Share

ดาบพิฆาตสลับนภา
ดาบพิฆาตสลับนภา
Author: Prince_White

บทที่ 1

Author: Prince_White
last update Huling Na-update: 2025-04-20 15:07:00

"ข้า อวี้เหวิน! ผู้ใดมีพระคุณ ข้าตอบแทนเป็นร้อยเท่าพันทวี แต่หากผู้ใดคิดร้าย ต่อให้หนีสุดหล้าฟ้าเขียว ข้าจักบดขยี้ให้มอดมลาย มิให้เหลือแม้แต่เถ้าธุลี!"

...

ณ เมืองเทียนฟูแห่งแคว้นตงชิง เมืองเล็ก ๆ อันเงียบสงบทางตอนใต้ของแคว้น ในเรือนหลังคามุงฟางที่เรียบง่าย มีเด็กชายผู้หนึ่งใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาดำขลับใต้ตาขวามีไฝเม็ดหนึ่ง อายุประมาณสิบสี่ปี กำลังช่วยมารดาจัดเตรียมอาหารมื้อเย็น

"เหวินเออร์ ซุปสุกรึยัง?" เสียงอ่อนโยนของมารดาดังขึ้น ปลุกให้เด็กหนุ่มที่กำลังสะลึมสะลือลืมตาขึ้นกะพริบสองสามครั้ง ก่อนรีบตอบเสียงติดขัด "ข..ขอรับ ท่านแม่ สุกแล้วขอรับ"

เมื่อเห็นสภาพอันง่วงงุนของบุตรชาย นางอดมิได้ที่จะส่ายศีรษะพลางทอดถอนใจ "เห้อ… เจ้าสองพ่อลูกนี้ช่างเหมือนกันเสียจริง" ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง "ท่านพี่… อีกไม่นานท่านก็จะกลับมาแล้ว ในที่สุดครอบครัวของเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง"

สามีของนางจำต้องเดินทางไปทำงานยังต่างเมือง ปีหนึ่งได้กลับบ้านเพียงสองครั้ง และบัดนี้ก็ใกล้ถึงเวลานั้นอีกครา หัวใจของนางเปี่ยมล้นไปด้วยความหวังและความคิดถึง

ค่ำคืนหนึ่ง ฝนโปรยปรายจากฟากฟ้าดั่งบทเพลงกล่อมให้สองแม่ลูกจมอยู่กับความรู้สึกเหงาแต่ก็อบอุ่นในคราวเดียวกัน

ชีวิตของครอบครัวเล็ก ๆ นี้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย มารดาดูแลบ้าน บุตรชายเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมอันสงบ เรียนรู้วิธีล่าสัตว์และหาของป่าเพื่อเลี้ยงปากท้องไปวัน ๆ แม้จะมิได้สมบูรณ์พูนสุขแต่ก็ไม่มีปัญหาใดให้ต้องกังวล

เช้าตรู่วันถัดมา อวี้เหวินตื่นขึ้นทำกิจวัตรประจำวัน ฝึกฝนร่างกายและเตรียมตัวออกไปหาของป่าบนภูเขาใกล้เมือง

ภูเขาลูกนี้แผ่กว้างกินอาณาบริเวณหลายเมือง อวี้เหวินรู้ดีว่าเขาสามารถหาของได้เพียงรอบนอกของภูเขาเท่านั้น ส่วนลึกเข้าไปมีอสูรดุร้ายชุกชุม เป็นเขตแดนอันตรายที่มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้นจะกล้าก้าวล่วง

ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ มีผู้ฝึกยุทธ์ไม่มากนัก ระดับที่แข็งแกร่งที่สุดก็เพียงแค่ขอบเขตกำเนิดกายขั้นต้นเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับแคว้นตงชิงแล้ว ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะในแคว้นนี้มีผู้บ่มเพาะมากมายถึงสิบล้านคน ลำดับขั้นพลังมีตั้งแต่ ก่อตั้งรากฐาน กำเนิดกาย หลอมรวมกายา พลังปราณ ก่อกำเนิด สำนึกฟ้า ผสานนภา และเขตแดนสวรรค์ ซึ่งระดับนี้กล่าวกันว่ามีเพียงห้ายักษ์ใหญ่แห่งแคว้นเท่านั้นที่อาจเอื้อมถึง

แคว้นตงชิงเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ในทวีปหวินซางอันกว้างใหญ่ ห้ายักษ์ใหญ่ผู้ปกครองแคว้นได้แก่ พรรคมารสวรรค์แห่งแดนประจิม สำนักกระบี่เหินฟ้าแห่งแดนบูรพา วังหิมะเก้าชั้นฟ้าแห่งทิศอุดร สุสานดาบทลายสวรรค์แห่งทิศทักษิณ และตระกูลเฉินแห่งดินแดนภาคกลาง

"เจ้าจะไปแล้วหรือ เหวินเออร์?" มารดากล่าวขณะเห็นบุตรชายเตรียมเครื่องมือ

"ขอรับ ท่านแม่ ข้าตั้งใจจะออกไปแต่เช้าตรู่ เพื่อจะหาเนื้อและผักมาให้ได้มาก ๆ เตรียมไว้รอท่านพ่อกลับมาในอีกหนึ่งวัน"

ใบหน้าของเขาเปี่ยมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน นางมองด้วยความเอ็นดูและปลื้มใจ "รีบกลับมาให้ทันมื้อเย็นนะ แม่จะรอ" นางโบกมือส่งเขาด้วยสายตาอบอุ่น

อวี้เหวินคล่องแคล่วในพื้นที่นี้เป็นอย่างดี ด้วยเคยออกล่าสัตว์มาเนิ่นนาน วันนั้นเขาออกหาอาหารจนกระทั่งใกล้พลบค่ำ ก่อนเดินกลับเข้ามาในเมืองพร้อมเนื้อกวาง กระต่าย และผักมากมาย ทว่าทันทีที่เข้าใกล้เรือนของตน เขากลับเห็นกลุ่มคนยืนล้อมหน้าล้อมหลังบ้านของตนอยู่

"ซีเยว่… เจ้าหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่เอง!" เสียงหนึ่งดังก้องมาแต่ไกล เป็นเสียงของชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ คิ้วหนาดุดัน นัยน์ตาแฝงด้วยความเย้ยหยัน "ข้าตามหาเจ้ามาสิบสี่ปี ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาซุกตัวในรูหนูเล็ก ๆ เช่นนี้… ผ่านมานานปานนี้ เจ้าก็ยังงามดั่งเดิม จับตัวนางซะ!"

อวี้เหวินชะงักงันเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สองคนพุ่งตรงไปหามารดา เฉินซีเยว่พยายามดิ้นรนขัดขืน "ปล่อยข้านะ! ข้าไม่กลับไปทั้งนั้น!"

ชายผู้เป็นหัวหน้าหัวเราะเย็นชา "เป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเฉิน พรสวรรค์เลิศล้ำเหนือผู้ใด กลับลดตัวลงมาคบกับชายบ้านนอกต่ำต้อย น่าอับอายสิ้นดี! ส่งตัวนางกลับตระกูล ท่านประมุขต้องปลาบปลื้มเป็นแน่!"

"เฉินเทียนซิง…!" นางขบกรามแน่น ตวาดเสียงกร้าว

"หยุดนะ! ปล่อยท่านแม่ข้าเดี๋ยวนี้!" อวี้เหวินคำรามพลางถลันเข้าใส่

เฉินเทียนซิงปรายตามองเขาแล้วหัวเราะเยาะ "หึ ไอ้เด็กเหลือขอ เจ้าเป็นลูกของมันงั้นหรือ? ดูท่าจะไร้ค่าไม่ต่างจากบิดา โตป่านนี้แล้ว ยังมิอาจก้าวข้ามระดับก่อตั้งรากฐาน ช่างเป็นขยะโดยแท้!"

"เจ้าว่าใครเป็นขยะ? หุบปากเสีย! อย่ามาดูถูกบิดาข้า!" อวี้เหวินกัดฟันตวาด

ชายหนุ่มแค่นเสียงเยาะ "บังอาจ! สั่งสอนมันเสีย!"

ทว่ายังไม่ทันที่สมุนของมันจะลงมือ ซีเยว่กลับกรีดร้องออกมา "อย่าแตะต้องลูกข้า! ข้ายอมแล้ว! อย่าทำร้ายเขา ข้าจะกลับไปกับเจ้า… เฉินเทียนซิง!"

ดวงตาของมันเปล่งประกายพึงใจ "หึ ๆ ข้ารอคำนี้มานานแล้ว ซีเยว่"

"ท่านแม่! อย่าไป!" อวี้เหวินพุ่งเข้าใส่แต่ถูกซัดจนร่วงลงสลบไป

ซีเยว่กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาไหลรินเป็นสาย 'เหวินเออร์… แม่ขอโทษ…'
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 155

    เสียงนางเบาราวเสียงสายลม ทว่าแฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง อวี้เหวินได้แต่ยืนเกาศีรษะ หัวเราะแห้ง ๆ อย่างจนปัญญา เมื่อบรรยากาศเริ่มคลี่คลาย เขาก็พลันเอ่ยขึ้น “ข้าขอตัวไปหาปลาจับปูมาย่างกินก่อนเถิด...ท้องข้าเริ่มร้องแล้ว” กล่าวจบ เขาก็หันหลังเดินจากไปยังแนวโขดหินด้วยท่าทีร่าเริงเจือความกระดากอาย ส่วนเซี่ย

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 154

    “เดี๋ยวก่อน! ข้า…ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าจริงๆ!” เขาชูมือทั้งสองขึ้นสะบัดไปมาราวจะปัดเป่าสิ่งใดออก “เมื่อคืน...เจ้าถูกพิษมาร พลังเย็นในร่างกายของเจ้ากำลังแทรกซึมเข้าลึกถึงจุดตันเถียน หากมิรีบถ่ายพลังหยางประคับประคองไว้ เจ้าคง...” เสียงของเขาสั่นไหวด้วยความลนลาน ปราศจากเจตนาอื่นใดในแววตา เขารีบกล่าวต่อ “

