LOGINChapter 4
วันเวลาเคลื่อนคล้อยไปอีกหลายปี เด็กหญิงผอมบางในวันนั้นกลายเป็นเด็กสาววัยสิบแปดที่สวยสะพรั่ง หญิงสาวใบหน้าสวยหวานใช้มือเล็กๆปาดเหงื่อขณะที่ร้อยเปลือกหอยเบาๆ
"ทานตะวัน วันนี้ลุงมีกุ้งลายเสือมาให้" อำพลชูถุงกุ้ง คนร่างเล็กละมือจากงานที่ทำวิ่งตรงไปรับถุง
"วันนี้ทานตะวันจะทำอาหารอร่อยๆให้ทานนะคะ"
"อืม วันนี้ไม่ต้องทำงานนะ รีบกลับบ้านไปทำอาหารดีกว่า"
"นี่เพิ่งบ่ายเองนะคะ ลุงอำพลหิวแล้วเหรอ?"
"คุณป๋ามาเกาะ ทานตะวันไม่เจอจะดีที่สุด"
"ค่ะ"
ทานตะวันพยักหน้ารับรู้ เมื่อคุณลุงอำพลผู้เปรียบเสมือนบิดาคนที่สองเอื้อนเอ่ย คุณป๋าที่คุณลุงให้เรียกมาตั้งแต่เด็กจะมาที่เกาะไข่มุก แต่ละปีเขามาหลายครั้ง เธอเจอเขาบ่อยตอนที่เป็นเด็ก และรับรู้ได้ว่าเขาเกลียดชังเธอมาก
พอโตขึ้นหญิงสาวพยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอเขา เวลาที่เขามาเธอแทบจะไม่ออกมาจากบ้านบนเขาเลย เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวไม่อยากถูกเกลียดไม่อยากโดนเขาใช้คำพูดเหน็บแนม
แม้จะไม่อยากจะใส่ใจแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกกับคำพูดพวกนั้น...
หญิงสาวยิ้มให้คุณลุงอำพลจากนั้นก็รีบตรงไปที่กระเช้าเพื่อขึ้นไปที่บ้านบนเขา เธอมองเห็นเฮลิคอปเตอร์ที่บินลงมาจอด เธอจ้องมองในขณะที่กระเช้าที่นั่ง เลื่อนขึ้นไปข้างบน
ไม่ยุ่งเกี่ยวกันแบบนี้ก็ดี อีกไม่นานหรอกเรียนจบเธอก็จะไปเป็นครูหรือไม่ก็ไปทำงานที่อื่น ไปใช้ชีวิตของตัวเอง พาคุณลุงผู้มีพระคุณไปด้วย
ทานตะวันไม่รู้หรอกนะว่า ลุงอำพลเขาจะอยากไปอยู่ที่อื่นหรือเปล่า ตอนนี้อำพลก็เริ่มมีอายุแล้ว เธอก็ไม่อยากจะให้ท่านมีชีวิตรองมือรองตีนผู้ชายใจโหดคนนั้น ทานตะวันอยากให้อำพลมีชีวิตที่ดีกว่านี้
คนร่างเล็กนั่งบนกระเช้าสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เธอหันไปมองเฮลิคอปเตอร์อีกครั้งก่อนจะเสมองอย่างอื่น
ทานตะวันจำได้ว่า เจอกับคุณป๋าครั้งสุดท้ายตอนอายุสิบขวบ หลังจากนั้นเธอก็พยายามเลี่ยงไม่เจอเขาอีกเลย
นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องไปที่กระเช้าที่ลอยสูง คนร่างกำยำในชุดสูทสีดำก้าวลงจากเฮลิคอปเตอร์ตามด้วยลูกน้องคนสนิท
"เอาไปตึกใหญ่เลยไหมครับนาย" อาคมเอ่ยแล้วขนข้าวของลงมา
"อืม" คริสพยักหน้า "มึงขนของไปไว้ ส่วนกูจะเดินดูอะไรสักหน่อย"
"ครับนาย" คริสเดินเล่นไปตามชายหาดสีขาวสะอาดตา ชาวบ้านที่กำลังทำงานต่างยิ้มแย้มเมื่อเห็นเขา
"สวัสดีค่ะคุณคริส"
"ครับ" คริสยิ้มเล็กน้อย เขาพูดคุยกับชาวบ้านจนมืดค่ำ ไฟดวงน้อยบนเขาถูกเปิด ชายหนุ่มเงยหน้ามองแล้วแสยะยิ้มออกมา
"ฉันกลับก่อนนะ"
"ค่ะนาย" เด็กสาวลูกคนงานส่งยิ้มหวานหยดย้อยนัยน์ตาเป็นประกาย คริสมองด้วยใบหน้าราบเรียบแล้วเดินไปที่ตึกใหญ่
"ไอ้อาคม"
"ครับนาย!"
