แชร์

บทที่ 2 เป็นงานหน่อย

ผู้เขียน: เดวิโอล่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-02 18:31:59

[Navin’s part]

“กูบอกมึงแล้วว่าให้จัดการตั้งแต่เนิ่นๆ ยังจะปล่อยให้มันเป็นหนามตำใจมึงอยู่ได้ เป็นไงล่ะ ต้องถึงมือกูอีกตามเคย”

ผมมาที่นี่เพื่อจะฟังมันบ่นอย่างนั้นสินะ ตลอดทั้งวันผมต้องเจอกับปัญหามากมายกับธุรกิจที่ลงทุนอยู่ กะว่าจะมาหาพี่ชายฝาแฝดเพื่อผ่อนคลายสมองสักหน่อย แต่ดันมาเจอมันสวดตั้งแต่ทางเข้ายันบนห้องก็ยังไม่หยุด เอาอะไรยัดปากดี น่ารำคาญฉิบหาย

“แล้วนี่นะถ้ามึงไม่ออกหน้าสักครั้ง ไอ้ปู่นั่นก็จะเอาเรื่องที่มึงเรียนไม่จบแพทย์ประจำบ้านเหี้ยอะไรนั่นมาเล่นมึงไม่เลิก เป็นกูนะเอาปืนเป่าหัวไปตั้งนานแล้ว”

คามินทร์ว่าพลางยกเหล้าขึ้นมาจิบด้วยความหงุดหงิด มันก็อย่างนี้ ใจร้อนกับทุกอย่างจนทำให้งานเกือบพังหลายครั้ง ก่อนมาที่นี่เราก็ไปงานเลี้ยงเปิดตึกของโรงพยาบาลเดิมที่ผมเคยไปทำงานช่วงใช้ทุน ด้วยความที่ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านยังคงนึกถึงผมในฐานะ นายแพทย์นาวินทร์ คัลเลน หมอหนุ่มไฟแรงที่เมื่อก่อนเป็นที่รักและเอ็นดูของอาจารย์หมอและเพื่อนๆ พี่ๆ หมอในวงการ แต่ด้วยเหตุการณ์สะเทือนใจระหว่างศึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ ทำให้ผมเลือกจะล้มเลิกแล้วมาเปิดโรงพยาบาลโดยไม่แตะงานด้านการรักษาอีกเลย

เพราะอย่างนั้นเลยมีหลายคนเรียกผมว่า ไอ้หมอกะหลั่ว[1] จนผมตัดรำคาญด้วยการไม่ออกไปพบปะผู้คนอยู่นาน แต่สุดท้ายแล้วก็พบว่าปัญหามันมาหาผมถึงที่ได้อยู่ดี

“เย็นให้เป็นบ้างเหอะว่ะ เพราะมึงเป็นอย่างนี้ไงย่าถึงแทบจะยกทุกอย่างให้ไอ้คินทร์ จะเหลือตกมาถึงเราเท่าไหร่”

พูดถึงภาคินทร์ พี่ชายฝาแฝดคนโตแล้วคามินทร์ก็เบะปากด้วยความหมั่นไส้ ไอ้สองคนนี้ไม่ถูกกันมาตั้งแต่สมัยเป็นทารกทั้งที่แชร์ท้องแม่เดียวกันมาตั้งแต่แรกเกิด ด้วยความที่ภาคินทร์นั้นเป็นพี่คนโต ตั้งแต่ในท้องก็ได้รับสารอาหารมากกว่าชาวบ้าน เลยสมองดีเรียนก็เก่ง ทำอะไรก็เป็นเลิศไปหมด เทียบกับคามินทร์ที่เป็นน้องชายซึ่งอายุห่างกันสักสิบนาทีได้ เรียกว่าฟ้ากับเหวยังน้อยไป

เรียนไม่ดี กีฬาไม่ได้ ทำตัวมีปัญหาจนถูกเรียกผู้ปกครองไม่เว้นแต่ละวัน ย่านี่สุดจะทนกับคนอย่างมันจนต้องส่งไปเรียนไกลถึงอเมริกาเพื่อตัดปัญหา ผลก็คือ ไปสร้างวีรกรรมไว้ที่นู่นจนออกข่าวทางทีวีใหญ่โต

‘หลานชายคนรองตระกูลคัลเลน พาเพื่อนจัดปาร์ตี้ในบ้านเช่า สุดท้ายทำเละเทะจนซ่อมคืนไม่ได้ ต้องทุบทำใหม่ทั้งหลัง’

งามหน้าดีไหมล่ะ พี่ชายฝาแฝดคนนี้ของผม

แต่จะไปว่าคามินทร์มันก็ไม่ได้ เพราะผมเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน แค่แอบเลวแบบเงียบๆ บวกกับยังพอเรียนเก่งอยู่บ้างย่าเลยไม่ได้มาอะไรมากนัก แต่จะหนักไปทางปั้นหลานรักให้เป็นท่านประธานรุ่นต่อไปเสียมากกว่า

“จะว่าไปย่าก็เรียกมึงเข้าไปหลายครั้งแล้วนะ ไม่พ้นพูดเรื่องแต่งงานอีกแน่ๆ ดีใจด้วยนะไอ้สอง”

มันพูดพร้อมกับตบบ่าผมเบาๆ แต่ไม่ใช่ให้กำลังใจนะครับ แบบนี้น่ะเรียกเยาะเย้ย ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าวันหนึ่งที่ย่าอยากให้หลานชายแต่งงานกับหลานสาวของเพื่อนเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจแล้วหวยจะมาออกที่ผม แทนที่จะเป็นไอ้ภาคินทร์หลานรัก นี่คงเห็นว่ารายนั้นกำลังกิ๊กกั๊กอยู่กับคุณหนูบ้านคุณหญิงระเบียบเพื่อนอีกคนของท่านแน่ๆ เลยเอาทุกอย่างโยนมาที่ผมแทน

ไอ้เรื่องแต่งงานน่ะไม่มีปัญหาหรอก เพียงแต่คนที่อยากให้แต่งน่ะเด็กเกินไปหน่อย รู้สึกว่าจะอายุแค่ 21 เองมั้ง ผมปีนี้ก็ 32 แล้วนะครับ ให้เอาเด็กขนาดนั้นคงไม่ไหว

“กูอุตส่าห์มาหามึงมาผ่อนคลายสมอง นี่เหรอที่มึงเตรียมไว้ต้อนรับ พูดให้กูเครียดไม่มีพักเนี่ย”

จิบเหล้าไปก็หลายอึก ไม่เห็นจะมีเด็กสักคนเข้ามา ลูกค้าวีไอพีแบบไหนวะเนี่ย

“เออๆ ใจเย็น นั่นไงมานู่นแล้ว”

ทันใดนั้นประตูห้องก็ได้เปิดออก เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่อายุไม่ได้ห่างจากผมมากนัก คนนี้ผมค่อนข้างที่จะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะเป็นผู้จัดการที่คามินทร์เคยพูดถึงว่าแซ่บนักแซ่บหนา

แต่จะรู้ว่าแซ่บได้ยังไงถ้าไม่ได้ลอง งั้นเธอคนนี้ก็คงเป็นหนึ่งในสต๊อกสาวๆ ของคามินทร์อย่างไม่ต้องสงสัย

“สวัสดีค่ะคุณคามินทร์ คุณนาวินทร์” หญิงสาวทักทายพร้อมรอยยิ้มหวาน ทว่าคล้อยหลังเธอกลับมีหญิงสาวอีกคนเดินตามเข้ามาด้วย

ในทีแรกผมไม่ได้สนใจเธอมากนักเพราะมัวแต่เอาเหล้าเข้าปาก ทว่าพอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้น เห็นใบหน้าที่แสนคุ้นเคยหัวใจของผมก็เต้นแรงขึ้นมาทันที

ใบหน้าจิ้มลิ้มแก้มป่องๆ เหมือนตุ๊กตาบลายธ์ เรือนผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนเล็กน้อยมัดครึ่งหัวทิ้งปอยแบบที่เธอชอบทำ ดวงตากลมโตเป็นประกายสดใสแบบนี้ เป็นเธอไม่ผิดแน่ๆ เพียงแต่ทำไมเธอถึงขึ้นมาอยู่ตรงนี้ ไม่ทำงานอยู่ข้างล่าง

“หวานพาน้องดามาค่ะ น้องน่ารัก ทำงานเก่งมากเลยนะคะ”

น้ำหวาน คนที่เข้ามาคนแรกแนะนำหญิงสาวอีกคนด้วยความภาคภูมิใจ เพราะผมเป็นคนรีเควสว่าขอไม่ใช่เด็กที่ทำงานชั้นวีไอพีขึ้นไป เนื่องจากบนชั้นนี้นั้นมีการบริการเรื่องอย่างว่าแก่แขก ผมที่แค่อยากได้เด็กมาชงเหล้าไม่ต้องการเบียดเบียนเวลาหากินของสาวๆ เหล่านั้น

แต่ไม่คิดว่าคนที่ถูกพามาจะเป็นคนคุ้นหน้า เธอคือเด็กสาวที่แม่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลของผมเมื่อสามเดือนก่อน มักจะเห็นวิ่งเข้าวิ่งออกตึกที่ผมทำงานเสมอๆ ทว่าคงมีแค่ผมที่คุ้นหน้า เพราะเธอดูจะจำผมไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

อีกอย่างที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา ก็เพราะผมเป็นคนฝากเธอเข้าทำงานที่นี่ด้วยตัวเอง โดยที่เธอไม่รู้เรื่องนั้นด้วยซ้ำ

“มาๆๆ คนนี้เด็กใหม่เหรอทำไมผมไม่เคยเห็น”

คามินทร์ที่รู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นใครกลับทำเป็นไม่รู้จัก มันเขยิบไปเล็กน้อยเพื่อให้โซฟาที่เราทั้งคู่นั่งอยู่มีที่ว่างตรงกลางมากพอสำหรับสามคน หลังจากนั้นหญิงสาวที่ถูกแนะนำตัวว่าชื่อ น้องดา ได้เดินเข้ามานั่งยังที่ว่างของโซฟาตัวแอลตัวนี้ด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ แต่น้ำหวานกลับไม่ได้เข้ามานั่งด้วย

“ไม่ใหม่ค่ะ แต่น้องขึ้นมาจากชั้นล่าง ไม่ได้อยู่ในโซนวีไอพี” พูดจบเธอก็หันไปพูดกับอีกคน “สวัสดีคุณคามินทร์กับคุณนาวินทร์สิจ๊ะ”

“สะ...สวัสดีค่ะ”

เธอคนนั้นยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม ทว่ากลับเอาปลายนิ้วชี้วางหว่างคิ้ว ส่วนนิ้วโป้งจรดปลายจมูก สายตาที่มองมานั้นทำให้ผมต้องลอบกลืนน้ำลายเพื่อไล่ความอึดอัดนี้ออกไป มันรู้สึกเหมือนเป็นตาแก่มาหลอกอึ๊บเด็กน่ะครับ บ้าเอ๊ย ใครใช้ให้ไหว้แขกเหมือนไหว้อาม่าอากงแบบนั้น เด็กนี่ไม่ได้เรื่องเลย

ทว่าไอ้คามินทร์กลับชอบใจ ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยใส่น้องใหญ่เลย

“มานั่งใกล้ๆ พี่สิครับคนสวย”

คามินทร์ตบที่นั่งข้างตัวพลางส่งยิ้มให้ เรื่องผู้หญิงนี่ไม่ต้องบอกกันเลยเนอะ รู้งานทุกอย่างทำเซียนเหมือนเรียนมา แต่เรื่องอื่นนี่แม่ง...

“งั้นให้น้องดาดูแลทั้งคู่ไปนะคะ หวานขอไปดูแลห้องอื่นๆ ก่อน”

“อืมๆ ตามสบาย”

หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าหวานได้ออกจากห้องนี้ไปแล้ว เหลือเพียงผม คามินทร์และเธอคนนี้ซึ่งก็นั่งตัวลีบๆ อยู่ตรงกลางระหว่างเราทั้งคู่ ท่าทางเหมือนลูกแมวตกน้ำทำให้ผมเผลอมองจนละสายตาไม่ได้ ไม่ใช่เพราะหลงนะครับ แต่แค่อยากรู้ว่าเธอจะทำยังไงต่อเท่านั้น

ปกติผมมักจะเห็นเธอในภาพของสาวน้อยกตัญญูดูแลแม่ที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งเป็นอย่างดี พอมาอยู่ในคราบสาวกลางคืนแบบนี้ยอมรับเลยว่าสวยจนละสายตาไม่ได้จริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องพยายามพูดกับตัวเอง เด็กเว้ยไอ้วินทร์ นี่มันเด็ก

“น้องดาปกติดื่มอะไรครับ เห็นบอกว่าไม่เคยรับแขก ชงเหล้าเป็นไหมเอ่ย?” คามินทร์ถามอย่างอารมณ์ดี

“เป็นค่ะ ดาทำได้หมดเลย” เธอตอบกลับตาใส ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วของเราทั้งคู่มาคีบน้ำแข็งใส่ และเริ่มผสมมิกเซอร์อย่างชำนิชำนาญ ก็ถือว่าเป็นงานอยู่พอสมควร

ระหว่างที่รอหญิงสาวชงเหล้าให้ผมเองก็หยิบมือถือขึ้นมาหวังจะเล่นแก้เบื่อสักหน่อย แต่ไม่คิดว่าจู่ๆ ประตูที่ถูกปิดไปก่อนหน้านี้จะถูกเปิดกลับเข้ามาอีกครั้ง ทว่าด้วยฝีมือของผู้ชายชุดดำที่ผมจำได้ว่าเป็นคนของคามินทร์ ไม่ใช่หญิงสาวที่ออกไปก่อนหน้านี้

“ยะ...แย่แล้วครับนาย” ชายคนนั้นพูดเสียงหอบ

“อะไรของมึงวะไอ้นี่ ตกใจหมด”

“ของที่เราสั่งจากเรือขนส่ง...ที่มาจากจีน ถูกทำลายหมดเลยครับ”

“อะไรนะ!!”

คามินทร์ลุกพรวดขึ้นทันที เล่นเอาหญิงสาวที่นั่งข้างมันถึงกับสะดุ้งเฮือก

“ต้องเป็นพวกไอ้หมานั่นแน่ๆ แม่งเอ๊ย!”

“เอ่อ...มันชื่อ วูล์ฟ ครับนาย”

“กูรู้แล้ว ไม่ต้องมาสอน!”

ผมนั่งมองภาพนั้นพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่เคยเห็นคามินทร์โมโหกับตาตัวเองมาก่อน ต่อให้เป็นน้องชายฝาแฝดของมัน แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันทำให้ไม่ค่อยได้เห็นสันดานดิบกันเท่าไหร่ เอาวะ อย่างน้อยวันนี้หงุดหงิดเรื่องคนแก่ในงานเลี้ยงแต่ก็คุ้ม

“ยิ้มอะไรของมึงไอ้หมอ อยากโดนตีนกูหรือไง?”

“อ้าว ไหงมาลงที่กูล่ะ ไปๆๆ จะไปไหนก็ไป รำคาญ”

“เออ กูขอไปจัดการแม่งก่อน เสร็จแล้วก็กลับเอง ไม่ส่งนะ”

“เออ”

คามินทร์ออกไปแล้ว ตอนนี้มันได้ทิ้งบรรยากาศที่น่าอึดอัดเอาไว้ในห้องนี้ ผมหยิบเหล้าในแก้วตัวเองขึ้นมาจิบไปพลางๆ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ ถึงผมจะไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่เพื่อหาสาวๆ มาดูแลก็เถอะ แต่แบบนี้มันน่าอึดอัดเกินไปไหม

“คุณมองหนูตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว มีอะไรอยากให้ทำหรือเปล่าคะ?”

หญิงสาวชุดแดงที่นั่งตรงข้ามผมถามด้วยแววตาใสซื่อ เธอดูไม่เหมือนกับหญิงสาวที่ทำงานในสถานบริการเลยสักนิด แม้ว่าจะสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน ทำสิ่งเดียวกัน...

ผมคงไม่ได้กำลังสงสารในชีวิตของเธอจนเผลอมองเธอต่างออกไปหรอกนะ ในที่สุดผมก็ต้องสลัดความคิดไร้สาระพวกนั้นออกไปจากหัว ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบ

“แล้วนี่...ทำอะไรเป็นบ้างล่ะเรา”

[End Navin’s part]

[1] กะหลั่ว ทำตัวไร้สาระ ไม่เข้าตา กระจอกงอกง่อย บ้างก็ใช้แทนคำว่า เลว เป็นคำแสลง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดีลลับ หมอมาเฟีย   ตอนจบ

    [Navin’s part]‘แม่อยากให้ลูกของแม่มีความสุขที่สุด อย่าโกรธพ่อกับย่า แค่นั้น...วินทร์ทำให้แม่ได้ไหมลูก?’มันเป็นคำพูดสุดท้ายที่แม่ทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะจากผมไป แม่เป็นผู้หญิงที่หวังดีกับคนอื่นเสมอ แม้แต่คนที่ทำให้แม่ต้องเจ็บปวดหัวใจ แม่ก็ยังไม่โกรธพวกเขาเลยสักนิดเดียวผมยังคงคิดถึงวันเวลาที่เราต่างก็ร้องไห้ไปกับช่วงเวลาเลวร้ายในวาระสุดท้ายของชีวิตแม่ ผมลืมเรื่องนั้นไม่ได้ และไม่กล้าที่จะให้อภัยคนที่ทำร้ายพวกเราจนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเจอหญิงสาวอีกคน หญิงสาวที่ทำให้ผมรู้ว่า นี่คือความรักแสนใจดีที่ผมต้องรักษามันเอาไว้ให้ดีที่สุดถึงแม่ที่อยู่บนสวรรค์แม่ครับ...ผมนาวินทร์ ลูกชายของแม่ ตอนนี้แม่สบายดีไหมครับ ที่ตรงนั้นคงจะเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ความคิดถึง และเสียงร้องไห้ของผมที่ส่งไปให้แม่ แต่วันนี้ลูกชายคนเล็กของแม่คนนี้ไม่ร้องไห้แล้วนะครับ ผมเป็นคนที่เข้มแข็งมากพอที่จะดูแลผู้หญิงที่ผมรัก และสามารถให้อภัยย่าได้แล้ววันนี้ผมพาดานิกามาหาย่าครับแม่ ผมเคยพาเธอไปไหว้หลุมศพแม่สองสามครั้ง แม่จำเธอได้ไหมครับ ดานิกาเป็นคนที่มีรอยยิ้มสดใส เธอเป็นแรงใจให้ผมได้ทุกครั้งที่ได้มอง ในวันนั้นที่แม่จากผมไป เธอ

  • ดีลลับ หมอมาเฟีย   บทที่ 36 คิดถึงเหลือเกิน

    เคยไหม ความรู้สึกที่รักเขา คิดถึงเขา เจอกันทุกวัน...แต่กลับไปรักกันไม่ได้แล้วฉันยังคงมาอยู่ที่หน้าห้องพักของแม่ จ้องมองประตูบานนั้นที่ฉันเคยเปิดเข้าไปเจอแม่อย่างทุกครั้ง ความทรงจำทั้งสุขและทุกข์ที่เราเคยผ่านด้วยกันมา ทำให้ฉันต้องหยุดมองทุกครั้งที่เดินผ่านมันเป็นเรื่องที่เจ็บปวด แต่ฉันก็ยังชอบที่จะมายืนจ้องหน้าห้องพักเดิมของแม่อยู่อย่างนี้และเหมือนว่าเขาจะรู้...พี่วินทร์สั่งปิดชั้นนี้ไม่ให้มีใครขึ้นมา และย้ายผู้ป่วยทั้งวอร์ดไปไว้ตึกใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ เพื่อไม่ให้ใครขึ้นมารบกวนฉันที่มักจะเหม่อถึงแม่...ฉันรู้ว่าเขารักและหวังดีกับฉันเสมอ แต่ว่านะ...เรากลับไปรักกันเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เราเดินสวนทางกัน เป็นฉันที่พยายามมองหน้าให้เขาจ้องตอบกลับมาแม้สักนิด แต่สุดท้ายเขาก็ยังทำเหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตนเขาไม่ได้บอก...แต่ฉันรู้ว่าเขากำลังพยายามทำให้ฉันไม่รู้สึกอึดอัดแต่ทั้งที่ฉันเป็นคนบอกเลิกเขาเองแท้ๆ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นฉันที่ยังโหยหา ยังคิดถึง แต่ก็ไม่สามารถที่จะเดินไปบอกเขาได้ตรงๆ“เอสเปรสโซ่ไม่หวานหนึ่งแก้วครับ”ฉันมักจะได้ยินอย่างนี้ในทุกเช้าเสมอ คุณหมอหนุ่มที่มักจะ

  • ดีลลับ หมอมาเฟีย   บทที่ 35 ความสูญเสีย

    [Danica’s part]‘แม่คะ ทำไมแม่ถึงตั้งชื่อหนูว่าดานิกาเหรอคะ?’‘ดานิกา แปลว่าดวงดาวในรุ่งอรุณลูก หนูเป็นเด็กที่มีรอยยิ้มสดใส เหมือนกับดวงดาวที่เปล่งประกายในยามรุ่งเช้าไงลูก’‘งั้นหนูจะยิ้มทุกวันเลย ให้สมกับชื่อดานิกา ดีไหมคะ?’จบแล้วเหรอ...จบลงง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ...ทุกอย่างที่ฉันพยายามมา ความหวังที่ว่าสุดท้ายแล้วแม่จะหายดีและกลับไปอยู่กับฉันอย่างมีความสุขอีกครั้ง เราจะไปเที่ยวด้วยกัน มองฉันเป็นดีไซเนอร์มากฝีมืออย่างที่แม่ใฝ่ฝัน ทั้งการทำงานอย่างหนัก ต่อสู้กับคำพูดและสายตาของคนทั้งมหา’ลัย พาตัวเองขึ้นประมูลซิง ทุกอย่างมันจบลงแล้วใช่ไหมฉันเดินกลับเข้ามาในห้องที่ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างวิ่งกันจ้าละหวั่นเพื่อช่วยชีวิตของแม่ ทว่าสุดท้ายแล้วความตายก็ยังชนะความพยายามพวกนั้น พยาบาลคนสุดท้ายได้ออกไปจากห้องนี้แล้ว เหลือเพียงฉันและร่างที่แน่นิ่งของแม่ที่นอนอยู่บนเตียง“แม่คะ...”แม่มักจะยิ้มให้ฉัน บอกฉันว่าไม่เป็นไร ไม่ว่าฉันจะกลับมาดึกแค่ไหนแม่จะตื่นขึ้นมา ลูบใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อแล้วบอกให้ฉันไปอาบน้ำ แต่วันนี้ภายในห้องนี้...เหลือเพียงความเย็นยะเยือก เงียบเหงา บรรยากาศอึมทึมจนฉันอยากจะร้องไห้ออกม

  • ดีลลับ หมอมาเฟีย   บทที่ 34 เส้นความอดทนสุดท้าย

    [Navin’s part]“คนไข้นอนทับสายน้ำเกลือค่ะ แล้วก็สายออกซิเจนหลุด เลยขาดอากาศหายใจไปช่วงหนึ่ง ตอนนี้พยายามปั๊มหัวใจแล้ว แต่อาการไม่ดีเลยค่ะท่านผอ.”พยาบาลที่ผมว่าจ้างมาดูแลแม่ของดาเอ่ยเสียงสั่นทำอะไรไม่ถูก ผมแน่ใจว่าเธอเป็นคนที่รอบคอบและทำงานดีมากคนหนึ่ง ไม่มีทางหรอกที่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้จะเกิดขึ้นได้แล้วผมก็คิดถึงคนที่โทรมาบอกดาเอแคลร์...“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วมีใครเข้าออกห้องนี้บ้าง”“ก็...มีเพื่อนคุณดาค่ะ ที่ชื่อชิดภู มาตอนเย็นแล้วไม่เจอ ก็เลยฝากขนมกับน้ำไว้ให้”“แค่นั้นเหรอ มีใครอีก”ชิดภูไม่ทำหรอก ต่อให้มันจะปากหมาใจกล้าเกินคน แต่ก็จริงใจกับดาอยู่พอสมควร“เอ่อ...” พยาบาลทำท่านึก แต่นานจนผมร้อนใจทนไม่ไหวตวาดออกไปเสียงดัง“เร็วสิ ถามว่าใครอีก!”“มะ...มีผู้หญิงอีกคนค่ะ เข้ามาก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมงได้ ตอนนั้นดิฉันอยากเข้าห้องน้ำ เลยฝากคนไข้ไว้ค่ะ”ผมเปิดมือถือ เข้าไลน์ของย่าที่มักจะชอบส่งรูปต่างๆ มาให้ และในนั้นก็มีรูปของเอแคลร์ด้วย“คนนี้หรือเปล่า”“ชะ...ใช่ค่ะท่านผอ. คนนี้เลย ดิฉันจะมีความผิดอะไรหรือเปล่าคะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะที่ดูแลคนไข้ไม่ดีทำให้เกิดเรื่องแบ

  • ดีลลับ หมอมาเฟีย   บทที่ 33 มาไม่ทันตั้งตัว

    “เจ๊!!!”“ยัยดา กรี๊ด!!!”ฉันกับเจ๊น้ำหวานเจอกันก็ไม่ต่างอะไรกับชะนีสองตัวที่วนเจอในกิ่งเดียวกัน เจ๊นี่ดีดสุดอะไรสุด ทิ้งเครื่องสำอางทิ้งทุกอย่างมากอดฉันอย่างไว เรากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งมีคนหวงดึงฉันออก“พอแล้ว จะกอดให้ละลายตัวติดกันไปเลยหรือไง”พี่วินทร์หน้างอคอหักตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว ก็มาเที่ยวผับทั้งทีฉันก็ต้องแต่งตัวให้มันเข้ากับสถานที่ เลยใส่เป็นกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อครอปแขนกุด เขาเองมองฉันหัวจรดท้าตั้งแต่ออกมาจากห้องแต่งตัว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร“แหมคุณหมอคะ อย่ามาทำเป็นหวงไปหน่อยเลย ทีเมื่อก่อนมาฝากไว้กับเจ๊ เจ๊ก็ดูแลให้อย่างดีเลยนะคะ”“เอามาฝากอะไรเหรอคะ?”เหมือนว่าฉันจะเจอเรื่องที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว พอเจ๊น้ำหวานพูดแบบนั้นฉันก็หันไปมองพี่วินทร์ด้วยความสงสัย“ก็แหม เมื่อก่อนคนที่บอกเจ๊ว่าให้ติดต่อน้องดาไปคือคุณหมอเนี่ยแหละ เขารักเขาหวงมาตั้งแต่แกจะรู้ว่าเขามีตัวตนด้วยซ้ำนะ คลั่งรักนะเนี่ย”“จริงเหรอคะ?”เรื่องที่ได้ยินยิ่งทำให้ฉันมองหน้าเขาหนักยิ่งกว่าเดิม มีเรื่องอะไรอีกบ้างนะของเขาที่ฉันยังไม่รู้ สำหรับผู้ชายคนนี้ในสายตาฉันเขาคือคุณหมอที่แสนจะเพอร์เฟค ไม่มีว

  • ดีลลับ หมอมาเฟีย   บทที่ 32 หน่วง

    [Danica’s part]ช่วยด้วยค่ะ ตอนนี้พบคนแก่ไม่อยากไปทำงานหนึ่งอัตรา ตั้งแต่กลับมาจากสวนสนุกเมื่อวานเขาก็เอาแต่ขลุกอยู่ในห้อง เล่นมือถือบ้าง คอมฯบ้าง จนฉันทนความอึดอัดไม่ไหวต้องออกมาทำกับข้าวข้างนอกแต่ยังออกมาไม่ทันถึงสามนาที แครอทยังปอกไม่หมดด้วยซ้ำ ก็มีอ้อมกอดอุ่นเข้ามากอดจากทางด้านหลัง พร้อมทั้งคางแหลมๆ ของเขาวางลงที่หัวของฉัน“ทำอะไรครับเนี่ย”“ทำกับข้าวง้อคนค่ะ”ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่กำลังมองลงมาเช่นกัน แต่ไม่คิดว่าจะถูกคนตัวสูงขโมยจูบไปหนึ่งที“อื้อ...แกล้งหนูอะ”ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ชินกับการชอบสกินชิพของเขาแบบนี้สักที หน้ามันยังคงร้อนผะผ่าวทุกครั้งที่ถูกเขาจูบ เขาหอม เขา...พอแล้วๆ ไม่คิดแล้วดีกว่า“ง้อเรื่องอะไรครับ พี่ไม่ได้งอนหนูซะหน่อย”แล้วก็เรื่องที่เขาเรียกฉันว่า หนู ตั้งแต่กลับมาจากสวนสนุกก็ไม่ได้ยินชื่อฉันจากปากเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าซ้อมไว้เผื่อเรียกกิ๊กแบบไม่ให้ฉันจับได้หรือเปล่า“ไม่ได้งอนนะคะ แต่หน้างอเลย เป็นอะไรคะ หรืองอนเรื่องที่หนูไม่เปิดตัวกับเพื่อนเมื่อวันก่อน?”“รู้ทันอีก”ฉันรู้หรอกน่าว่าเขากำลังนอยด์เรื่องอะไร เลยเลือกจะทำอาหารง้อหลัง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status