LOGINChapter 7
ทานตะวันตื่นแต่เช้าจัดแจงทำอาหารเหมือนทุกวัน วันนี้เธอทำหมูกระเทียม ผัดกระเพราปลาหมึกและผัดคะน้าหมูกรอบ เธอหุงข้าวเยอะเป็นพิเศษเผื่อแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เผื่อเขาเกิดเฮี้ยนมาทานด้วย
และมันก็จริงอย่างที่เธอคิด วันนี้คุณป๋ามาแต่เช้าเขากอดยืนพิงประตูห้องครัวจ้องมองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย แม้จะรู้สึกอึดอัดพยายามเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เผื่อเขาจะเดินออกไป แต่ทว่าคนตัวโตกลับไม่สนใจที่จะเดินกลับไปที่ห้องรับแขกเลย เขายังเอาแต่จ้องมองจนทานตะวันอึดอัดและเอ่ยปากออกมา
"คุณป๋าไปรออยู่ข้างนอกเถอะค่ะ เดี๋ยวทานตะวันทำเสร็จจะยกไปให้ทาน"
"มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน"
"ทานตะวันไม่ได้สั่งค่ะ แต่คุณป๋ามาจ้องแบบนี้ทานตะวันอึดอัด"
"หึ! อยู่กับฉันทำเป็นอึดอัด แต่กับผู้ชายเมื่อคืนระริกระรี้เชียว"
"คุณป๋าไปแอบดูทานตะวันกับพี่คาวีเหรอ?"
"เธอไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก"
"ค่ะ ทานตะวันไม่ได้สำคัญอะไรทานตะวันรู้ตัวดี" คริสแสยะยิ้มแล้วเดินออกไป ทานตะวันมองตามแล้วถอนหายใจออกมา
บนโต๊ะอาหารวันนี้ก็อึดอัด ทานตะวันนั่งนิ่งตักอาหารเข้าปาก คุณป๋าเอาแต่จ้องทำให้เธอวางตัวไม่ถูก
"พรุ่งนี้เก็บของกลับนะไอ้อำพล"
"ครับนาย" อำพลพยักหน้าอย่างจำใจ
-----------------------------------------------------------
ทานตะวัน TALK
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ฉันเดินก็เดินเล่นตามชายหาด พรุ่งนี้ก็จะได้ไปจากที่นี่แล้ว รู้สึกใจหายเหมือนกันแฮะแต่ก็คงขัดคุณลุงไม่ได้
ฉันรู้ดีว่าคุณป๋าเกลียดฉัน ไม่ชอบฉัน แต่ด้วยเหตุผลอะไรฉันก็ไม่อาจรู้ได้
ฉันทอดสายตามองทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตาแล้วถอนหายใจออกมา ฉันไม่รู้ว่าจะได้กลับมาตอนไหน แต่จะเก็บความทรงจำความรู้สึกดีๆเอาไว้
"ทานตะวัน" ฉันหันไปตามเสียงเรียก พี่คาวีวิ่งตรงมาหาฉัน
"มีอะไรหรือเปล่าคะพี่"
"ได้ข่าวว่าจะไปอยู่กรุงเทพ"
"ใช่ค่ะ" ฉันพยักหน้าเบาๆ "ทานตะวันต้องไปเรียนที่นั่น คุณลุงเองก็ต้องไปช่วยงานคุณป๋า ทานตะวันจะเรียนที่นี่คุณลุงก็ไม่ยอม"
"อืม ดีแล้ว ถ้าพี่ไปเรียนพี่จะไปเยี่ยมทานตะวันนะ"
"แล้วตอนไปเรียนพี่พักอยู่ที่ไหนคะ?" ฉันเอียงคอเล็กน้อยถามพี่คาวี เขายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วขยี้ผมฉันเบาๆ หัวใจไหววูบความรู้สึกมันบอกไม่ถูกจริงๆ ฉันยิ้มตอบเขาแล้วเดินไปนั่งที่โขดหิน
เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังอยู่ไม่ไกลมากนัก ฉันใช้มือเรียวเล็กทัดผมของตัวเองเบาๆ สายลมเย็นพัดกลิ่นเค็มของทะเล ฉันสูดดมก็รู้สึกดี ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดที่นี่แต่ฉันก็โตที่นี่และผูกพันกับมัน
ถ้าเลือกได้ฉันจะไม่ไปอยู่ที่อื่น ฉันจะอยู่ที่นี่อยู่เป็นคนที่เกาะนี้อยู่กับคุณลุงและชาวบ้านคนอื่นๆที่ฉันผูกพัน
"พี่พักอยู่หอที่มหาวิทยาลัย"
"มีหอให้พักด้วยเหรอคะ?"
"มีสิ พักที่หอใกล้ๆมหาวิทยาลัยค่าที่พักก็ไม่แพง สะดวกสบายเวลาที่เราเรียนเหนื่อยๆเราก็กลับมาพักที่หอพัก เราไม่ต้องนั่งรถไปพักที่อื่นให้เสียเวลา"
"ดีจังค่ะ"
"ถ้าทานตะวันไปอยู่กรุงเทพฯแล้วได้ไปเรียนทานตะวันก็ขอคุณลุงไปพักอยู่ที่หอก็ได้ ยิ่งอยู่ใกล้มหาลัยยิ่งสะดวกสบาย"
"ค่ะ"
"เรียนมหาลัยไหนก็บอกพี่ด้วยนะพี่จะได้ไปเล่นด้วยแต่ถ้าเกิดว่าเรียนมหาลัยเดียวกันพี่ก็จะช่วยติวช่วยดูแลทานตะวัน"
"ค่ะ" พี่คาวีเดินมานั่งใกล้ๆฉันแล้วทอดสายตามองทิวทัศน์ด้วยกัน "พี่คาวีอย่าลืมไปหาทานตะวันนะคะ"
"พี่สัญญา" พี่คาวีจับมือฉันแล้วบีบเบาๆ เราพูดคุยนั่งเล่นกัน ในขณะที่คุณป๋ากับลูกน้องของคุณป๋าเดินไปเดินมาอยู่ไม่ไกล เกาะนี้เป็นของเขา เขาจะผุดจะโผล่อยู่ตรงไหนก็ย่อมได้
วันต่อมาฉันเก็บข้าวของของตัวเองใส่กระเป๋า ฉันไม่ได้มีอะไรเยอะเก็บของใส่กระเป๋าใบเดียวก็เพียงพอ
"เสร็จหรือยังทานตะวัน" คุณลุงตะโกนถามฉันอยู่ข้างนอก
"เสร็จแล้วค่ะ" ฉันรูดซิปกระเป๋าเดินทางแล้วลากออกมา ฉันอยู่ในชุดกระโปรงคลุมเข่า ใบหน้าสวยหวานทาแค่แป้งเด็กก็เพียงพอ คุณลุงรีบตรงเข้ามาเพื่อลากกระเป๋าให้
"มาเดี๋ยวลุงลากให้"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวทานตะวันลากเอง"
"เอามาเถอะน่า!" ลุงอำพลรีบมาลากกระเป๋าให้ ฉันเดินตามคุณลุงไปที่เครื่องบินส่วนตัวของคุณป๋าที่จอดอยู่ เขารวยมากมีเฮลิคอปเตอร์มีเครื่องบินส่วนตัวมีเกาะเป็นของตัวเองอีกตั้งหลายเกาะ ไม่รวยจริงไม่มีแบบนี้นะคะ
"รีบๆหน่อยชักช้าอยู่ได้" คุณป๋าพูดเสียงขุ่น
"ครับ" ลุงอำพลพยักหน้า ฉันขึ้นไปนั่งด้วยสีหน้าราบเรียบ ลุงอำพลจัดแจงเอากระเป๋าไปเก็บให้เรียบร้อย
พรึ่บ! คุณป๋ามานั่งข้างๆฉัน ฉันมองเขาอย่างตกใจขยับตัวหนีอัตโนมัติ แต่มันก็ไปไหนไม่ได้เพราะติดกับหน้าต่างเครื่องบินแล้ว คุณป๋าเหยียดยิ้มร้ายใช้ท่อนแขนโอบบ่าของฉัน
"คะ...คุณป๋า"
"ตกใจเหรอ หึ!"
"ถ้าคุณป๋าจะนั่งตรงนี้ทานตะวันไปนั่งที่อื่นก็ได้"
"ถ้าออกไปนั่งที่อื่นได้ก็ลองดูสิ" คุณป๋าไขว่ห้างสบายอารมณ์ ฉันหันไปมองคุณลุงอำพลที่มองมาที่ฉันกับคุณป๋าอย่างหนักใจเช่นกัน
"นายครับ ผมว่าให้ทานตะวันเธอมานั่งกับผมดีกว่านายจะได้นั่งสบายๆ"
"มึงหุบปากไปไอ้อำพล อย่าให้กูต้องจับมึงโยนลงทะเล!" น้ำเสียงห้วนกระด้างเอ่ย ฉันเม้มปากตัวเองแน่นแล้วส่ายหน้าให้คุณลุงเพื่อปรามท่านไม่ให้พูดอะไรต่อ ผู้ชายที่นั่งข้างฉันเขาโคตรจะเอาแต่ใจเลย ฉันไม่อยากเสี่ยงให้คุณลุงต้องเจออะไรแย่ๆ
ฉันนั่งเกร็งไปตลอด คุณป๋าจิบไวน์สบายใจมองฉันด้วยสีหน้าราบเรียบ ฉันรู้สึกกลัวมากเวลาที่เขาทำหน้าแบบนี้ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังมีแผนอะไรบางอย่าง
"คุณป๋าช่วยเอาแขนลงจากบ่าทานตะวันได้ไหมคะทานตะวันรู้สึกอึดอัด"
"ฉันจำเป็นต้องทำตามคำพูดของเธอไหม" น้ำเสียงบ่งบอกว่าไม่พอใจฉันหันไปมองคุณลุงอำพลเล็กน้อย คุณลุงเองก็มองมาที่ฉันอย่างเป็นห่วงเช่นกัน
"งั้นทานตะวันจะไปนั่งที่อื่น!" ฉันพยายามแทรกตัวออกมาเป็นจังหวะเดียวกันกับเครื่องบินตกหลุมอากาศ ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวคอดกิ่วของฉันเอาไว้แล้วกดให้นั่งตักเขา
"อยากนั่งบนตักฉันก็ไม่บอก! เธอนี่เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ"
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน







