LOGINChapter 6
ทานตะวันข่มอารมณ์โกรธของตัวเอง แม้จะกลัวคุณป๋ามากไม่ชอบคำพูดหลายๆอย่าง เขาก็ไม่ควรจะมาพูดจาดูถูกเธอ แต่จะต่อปากต่อคำกับเขามากก็ไม่กล้า เพราะเขาน่ากลัว เขาอาจจะฆ่าเธอตายก็เป็นได้
เธออึดอัดไปหมด ถ้าหากว่าวันนี้คุณป๋าไม่กลับง่าย เธอคงต้องไปเดินหรือหาอะไรทำฆ่าเวลาที่อื่น สายตาที่จ้องมองเธอมันมีแต่ความน่ากลัว ถึงแม้เขาจะไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาทางสีหน้ามากนัก แต่พอจ้องเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้น มันทำให้ทานตะวันรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่ซ่อนอยู่
"แล้วนายกลับวันไหน?"
"เร็วๆนี้แหละ" เสียงคุยกันดังอยู่ข้างนอก ทานตะวันเก็บกวาดจัดครัวจนเสร็จเรียบร้อยทั้งสามก็ยังคุยกันอยู่
หญิงสาวคว้าผ้าเช็ดตัวและตะกร้าสบู่เดินออกมาทางหลังบ้าน เธอเตรียมชุดเอามาไว้ผลัดเปลี่ยนด้วย สายน้ำใสไหลเอื่อย มันเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากน้ำตกข้างบน ถึงบ้านบนเขาที่เธออาศัยอยู่จะอยู่สูง แต่ก็มีน้ำกินน้ำใช้จากน้ำตกสายน้ำแห่งนี้
ทานตะวันวางตะกร้าลงข้างๆโขดหิน เธอใส่ผ้าถุงแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก พระอาทิตย์สีแดงกำลังจะลาลับขอบฟ้า และอีกไม่นานสถานที่ที่เธออาบน้ำมันก็จะมืดลง
แต่ถ้าจะมืดมันก็ไม่ใช่อุปสรรคเลย ทานตะวันชินกับที่นี่ เธอไม่ได้หวาดกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย เธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก มันไม่เคยเกิดเรื่องไม่ดี ไม่เคยเจอใครขึ้นมาทำอะไรแย่ๆเลยบนนี้
"มาทำอะไรที่นี่" น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นทำให้ทานตะวันสะดุ้งโหยงหันไปมองเจ้าของเสียง คาวีลูกชายหัวหน้าคนงานที่ดูแลต้นบีบียืนยิ้มให้เธอ ในมือถือกรงกับหนังสติ๊ก เธอกับเขารู้จักกันมานานหลายปี คาวีอายุมากกว่าเธอสามปี เขาดีกับเธอเสมอมา
"ทานตะวันมาอาบน้ำแล้วพี่คาวีล่ะคะมาทำอะไร?"
"มายิงนก จะเอาไปผัดเผ็ด"
"มันบาปนะพี่"
"มันก็บาปทุกอย่างแหละ กุ้งหอยปูปลาเราฆ่ามันเราก็บาป แต่มันคืออาหารของเรา" ทานตะวันกระชับชุดคลุมของตัวเอง คาวียืนไม่ไกลเธอมากนัก เขาก็จ้องมองไปที่ต้นไม้แล้วยิงนกร่วงลงพื้น แม้ทานตะวันจะไม่ชอบการกระทำนั้น แต่จะปรามก็ป่วยการ
"ถ้าพี่เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อไปคะ?"
"ไปทำงานในเมือง พี่อยากไปจากเกาะนี้ อยากไปสร้างฐานะ ถ้าแต่งงานมีครอบครัวจะได้ไม่ลำบาก ตอนที่พี่ไปเรียนในเมือง ทุกอย่างมันดีกว่านี้มาก ทานตะวันควรไปเรียนในเมืองนะ"
"ทานตะวันอาจจะเรียนที่เกาะ ไปเรียนในเมืองค่าใช้จ่ายเยอะทานตะวันไม่อยากจะเป็นภาระคุณลุงมากเกินไป"
"พี่ว่าไปเรียนในเมืองดีกว่า ทุกอย่างมันดีกว่าที่เกาะมากเลยรู้ไหม ถ้าทานตะวันได้ไปเรียนที่โน่นทานตะวันจะรู้ว่ามันดีกว่าที่นี่มาก"
"ทานตะวันต้องคิดดูอีกที"
"อื้ม เชื่อพี่เหอะ ไปเรียนในเมืองดีกว่า" คาวีหันมายิ้มแล้วถอนขนนก "ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะดูต้นทางให้"
"ค่ะ" ทานตะวันพยักหน้ารับคำ เธอเดินไปที่โขดหินแล้วลงไปอาบน้ำ มือเล็กหยิบสบู่เหลวบีบใส่ฟองน้ำ เธอถูไถไปทั่วร่างกาย คาวีมองคนที่นั่งอาบน้ำอยู่ข้างโขดหินแล้วยิ้มออกมา ความรู้สึกที่เขามีต่อหญิงสาว ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ไม่เปลี่ยนแปลง
สายตาคมกริบจ้องมองทั้งสองพร้อมกับบดกรามแน่น ทำเนียนเดินเข้าครัว ที่แท้ก็แอบมายั่วผู้ชาย
"จะเดินไปดูฝั่งโน้นไหมครับนาย"
"ไม่ กูจะกลับแล้ว" คริสเอ่ยน้ำเสียงเรียบแล้วเดินออกมา อาคมมองทานตะวันเล็กน้อยแล้วเดินกลับพร้อมกับผู้เป็นนาย
ทานตะวันอาบน้ำเสร็จเธอก็อยู่ในชุดกระโปรงคลุมเข่า คาวียิ้มให้เธอแล้วเดินมาส่งเธอบ้าน
"วันนี้ทานตะวันสวยมากเลย"
"ขอบคุณค่ะ"
"งั้นพี่กลับก่อนนะ จะเอานกไปให้แม่ผัดเผ็ด ตอนนี้แม่คงบ่นพี่แย่แล้ว"
"ค่ะ"
"ไปแล้วนะ!" คาวียื่นมือไปขยี้ผมหญิงสาวเบาๆ
"ค่ะ" ทานตะวันยิ้มหวานให้แล้วโบกมือบ๊ายบาย คาวียิ้มแล้วเดินออกไป ทานตะวันมองตามแล้วเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เหลือเพียงคุณลุงอำพลที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่บนเก้าอี้
"คุณลุงคะ"
"ทานตะวัน"
"เป็นอะไรหน้าเครียดเชียว"
"เครียดเรื่องนั้นแหละ"
"อย่าเครียดไปเลยค่ะ ทุกอย่างมีทางออกเสมอ"
"ลุงกลัวคุณป๋าจะทำร้ายทานตะวัน"
"ทานตะวันโตแล้ว เขาคงแค่ขู่เท่านั้นไม่ทำจริงหรอกค่ะ" ถึงแม้ในใจจะแอบกลัวไม่น้อย แต่เธอก็ต้องพูดเพื่อให้คุณลุงสบายใจ เธอโตแล้วถึงแม้ว่าเธอสู้รบปรบมือกับคุณป๋าได้ไม่มาก แต่เธอก็ไม่ใช่เด็กๆที่จะปล่อยให้เขาทำอะไรตามอำเภอใจได้
"คุณป๋าน่ากลัวกว่าที่ทานตะวันคิดอีก"
"ทานตะวันจะพยายามระมัดระวังตัวค่ะ วันนี้ทานตะวันมีของให้คุณลุงด้วยนะคะ"
"อะไรเหรอ?" อำพลขมวดคิ้วสงสัยทานตะวันยิ้มด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนจะเดินไปหยิบกล่องบางอย่างที่เธอตั้งใจจะมอบให้แล้วเดินมายื่นให้อำพล
"เงินที่ทานตะวันไปทำงานทานตะวันเก็บสะสมเอาไว้ เพื่อมอบให้คุณลุง ถึงแม้ว่าเงินมันจะไม่ได้มากมายอะไร แต่ทานตะวันก็ตั้งใจมอบให้คุณลุงนะคะ"
"เด็กโง่ ไม่ต้องเอามาให้ลุงหรอกนะหนูเก็บไว้ใช้เถอะ น้ำพักน้ำแรงของตัวเอง อยากจะได้อะไรก็เอาเงินที่เก็บไว้เนี่ยซื้อเลย ไม่ต้องเอามาให้ลุงหรอก"
"ได้ไงล่ะคะ คุณลุงซื้อข้าวซื้อน้ำส่งเสียทานตะวันเรียน เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินของคุณลุงทั้งนั้น ให้ทานตะวันได้ตอบแทนคุณลุงบ้างเถอะนะคะ" ทานตะวันจับมือของอำพลแล้ววางกล่องเงินไว้บนมือนั้น
อำพลมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเอ็นดู เขาคิดไม่ผิดเลยที่เลี้ยงดูเธอขึ้นมาจนเติบโต ทานตะวันเป็นหญิงสาวที่จิตใจดีน่ารักน่าเอ็นดู โดยเนื้อแท้ของเธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากๆ
"แต่ลุงก็ยังอยากจะให้หนูเก็บไว้"
"ทานตะวันก็อยากให้คุณลุงเก็บไว้เหมือนกันค่ะ คุณลุงรับไปเถอะนะคะ"
"อืม" เมื่อทนหญิงสาวรบเร้าไม่ไหวอำพลก็เลยรับไว้แล้วเปิดดู "เงินไม่ใช่น้อยเลยนะ ทานตะวันเก่งมากๆที่เก็บเงินได้ขนาดนี้"
"ทานตะวันไม่ได้ซื้ออะไร ก็เลยเก็บไว้ค่ะ คุณลุงอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อเถอะนะคะ"
"อื้ม" อำพลพยักหน้า "แล้วทานตะวันจะเรียนต่อที่ไหน?"
"ยังไม่รู้เลยอาจจะเรียนที่เกาะนี้แหละค่ะ"
"คงไม่ได้หรอก นายใหญ่ให้กลับไปช่วยงานทานตะวันต้องไปพร้อมลุง"
"ทานตะวันไม่ไปได้ไหม?"
"ไม่ไปไม่ได้ ลุงไม่กล้าปล่อยให้ทานตะวันอยู่ที่นี่หรอก ตอนที่ลุงอยู่พวกคนงานกักขฬะไม่กล้าทำอะไร แต่ถ้าลุงไม่อยู่ลุงกลัวว่าทานตะวันจะไม่ปลอดภัย ไปกรุงเทพฯพร้อมกับลุง ไปเรียนที่โน่นด้วยเลย"
"ก็ได้ค่ะ"
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน







