นิดเดียว จตุรเทพแห่งเอห์เดน คำกล่าวนี้ไม่เกินความเป็นจริงเลยสำหรับสี่หนุ่มแห่งตระกูลมะอาลีย์ เพราะพวกเขาทั้งสี่มีรูปโฉมราวกับเดินลงมาจากสรวงสวรรค์ เทพบุตรในฝันที่สาวน้อยสาวใหญ่ครึ่งค่อนโลก หรืออาจจะทั้งโลกต่างเฝ้ามองและอยากครอบครองเป็นเจ้าของ แต่ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านเลยไปสักกี่ปี หัวใจของจตุรเทพแห่งเอห์เดนก็ยังคงเป็นอิสระเช่นเดิม จนกระทั่ง อะซูล พี่ชายคนโตซึ่งมีความเป็นผู้นำสูงถูกพ่อแม่จับแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว เขาเป็นลูกชายคนแ