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 153

    ประตูไม้เก่าเก็บของเพิงพักส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อถูกผลักเปิดออก เสาไม้ผุกร่อนเอียงตามแรงลมประหนึ่งจะถล่มลงได้ทุกเมื่อ กลิ่นอับชื้นจากเศษฝุ่นและไม้เก่าภายในชวนให้นึกถึงเพิงร้างไร้ผู้คน อวี้เหวินก้าวเข้าสู่ที่พักชั่วคราวนั้นอย่างระมัดระวัง แขนแข็งแรงประคองร่างบางในชุดขาวของสตรีเบื้องหน้าไว้แนบอก ราวกั

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 152

    “เจ้าช่วยตรวจดูให้น้อยหน่อยได้หรือไม่... ว่านางเป็นเช่นไรบ้างเเล้ว” เสียงของเขาเอ่ยเบา ทว่าเต็มไปด้วยความกังวลลึกซึ้ง หันไปยังร่างเล็กผู้หนึ่งที่ปรากฏข้างกายโดยไร้สุ้มเสียง ซ่งเหยียนเฟย บุรุษน้อยในเรือนร่างคล้ายตุ๊กตา ผมยาวสีแดงราวเปลวอัคคี ตวัดสายตาดูนางแวบหนึ่งก่อนจะหลับตา มือเรียวเล็กประหนึ่งกิ

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 151

    เขาพานางไปวางยังเพิงไม้เล็กๆ หลังหนึ่งริมชายหาด(ใกล้ท่าเรือ) แม้จะเก่าและผุพัง แต่ก็พอให้ลี้ลมหนาวแห่งรัตติกาลได้บ้าง เมื่อจัดวางร่างนางให้นอนอย่างสบายแล้ว เขาใช้ผ้าคลุมกายที่ฉีกขาดครึ่งหนึ่งห่มให้นาง แววตาใต้ขนตาดำยาวของอวี้เหวินทอดมองใบหน้านางที่แม้จะหลับใหล ก็ยังงดงามราวภาพวาด...งดงามจนชวนให้ใจสั

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 150

    “ขอบคุณ…ท่านจอมยุทธ์…ที่ช่วยปลดปล่อยข้า…” เขากระอักเลือดคำหนึ่ง ก่อนเปื้อนรอยยิ้มจางบนริมฝีปาก “…ฝากท่าน…บอกลาภรรยาข้าด้วย…” ยังไม่ทันสิ้นคำ ร่างนั้นทรุดฮวบลงหาเบื้องหน้า ทว่าอวี้เหวินก้าวเข้าไปรับไว้ทันอย่างเฉียดฉิว แขนที่สั่นเทาด้วยแรงสู้รบยังโอบประคองร่างของเขาไว้อย่างแผ่วเบา ราวจับต้องกลีบบุป

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 149

    ใต้ฟ้าค่ำ...ทะเลไร้คลื่นลมกลับโหมกระหน่ำด้วยกลิ่นอายแห่งการประทะอันเกรี้ยวกราด ริมฝั่งเกาะร้างท่ามกลางม่านรัตติกาล อวี้เหวินยืนนิ่งกลางพื้นทรายที่แตกร้าวเป็นตาข่ายโลหิต เบื้องหน้าเขา ร่างอสูรที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลิวหงกลับทรุดตัวลงอย่างยากจะหยัดยืน พลังที่เคยแข็งแกร่งเช่นขุนเขา บัดนี้กลับสั่นคลอนดั่ง

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 148

    “เจ้าทำร้ายสหายของข้ามาแล้วสองคน…” เสียงเขาหนักแน่นทีละคำ คล้ายค้อนเหล็กทุบหัวใจผู้ฟัง “เจ้า…” “จะไม่มีวันหนีจากชะตาของเจ้าวันนี้ได้…” เพลิงโทสะพลันปะทุรอบกายอวี้เหวิน เปลวเพลิงสีส้มแดงปะปนกับประกายครามของ เตาอัสนีวิบัติ แผ่พุ่งออกจากกายของเขา ก่อเกิดคลื่นลมแรงรอบทิศจนพื้นทรายสั่นไหว “หากเ

  • ดาบพิฆาตสลับนภา   บทที่ 147

    เขานึกถึงคำเล่าของเด็กน้อยถึงชายชราร้ายในร่างชายวัยกลางคนผู้นี้ น้ำเสียงเศร้า สีหน้าสะท้อนความสูญเสีย… "ไม่มีทาง…แม้เฒ่าชั่วเจ้ากลเล่ห์ยังยากจะสวมบทได้แนบเนียนถึงเพียงนั้น" “หากมิใช่การเสแสร้ง เช่นนั้นย่อมเป็นสิ่งเดียว…” “…เขาเฝ้ามองเราตั้งแต่ต้น…” ดวงตาคมกริบของอวี้เหวินสั่นไหวด้วยประกายขุ่

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status