LOGINChapter 3
"พวกมึงทำบ้าอะไรกัน!" คริสเตียนเข้ามาแย่งปืนจากน้องชายทำให้ปืนลั่นเข้ากำแพง อำพลหูอื้ออึง กระสุนพุ่งถากหัวเขาไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
อำพลรู้ดีว่าคริสเป็นคนนิสัยแบบไหน ถ้านิ่งจะน่ากลัว แต่ถ้าได้ลงมือจะน่ากลัวยิ่งกว่า สิ่งที่น่ากลัวคือใจและความคิดที่ยากจะคาดเดาได้
เขาโตมาพร้อมกับคริส เขาเป็นลูกของสมลูกน้องของพ่อของคริส ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน อำพลและอาคมคอยติดตามคริสมาตลอด ถึงจะโตมาด้วยกันติดตามไปแทบทุกที่ แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาต้องห่างไปนานๆ เพื่อไปทำงานที่เกาะไข่มุก
อำพลกุมมือตัวเอง เพื่อซุกซ่อนมือที่สั่นเทาของตัวเองเอาไว้ ถึงแม้เขาจะยอมรับในสิ่งที่เกิด แต่พอความตายมาอยู่ตรงหน้าก็ใช่ว่าเขาจะไม่กลัว
เขาก็คน...มีความรู้สึกกลัวไม่ต่างกัน...
"สัสอย่ามาเสือก!" คริสยื้อแย่งปืนจนสำเร็จ
"นั่นลูกน้องมึงลูกของลูกน้องคนสนิทพ่อวิคเตอร์ไอ้คริส!" คริสเตียนพยายามปรามน้องชาย
"ลูกลูกน้องพ่อแล้วไงวะ!" คริสพูดเสียงเหี้ยม "กูจำเป็นต้องสนไหม?"
"นั่นคือคนที่เป็นมือเป็นตีนเป็นทุกอย่างให้มึงมาตลอด เป็นทุกอย่างเป็นมากกว่าลูกน้อง เป็นเพื่อน เป็นคนขับรถ เป็นทุกอย่างที่มึงอยากให้เป็น และที่สำคัญเป็นคนในครอบครัวของพวกเรา เป็นคนของดำรงค์พงษ์เมธา" คริสเตียนประกาศกร้าว
"หึ! ช่างหัวตระกูลงี่เง่า กูจำเป็นต้องแคร์ไหม"
"ไอ้ระยำ!"
"แล้วไง มึงจะทำอะไรกู ชกหรือฆ่ากูล่ะ ฆ่าแบบไหนดีล่ะ ยิงท้องยิงที่หัวใจ หรือยิงที่...." คริสยิ้มร้าย "ยิงที่หัวดี"
"ถ้ามึงไม่ใช่น้องกู อย่าหวังจะมาต่อปากต่อคำ ทำท่าทางกวนตีนกับกูอยู่แบบนี้"
"หึ"
"ถ้ามึงไม่ต้องการไอ้อำพล กูจะรับอำพลไปเป็นลูกน้องคาเตอร์ หรือไม่ก็อยู่เกาะ อำพลคงมีความสุขกว่านี้"
"มึงรู้ไหม มันรับลูกคนที่กูแค้นมาเลี้ยงในบ้านกู เหอะ! มึงคิดว่ากูจะอยู่เฉยๆกับคนที่ทำอะไรข้ามหัวกูเหรอ?"
"กูคิดว่าอำพลคงมีเหตุผลของมัน แต่ถ้ามึงไม่ต้องการกูจะส่งอำพลไปอยู่เกาะไข่มุก อยู่ตลอดไปยิ่งดี"
"มึงคิดเหรอว่ากูจะยอม" คริสเข้าไปกระชากคอเสื้อของพี่ชาย "คนของกูมึงอย่ามาเสือก!"
"กูจะเสือก ยอมไม่ยอมก็เรื่องของมึง ไอ้อำพลไปเก็บของ เด็กที่มึงจะเลี้ยงอยู่ไหนเอามาด้วยเลย"
"ครับนาย!" อำพลพยักหน้าแล้วรีบเดินออกไป
"คนของกูอย่ามาเสือก!"
แกรก! มัจจุราชสีดำมันวาวจ่อที่หัวคริสเตียน เป็นจังหวะเดียวกันที่คริสเตียนจ่อปืนที่ศีรษะน้องชายของเขาไม่ต่างกัน
"ถ้ามึงคิดจะฆ่ากูเพราะเรื่องนี้ กูก็พร้อมที่จะฆ่ามึงเหมือนกัน" ทั้งสองประสานสายตาอย่างเดือดดาล พร้อมที่จะฟาดฟันกัน คริสกัดฟันกรอดจ้องผู้เป็นพี่อย่างไม่ลดละ
"ดี!" คริสแสยะยิ้มแล้วเหนี่ยวไก "เพราะกูก็พร้อมส่งมึงลงนรกเหมือนกัน"
"ไอ้พวกเวร! ไอ้พวกนรก! พวกแกทำอะไรกัน!" อลิซเปิดประตูพร้อมกับสบถคำพูดหยาบคายออกมา โมนารีบวางบุตรชายไว้ที่โซฟาแล้วเข้าไปห้ามปราม
"อย่าฆ่าแกงกันเลยนะคะ ค่อยๆพูดกันนะคะ" โมนาพยายามพูดให้ทั้งสองใจเย็นมือก็พยายามให้ผู้เป็นสามีลดปืน
"พี่น้องท้องเดียวกันจะฆ่ากันตายเพราะเรื่องส้นตีนอะไรไม่รู้ เรื่องนี้ต้องถึงหูพ่อถ้าพวกแกไม่เลิกบ้า!" อลิซแผดเสียงดังลั่น รีบเข้าไปแย่งปืนจากน้องชาย "ไอ้อาคมไอ้ควาย รีบเขามาช่วยอลิซสิ!"
"ครับ!" อาคมรีบใช้มือสั่นเทาของตัวเองล็อคตัวผู้เป็นนาย
"มึงก็อย่าสาระแน!"
"ไอ้ปากมอม!"
"ยัยพี่ปากเสีย!"
"ไอ้น้องเวร!"
"หยุดทะเลาะกันได้แล้ว" โนอาห์เข้าปรามอีกคน สถาณการณ์เริ่มวุ่นวายมากกว่าเดิม คริสจ้องทุกคนอย่างโกรธจัด "ชอบเสือกกันจริงๆ"
"ไอ้น้องเลว!" อลิซตาขวาง
อำพลจับมือเด็กหญิงเดินมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ คริสปรายตามองก่อนจะเสหน้าไปทางอื่น
"จะไปอยู่กับกูหรือจะไปอยู่เกาะอำพล มึงไปได้ทุกที่ที่มึงอยากจะไป จะไม่มีไอ้เชี่ยตัวไหนทำอะไรมึงกับเด็กได้!"
"ไปอยู่เกาะก็ได้ครับ!"
"อืม งั้นก็ตามกูมา"
"ครับ!" อำพลพยักหน้าก่อนจะหันไปมองคริส เจ้านายที่เขาจงรักภักดีมาตั้งแต่เด็กจนโต "ไหว้ลาคุณป๋าสิทานตะวัน"
"ทานตะวันลานะคะคุณป๋า" มือเล็กๆพนมไหว้อย่างนอบน้อม ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบชายตรงหน้า แต่เมื่อคนที่จะเลี้ยงเธอบอกให้ทำเธอก็ต้องทำ
"ใครคุณป๋าเธอ..."
"..." เด็กน้อยก้มหน้างุดเเล้วแอบที่หลังของอำพล
"ไปกันเถอะอำพล!" คริสเตียนเอ่ย
"ครับ!" อำพลกระชับมือเล็ก เดินออกไปพร้อมกับคริสเตียน อลิซโมนาและโนอาห์ ไปใช้ชีวิตที่เกาะก็ดี มันไม่ได้แย่อะไร ทุกคนที่นั้นต่างก็น่ารักและเป็นกันเอง
"ปกป้องกันให้มันได้ตลอดเถอะไอ้อำพล!" อำพลชะงักเล็กน้อยแล้วกุมมือเล็กแน่น คริสมองตามแผ่นหลังหนานั้นแล้วบดกราม พร้อมกับจับแจกันทุ่มลงพื้นเพื่อระบายความโกรธ
"ว้าวที่นี่สวยจังเลยค่ะคุณลุง" ทานตะวันลงจากเครื่องบินส่วนตัวแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ
"เราจะอยู่กันที่นี่นะรู้ไหม?"
"ค่ะ"
"เราช่วยกันเอาของไปเก็บกันดีกว่า ลุงจะพาทานตะวันขึ้นกระเช้าไปพักที่บ้านบนเขา ที่นั่นสวยมากบรรยากาศก็ดีสุดๆเลย รับรองว่าทานตะวันต้องชอบแน่นอน"
"ค่ะ" เด็กน้อยยิ้มเล็กน้อย แล้วรีบเดินไปพร้อมกับอำพล
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน







