تسجيل الدخولChapter 8
ทานตะวันตกใจระคนไม่พอใจที่ชายที่โอบกอดและกดเธอให้นั่งตักเขาเอ่ยคำพูดร้ายกาจออกมา เธอไม่พอใจ ไม่ชอบใจ และเกลียดคำพูดของเขามาก
คนอะไรไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด ถึงจะกลัวแต่ใช่ว่าเขาจะมาใช้คำพูดแบบนี้กับเธอได้
ถึงจะจำใจไปกรุงเทพพร้อมคุณลุงเพราะคำสั่งของเขา แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ดูถูกเธอ
"ถ้าคุณป๋าไม่ปล่อยทานตะวันจะทำร้ายคุณป๋านะ"
"เธอกล้าเหรอสาวน้อย" ไม่พูดเปล่าแต่กระชับร่างเล็กแน่นกว่าเดิม
"นายครับ ปล่อยทานตะวันเถอะครับ" อำพลรีบเอ่ยปราม
"หุบปากไป ...โอ๊ย" คริสร้องออกมาทันทีเมื่อฟันแหลมคมของหญิงสาวงับลงที่ต้นแขนของเขา เขาผลักร่างทานตะวันกระแทกกับหน้าต่างเครื่องบินแรงๆ "ยัยเด็กนรกนี่ อยากตายใช่ไหม?!" เขาตะคอกแล้วกระชากแขนเล็กแรงๆ ทานตะวันตัวปลิวตามใช้มือจับที่หน้าผากของตัวเอง ไม่ร้องโอดโอยแสดงความเจ็บปวดออกมา
ถ้าร้องคนที่ทำหยาบคายกับเธอจะยิ่งได้ใจ เธอจะไม่แสดงสิ่งที่ทำให้เขาพอใจออกมาเด็ดขาด
"เลือด นายครับปล่อยทานตะวันเถอะครับ" อำพลแทบจะกราบขอร้อง เขากลัวว่าหญิงสาวที่เขาเลี้ยงดูมาจะเป็นอันตราย เลือดไหลอาบลงมาที่เเก้มแล้วหยดแหมะลงที่เสื้อขาวของทานตะวัน อำพลได้เห็นก็ยิ่งร้อนรน
"มันไม่ตายหรอก!" น้ำเสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่พอใจ เขาบดกรามแน่นแล้วบีบมือแรงๆ ผู้หญิงคนนี้กล้ามาก ที่กล้ามาทำแบบนี้กับเขา คริสจะทำให้ทานตะวันเสียใจที่กล้าลองดีกับเขา
"แต่เธอเป็นผู้หญิง!"
"มันเป็นลูกไอ้อีที่กูเกลียด" เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม "ต่อให้มันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้ามันจะตายด้วยน้ำมือของกู มันจะยิ่งเป็นเรื่องที่ดี ตายอย่างทรมานไปอยู่กับพ่อแม่มันนรกยิ่งดี"
"แต่ทั้งสองก็ตายไปนานแล้ว นายจะทำร้ายเธอให้ตายตามทั้งสองไป มันไม่ได้อะไรนอกจากความสะใจเพียงเท่านั้น เธอเป็นแค่เด็กที่ผมเลี้ยงมาเหมือนลูก ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร เธอเป็นแค่เด็ก"
"หึ!" คริสผลักร่างเล็กอีกครั้งแล้วลุกขึ้นเดินไปที่เบาะหน้าแล้วรูดม่าน อำพลรีบตรงเข้าไปดูอาการ
"เป็นยังไงบ้าง!?" อำพลรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าสะบัดเล็กน้อยแล้วกดไปที่บาดแผล ทานตะวันมองอำพลด้วยนัยน์ตาระริก มือของเธอมันสั่นไม่ยอมหยุดจนต้องเอามือทั้งสองประสานกันเอาไว้
"คุณลุงคะ!" ท่านตะวันเสียงสั่นเครือ แม้จะพยายามทำเสียงให้เป็นปกติแล้วแต่มันก็อดที่จะสั่นเครือไม่ได้ เหตุการณ์เมื่อครู่ใช่ว่าเธอไม่ตกใจ เธอรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวเป็นที่สุด
"ถ้าไม่ไหวก็ร้องไห้มันออกมาเถอะ ลุงรู้ว่าทานตะวันกลัว" อำพลยื่นมือไปลูบแก้มเบาๆ "ลุงมันไม่ได้เรื่องเอง"
"คุณลุง ฮึก!" ความเข้มแข็งที่พยายามสร้างพังทลายลง ทานตะวันปล่อยโฮแล้วเข้าสวมกอดอำพลทันที
"พอไปถึงกรุงเทพฯ ลุงจะพยายามหาทางออกเรื่องนี้เอง ถ้าเจอคุณคริสเตียนลุงจะลองคุยกับคุณคริสเตียนให้เอาทานตะวันไปช่วยเลี้ยงลูกให้ ทานตะวันจะได้ปลอดภัย"
"แต่ ..."
"ไปอยู่ที่นั่นปลอดภัยแน่นอน"
"ค่ะ!" ทานตะวันพยักหน้า มือก็ปาดน้ำตาตัวเองไปด้วย อำพลปลอบประโลมหญิงสาวให้คลายทุกข์ใจอยู่นานจนกระทั่งเธอรู้สึกดีขึ้น
ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง เครื่องบินหรูจอดที่ลานกว้างบนพื้นที่หลายพันไร่ ทุกพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ดินของตระกูลดำรงค์พงษ์เมธาตระกูลของชายหนุ่มทั้งนั้น
คริสปรายตามองคนร่างเล็กที่พยายามช่วยอำพลลากกระเป๋าเล็กน้อยแล้วย่างกรายไปที่รถสปอร์ตสุดหรู เขาเข้าไปนั่งทอดสายตามองทุกอิริยาบถของหญิงสาว
มือหนากำแน่นอาคมมองการกระทำนั้นแล้วถอนหายใจออกมา เขาไม่อาจรู้ได้ว่าผู้เป็นเจ้านายคิดอะไร
"โทรตามเด็กไว้ให้กูด้วย"
"ครับนาย" อาคมก้มหน้าอย่างสำรวมแล้วกดโทรศัพท์หาใครบางคน
ทานตะวันลากกระเป๋ามาขึ้นรถ อำพลเปิดประตูให้เธอนั่งข้างๆอาคม ส่วนเขาขึ้นมานั่งข้างผู้เป็นนาย เขาก้มหน้าไม่สบตาด้วยไม่ปรารถนาให้เจ้านายเอ่ยคำพูดใดทิ่มแทงหัวใจทานตะวัน
รถหรูเคลื่อนออกจากลานกว้างวิ่งตรงไปที่คฤหาสน์ ทานตะวันมองมันไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนคฤหาสน์แห่งนี้ก็ยังสวยสง่าไม่เปลี่ยนแปลง เธอเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งตอนอายุแปดขวบ เธอจำได้ว่าคุณป๋าไม่เคยพอใจ จนกระทั่งคุณลุงพาเธอไปอยู่เกาะ
"เดี๋ยวลุงจะลากกระเป๋าไปบ้านหลังเล็ก ทานตะวันตามลุงมาเลย"
"ค่ะ" ทานตะวันพยักหน้าแล้วเดินตามผู้เป็นลุง สายตาคมกริบจ้องมองเธอแล้วแสยะยิ้มออกมา นี่มันเพิ่งเริ่มต้นสาวน้อย หลังจากนี้เตรียมตัวชดใช้ความผิดแทนพ่อแม่ได้เลย
"เด็กพร้อมแล้วครับนาย"
"ดี!" คริสเอ่ยแล้วเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ เขาตรงเข้าไปในห้อง หญิงสาวในชุดหวาบหวิวคลี่ยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอเดินนวยนาดเข้ามาใกล้ๆแล้วสลัดชุดให้พ้นกาย
"ลี่คิดถึงคุณคริสที่สุดเลย" ว่าจบริมฝีปากบางเล็กก็จูบที่ริมฝีปากหนาทันที ท่อนแขนแกร่งโอบรัดร่างเล็กแล้วจูบตอบเช่นกัน
ทานตะวันสำรวจบ้านหลังเล็กแล้วเก็บกวาดเช็ดถูจัดเสื้อผ้าใส่ตู้
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกเปิด
"เอาผ้าห่มมาให้ค่ะ" ลีอาวางผ้าห่มลงบนที่นอน
"ขอบคุณค่ะ"
"เราชื่อลีอานะอายุสิบแปด แล้วเธอล่ะชื่ออะไร?"
"เราชื่อทานตะวันอายุสิบแปดเหมือนกันจ้ะ"
"แล้วเรียนที่ไหนเหรอ?" ลีอานั่งลง
"น่าจะมหาลัยแถวนี้ๆแหละค่ะ รอคุณลุงอำพลจัดการเรื่องเรียนให้"
"เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับลีอาสิ จะได้ไปเรียนพร้อมๆกัน"
"ขอทานตะวันถามคุณลุงก่อนนะคะ"
"จ้ะ"
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน







