Home / รักโบราณ / ดอกเหมยสีชาด / ท่านหญิงใหญ่มิใช่คนเช่นนั้น

Share

ท่านหญิงใหญ่มิใช่คนเช่นนั้น

last update Last Updated: 2025-08-23 10:05:06

หลินเฟยหลันยืนรอคอยผู้เป็นบิดาด้วยความตื่นเต้น ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างยิ้มออกกับท่าทีกระตือรือร้นของท่านหญิงใหญ่ตัวน้อย

“ท่านหญิงใหญ่ช่างน่าเอ็นดูนัก”

“ใครว่านางเอาแต่ใจกัน ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนสักนิด”

“ใช่ๆ ถ้าข้ามีลูกหลานเช่นนี้ ข้าคงจะหลงหัวปักหัวปำเลยทีเดียว”

“แต่ไม่เห็นพระชายาเลย”

แววตาของหลินเฟยหลันไหววูบ

นางจึงเดินออกมาที่ถนน แล้วเข้าไปกระซิบกับคนที่เอ่ยถามหามารดาตน

“เสด็จแม่ต้องดูแลน้องชายเจ้าค่ะ หลันเอ๋อร์ไม่อยากให้เสด็จแม่เหน็ดเหนื่อย จึงอาสามารับเสด็จพ่อแทน”

แล้วคิ้วน้อยๆ ก็ขมวดย่นเข้าหากัน พลางกระซิบถาม “ไม่เหมาะหรือเจ้าคะ ที่หลันเอ๋อร์มารับเสด็จพ่อ แต่เสด็จแม่ไม่มา ทั้งๆ ที่เสด็จแม่เองก็อยากมา แต่หลันเอ๋อร์สงสารเสด็จแม่ จึง..จึง..อึก”

สองประโยคท้ายน้ำเสียงของท่านหญิงตัวน้อยสั่นสะอื้น จนเหล่าชาวเมืองอดที่จะเห็นใจไม่ได้

“มิได้เพคะ ท่านหญิงใหญ่ พระชายาทรงเหน็ดเหนื่อยมากพอแล้ว ท่านหญิงทำเช่นนี้ ถือว่ากตัญญูยิ่งเพคะ”

“จริงนะ” หลินเฟยหลันถามย้ำด้วยน้ำเสียงดีใจ

“จริงเพคะ/จริงพ่ะย่ะค่ะ” หลายคนจึงช่วยกันยืนยัน

ได้รับรอยยิ้มจากท่านหญิงใหญ่ ทำเอาหลายคนถึงกับอยากจะดึงร่างเล็กนั่นเข้ามากอดเลยทีเดียว

เมื่อรถม้้าของชินอ๋องมาถึง ชาวบ้านต่างพากันคุกเข่าคำนับ

แต่เมื่อเห็นว่าชายารองและบุตรทั้งสองนั่งรถม้าคันเดียวกันกับชินอ๋อง แม้จะรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง แต่ชาวบ้านอย่างพวกเขาจะทำอันใดได้

หลินเฟยหลันกล่าวต้อนรับทุกคนด้วยน้ำเสียงยินดี “เสด็จพ่อ เสด็จแม่รอง ยินดีต้อนรับกลับเพคะ น้องรอง น้องสาม ยินดีต้อนรับกลับ”

“อืม” ผู้เป็นบิดาพยักหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจ และหันไปรับชายารองและบุตรทั้งสองแทน

ส่วนสามแม่ลูกก็เชิดหน้าราวกับนางพญา

ท่านหญิงใหญ่หน้าเสียเล็กน้อย ปากเล็กเม้มเข้าหากัน และเหมือนอยากจะเอาอกเอาใจบิดา “เสด็จพ่อ น้องสี่ไม่สบาย เสด็จแม่จึงอยู่คอยดูแล อีกทั้งเสด็จแม่ถูกกักบริเวณอยู่ ลูกจึงมารับเสด็จพ่อกับเสด็จแม่รอง ลูกเก่งหรือไม่เพคะ”

ผู้เป็นบิดาเพียงปรายตามองแล้วจูงมือชายารองและบุตรทั้งสองผ่านบุตรสาวคนโตไป โดยไม่แม้แต่จะเอ่ยคำชมหรือถ้อยคำใด

ชุนลี่จึงเข้าไปปลอบ “ท่านหญิงอย่าคิดมากเลยเพคะ ท่านอ๋องคงจะเหนื่อยจากการเดินทาง”

“อึก หลันเอ๋อร์ไม่คิดมาก หลันเอ๋อร์เป็นเด็กรู้ความ เสด็จแม่บอกว่าหลันเอ๋อร์ต้องรักและกตัญญูต่อเสด็จพ่อ แม้ว่าเสด็จพ่อจะไม่รักหลันเอ๋อร์ก็ตาม” ประโยคสุดท้าย หลินเฟยหลันก้มหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ชาวบ้านที่คุกเข่าอยู่ใกล้มีหรือจะไม่ได้ยิน

เห็นท่านหญิงใหญ่นิ่งเงียบไป ชุนลี่รู้สึกขัดใจเล็กน้อย

เพราะปกติแล้ว หลินเฟยหลันต้องกรีดร้องอย่างเอาแต่ใจเมื่อบิดาไม่สนใจเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ช่วงสองสามวันมานี้ รู้สึกว่าท่านหญิงใหญ่จะนิ่งเงียบผิดปกติ

หรือว่าเพราะได้พระชายาเสวียนสั่งสอน

ไม่ได้การละ นางต้องทำอะไรสักอย่าง มิเช่นนั้น ตำแหน่งอนุท่านอ๋องคงต้องหลุดลอยไปแน่

หลินเฟยหลันที่ก้มหน้าสะอื้นแอบหรี่ตามองพี่เลี้ยงของตนด้วยแววตาลุ่มลึก ปากน้อยๆ ยกยิ้ม

วันนี้นางได้พิสูจน์อีกเหตุการณ์ในฝันนั้น ทุกประโยคของชาวบ้านที่เอ่ยในตอนแรกล้วนเป็นเหมือนในฝัน

แต่ว่าในฝันนั้น นางใช้ถ้อยคำดูแคลนชาวบ้านเหล่านั้น ทำให้เมื่อรถม้าของบิดามาถึง ชายารองของบิดาก็มาช่วยแก้ต่างให้นาง ทำให้ได้ใจชาวบ้านไปไม่น้อย

นางจึงลองเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในฝัน เดินเข้าไปพูดคุยกับชาวบ้าน ซึ่งนั่นทำให้เหตุการณ์เปลี่ยน

แสดงว่า เหตุการณ์ในฝันของนาง สามารถเปลี่ยนแปลงได้

เหมือนกับว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวนางเองว่าต้องการเปลี่ยนมันหรือไม่

เมื่อแน่ใจว่าเหตุการณ์ในฝันนั้นล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หลินเฟยหลันจึงตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องความฝันของตนให้มารดาฟัง นางเลือกจะเล่าเหตุการณ์บางอย่างที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่เล่าเรื่องที่นางแต่งงานไปต่างแคว้นตระกูลเสวียนถูกประหารในข้อหากบฏ เพราะกลัวว่ามารดาจะคิดมาก และอาจจะคิดว่านางสติฟั่นเฟือน

ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน

ตอนนี้ต้องให้เสด็จแม่เชื่อหมดใจเสียก่อนว่าความฝันของนาง คือลางบอกเหตุล่วงหน้า

พระชายาเสวียนแม้จะยังไม่เชื่อ แต่นางก็ไม่คิดที่จะกล่าวหาว่าบุตรสาวพูดจาเลอะเลือน จึงบอกเพียงว่าขอพิสูจน์ทุกอย่างให้แน่ใจเสียก่อน

แล้วข่าวลือจากงานล่าสัตว์แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง ชาวบ้านต่างพากันนินทาอย่างสนุกปาก 

เนื่องจากชินอ๋องไม่มีตระกูลหนุนหลัง แต่ได้ตำแหน่งนี้มา เพราะอาศัยบารมีของฮ่องเต้และไทเฮาเกื้อหนุน ทำให้หลายฝ่ายไม่พอใจโดยเฉพาะเหล่าอ๋อง เมื่อสบโอกาสที่จะทำลายชื่อเสียงของหลินเฉิงจวิน พวกเขาก็ไม่ปล่อยโอกาสอันดีนี้ไป

แม้จะเป็นเรื่องเรือนหลังของตำหนักตงหยาง แต่ก็เกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของชินอ๋องโดยตรง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของฮ่องเต้ ไทเฮาจึงมีหนังสือตำหนิพระชายา 

หลังจากที่อ่านเนื้อหาในจดหมายจนจบ เสวียนเยี่ยนฟางก็เผาจดหมายเป็นผุยผง พร้อมกับบอกบ่าวคนสนิท “ให้คนของเรากระจายข่าวเรื่องของชายารองไป อีกถ้าจะให้ดีให้เล่าลือไปถึงมารดาของนางด้วย”

ฮึ! คิดว่าเป็นไทเฮาแล้วจะมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้งั้นรึ ฝันไปเถอะ

ที่นางยอมรับสมรสพระราชทาน ก็เพราะเห็นแก่ทุกชีวิตของตระกูลเสวียนสายรองที่กระจายอยู่ที่อื่นต่างหาก

ลำพังแค่จวนหลัก หากจะขัดราชโองการ ใครหน้าไหนจะกล้าสั่งประหารบิดานาง

ตระกูลเสวียนจงรักภักดีมาหลายชั่วรุ่น แต่พวกเจ้ากลับรังแกพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่า จนบุตรสาวของนางเกือบตกตายโดยที่นางไม่สามารถทำอะไรได้

นับว่าสวรรค์ยังเมตตาคืนบุตรสาวคนเดิมของนางกลับมา

คราวนี้ข้าจะขอตอบโต้กลับคืนบ้าง ล้างคอรอได้เลย!

หลังจากนั้นก็มีคนขุดคุ้ยเกี่ยวกับพื้นเพของมารดาของชายารองลู่ขึ้นมา เรื่องนี้ทำให้ชาวบ้านได้มีเรื่องนินทาสนุกปากอีกครั้ง เพราะมารดาของชายารองลูู่เคยเป็นหญิงคณิกามาก่อน ฮูหยินลู่จึงถือโอกาสนี้สั่งกักบริเวณอนุคนโปรดของสามี เพราะอับอายที่บุตรสาวของอนุผู้นี้ไม่สามารถสั่งสอนสายเลือดของราชวงศ์ให้ดีได้ แสดงกิริยาชั้นต่ำต่อหน้าเชื้อพระวงศ์จนกลายเป็นที่ครหา ทำให้ตระกูลลู่อับอาย

เหล่าพี่น้องก็พลอยถูกครอบครัวสามีตำหนิ

ส่วนหลานสาวที่ยังไม่ออกเรือน ทางแม่สื่อของตระกูลของฝ่ายชายหลายตระกูลก็ชะลอการพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายไว้ก่อน

ทางด้านตระกูลหญิงสาวที่ต้องการเกี่ยวดองกับหลานชายหมอหลวงลู่ ก็ขอเลื่อนกำหนดงานหมั้นหมายและงานแต่งงานออกไปเช่นกัน เพราะกลัวว่าบุรุษตระกูลลูู่จะลุ่มหลงอนุหรือแอบซ่อนสาวใช้อุ่นเตียงไว้คอยรังแกภรรยาเอกอย่างที่มารดาของชายารองลู่กระทำต่อฮูหยินลู่

หมอหลวงลูู่ก็ถูกสายตาของหมอหลวงคนอื่นมองมาด้วยความสมเพช

ทุกคนในตระกูลลู่จึงพลอยจงเกลียดจงชังลู่หว่านเหลียนไปอีก

ชินอ๋องไม่สนใจข่าวลือดังกล่าว เพราะเขาสนใจเพียงความรู้สึกของสตรีอันเป็นที่รักเท่านั้น

ที่เขารับตำแหน่งชินอ๋อง ก็เพื่อคอยพิทักษ์บัลลังก์ให้แก่ฮ่องเต้ผู้เป็นพี่ชายและไทยเฮาผู้เปรียบเสมือนมารดา ซึ่งทั้งสองเป็นคนให้ชีวิตใหม่แก่เขาหลังจากสิ้นมารดา

คนอื่นจะคิดเช่นไร เขาล้วนไม่สนใจ

เมี่ยวกูกูพยักหน้าอย่างพึงพอใจ หลังจากที่นางถ่ายทอดหลักการสี่จรรยาแก่ท่านหญิงใหญ่หลัน

ซึ่งหลินเฟยหลันก็ไม่ทำให้นางกำนัลอาวุโสผิดหวัง นางเรียนรู้จนแตกฉาน สามารถตอบคำถามต่อเมี่ยวกูกูได้ทุกข้อ

พระชายาเสวียนยิ้มรับคำชมด้วยความภาคภูมิใจ บุตรสาวของนางอายุย่างสิบสาม สมควรแก่การเรียนรู้เรื่องของสตรีเอาไว้ อย่างน้อยจะได้ไม่ถูกตระกูลของสามีดูแคลน

หลังมื้อเที่ยง นางกำนัลอาวุโสก็กลับไป หลินเฟยหลันจึงขอเล่นกับน้องชายก่อนที่จะถึงเวลานอนกลางวันของเขา

หลังจากที่สองแม่ลูกปรับความเข้าใจกัน อาหารสามมื้อ ทั้งสามจะร่วมโต๊ะกันทุกวัน ทุกมื้อของอาหารจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

เป็นเช่นนี้มานานนับเดือน

เสวียนเยี่ยนฟางแม้จะเข้มงวด หากแต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด บุตรสาวของนางก็ล้วนเรียนรู้ได้ดี อาจารย์ทุกคนต่างเอ่ยปากชม หลังจากรับมื้อเที่ยง นางจึงตามใจหลินเฟยหลันทุกอย่าง

แม้บุตรทั้งสองจะอยู่ในวัยที่ควรร่ำเรียนมากกว่าที่จะเล่นไร้สาระ หากแต่หลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องล้วนห่างเหิน นางไม่อยากให้สองพี่น้องกลายเป็นคนอื่น

อีกทั้ง หลังจากที่หลินเฟยหลันขลุกเล่นอยู่กับน้องชาย ดูเหมือนว่าอาการป่วยของหลินเฟยฉีจะดีขึ้น ทั้งยังกินข้าวได้มากกว่าอดีต หมอหลวงเองก็ลดจำนวนเทียบยาลงบ้างแล้ว

นางจึงคิดว่า ให้บุตรชายได้วิ่งเล่นกับพี่สาว นอกจากจะแข็งแรงขึ้น ยังทำให้สองพี่น้องสนิทกันมากขึ้นด้วย

“พี่หญิง วันนี้เราจะเล่นอะไรดีขอรับ” หลินเฟยฉีถามขึ้น

หลินเฟยหลันคิดอยู่เพียงครู่ ก็เอ่ย “เล่นซ่อนหาดีหรือไม่”

หลินเฟยฉีพยักหน้า

“พี่จะหา เจ้าไปซ่อน” หลินเฟยหลันบอก

เมื่อพี่สาวยกมือขึ้นปิดตา ท่านชายน้อยก็วิ่งไปหาที่หลบอย่างรวดเร็ว

พี่เลี้ยงชุนลี่หันมากระซิบบางอย่างกับพี่เลี้ยงของท่านชายน้อย เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า นางจึงมองซ้ายแลขวาแล้วถอยออกไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง หลินเฟยหลันก็ตะโกนขึ้น “ฉีเอ๋อร์ อยู่ที่ไหน ออกมาหาพี่สาวหน่อย”

หลินเฟยหลันตามหาน้องชายอยู่นานก็ไม่พบ นางจึงคลานเข่าส่องลอดตามพุ่มไม้ไปเรื่อยจนพ้นเขตเรือนของมารดาโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ว่าตนเองอยู่ที่เรือนกลาง ก็ตอนที่หัวน้อยๆ โผล่ขึ้นมา

เรือนกลางจะเป็นเรือนที่อยู่ระหว่างเรือนของมารดาและบิดา ซึ่งเป็นห้องหนังสือและคลังเก็บสมบัติของตำหนัก

สายตาของหลินเฟยหลันเหลือบไปเห็นพี่เลี้ยงของตนยืนอยู่ที่หน้าห้องคลังสมบัติ พร้อมด้วยฝูกงกงซึ่งเป็นพ่อบ้านของตำหนัก จากนั้นไม่นาน นางก็เห็นหลินฟางซินเดินมา

เมื่อฝูกงกงเปิดประตู ทั้งสามก็เข้าไปในห้องเก็บสมบัติด้วยกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดอกเหมยสีชาด   เขาคือสวามีในฝันของนาง

    เมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับ คุณหนูหลายคนก็ยังไม่อยากจะกลับ เพราะอยากจะอยู่คุยกับพี่สาวหลิน จนหลินเฟยหลันต้องรับปากว่า อีกครึ่งเดือนจะเชิญมาที่จวนอีก ดรุณีน้อยจึงยินยอมอย่างว่าง่ายเสวียนเยี่ยนฟางรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ครั้งนี้ชื่อเสียงของบุตรสาวเป็นไปในทางที่ดี ทั้งสิบตระกูลมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา แม้ไม่สามารถเกี่ยวดองกันได้ แต่หากสามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี บุตรสาวของนางย่อมไม่เสียเปรียบ ส่วนบุตรชายก็พลอยได้รับประโยชน์ไปด้วยเมื่อส่งทุกคนกลับไปหมดแล้ว นางจึงเอ่ยกับบุตรสาว “ดึกแล้วไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ลูกคงเหนื่อยมาก”หลินเฟยหลันจึงกอดเอวมารดาอยา่งออดอ้อน “เพคะ เชื่อฟังเสด็จแม่ รักเสด็จแม่ที่สุดเลย”หลินเฟยฉีก็ไม่ยอมหน่อยหน้าพี่สาว “ฉีเอ๋อร์ ก็รักเสด็จแม่ เชื่อฟังเสด็จแม่เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”“แม่ก็รักลูกทั้งสองคนเช่นกัน” เสวียนเยี่ยนฟางไม่หวงที่จะบอกรักบุตรทั้งสองนางได้รับคำแนะนำจากพี่สะใภ้ไม่น้อย เมื่อทำตามก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกนั้นดีขึ้นมากหลังจากที่ส่งน้องชายเข้าเรือน หลินเฟยหลันก็กลับไปยังเรือนของตัวเองที่อยู่อีกฝั่ง โดยมีจูฉีเดินตามหลังแต่เมื่อเดินผ่านตรงบริเวณสระน้ำ

  • ดอกเหมยสีชาด   งานวันเกิดของท่านหญิงหลิน

    แล้วฮ่องเต้อนุญาตให้พระชายาเสวียนย้ายไปพำนักที่จวนแถวชานเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้ชาวเมืองที่เห็นขบวนอันยาวเหยียด จึงสอบถามจากคนเฝ้าประตูก็ได้ความว่า ท่านหญิงหลินได้รับบาดเจ็บต้องพักรักษาตัว พระชายาเสวียนเกรงว่า ท่านหญิงหลินจะเบื่อที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง จึงย้ายที่ประทับไปที่จวนชานเมืองเป็นการชั่วคราวแม้ว่าฮ่องเต้จะออกคำสั่งห้ามแพร่งพราย แต่ปากคนหรือจะห้ามได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่องค์ชายสี่ดูแคลนท่านหญิงหลิน หรือเรื่องที่ท่านหญิงหลินและท่านชายหลินถูกองค์หญิงเก้าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหนัก ต่างแพร่สะพัดในเขตราชวังขุนนางที่มาร่วมประชุมในช่วงเช้าต่างก็พลอยได้ยินข่าวลือไปด้วยกำแพงล้วนมีหู ประตูย่อมมีช่องไม่นาน เรื่องราวก็กระจายไปทั่วเมืองหลวงฮองเฮาต้องปิดตำหนัก เว้นการให้สนมเข้าคารวะเป็นเวลาหนึ่งเดือนส่วนพระสนมชุนต้องปิดตำหนักเงียบเช่นกันองค์ชายสี่และองค์หญิงเก้า ถูกลงโทษเพียงแค่กักบริเวณในตำหนักเท่านั้นทำให้ขุนนางหลายฝ่ายเคลื่อนไหว เพราะท่านหญิงหลินถือเป็นคนในราชวงศ์เช่นกัน การที่ถูกดูแคลนจากคนของราชวงศ์ ขุนนางฝ่ายของเสนาบดีเสวียนย่อมไม่พอใจ ส่วนขุนนางฝ่ายตรงข้ามกับฮองเฮาและพระสนมช

  • ดอกเหมยสีชาด   ข้าจะทบทวนความจำให้พวกเจ้าเอง

    “เสด็จแม่ น้องเป็นอย่างไรบ้าง” หลินเฟยหลันเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงหลินเฟยฉีกุมมือพี่สาวเอาไว้ “พี่หญิง ฉีเอ๋อร์ปลอดภัย ฮึก”เสวียนเยี่ยนฟางลูบศีรษะของบุตรสาว พร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักผ่อนเสียก่อน อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย”แต่หลินเฟยหลันกลับร้องไห้สะอื้น นางเอ่ยกับมารดาด้วยน้ำเสียงสั่น “เสด็จแม่ ลูกเจ็บ ที่นี่น่ากลัวเหลือเกินเพคะ มีแต่คนเกลียดพวกเรา ฮึก...องค์ชายสี่ บอกว่าลูกร้ายกาจ บอกลูกว่าไม่คู่ควรเป็นเชื้อพระวงศ์ ลู่ฟางซินต่างหากที่สมควรอยู่ในตำแหน่งท่านหญิงแห่งชินอ๋อง ฮึก..หากเปลี่ยนเป็นลู่ฟางซินกับลู่เฟยเทียน คงจะมีแต่คนรัก ฮืออออ...เสด็จแม่ ลูกไม่เป็นแล้วท่านหญิง ไม่เป็นแล้ว..ลูกจะไปอยู่กับท่านตา ไปเป็นคุณหนูเสวียน พาลูกกลับ ลูกกลัว พาลูกไปอยู่กับท่านตานะเพคะ ฮือออออออ”เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาราวกับสายน้ำ ทำเอาเสวียนเยี่ยนฟางสะท้านในใจ จึงตอบ “ได้ๆ พวกเรา จะไปอยู่กับท่านตา”นางมิได้ล้อเล่น คนพวกนี้ทำร้ายร่างกายบุตรสาวนางยังไม่พอ ยังมาพูดจาทำร้ายจิตใจบุตรสาวของนางอีกคิดว่าข้าอยากเป็นเชื้อพระวงศ์นักรึ!องค์ชายสี่องค์หญิงเก้าอย่าหาว่าข้ารังแกเด็กก็แล้วกัน!หมอหลวงหญิงและ

  • ดอกเหมยสีชาด   ถูกรังแก

    “พี่หญิงเขาไปแล้ว แล้วเราจะไปดูปลาที่ไหน” หลินเฟยฉีสะกิดพี่สาว เขาไม่ได้สนใจการมากันไปของผู้ใดทั้งสิ้น เขามีเพียงพี่สาวเท่านั้น ในเมื่อองค์ชายสี่ไม่ใยดีต่อพี่สาว เขาก็ไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพแก่องค์ชายผู้นี้เช่นกันหลินเฟนหลันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นนางกำนัลสองคนกำลังเดินมา นางจึงเอ่ยกับน้องชาย “เช่นนั้นเราลองถามนางกำนัลเถอะว่าสระที่มีปลาอยู่แถวไหน”ไม่ช้าสองพี่น้องก็ได้คำตอบนางกำนัลสองคนของตำหนักฮองเฮา รู้ว่าทั้งสองเป็นบุตรของพระชายาเสวียน จึงนำทางสองพี่น้องมายังบ่อปลาของฮ่องเต้ทั่วพระราชวังย่อมรับรู้ว่า พระชายาเสวียนและบุตร ต่างได้รับป้ายทองพระราชทาน พวกนางที่พาท่านหญิงและท่านชายมาที่นี่ ย่อมไร้ความผิดเห็นปลาตัวโตสีขาว แต่มีลวดลายหลากสี ไม่ว่าจะเป็นสีส้ม สีแดง หรือบางตัวก็มีสีเหลืองแซม แหวกว่ายไปมา หลินเฟยฉีที่เพิ่งมีโอกาสได้เห็นจึงรู้สึกตื่นเต้น เขาวิ่งทางที่ปลาแหวกว่ายไปอย่างร่าเริงในอุทยานหลวงแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้ที่งดงาม ผีเสื้อหลากสีสันก็ต่างเข้ามาดอมดม หลินเฟยหลันเองก็รู้สึกว่าอยากจะวิ่งเล่นแบบนั้นบ้าง หลังจากที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องเพราะต้องพิษมาเป็นเวลานาน ตอนนี้มารด

  • ดอกเหมยสีชาด   เข้าเฝ้าฮองเฮา

    เมื่อจับร่างอันบอบบางขอบบุตรสาวหันซ้ายหันขวาขวาอยู่หลายครั้งจนพอใจ เสวียนเยี่ยนฟางก็พยักหน้า ทำให้หลินเฟยหลันต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกฮองเฮามีประสงค์ให้ทั้งสามเข้าเฝ้า นางก็ถูกมารดาจับแต่งตัวมาเกือบหนึ่งชั่วยาม เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกก็ยังไม่ถูกใจมารดาของนางเสียที หลินเฟยฉีที่นั่งกินขนมรอจนอิ่ม เขาแทบจะหลับไปอีกรอบรถม้าของพระชายาเสวียนมาถึงประตูพระราชวัง หลังจากได้รับการตรวจตราพอเป็นพิธี ทหารองครักษ์ก็นำทางทั้งสามไปยังทางเข้าพระราชวังฝ่ายในเส้นทางที่แคบ กำแพงสูงที่ขนาบตลอดทางเดินสร้างความกดดันให้หลินเฟยฉีไม่น้อย คิ้วของเขาขมวดยุ่งราวกับปมเชือกพอมาถึงประตูทางเข้าพระราชวังฝ่ายใน ทหารองครักษ์ที่นำทางก็ขอตัวกลับ พวกเขาไม่สามาถเข้าไปภายในเขตของฝ่ายในได้สามแม่ลูกเดินต่อไปจนถึงตำหนักของมารดาแผ่นดิน โดยที่ไม่มีแม้แต่นางกำนัลจะนำทางสีหน้าของพระชายาเสวียนยังคงเรียบเฉย นางไม่รู้สึกยินดียินร้ายที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ หากแต่ทดความโมโหนี้ไว้ในใจ โดยเฉพาะเจ้าของตำหนัก ที่ทำให้บุตรทั้งสองคนของนางต้องพลอยลำบากไปด้วยสองพี่น้องเหงื่อผุดเต็มใบหน้า พระชายาเสวียนมองภาพผู้เป็นพี่สาวใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเห

  • ดอกเหมยสีชาด   ตระกูลเสวียนมาเยือน

    หลังจากที่รับสำรับมื้อเที่ยง ผู้ใหญ่จึงปล่อยให้เด็กๆ ได้เล่น ได้พูดคุยกัน เพื่อให้สนิทสนมกันมากขึ้น ส่วนพวกเขาก็นั่งอยู่ที่ศาลาแปดเหลี่ยมไม่ไกลจากสวนที่เด็กๆ เล่นอยู่เสวียนไห่จึงเอ่ย “เรื่องราวร้ายๆ ก็ผ่านไปแล้ว พี่ใหญ่ น้องเล็ก อย่าได้โทษตัวเองอีกเลย ท่านพ่อเองก็ไม่สบายใจที่ทั้งสองยังโทษตัวเองอยู่จนถึงทุกวันนี้”เสวียนเกาจึงหันไปสบตากับเสวียนเยี่ยนฟาง แล้วทั้งสองก็พยักหน้าเป็นเชิงรับปากเสียนหมิ่นจึงถามขึ้น “เอาล่ะเรื่องร้ายก็ผ่านไปแล้ว ต่อไปเจ้าจะทำอย่างไรน้องเล็ก ในเมื่อไม่สามารถหย่าขาดจากหลินเฉิงจวินได้”เสวียนเยี่ยนฟางถอนหายใจ “ข้ามาลองคิดดูแล้ว ตอนนี้อาจจะยังเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสมที่จะหย่าขาดกับหลินเฉิงจวิน เพราะอย่างไรเสีย ข้าก็อยากให้หลันเอ๋อร์ได้ออกเรือนในฐานะบุตรสาวของชินอ๋อง”เสวียนเกาพยักหน้าเห็นด้วย พลางเอ่ยเสริม “พี่เห็นด้วย อย่างน้อยหากพี่และท่านพ่อถอนตัวจากราชสำนัก ฐานะบุตรีของชินอ๋องยังสามารถทำให้หลันเอ๋อร์ได้แต่งเข้าในตระกูลที่ดีได้”“แต่สิ่งที่ต้องระวังคือสมรสพระราชทานกับองค์ชาย”แค่เพียงเห็นใบหน้าของหลานสาว อีกไม่กี่ปีก็จะกลายเป็นโฉมสะคราญเช่นเดียวกับมารดา ก็ทำให้ท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status