"ไปหาไอ้อำพลกับกู"
"ครับนาย"
--------------------------------------------------
ทานตะวัน TALK
วันนี้ฉันทำกุ้งลายเสือนึ่งกระเทียม แล้วก็กุ้งมังกรกระเทียม บ้านอยู่บนเกาะมันก็ดีแบบนี้แหละค่ะ อาหารทะเลสดๆเราก็ได้กินประจำ เนื้อหวานฉ่ำกินนี่ฟินถึงชาติหน้า
ฉันเรียนจบมัธยมปลายที่เกาะแล้ว ตอนนี้ก็ดูๆอยู่ค่ะว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ไหนดี ลุงอำพลเขาก็อยากให้ฉันไปเรียนต่อในเมืองนะ แต่ว่าฉันก็ยังลังเล
ฉันถืออาหารไปวางไว้บนโต๊ะแล้วก็สาละวนทำอย่างอื่นต่อ ฉันจะทำไข่เจียวกุ้งสับ ต้มยำทะเล แล้วก็กุ้งอบวุ้นเส้น ฉันจัดแจงทำต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงทุกอย่างก็เรียบร้อย
วันนี้คุณลุงอำพลคงเคลียร์อะไรอยู่ข้างล่างสักพักก็คงมาทานอาหาร ลุงอำพลพักอยู่บ้านหลังเล็กบนเขาอีกหลัง ท่านจะมาทานอาหารแล้วคุยเล่นกับฉันจากนั้นก็กลับไปพักผ่อน
ฉันเองก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไรมากหรอก ฉันมีหน้าที่เรียนแล้วก็ทำกับข้าว ช่วงนี้ฉันเรียนจบแล้วฉันก็เลยค่อนข้างว่าง หลังจากที่อ่านหนังสือเตรียมสอบ ฉันก็มีเวลาไปช่วยชาวบ้านร้อยเปลือกหอยได้เงินเล็กๆน้อยๆมาสะสมเอาไว้
ฉันเดินไปเปิดกระปุกใบเล็กๆแล้วเอาเงินใส่กระปุกเอาไว้ ถ้าลุงอำพลมาทานข้าวฉันจะเอาเงินนี่ให้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระท่าน
ฉันคลี่ยิ้มมองกระปุกที่มีเงินอยู่ข้างในอย่างสุขใจ ถึงจำนวนเงินมันจะไม่เยอะอะไร แต่มันก็คงจะช่วยคุณลุงแบ่งเบาภาระได้ไม่มากก็น้อย
กึก!กึก!กึก! เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาบนบ้าน ฉันขมวดคิ้วอย่างฉงน ฉันจำเสียงฝีเท้าและลักษณะการเดินของลุงอำพลได้ ท่านจะเดินเบาๆก้าวเป็นจังหวะ พอถึงข้างบนท่านจะถอดรองเท้าไว้ก่อนก่อนจะเดินตรงเข้ามาในบ้าน
แต่นี่มันเป็นฝีเท้าของคนที่สวมรองเท้าเดินขึ้นมาแล้วเดินตรงมาที่ประตูบ้านที่ฉันอาศัยอยู่ การไม่ถอดรองเท้ามันทำให้ฉันรู้ว่าคนที่จะเข้ามานี่ไม่ใช่ลุงอำพลแน่นอน
หัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ฉันก้าวเข้าไปใกล้ๆประตูจากนั้นก็ส่องไปที่ตาแมว มันไม่มีใครอยู่ข้างนอกเลย
ใครกันที่เดินขึ้นมาหรือว่าจะเป็นพวกคนงานข้างล่าง...
ปึง!ปึง!ปึง! เสียงทุบประตูรัวๆ ฉันส่องตาแมวอีกครั้งก็เจอลุงอาคมยืนอยู่ ฉันจำเขาได้ ฉันเคยเจอเขาเวลาที่คุณป๋ามาที่เกาะลุงอาคมจะมาเล่นกับลุงอำพลเสมอ ส่วนคุณป๋าฉันไม่ได้เจอเขานานแล้ว
เวลาที่เขามาฉันจะหลบหน้าและไม่ลงไปวุ่นวายอีกเลย
ฉันยื่นมือไปเลื่อนกลอนประตู พอทำเสร็จประตูก็ถูกเปิดเข้ามา ชายร่างกำยำในชุดสูทเข้ามาประชิดร่างกายผอมบางของฉันอย่างรวดเร็ว จนหลังติดผนัง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันไม่ทันตั้งตัว
"จะ...จะทำอะไรคะ!"
"แล้วคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ ทานตะวัน"
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน







